อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 739 ความลับ
ตอนที่ 739 ความลับ
ตอนที่ 739 ความลับ
ไม่รู้ว่าโต๊ะกลมถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนที่จ้องมองมาที่เขาตั้งแต่เมื่อใด
หนานหนานรู้สึกประหลาดใจมาก และหันไปมองโม่เสียน “พวกเขากำลังทำอะไร”
โม่เสียนลูบหน้าผากของตน ขณะลอบถอนหายใจ “หนานหนาน ถ้าเจ้ารีบลุกขึ้นกะทันหันเช่นนี้ ทุกคนจะคิดว่าเจ้ามีแผนร้าย”
ดังนั้นองครักษ์ที่คอยดูแลสถานที่จึงมารวมตัวกันรอบ ๆ และมองไปที่หนานหนานอย่างหวาดระแวง
หนานหนานกะพริบตา เหตุใดคนเหล่านี้จึงโง่เขลานัก? เด็กห้าขวบเช่นเขาจะทำอะไรได้บ้าง? เพียงแค่มองหน้าก็รู้ว่าเขามีจิตใจดี ใสซื่อบริสุทธิ์และน่ารัก
เมื่อคิดดังนี้ เขาก็ทำตาแป๋วจ้องไปยังองครักษ์ที่ใกล้ที่สุดด้วยสีหน้าไร้เดียงสา
เหมิงลู่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กรรมการแทบจะพ่นน้ำออกมาจากปาก
ไม่เจอกันถึงสองเดือน เจ้าตัวเล็กยังเป็นเช่นนี้อยู่อีกหรือ?
เขาส่ายหน้า โบกมือให้องครักษ์แล้วพูดว่า “ทุกคนลงไป ไม่มีอะไรแล้ว”
ผู้อาวุโสสกุลลี่คิดจะใช้โอกาสนี้ตะโกนสั่งให้องครักษ์จับเขา แต่เมื่อประมุขสูงสุดพูดเช่นนี้ เขาก็ทำได้เพียงกัดฟันและระงับคำพูดไว้ในปาก
องครักษ์มองหน้ากันอยู่นาน ก่อนจะถอยกลับไปเงียบ ๆ
ผู้อาวุโสสกุลหมิงคลายมือที่กำแน่นและถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อสักครู่นี้เขาเกือบจะก้าวเข้าไปปกป้องหนานหนานแล้ว
ทว่า… ตอนนี้หนานหนานมาจากฝั่งผู้อาวุโสสกุลลี่
เขาหรี่ตามองด้านข้างเล็กน้อย แล้วพูดกับเย่ซิวตู๋ที่อยู่ข้างหลังว่า “มีคนบอกว่าหนานหนานถูกคนจับตัวไป คนผู้นั้นคือผู้อาวุโสสกุลลี่หรือ?”
เย่ซิวตู๋จิบชา แล้วตอบด้วยเสียงแผ่วเบา “อืม”
“เขาจับหนานหนานไปเพื่ออะไร?”
เย่ซิวตู๋หัวเราะเสียงเย็น “ทำไปเพื่อข่มขู่ชิงเอ๋อร์ขอรับ”
ข่มขู่หรือ? ผู้อาวุโสผู้อาวุโสสกุลหมิงลูบคาง มีเรื่องบาดหมางระหว่างผู้อาวุโสสกุลลี่กับอวี้ชิงลั่วหรือ? หรืออวี้ชิงลั่วทำอะไรให้เขารู้สึกคับข้องใจ จึงเป็นเหตุผลที่เขาจับเจ้าตัวเล็กไว้เพื่อหยุดนาง
แต่ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์ใด ก็ไม่เพียงพอที่จะเป็นข้ออ้างในการจับหนานหนานได้
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสสกุลลี่ทำร้ายหนานหนานหรือไม่ และคงทำให้เขากินไม่ได้นอนไม่หลับด้วยความกลัว และน้ำหนักดูลดไปมาก
ผู้อาวุโสผู้อาวุโสสกุลหมิงลอบมองไปยังผู้อาวุโสสกุลลี่ ในตอนแรกเย่ซิวตู๋มองไปที่เขาเพียงแวบเดียว เมื่อเห็นการปรากฏตัวของผู้เฒ่านั่น เขาก็เริ่มรู้สึกไม่มีความสุขอีกครั้ง
เย่ซิวตู๋เพียงแค่สบสายตากับอวี้ชิงลั่ว จากนั้นหันความสนใจไปที่โต๊ะกลมอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าองครักษ์ที่ล้อมเขาออกไปแล้ว บัดนี้หนานหนานก็รู้สึกโล่งใจมาก
เขาแสร้งทำเป็นหยิบเหยือกที่โม่เสียนมอบให้ ก่อนกำมือกระแอมใส่ฝูงชนสองครั้ง แล้วพูดเสียงดังว่า “ทุกท่านโปรดดูให้ดี สุราในมือของข้าเป็นสุรารสเลิศที่สุด ดีที่สุด และทำให้มึนเมาที่สุด ที่ท่านลุงโม่ของข้าเป็นคนกลั่นเอง”
มุมปากของโม่เสียนกระตุก เกริ่นมาเช่นนี้เลยหรือ?
