อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 745 ต้องให้เงิน
ตอนที่ 745 ต้องให้เงิน
ตอนที่ 745 ต้องให้เงิน
สีหน้าของเหมิงผูเซิ่งแข็งทื่อไป และฉายความอับอายเล็กน้อย
เขาจับจมูกโดยไม่รู้ตัว แต่ร่างกายกลับไม่มีแรงจนยกมือไม่ขึ้น จึงทำได้เพียงยอมแพ้ ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวอย่างอายๆ ว่า “งานอดิเรกเดียวชั่วชีวิตของข้าคือการดื่มสุราเป็นชีวิตจิตใจ เทศกาลชิมสุราเป็นเรื่องใหญ่เพียงนี้ ถ้าหากพลาดไป ไม่เท่ากับเสียดายไปตลอดชีวิตหรอกหรือ?”
อวี้ชิงลั่วมุมปากกระตุก ข้อเสียของคนผู้นี้ช่างเหมือนกับหนานหนานอย่างมาก แต่อย่างไรหนานหนานก็ยังมีความละอาย ไม่กล้าขัดคำสั่งของแม่อย่างนาง
แต่เหมิงผูเซิ่งผู้นี้สถานะไม่ใช่ธรรมดา ทั้งยังไม่มีใครคอยจัดการเขาได้ เขาจึงชอบดื่มอย่างไม่กลัวตาย
อวี้ชิงลั่วเองก็ไม่อยากไปยุ่งกับเขา นางและเขาไม่ได้รู้จักกัน คนเขาจะหวงแหนชีวิตตนเองหรือไม่ล้วนไม่เกี่ยวกับนาง ปัญหาคือคนผู้นี้หมดสติหลังจากดื่มสุราของหนานหนาน นี่ไม่ใช่ว่าสร้างปัญหาให้บุตรชายของนางหรอกหรือ?
ดูสิ ผู้อาวุโสสกุลลี่และหมอหมิ่นผู้นั้น ไม่ใช่ว่าฉวยโอกาสนี้สร้างเรื่องวุ่นวาย ทั้งยังจะใส่ร้ายบุตรชายสุดที่รักของนางอีกหรอกหรือ?
“สรุปแล้ว ดูจากตอนนี้ ท่านต้องดูแลตัวเองดีๆ หากยังดื่มสุรากินของเผ็ดส่งเดชอีก เช่นนั้นเทพเซียนก็ช่วยท่านไม่ได้แล้ว”
เหมิงผูเซิ่งคิดว่าหญิงสาวผู้นี้น่าสนใจเล็กน้อย น้ำเสียงของนางฟังราวกับว่ากำลังสั่งสอนบุตรของตัวเอง อย่างไรเขาก็เป็นผู้อาวุโส ไว้หน้ากันหน่อยดีหรือไม่
แต่เรื่องในตอนนี้ก็ช่วยให้เขาตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ในตอนนี้ ดูท่าอาการบาดเจ็บภายในของตนจะหนักหนากว่าที่คิดไว้มาก
คิดถึงตรงหน้า เหมิงผูเซิ่งก็อดไม่ได้ที่จะตอบสนองไปประโยคหนึ่ง
ส่วนเหล่าผู้อาวุโสที่ดูอยู่ข้างๆ เห็นว่าเขาฟื้นขึ้นมาแล้ว ก็มีคนที่อดไม่ได้แล้วถามออกมา “ผู้อาวุโสสกุลเซิ่ง ที่แท้แล้วเป็นใครที่ช่างกล้านัก ทำให้เจ้าบาดเจ็บได้”
เหมิงลู่ขมวดคิ้ว คำกล่าวเช่นนี้ไม่สมควรกล่าวออกมาในจังหวะเช่นนี้เลย
เหมิงผูเซิ่งกลับถอนหายใจ กล่าวออกมาอย่างเสียดายเล็กน้อย “ข้าเองก็ไม่รู้ว่าใครที่ทำร้ายข้า ตอนแรกข้าเพิ่งดื่มเหล้าเสร็จแล้วกลับบ้าน เห็นว่ามีคนทำท่าทางลับๆ ล่อๆ จึงคิดจะลองตรวจสอบดู แต่ยังไม่ทันได้เห็นอันใด ก็เหมือนกับว่ากลิ่นเหล้าบนตัวถูกอีกฝ่ายสัมผัสได้เสียอย่างนั้น ตอนนั้นมีคนชุดดำสองคนมาล้อมข้าไว้ ข้า… ไม่ทันได้ระวัง ถูกทำร้ายฝ่ามือหนึ่ง อาการบาดเจ็บภายในนี้ ได้รับมาอย่างไม่ยุติธรรมจริงๆ”
