อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 727 ถูกคนชน
ตอนที่ 727 ถูกคนชน
ตอนที่ 727 ถูกคนชน
อวี้ชิงลั่วหรี่ตาลง และนางก็ได้ยินคำพูดถัดไปของเหมิงเคอ “เมื่อวานนี้ข้าเจอเด็กคนหนึ่ง เด็กคนนั้นน่ารักมาก ท่าทางแข็งแรงน่าเอ็นดู ช่างน่ารักเสียจริง”
“แม่นางถังก็รู้ว่าข้ายังไม่มีลูก และข้าเป็นคนรักเด็กมาก ดังนั้นข้าจึงเชิญเขามาเป็นแขก และเลี้ยงอาหารและเครื่องดื่มแสนอร่อยเขา และเด็กคนนั้นชื่อว่าหนานหนาน ค่อนข้างน่าสนใจนัก”
“แม่นางถังบอกข้าที ข้าควรให้เขาเป็นแขกที่บ้านข้าต่ออีกสักสองสามวันดีหรือไม่? ข้าค่อนข้างชอบเขา เด็กคนนั้นชอบการกินยิ่งนัก”
อวี้ชิงลั่วจ้องมองนางอย่างเย็นชา “ในเมื่อฮูหยินรักเด็กมาก แล้วเหตุใดท่านไม่คลอดออกมาเองเล่า?”
“เจ้า…” เหมิงเคอกัดฟันด้วยความโกรธ อวี้ชิงลั่วกำลังจี้ปมของนาง นางรู้ว่าเหมิงหรงจะไม่สามารถมีทายาทได้อีก หากนางต้องการมีลูกในชีวิตนี้ นางก็ทำได้เพียงรับเลี้ยงลูกบุญธรรมเท่านั้น
แต่ครู่ต่อมา รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางอีกครั้ง เมื่อเห็นท่าทางเย็นชาของอวี้ชิงลั่ว และเห็นได้ชัดว่านางตั้งใจฟังคำพูดของนางมาก ก็แสดงว่าอวี้ชิงลั่วยังคงห่วงใยลูกชายของตนจริง ๆ
“เหตุใดแม่นางถังจึงพูดเช่นนั้น ข้าคิดว่าหากเด็กคนนั้นเต็มใจ ข้าก็อยากรับเขาเป็นลูกบุญธรรมจริง ๆ และจะให้เขาอยู่เคียงข้างข้าไปตลอดชีวิต”
อวี้ชิงลั่วแอบหัวเราะอยู่ในใจ ลูกบุญธรรมงั้นหรือ? ช่างกล้าคิด ด้วยสถานะของนาง คิดว่านางคู่ควรหรือไม่? ถามปู่และตาของหนานหนานแล้วหรือยัง?
หากหนานหนานไม่โกรธ ก็ถือว่าการศึกษาของเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมาล้มเหลว ฮึ่ม ถ้าเหมิงเคอรู้ว่าหนานหนานมีปานรูปดอกไม้ด้วย นางก็คงจะโกรธจนกระอักเลือดเป็นแน่
อวี้ชิงลั่วไม่ได้สนใจจะจัดการกับนาง แต่นัยน์ตาของนางฉายแววเย็นยะเยือกเล็กน้อย ถามอย่างเย็นชาว่า “ฮูหยินน้อย ท่านกำลังพยายามจะทำอะไรกันแน่?”
“ข้าจะทำอะไรได้? ก็แค่เตือนแม่นางถังว่าอย่ายื่นมือออกไปไกลเกินไป ดีที่สุดคือไม่ต้องก้าวก่ายสิ่งที่ไม่ควรก้าวก่าย เพื่อไม่ให้ลูกของเจ้าต้องเดือดร้อน”
“ฮูหยินน้อยหมายความว่าอย่างไร สิ่งที่ไม่ควรก้าวก่ายคืออะไร?”