เขาเขยิบไปใกล้เล็กน้อย และเตือนหนานหนาน ว่า “เพียงแค่แนะนำก็พอแล้ว อย่างอื่นไม่จำเป็นต้องพูดก็ได้”
หนานหนานชำเลืองมองเขา “เหลวไหล ข้ารู้อยู่แล้ว อย่าขัดจังหวะคำพูดของข้าสิ”
สุดท้ายเขาก็ผลักโม่เสียนออกไปเบา ๆ
จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น แล้วพูดเสียงดังว่า “สุรานี้ทำมาจาก…”
ขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็หยุดนิ่งและกลอกตาไปรอบ ๆ เวที
ผู้อาวุโสสกุลเยว่หัวเราะ แล้วพูดกับอวี้ชิงลั่วว่า “ลูกของเจ้าเป็นคนตลกและน่ารักมาก”
หมอเฒ่าฉยงซานเริ่มการสนทนาทันที “นั่นสินะ หนานหนานเป็นคนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด อย่ามองว่าเขาเป็นเด็กตัวเล็ก เขามีความคิดร้ายกาจมากมาย เจ้าไม่อาจไล่ตามลูกไม้ของเขาได้หรอก”
“จริงหรือ? ข้าอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องวรยุทธ์ของเขาจริง ๆ แม่นางถัง เด็กคนนี้ร่ำเรียนมาจากที่ใดหรือ?”
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุก ก่อนยิ้มฝืดเฝื่อน “เด็กคนนี้ไม่มีอาจารย์หรอกเจ้าค่ะ มีคนมากมายที่สอนวรยุทธ์ให้เขา ดังนั้นเขาจึงสนุกไปกับการเรียนรู้เคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ จากที่นู่นที่นี่”
“จริงหรือ?” ผู้อาวุโสสกุลเยว่พยักหน้าอย่างครุ่นคิด “วรยุทธ์ค่อนข้างซับซ้อน แต่ก็ไม่ได้ดีมาก วรยุทธ์นั้นต้องเรียนรู้อย่างละเอียดและดีกว่าที่จะพยายามด้วยตัวเอง แม่นางถัง เด็กคนนี้ดูมีพรสวรรค์ยิ่งนัก หากเจ้าไม่ว่าอะไร ข้าจะขอเป็นอาจารย์คนหนึ่งของเขาสักระยะหนึ่งได้หรือไม่?”
อวี้ชิงลั่วแอบถอนหายใจ เหตุใดจึงมีคนจำนวนมากแย่งกันมาเป็นอาจารย์ของหนานหนาน? ผู้อาวุโสสกุลเยว่ใจดีมาก และยากที่นางจะปฏิเสธ…
แต่ถ้าเขากลายเป็นอาจารย์ของหนานหนานจริง ๆ ประมุขของเผ่าเหมิงและผู้อาวุโสสกุลหมิงจะต้องถลกหนังของผู้อาวุโสสกุลเยว่แน่นอน
เมื่อเห็นว่านางยังคงเงียบอยู่ อูเหมี่ยนเซิงจึงเสริมว่า “แม่นางถัง ผู้อาวุโสสกุลเยว่มีวรยุทธ์ล้ำเลิศนัก ด้วยคำแนะนำของเขา วรยุทธ์ของหนานหนานจะพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดแน่นอน”
อวี้ชิงลั่วหัวเราะแห้งอีกครั้ง และทำได้เพียงพูดกับผู้อาวุโสสกุลเยว่ว่า “หนานหนานมีความคิดที่ยิ่งใหญ่ เขาพูดตั้งแต่ยังเด็กว่าในชีวิตนี้เขาจะไม่รับใครเป็นอาจารย์…”
“เพราะอะไร?”