มีคนลอบถอนหายใจ “สองคนหรือ ไม่แปลกใจเลย” กล่าวเช่นนี้แล้ว ต่อให้วรยุทธ์จะอยู่ในระดับต่ำกว่าผู้อาวุโสสกุลเซิ่ง แต่เมื่อร่วมมือกันก็สามารถทำร้ายคนได้อย่างหนัก
เหมิงลู่เห็นว่าพวกเขายังอยากจะถามต่อ จึงก้าวไปข้างหน้าแล้วโบกมือกล่าว “เรื่องนี้ค่อยคุยกันภายหลัง ตอนนี้ผู้อาวุโสสกุลเซิ่งบาดเจ็บอยู่ ยังต้องพักผ่อน หากทุกคนมีคำถามใดๆ ก็รอให้ผู้อาวุโสสกุลเซิ่งอาการดีขึ้นก่อนค่อยว่ากัน”
ท่านประมุขกล่าวออกมาเช่นนี้ แม้ว่าทุกคนจะยังมีคำถาม ก็ทำได้เพียงเก็บเอาไว้ก่อน
ยิ่งไปกว่านั้น เห็นสีหน้าเหมิงผูเซิ่งไม่สู้ดีนัก หากยังถามต่อไป ก็จะทำให้การรักษาของเขาล่าช้าเข้าไปอีก
จากนั้นทุกคนก็พยักหน้า ให้คนค่อยๆ พาเหมิงผูเซิ่งลงไปอย่างระมัดระวัง
ใครจะรู้ว่าเดินไปได้เพียงสองก้าว จู่ๆ เหมิงผูเซิ่งก็หันหน้ากลับมา สีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย มองไปยังหนานหนานแล้วถามอย่างอายๆ “เจ้าหนู สุรานั่น เหลือไว้ให้ข้าด้วยล่ะ รอข้าหายดีแล้วจะมาชิมอีกครั้ง”
มุมปากของทุกคนกระตุกอย่างอดไม่ได้ ผู้อาวุโสสกุลเซิ่งผู้นี้ติดเหล้ายิ่งกว่าชีวิตจริงๆ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ยังไม่ลืมสุราชั้นดี
แต่ได้ยินผู้อาวุโสสกุลเซิ่งกล่าวเช่นนี้ ในใจทุกคนก็คาดหวังกับสุราของหนานหนานขึ้นมา ทำให้ผู้อาวุโสสกุลเซิ่งที่เคยชิมเหล้ามาทั่วหล้าติดใจได้เช่นนี้ สุรานี้คงเป็นสุราชั้นดีไม่น้อย
หนานหนานมีทีท่าครุ่นคิดอย่างจริงจังพักหนึ่ง เอียงคอแล้วกล่าว “เหล้าของข้านี้มีไม่มาก นอกจากที่แบ่งมายังเทศกาลชิมสุรานี้แล้ว ก็ไม่มีเหลืออีก ส่วนที่เหลือก็จะเอาไปขาย ท่านเข้าใจใช่หรือไม่?”
“…” อวี้ชิงลั่วถอยหลังไปอย่างเงียบๆ สองก้าว นางไม่อยากเป็นจุดสนใจจริงๆ ไม่อยากให้คนอื่นคิดว่า… ที่บุตรชายโลภมากเพียงนี้ ก็เป็นเพราะได้รับนิสัยของนางมา
ส่วนเย่ซิวตู๋แสดงสีหน้าพึงพอใจ น่ายินดีอย่างยิ่งที่บุตรชายรู้จักหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ แววตาที่มองหนานหนานไม่รู้ว่าอ่อนโยนเพียงไหน
เหมิงลู่กระแอมเบาๆ หันหน้าไม่รู้ว่าจะกล่าวอะไร ที่แท้ แม้ว่าจะไม่ได้เจอกันสองเดือน เด็กคนนี้ก็ยังคงชอบ…เงินอยู่
เหมิงผูเซิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตอบสนอง กล้ามเนื้อบนใบหน้าสั่นโดยไม่รู้ตัว ถอนหายใจ ยิ้มแล้วกล่าว “เข้าใจสิ ข้าเข้าใจ เจ้าวางใจเถิด ข้าจะต้องซื้อเป็นแน่”
หนานหนานมีความสุขในทันที ดิ้นลงจากตัวของผู้อาวุโสสกุลหมิง วิ่งไปข้างๆ เปลหามของผู้อาวุโสสกุลเซิ่งสองสามก้าว กล่าวอย่างเป็นห่วงมาก “ท่านปู่ผู้อาวุโสสกุลเซิ่ง ท่านจะต้องดูแลตนเองให้ดีนะขอรับ ท่านแม่ข้าบอกแล้วว่าอาการบาดเจ็บภายในนี้อาจจะร้ายแรงหรือไม่ก็ได้ หากไม่ตั้งใจรักษา ผลที่ตามมาจะร้ายแรง เหล่าคนร้ายที่ท่านไปพบเข้า ไม่แน่ว่าพวกมันจะกลับมาสร้างปัญหาให้ท่านอีก ดังนั้นท่านต้องหาคนมาคุ้มกันอยู่ข้างกายสักสองสามคน ไม่ให้คนร้ายพวกนั้นได้โอกาส ท่านหล่อเหลาปานนี้ หากโดนโจมตีคงน่าเสียดาย”
