อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 744 นิสัยของหมอปีศาจช่างมีเอกลักษณ์
ตอนที่ 744 นิสัยของหมอปีศาจช่างมีเอกลักษณ์
ตอนที่ 744 นิสัยของหมอปีศาจช่างมีเอกลักษณ์
แม่นางชิง หมอปีศาจชื่อดัง แม่นางชิง หมอปีศาจชื่อดัง…
ทุกคนรู้สึกเหมือนหูอื้อไป หมอปีศาจลึกลับผู้นั้นที่ไม่มีใครรู้จักแม้แต่หน้าตา ก็คือคนที่อยู่ตรงหน้า… คือแม่นางที่อายุยังน้อยเพียงนี้น่ะหรือ?
อีกด้าน หมอเฒ่าฉยงซานที่เพิ่งกลับมาจากห้องสุขาและเดินกุมท้องกลับมายังที่นั่งของตนก็บังเอิญได้ยินประโยคนี้เช่นกัน เขาถึงกับชะงักไป หมอปีศาจหรือ? หมอปีศาจที่มีชื่อเสียงพอๆ กับเขาน่ะหรือ?
เหตุใดจู่ๆ จึงเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาได้เล่า
หมอเฒ่าฉยงซานไม่เข้าใจ มองไปยังคนมากมายที่เบียดเสียดกันอยู่ตรงเวทีกลม จากนั้นจึงถามว่านเผิงหลงและเถาเหวินฮั่นที่ยืนอยู่ตรงที่เดิมทันที “ทางด้านนั้นเกิดอะไรขึ้นหรือ?”
พวกว่านเผิงหลงอยู่ใกล้ๆ กับพวกเขาเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบนเวทีกลมได้ชัดเจน ถึงขนาดคำพูดทุกคำก็ได้ยินอย่างชัดแจ้ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ซ่างกวนจิ่นจงใจกล่าวเสียงดังเมื่อครู่
ว่านเผิงหลงค่อนข้างสงบนิ่ง เพียงแต่แววตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ ส่วนเถาเหวินฮั่นตะลึงไปอย่างสมบูรณ์ นิ้วของเขาสั่นอย่างคุมไม่อยู่
หมอปีศาจหรือ? หญิงผู้นั้นคือหมอปีศาจหรือ? หมอปีศาจที่รอบรู้และใช้ยาพิษได้อย่างเก่งกาจ ผู้ที่เขาชื่นชมเป็นอย่างมากน่ะหรือ เหตุใด… จึงเป็นเช่นนี้ไปได้?
เถาเหวินฮั่นนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความงุนงง สีหน้าซับซ้อน บอกไม่ถูกว่าสุขหรือเศร้า
ในที่สุดว่านเผิงหลงก็ได้สติคืนมา สูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็หันหน้ามาสบสายตาไม่เข้าใจของหมอเฒ่าฉยงซาน จากนั้นก็อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้เขาเข้าใจอย่างง่ายๆ ด้วยเสียงเบารอบหนึ่ง
หมอเฒ่าฉยงซานเบิกตากว้างในทันที คว้าแขนของว่านเผิงหลงแล้วถาม “เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ เจ้าบอกว่าลั่วลั่วคือหมอปีศาจหรือ? ลั่วลั่วคือหมอปีศาจอย่างนั้นหรือ?”
แม้ว่านเผิงหลงจะไม่อยากเชื่อ แต่ก็ยังพยักหน้าอย่างยากลำบาก เพียงแต่นึกถึงเรื่องหนึ่งแล้วสีหน้าของเขาก็หม่นหมองไป อย่างไรคนที่บาดเจ็บก็คือเพื่อนรักของอาจารย์ อาจารย์กลับไม่ถามเลยสักคำ เฮ้อ ในใจของท่านอาจารย์นั้น อวี้ชิงลั่วคงเป็นคนที่สำคัญที่สุดอย่างแน่นอน
หมอเฒ่าฉยงซานทนรอไม่ไหวอีกต่อไป จับชายชุดแล้ววิ่งขึ้นไปยังเวทีกลมทันที
ตอนที่ถูกผู้อารักขาขวางไว้ก็ทำเพียงถลึงตาแล้วกล่าว “ไม่รู้หรือว่าข้าเป็นใคร ไม่เห็นคนที่หมดสติอยู่บนนั้นหรือ?”
ผู้อารักขาหัวเราะแห้งๆ ลังเลครู่หนึ่งแล้วปล่อยเขาไป
หมอเฒ่าฉยงซานไม่กล่าวอะไร ตรงเข้าไปตรงหน้าอวี้ชิงลั่วทันที ถามเสียงดัง “ลั่วลั่ว เจ้าคือหมอปีศาจจริงๆ หรือ?”
