อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 725 วิธีของเขา
ตอนที่ 725 วิธีของเขา
ตอนที่ 725 วิธีของเขา
“นายน้อยเหมิงจำได้หรือไม่เจ้าคะว่าท่านมีบุตรสาว?”
เหมิงหรงตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ จากนั้นก็มองไปยังอวี้ชิงลั่วด้วยสีหน้าฉายแววกังวลใจ “แม่นางถังถามทำไมหรือ?”
“ข้าได้ยินว่าก่อนหน้านี้นายน้อยเหมิงมีสาวใช้ห้องข้างคนหนึ่งชื่อว่าอาชิ่น ถือว่าเป็นคู่แต่งงานที่เห็นกันมาตั้งแต่ยังเด็ก ความสัมพันธ์แน่นแฟ้น นายน้อยเหมิงให้ความสำคัญกับความรู้สึกและศีลธรรม เหตุใดจึงเพิกเฉยต่อเด็กที่เกิดจากอาชิ่นผู้สละชีวิต ไม่ถามข่าวคราวเลยเล่าเจ้าคะ?”
อวี้ชิงลั่วให้หงเย่ถามอาเมี่ยวแล้ว อาเมี่ยวบอกว่า หากไม่ใช่เพราะอาชิ่นนั้นสถานะต่ำต้อย ความรักที่เหมิงหรงมีให้นาง คงไม่ใช่ในฐานะสาวใช้ห้องข้างเป็นแน่
แน่นอน สีหน้าของเหมิงหรงก็ซีดลงทันใด
เมื่อกล่าวถึงอาชิ่น อารมณ์ของเขาก็หดหู่ลงอย่างเห็นได้ชัด
ผ่านไปครู่ใหญ่ จึงได้ยินน้ำเสียงอันขมขื่นของเขาดังขึ้น “ดูเหมือนแม่นางถังจะสนใจเรื่องส่วนตัวของข้ามากนัก”
“ไม่หรอกเจ้าค่ะ” ถึงแม้นางจะมีใจชอบนินทา แต่การมายุ่งกับเรื่องของเหมิงหรง นั่นก็เป็นเพราะมันเกี่ยวข้องกับเหมิงหลัวอวี้
เหมิงหรงหันหน้า ราวกับไม่อยากกล่าวอะไรอีก
ลูกที่เกิดจากอาชิ่น เขาจะไม่สนใจได้อย่างไร?
แต่เป็นเพราะเขาไม่ใช่คนฉลาดนัก การตายของอาชิ่นช่างดูแปลกประหลาด แม้ในใจเขาอยากจะสืบหาความจริง แต่ในความกดดันของความเป็นจริงแล้ว ทำได้เพียงต้องเก็บมันเอาไว้
เหมิงเคอเป็นคนเช่นไร เขาใช้เวลากับนางทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าใจทะลุปรุโปร่ง แต่ก็พอรู้อยู่บ้าง
ไม่ว่าจะซ่อนเอาไว้ได้ดีเพียงไหน แต่ความหึงหวงของนางก็ไม่ใช่สิ่งที่ปกปิดเอาไว้ได้ เวลาเขาอยู่กับอาชิ่น ก็จะรู้สึกได้ถึงสิ่งที่เหมิงเคอแอบกระทำกับอาชิ่น
อาชิ่นไม่อยากสร้างปัญหา ทั้งยังเป็นเพราะนางถือตนเองว่ามีสถานะต้อยต่ำ ต่อให้ถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมก็ไม่กล่าวอันใด รอจนกระทั่งเขาบังเอิญไปรู้เข้า และไปทะเลาะกับเหมิงเคอก็ไม่ได้มีผลใดๆ
อีกทั้งเบื้องหลังของเหมิงเคอยังมีผู้อาวุโสสกุลลี่ ยิ่งเขาปกป้องอาชิ่นเท่าไร อาชิ่นก็จะถูกกระทำมากขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้ หากเรื่องร้ายแรงจนถึงขั้นหยุดไม่อยู่ อาชิ่นจะเป็นคู่ครองคนแรกที่ถูกทอดทิ้ง ไม่ว่าจะพยายามเพียงไหน เขาก็ไม่สามารถทำให้อาชิ่นมีการสนับสนุนที่แข็งแกร่งได้เท่าเหมิงเคอ