เหมิงเคอแค่นเสียงเย็นชา “แม่นางถังไม่ต้องแสร้งทำเป็นสับสน แม่นางถังคนนี้ควรรู้ไว้ว่าพวกเราชาวเหมิงไม่ชอบพูดจาอ้อมค้อม หากแม่นางถังไปเทศกาลชิมสุราพรุ่งนี้ก็ควรไปคนเดียวดีกว่า ไม่ต้องพาเด็กที่ไม่ใช่ลูกของตัวเองไป ไม่เช่นนั้นข้าเกรงว่าผลที่ตามมาจะอยู่เหนือการควบคุมของข้า”
นางพูดจบแล้วก็เบะปากเย้ยหยัน หันหลังเดินจากไป
อวี้ชิงลั่วจ้องมองตามหลังนาง มุมปากของนางกระตุกเล็กน้อย
หงเย่ที่เงียบอยู่ข้างหลังนาง ก้าวเข้าไปพูดด้วยเสียงเบาว่า “คุณหนูเจ้าคะ หนานหนานอยู่ในมือนางจริง ๆ ด้วย เหมิงเคอคนนี้มีความคิดชั่วร้าย และข้าน้อยเกรงว่าจะเป็นอันตรายกับหนานหนาน ท่านต้องการให้ข้าน้อยติดตามนางไป และพาหนานหนานออกมาหรือไม่เจ้าคะ?”
อวี้ชิงลั่วหรี่ตาลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้า “ไม่จำเป็น คนที่หนุนหลังเหมิงเคอคือผู้อาวุโสของสกุลลี่ ตอนนี้หนานหนานจะต้องอยู่ที่บ้านของผู้อาวุโสสกุลลี่ สิ่งที่เหมิงเคอกังวลที่สุดตอนนี้คือกลัวว่าข้าจะพาเสี่ยวอวี้ไปปรากฏตัวต่อหน้าผู้นำเผ่า ดังนั้นหนานหนานจะได้รับการดูแลอย่างดีแน่นอน มีจอมยุทธหลายคนอยู่ในคฤหาสน์ของผู้อาวุโสสกุลลี่ เจ้าไม่ควรเข้าไป”
หงเย่ครุ่นคิดเรื่องนี้ ใช่แล้ว ไม่ควรถูกจับโดยไม่ได้ตั้งใจ มันจะทำให้เรื่องยิ่งซับซ้อนมากขึ้น
อวี้ชิงลั่วรู้สึกปวดศีรษะ เจ้าตัวเล็กนั่นอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของผู้อาวุโสสกุลหมิงก็ดีอยู่แล้ว เหตุใดจู่ ๆ เขาจึงกลับมากลางดึก?
เกิดอะไรขึ้น?
หากกลับไปแล้วเห็นทีต้องดึงหูถามความจริงจากเขาให้ละเอียด จากนั้นต้องสั่งสอนให้หนัก
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ แต่หลังจากคิดเรื่องนี้แล้วก็เห็นว่ายังไม่มีอะไรผิดปกติ อย่างน้อยหนานหนานก็อยู่ในมือของเหมิงเคอ และเหมิงเคอจะไม่สร้างปัญหาให้เหมิงหลัวอวี้ในขณะนี้ นับประสาอะไรกับการยืมอำนาจของผู้อาวุโสสกุลลี่ เพื่อตามหาเหมิงหลัวอวี้
นางกังวลมากว่าผู้อาวุโสสกุลลี่จะรู้เรื่องเย่ซิวตู๋ และมันคงแย่มากหากเย่ซิวตู๋ถูกเปิดโปง
อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า นางลืมเรื่องหนานหนานไปชั่วคราว เจ้าตัวเล็กนั่นฉลาดเป็นกรด อย่างน้อยฟังจากสิ่งที่เหมิงเคอเพิ่งพูดไป นางและผู้อาวุโสสกุลลี่ยังไม่รู้ว่าหนานหนานมีวิทยายุทธ
เฮ้อ ไม่ว่าหนานหนานจะไปที่ใด เขาก็ทิ้งความประทับใจไว้กับอาหารและเครื่องดื่มแสนอร่อย มันช่าง… น่าอายเสียจริง
เขาจะสุภาพอีกสักหน่อยไม่ได้หรือ ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาเป็นนายน้อยผู้เรียบร้อยบ้างไม่ได้หรือ?
“คุณหนู? คุณหนู?” หงเย่ตะโกนอยู่นาน แต่อวี้ชิงลั่วก็ยังไม่ตอบสนอง ดังนั้นนางจึงอดไม่ได้ที่จะเพิ่มระดับเสียง
อวี้ชิงลั่วชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นหันหน้ามามองด้วยความสับสน “เกิดอะไรขึ้น?”