อวี้ชิงลั่วหรี่ตาและถลึงตามองซ่างกวนจิ่นด้วยความโกรธ เห็นทุกคนยังมีสีหน้าไม่อยากเชื่อก็ทำได้เพียงพยักหน้า “เป็นฉายาที่คนอื่นตั้งให้ข้าน่ะ”
เมื่อหมอเฒ่าฉยงซานเอะอะเพียงนี้ คนรอบๆ ก็เริ่มตอบสนองขึ้นมา
คนที่ตกใจที่สุดก็คือผู้อาวุโสสกุลเยว่ ตอนนั้นเขาคิดจริงๆ ว่าตนมีตาหามีแววไม่ มีข่าวลือว่าหมอปีศาจผู้ลึกลับมาดูอาการป่วยของบุตรชายตนด้วยตัวเอง ตอนแรกเขาก็หาข้ออ้างมากมายและไม่เต็มใจนัก เอาแต่คิดว่ามันไม่น่าเชื่อถือ
ตอนนี้รู้ตัวตนจริงๆ ของนางแล้ว เขากลับ เขากลับทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา
ไม่แปลกเลยที่โรคที่คนอื่นๆ วินิจฉัยไม่ได้ แม่นางผู้นี้กลับมั่นใจถึงเพียงนี้ วิธีการวินิจฉัยช่างแตกต่างจากผู้อื่นยิ่งนัก ที่แท้นางคือหมอปีศาจนี่เอง
ได้ยินว่าเดิมทีวิธีการวินิจฉัยของหมอปีศาจนั้นมีเอกลักษณ์และโด่งดัง ตอนนี้ก็ถือว่าได้เปิดโลกแล้ว
ไม่รู้ว่าทำไม ในใจผู้อาวุโสสกุลลี่อดไม่ได้ที่จะภาคภูมิใจในตนเองขึ้นมา ที่นี่มีผู้อาวุโสมากมาย จะมีใครใกล้ชิดกับหมอปีศาจได้นานเท่าเขาอีก
ผู้อาวุโสสกุลลี่ที่อยู่ข้างๆ ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อ หันไปมองซ่างกวนจิ่น จากนั้นก็ยืนยันอีกครั้ง “ท่านอุปราช ที่ท่านกล่าวเป็นความจริงหรือ? แม่นางผู้นี้… เป็นหมอปีศาจจริงๆ หรือ?”
“แน่นอน ข้าไม่จำเป็นต้องโกหก หากผู้อาวุโสสกุลลี่ไม่เชื่อ ก็ไปลองสอบถามที่เมืองหลวงอาณาจักรเฟิงชางดูสิ เดี๋ยวก็รู้” สายตาที่ซ่างกวนจิ่นมองอวี้ชิงลั่วมีความแตกต่างอย่างมาก ทำให้เย่ซิวตู๋ที่มองอยู่ข้างๆ ไม่สบายใจเอาเสียเลย
ซ่างกวนจิ่นผู้นี้ยังคงเหมือนเดิม ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ตัวตนสตรีของเขา ต้องให้อีกฝ่ายมาป่าวประกาศหรือ?
เขารู้อยู่แล้ว คนผู้นี้มาดินแดนเหมิงทั้งทีจะต้องไม่มีเรื่องดีอย่างแน่นอน
ผู้อาวุโสสกุลลี่รู้สึกว่าภายในลำคอแห้งผากเล็กน้อย เรื่องนี้เขาและเคอเอ๋อร์คิดมาตลอดว่าขอเพียงแค่จับแม่หม้ายและเด็กกำพร้า เพียงสองคนนี้เท่านั้น ไม่คิดเลยว่านางไม่เพียงแต่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเย่ซิวตู๋ แต่หญิงคนนี้ยังเป็น…หมอปีศาจอีก
ตัวตนของนางน่าประหลาดใจเกินไปแล้ว เขารู้สึกว่ามีบางอย่างที่จะไม่เป็นไปตามแผน ตอนนี้เขาต้องการตามหาเคอเอ๋อร์ และปรึกษานางเรื่องการจัดการกับเหมิงหลัวอวี้
แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถหนีไปได้ และไม่รู้ว่าเคอเอ๋อร์นั้นลงมือไปหรือยัง
อวี้ชิงลั่วกอดอก มองท่านหมอหมิ่นที่ใบหน้าชุ่มเหงื่อ ถามเขา “ตอนนี้ข้าดูอาการผู้อาวุโสสกุลเซิ่งได้หรือยัง”
“หมอหมิ่นยังไม่หลีกทางอีกหรือ หลานสะใภ้ของข้าเป็นถึงหมอปีศาจ ลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ของเจ้าไม่เพียงพอมาประมือกับนางหรอก” ผู้อาวุโสสกุลหมิงในตอนนี้ช่างโอ้อวดจริงๆ นี่เป็นเรื่องประหลาดที่น่ายินดีนัก หมอปีศาจเอ๋ย ตัวตนนี้ทำให้คนชื่นชมได้เสียยิ่งกว่าเป็นองค์หญิงในราชวงศ์เสียอีก