เหมิงผูเซิ่งรู้สึกว่าคำพูดของเด็กผู้นี้ช่างน่าฟัง พูดได้จับใจเขาอย่างยิ่ง มีแต่คนบอกว่าจิตใจและดวงตาของเด็กนั้นบริสุทธิ์ที่สุด เขาบอกว่าตนหล่อเหลา เช่นนั้นตนก็ต้องหล่อที่สุดในสายตาของเด็ก
“ที่สำคัญที่สุดคือ เหล้านี้ข้าเก็บไว้ให้ท่านแล้ว หากท่านเป็นอันใดไป ใครจะมาซื้อเหล้าของข้าเล่า ถึงตอนนั้นข้าจะไม่ได้เงิน ไม่รู้จะไปร้องไห้ที่ไหนแล้ว” หนานหนานตบขอบเปลหามของเขาแล้วกล่าวต่อ “ดังนั้นเพื่อเงินของข้า ท่านจะต้องดูแลตนเองให้ดี อ้อ จริงสิ เช่นนั้นเอาอย่างนี้ไหมขอรับ ท่านให้เงินมัดจำกับข้าก่อน เช่นนั้นทำธุรกิจก็จะได้มั่นคงขึ้นหน่อย”
“…” เหมิงผูเซิ่งตกตะลึง ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยกมือขึ้นอย่างยากลำบาก โบกมือให้คนหามเปล
ไปๆๆ เขาไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว
“ท่านปู่ผู้อาวุโสสกุลเซิ่ง เหตุใดท่านไม่กล่าวอันใดเลยเล่า ท่านไม่เห็นด้วยหรือ”
เหมิงผูเซิ่งกัดฟัน “ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี จริงๆ นะ”
สองคนที่หามเปลกลั้นหัวเราะเอาไว้เพื่อไม่ให้ผู้อาวุโสสกุลเซิ่งต้องขายหน้าไปมากกว่านี้ รีบยกเปลหามแล้วจากไป
มือของหนานหนานหยุดกลางอากาศ “นี่…” เขาเรียกได้ครึ่งประโยค ก็ไม่เห็นเงาของเหมิงผูเซิ่งแล้ว
หนานหนานเสียใจเล็กน้อย ท่านปู่ผู้อาวุโสสกุลเซิ่งผู้นี้ไม่สนใจเขา ช่างไร้มารยาทเสียจริง
เขากลับไปยังเวทีกลมอย่างโดดเดี่ยวเล็กน้อย พิงผู้อาวุโสสกุลหมิงอีกครั้ง
“ท่านตาทวด ท่านว่า ท่านปู่ผู้อาวุโสสกุลเซิ่งจะให้เงินข้าหรือไม่ขอรับ”
ผู้อาวุโสสกุลหมิงเห็นว่าหนานหนานมีนิสัยรักเงิน เขาก็กระแอมเบาๆ ลูบศีรษะอีกฝ่ายแล้วกล่าว “วางใจเถิด ถ้าหากเขากล้าจะไม่ให้ ข้าจะไปหาเขาถึงที่ จะทำให้เขาคายเงินออกมาให้ได้
หนานหนานคิดถึงฝีมือการต่อสู้ของท่านตาทวด เห็นเขากล่าวเช่นนี้ก็จะต้องไม่มีปัญหาเป็นแน่ เขาพอใจขึ้นมาทันที
ต่อจากนั้นแววตาของเขาก็เหลือบไปเห็นสุราที่เหลืออยู่บนโต๊ะ
เมื่อครู่มีเหตุการณ์ที่เหมิงผูเซิ่งหมดสติไป งานชิมสุราก็ถูกขัดจังหวะ ทุกคนยังไม่มีใครประเมินผลสุราของเขาเลย
เหมิงลู่ดูแล้วก็คิดได้เช่นกัน เขาลดสายตาลงครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองหนานหนาน
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ขนาดนี้แล้วยังคิดฟันกำไรอีกนะหนานหนาน เจ้าเด็กคนนี้ไม่ยอมเสียเงินแม้แต่นิดเดียวเลย
ไหหม่า(海馬)