สุดท้ายแล้ว เขาทำได้เพียงรักษาระยะห่างกับอาชิ่น ใช้วิธีนี้อย่างเต็มที่เพื่อปกป้องนาง
หลังจากนั้น เหมิงเคอก็ปฏิบัติกับอาชิ่นดีขึ้นบ้าง ไม่ได้สนใจนางถึงเพียงนั้นแล้ว
จนกระทั่งเหมิงหลัวอวี้เกิด เหมิงหรงมีความสุขมาก แต่ก็ปวดใจที่พอบุตรสาวเกิดมา อาชิ่นกลับจากไปเสียแล้ว
เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเช่นในอดีต ให้เหมิงหลัวอวี้ถูกเหมิงเคอเอาแต่นึกถึงไปอีกคน เขาจึงทำได้เพียงแสร้งทำเป็นไม่สนใจเด็กคนนี้ ให้นางคิดว่าตนไม่สนใจเหมิงหลัวอวี้ เพราะทำให้อาชิ่นต้องจากไปเพราะคลอดบุตร
เหมิงหลัวอวี้ถูกส่งไปอยู่อย่างโดดเดี่ยวที่เรือนหนึ่ง แทบไม่มีใครสนใจ
ในตอนแรก เขาก็แอบไปดูนางบ้างเป็นบางครั้ง พบว่าถึงแม้เด็กคนนั้นจะไม่ได้รับการดูแลที่ดีนัก แต่อย่างน้อยนางก็ปลอดภัย ไม่ได้รับอันตราย เพียงแต่ถูกจำกัดอิสรภาพเท่านั้น
เพียงแต่มีครั้งหนึ่งตอนที่เขาไปดูเหมิงหลัวอวี้ กลับถูกเหมิงเคอพบเข้า
แม้ว่าเหมิงเคอจะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ยังหาข้ออ้างส่งเหมิงหลัวอวี้ไปอยู่ที่เรือนเล็กๆ ห่างไกลยิ่งกว่าเดิม เหมิงหรงเสียใจมาก คิดว่าสุดท้ายแล้วตนก็ถูกจับได้ ไม่กล้าไปดูลูกสาวอีกเลย
เพียงแต่รู้ว่าบุตรสาวยังมีคนคอยรับใช้ ยังมีชีวิตอยู่
แต่ช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนหน้านี้ เขากลับได้ยินว่าเหมิงหลัวอวี้หนีออกไป ทั้งยังถูกเหมิงเคอส่งคนไปฆ่า
เขาโกรธมากจนลมปราณแตกซ่าน และหมดสติไป
เดิมทีเขามีอาการป่วยเดิมอยู่แล้ว ทั้งยังถูกเหตุการณ์นี้มากระตุ้นอีก จึงหมดสติไปหลายวัน ด้วยหวังว่าตนจะได้ตามอาชิ่นไป
……
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ผู้อาวุโสสกุลเยว่และหมอเฒ่าฉยงซานที่รออยู่ด้านนอกเริ่มกระวนกระวาย
ลั่วลั่วอยู่ข้างในตั้งนาน เหตุใดยังไม่ออกมาอีก?
เขาและเหมิงหรงไม่ได้รู้จักกัน จะต้องคุยอะไรกันนานเพียงนี้ หรือว่านางจะสนใจนายน้อยแล้วหรือ?
ไม่ๆ มีคนที่โดดเด่นอย่างเย่ซิวตู๋อยู่แล้ว ลั่วลั่วจะมาสนใจคนอื่นทำไม ไม่มีทาง
หมอเฒ่าฉยงซานส่ายหน้า จากนั้นก็เกาศีรษะ
รอไปอีกหนึ่งเค่อเขาก็เริ่มหมดความอดทน คิดจะแกล้งทำเป็นไปดูสถานการณ์อย่างสบายๆ อวี้ชิงลั่วกลับเปิดม่านเดินออกมาเสียก่อน
ลมจากด้านนอกพัดเข้ามา คนทั้งคนรู้สึกสบายขึ้นมาก
หมอเฒ่าฉยงซานรีบเดินไปข้างหน้า ถามอย่างกระตือรือร้น “ลั่วลั่ว พวกเจ้าคุยอะไรกันข้างในนั้น?”
อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า ไม่ได้ตอบเขา
เหมิงหรง…ไม่ใช่คนฉลาดจริงๆ ข่าวลือภายนอกบอกว่าเขามีรูปลักษณ์ปานกลาง ร่างกายไม่สมประกอบ ที่แท้ก็เป็นเรื่องจริง
บางทีสำหรับเขาแล้ว การเพิกเฉยต่อการมีอยู่ของเหมิงหลัวอวี้ อาจจะเป็นวิธีการปกป้องเหมิงหลัวอวี้ที่ดีที่สุดเท่าที่เขาจะคิดได้
แต่ฟังจากเหมิงหรงแล้ว ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ว่าบนตัวเหมิงหลัวอวี้มีปานรูปดอกไม้ หากว่ารู้ เขาคงไม่ใช้วิธีเช่นนี้
ตอนนี้อวี้ชิงลั่วเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเหมิงเคอไม่ได้ลงมือฆ่าเหมิงหลัวอวี้ที่จวน
ที่แท้เพราะไม่ใช่ทุกคนที่นี่จะเมินเหมิงหลัวอวี้อย่างสิ้นเชิง หากนางเกิดเรื่องใดขึ้นในจวน ไม่ว่าเหมิงหรงจะโง่เง่าเพียงไหน ก็ไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆ
อาชิ่นตายแล้ว หากเหมิงหลัวอวี้จากไปอีกคน เขาคงไม่เหลือความกลัว จะต้องสืบสวนแน่นอน ถึงตอนนั้นก็คงจะรู้ว่านางมีปานรูปดอกไม้อยู่บนตัว
การฆาตกรรมชาวเหมิงที่มีปานรูปดอกไม้จะต้องได้รับโทษหนักที่สุด แม้ว่าบุคคลนั้นจะเป็นเหมิงเคอ แม้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นผู้อาวุโสสกุลลี่ก็ตาม
ก่อนหน้านี้เหมิงเคอไม่กล้าลงมือ จนกระทั่งเหมิงหลัวอวี้จะไปหาท่านประมุข จึงไม่มีทางเลือกนอกจากลงมือ
“ลั่วลั่ว ลั่วลั่ว” หมอเฒ่าฉยงซานโบกมือตรงหน้านาง คิ้วขมวดแน่น “เจ้าถูกผีสิงหรือไร?”
“…” อวี้ชิงลั่วได้สติกลับมา มุมปากกระตุกเล็กน้อย
นางมองหมอเฒ่าฉยงซานแวบหนึ่งอย่างไม่พอใจ หันหน้าไปกล่าวกับผู้อาวุโสสกุลเยว่ “ข้าอยากไปเยี่ยมชิวเอ๋อร์เจ้าค่ะ”
“เชิญทางนี้” ผู้อาวุโสสกุลเยว่ไม่ได้ถามว่าพวกเขาคุยอะไรกัน ขอเพียงเหมิงหรงปลอดภัยไร้อันตราย เรื่องอื่นนั้นเขาไม่ยุ่งเกี่ยว
นำทางไปด้านหน้า ผู้อาวุโสสกุลเยว่และกลุ่มคนนั้นเดินออกจาก ‘เย่เซ่อ’ ไปพร้อมกัน
ใครจะรู้ว่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็จะเห็นคนคุ้นเคยเดินเข้ามา
เหมิงเคอสวมชุดผ้าไหมธรรมดา สีหน้าซีดเผือด นัยน์ตามีสีแดงเล็กน้อย ราวกับว่าเสียใจเรื่องเถี่ยชิวเอ๋อร์มาตลอดทั้งคืน
ข้างกายนางมีสาวใช้อีกคนก้มหน้าอยู่ ดูท่าทางแล้วจะเชื่อฟังมาก
แต่หงเย่กลับเข้าใกล้อวี้ชิงลั่วอย่างเงียบๆ กล่าวเบาๆ “คนผู้นี้มีวรยุทธ์เจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า ไม่ได้กล่าวอะไรอีก
เหมิงเคอเดินเข้ามา คำนับผู้อาวุโสสกุลเยว่ จากนั้นก็หันมาทางอวี้ชิงลั่ว กล่าวเบาๆ “ข้าได้ยินว่าเมื่อวานแม่นางถังถูกซุ่มโจมตีที่จวน ทั้งยังบาดเจ็บ ข้าไม่สบายใจมาก จึงที่นี่เป็นพิเศษเพื่อดูเสียหน่อย แม่นางถังไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่”
“ขอบคุณที่เป็นห่วง ข้าสบายดี”
อวี้ชิงลั่วหรี่ตา กวาดแววตามอง เห็นว่าที่เอวนางมีจี้หยกเล็กๆ ห้อยอยู่ นางยิ่งหรี่ตาอย่างลึกซึ้งกว่าเดิม
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
การจำต้องยอมห่างยอมทำเป็นไม่สนใจทั้งที่ในใจอยากใกล้ชิดนี่มันทรมานใจมากนะ ชีวิตนายน้อยเหมิงช่างอาภัพนัก
หยกนี่บ่งบอกถึงอะไรหรือเปล่า
ไหหม่า(海馬)