ตอนนี้ในใจของผู้อาวุโสสกุลหมิง องค์หญิงจากราชวงศ์นั้นไม่ได้มีความสำคัญอันใด ชาวเหมิงนั้นไม่ได้มีความเคารพต่อราชวงศ์มากนัก อย่างไรในดินแดนเหมิงก็มีหวงเฟยมากมายอยู่แล้ว ตอนนี้บุตรสาวของตนยังเป็นกุ้ยเฟยที่เป็นที่โปรดปรานที่สุด ไม่มีอะไรที่หายากนัก
แต่หมอปีศาจ… มีเพียงคนเดียว ใครๆ ในโลกล้วนรู้จัก
“หมอหมิ่น หากทักษะการแพทย์ไม่เพียงพอก็หลีกทางให้หมอปีศาจเสีย ถูกวางยาพิษหรือ หึๆ ถูกวางยาพิษหรือ ด้วยทักษะการแพทย์น้อยนิดของเจ้า เกรงว่าแม้แต่โรคซางหาน เจ้าก็คงจะวินิจฉัยว่าถูกวางยาพิษกระมัง” ผู้อาวุโสสกุลหมิงพูดจาเชือดเฉือนอย่างไร้ปรานี
ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ถึงตอนที่อวี้ชิงลั่ววินิจฉัยอาการของเหมิงจื่อฉี ตามวิธีการของนาง จื่อฉีคงจะใกล้จะมีบุตรแล้ว
อืม ตอนนี้รู้สึกว่าป่าไผ่และห้องหนังสือนั้น เสียไปอย่างคุ้มค่ายิ่งนัก
ใบหน้าของหมอหมิ่นเปลี่ยนเป็นสีแดงและไม่กล้าลงจากเวที จนคนรอบๆ เริ่มชี้นิ้วใส่เขา ทำให้เขาหันมองผู้อาวุโสสกุลลี่ ทว่าผู้อาวุโสสกุลลี่ในตอนนี้จะสนใจเขาได้อย่างไร
หมอหมิ่นกัดฟันทำเสียงฮึดฮัด หันหลังจากไป
ดินแดนเหมิง… เขาอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
เมื่อตัวตนของอวี้ชิงลั่วปรากฏขึ้น ต่อไปเกรงว่าจะไม่มีใครเชื่อในทักษะการแพทย์ของเขาอีกแล้ว
ผู้อาวุโสสกุลหมิงส่งเสียงไม่พอใจอยู่ด้านหลังเขา ผู้อาวุโสสกุลเยว่เองก็พึมพำสองประโยคเช่นกัน ดูหมิ่นเหยียดหยามเป็นอย่างมาก
สองคนที่ปกติแล้วมีความสัมพันธ์ต่อกันแบบธรรมดาๆ ตอนนี้กลับเหมือนว่าได้เจอสิ่งที่คล้ายคลึงกันแล้ว จึงยิงฟันและมองหมอหมิ่นที่หันหลังให้อย่างดูถูก
อวี้ชิงลั่วก้าวมาข้างหน้า นั่งลงตรงหน้าเหมิงผูเซิ่ง ป้อนยาให้เขาหนึ่งเม็ด จากนั้นก็กดบางจุดบนร่างของเขาแล้วฝังเข็มเงินเข้าไป
ไม่นานนัก เหมิงผูเซิ่งก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง หันหน้ามาแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น
ผู้คนที่มองจากด้านข้างค่อยๆ ถอนหายใจโล่งอก สมกับเป็นหมอปีศาจ ลงมือเพียงสองสามครั้งก็เหมือนว่าพาคนกลับมาจากประตูนรกได้เลยอย่างไรอย่างนั้น
เหมิงผูเซิ่งอ่อนแอมาก เมื่อเห็นอวี้ชิงลั่วก็อึ้งงันไป
“ข้าเป็นอะไรไปหรือ?”
อวี้ชิงลั่วหัวเราะเย็นชา “ได้รับบาดเจ็บหนักเพียงนั้น ท่านไม่น่าจะไม่รู้นะเจ้าคะ ทั้งยังมาร่วมเทศกาลชิมสุราอย่างไม่รู้จักควบคุมตนเอง ก็สมควรจะหมดสติแล้ว”
ทุกคนได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจไปตามๆ กัน
ดูท่าข่าวลือนั้นจะน่าเชื่อถืออย่างมาก ได้ยินว่านิสัยของหมอปีศาจนั้นแปลกประหลาด ได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว รู้สึกว่าไม่ผิดเลยจริงๆ
กล่าวคำพูดเช่นนี้กับอดีตผู้อาวุโสของดินแดนเหมิงได้ ช่าง… มีนิสัยเป็นเอกลักษณ์เหลือเกิน
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เจอของจริงแล้วจะตะแบงต่อยังไงก็ไปต่อไม่ได้แล้วล่ะหมอหมิ่น ต้องออกไปก่อนจะขายหน้ามากกว่านี้
ไหหม่า(海馬)