“เขาบอกว่าให้ข้าดูแลเขาคนเดียวในโลกนี้ก็พอแล้ว หากมีอาจารย์คนอื่นอีก เขาก็จะต้องเชื่อฟังคนอื่นด้วย ซึ่งทำให้อึดอัดมากเจ้าค่ะ”
“ฮ่าๆๆ” ผู้อาวุโสสกุลเยว่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ “เด็กคนนี้มีนิสัยเฉพาะตัวที่น่ารักเสียจริง”
อวี้ชิงลั่วยังคงหัวเราะแห้ง ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ก่อนที่นางจะมีเวลาพูดปฏิเสธอย่างสุภาพอีกสองสามคำ จู่ ๆ ก็มีแรงดึงที่มือของนาง
นางชะงัก และมองลงไปที่เหมิงหลัวอวี้
“ท่านน้าชิง เหตุใดหนานหนานไม่พูดเล่าเจ้าคะ?”
อวี้ชิงลั่วเงยหน้าขึ้นมอง แล้วตระหนักได้ว่าหนานหนานได้แต่ยืนนิ่งเงียบอยู่ที่นั่นมานานแล้ว
ในขณะนี้ผู้ฟังเริ่มกระซิบคุยกันว่าจู่ ๆ ก็เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนั้น
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว ทันใดนั้นลางสังหรณ์ที่เลวร้ายมากก็ผุดขึ้นในใจ
นางรู้สึกว่าการที่เย่ซิวตู๋ปล่อยให้หนานหนานขึ้นไปนำเสนอบนเวที เป็นการตัดสินใจที่ผิด
แต่แล้วหนานหนานที่อยู่บนเวทีก็โบกมือเล็ก ๆ ของเขา แล้วตะโกนว่า “เงียบก่อน”
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากพูด เขาแค่ลืม ลืมเรื่องสุราที่ท่านลุงโม่เล่าให้ฟังเมื่อไม่กี่วันก่อน
แม้เขาจะพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกกับสิ่งที่ท่านลุงโม่พูด แต่จิตใจของเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นเลย เขาคิดได้เพียงแค่ต้องการจะดื่มและดื่มเท่านั้น
ทีนี้… จะแนะนำได้อย่างไร?
โม่เสียนเห็นบางอย่างแปลก ๆ และตบหน้าผากของตนอย่างแรง จากนั้นก้าวเข้าไปหมายจะพูดแทนทันที แต่กลับถูกหนานหนานผลักออกมาอีกครั้ง
โม่เสียนจ้องมอง “หนานหนาน ให้ข้าพูดเองเถิด”
“ไม่เอา ข้าจะพูดเอง”
หนานหนานเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาที่บอกว่า ‘เจ้าถอยไป และอย่าทำลายแผนการที่เตรียมไว้อย่างรอบคอบของข้า’ แม้ว่าเขาจะจำไม่ได้ว่าท่านลุงโม่พูดอะไรบ้าง แต่เขาก็ฉลาดและรอบคอบมาก
โม่เสียนเงยหน้าขึ้นมองไปยังเย่ซิวตู๋ที่พยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ และปล่อยให้หนานหนานจัดการเอง
อย่างไรเสีย จุดประสงค์หลักของพวกเขาก็ไม่ใช่การแข่งขันในงานเทศกาลชิมสุราอยู่แล้ว จึงไม่สำคัญว่าผลลัพธ์จะออกมาดีหรือไม่
หนานหนานกระแอมในลำคอ จากนั้นกวาดสายตามองลงไปข้างล่างเวที จากนั้นพูดอย่างเฉียบขาดว่า “ทุกคนคงจะสงสัยว่าสุรานี้ถูกกลั่นอย่างไรใช่หรือไม่?”
“สำหรับสุรานี้ ส่วนผสมหลักคือ… ความลับ”
ขาของโม่เสียนแทบจะอ่อนยวบลงบนเวที ‘ความลับ’ ที่ว่านี่คืออะไรกัน? เหตุใดเขาถึงจำส่วนผสมของสุราไม่ได้ และ… ต้องเก็บเป็นความลับด้วยเล่า?
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
หนานหนานเอ๊ย ปล่อยให้ท่านลุงโม่แนะนำเองเถอะ อย่าเพิ่งแสดงความเก่งตอนนี้เลย
ไหหม่า(海馬)