“…คุณหนู ผิดทางแล้วเจ้าค่ะ” หงเย่เตือนนางด้วยความประหม่า
ทันทีที่อวี้ชิงลั่วเงยหน้าขึ้น นางก็ตระหนักได้ว่าเมื่อสักครู่นี้นางหมกมุ่นอยู่กับความคิดมากเกินไป ตอนนี้จึง… มาถึงสถานที่ที่แปลกประหลาดยิ่งนัก
นางลูบหัวคิ้วด้วยความเขินอาย แล้วหันกลับมาด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ “หันหลังกลับกันเถิด”
ขณะที่นางพูด ใบหน้าของนางก็เป็นสีแดงเล็กน้อย หลังจากกระแอมออกมาแล้ว นางก็ปรับสีหน้าเป็นจริงจัง
หงเย่อยากจะหัวเราะ คุณหนูมักพูดเสมอว่าหนานหนานไม่เหมือนตัวเองเลย นิสัยของเขาไม่ได้สืบทอดมาจากนาง แต่บางครั้งเมื่อดูแล้วก็รู้สึกว่าไม่ใช่เลย อันที่จริงนิสัยของคุณหนูกับหนานหนานนั้นคล้ายกันยิ่งนัก…
“คุณหนูเป็นห่วงหนานหนานมากจริง ๆ เจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วชะงักไป แล้วหันหน้ามามองนางอย่างดุร้าย “อย่าพูดเหลวไหล ข้าไม่ได้กังวลเรื่องเจ้าเด็กบ้านั่น สิ่งที่ข้ากำลังคิดอยู่ตอนนี้คือวิธีจัดการกับเขา”
“คุณหนูเจ้าคะ ครั้งนี้หนานหนาน… ก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกันเจ้าค่ะ” หงเย่ปกป้องเขาด้วยเสียงแผ่วเบา ใครจะคิดว่าตัวเองจะถูกลักพาตัวไปในขณะที่หลับสนิทอยู่บนเตียง?
หนานหนานอาจจะซึมเศร้า ในชีวิตเขามีงานอดิเรกแค่สามอย่าง คือ กิน ดื่มและนอน และครั้งนี้ถือว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกะทันหัน
อวี้ชิงลั่วชำเลืองมองหงเย่และลูบคางครุ่นคิด นี่ไม่ดีเลย นางพบว่าหนานหนานมีผู้สนับสนุนมากขึ้นเรื่อย ๆ และคนเหล่านี้ชอบเอาใจเขาจนทำให้เขาเสียคน จะเป็นอย่างไรหากในอนาคตเขากลายเป็นคนนิสัยเสีย และไม่สามารถเป็นหนุ่มหล่อแบบที่นางคิดไว้ได้?
นางต้องรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เพื่อไม่ให้เกินการควบคุมในอนาคต
“โครม…” ขณะที่อวี้ชิงลั่วกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ ทันใดนั้นก็มีคนวิ่งตัดหน้าและชนนาง
หงเย่ตกใจ ขณะที่คิดว่าอวี้ชิงลั่วกลับมามีสติแล้ว ตาของนางก็มองตรงไปข้างหน้าเช่นกัน นางจ้องมองไปยังคนที่วิ่งอยู่ข้างหน้า และกำลังจะถอยหนี
ใครจะไปรู้ว่าเจ้านายของนางจะเหม่อลอยอีกแล้ว และเมื่ออยู่ในอาการฟุ้งซ่าน นางก็จะรู้ตัวอีกทีตอนที่ถูกคนชนเข้าเสียแล้ว
หงเย่รีบประคองร่างของเจ้านายของนางไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้นางชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างนาง
อวี้ชิงลั่วยืนตัวตรงขณะขมวดคิ้วมองลงไป และพบว่าคนที่ชนนางกำลังยืนเซ เขาเดินถอยหลังไปสองสามก้าว แล้วล้มลงกับพื้นอย่างแรง
เขาผงะไปชั่วขณะ จากนั้นก้มลงมองดูตัวเอง และพบว่าเสื้อผ้าใหม่เอี่ยมบนร่างกายของเขาสกปรกหมดแล้ว ฝนเพิ่งตกไปเมื่อวันก่อน พื้นดินจึงยังไม่แห้งสนิท ทันใดนั้นรอยโคลนก็เปื้อนไปทั่วร่างกายของเขา
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ปากไม่ตรงกับใจเหมือนกันนี่น้าชิงลั่ว
ชนกับใครเข้าล่ะนั่น?
ไหหม่า(海馬)