อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 746 เหมิงหลัวอวี้หายตัวไป
ตอนที่ 746 เหมิงหลัวอวี้หายตัวไป
ตอนที่ 746 เหมิงหลัวอวี้หายตัวไป
“นี่ก็สายมากแล้ว ใกล้จะถึงเวลาพักกินอาหารเที่ยง ทุกคนไปพักสักชั่วยามก่อนเถิด กินอาหารก่อน เดี๋ยวค่อยเริ่มงานกันต่อ”
เหมิงลู่มองดวงอาทิตย์ ตอนนี้สายแล้วจริงๆ ทุกคนก็มีท่าทางหงอยเหงากันหมด หลังดูมาทั้งเช้า ทุกคนต่างก็เหนื่อยแล้ว
“การชุมนุมจะดำเนินการต่อช่วงบ่าย เราจะหารือกันอีกครั้ง เพื่อเลือกผู้ตัดสินที่เหมาะสมที่จะมาแทนผู้อาวุโสสกุลเซิ่ง สำหรับรายการแรกในช่วงบ่าย จะยังเป็นท่านชายโม่ที่ยังอยู่ จะมาตัดสินสุราของท่านชายโม่ก่อน”
ท่านประมุขกล่าวออกมาเช่นนี้ ทุกคนก็ไม่ได้ขัดแย้ง นอกจากบางคนที่อยากรู้เกี่ยวกับตัวตนของอวี้ชิงลั่วแล้ว คนทั้งหมดก็ค่อยๆ แยกย้ายกันออกไป
แม้ในใจหนานหนานจะไม่พอใจ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้ ก็ดูเหมือนจะไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้ว
เฮ้อ น่าสงสารที่เขาใช้ลูกเล่นมากมายเช่นนี้ ทั้งยังมีความคิดจะทำหอคอยสุราซ้อนกัน ยุ่งเสียจนเหงื่อไหลเต็มหน้า สุดท้ายแล้วงานช่วงเช้าก็ยังไม่จบ ต้องทำอีกครั้งในตอนบ่ายเสียอย่างนั้น
หนานหนานไม่พอใจเล็กน้อย ผู้อาวุโสสกุลหมิงรีบปลอบเขา “หนานหนานเด็กดี เจ้าก็ยุ่งมาครู่ใหญ่แล้ว ดูสิว่าเหงื่อเต็มหัวเจ้าเช่นนี้ ไปกับตาทวดดีกว่า ตาทวดจะให้คนนำอ่างน้ำแข็งมาให้เจ้า ให้เจ้าได้เย็นสบาย”
จริงๆ แล้วอุณหภูมิที่ดินแดนเหมิงก็เย็นสบายเช่นกัน เทียบได้กับคุนหมิงที่สี่ฤดูดุจดั่งฤดูวสันต์ ถึงแม้จะอยู่ในฤดูร้อนเช่นนี้ แต่อุณหภูมิก็ไม่สูงมากนัก
ไม่อย่างนั้นเทศกาลชิมสุราก็จะไม่จัดขึ้นในฤดูกาลนี้ และไม่ตั้งเวทีกลมด้านนอก
แต่ผู้อาวุโสสกุลหมิงก็อดไม่ได้ที่จะปวดใจเมื่อเห็นว่าหนานหนานเหงื่อท่วมตัว อยากจะแสดงให้เห็นว่าในฐานะตาทวดแล้วตนเองเป็นคนดีขนาดไหน
อวี้ชิงลั่วที่มองอยู่ด้านข้างพลันส่ายหน้า มีคนใจอ่อนกับหนานหนานอีกคนหนึ่งแล้ว คนเหล่านี้ยังมีศีลธรรมอยู่หรือไม่ จะแสดงให้เห็นถึงความเคร่งขรึมและเคร่งครัดในแบบผู้อาวุโสเสียหน่อยไม่ได้หรือ?
“ว่าอย่างไร ไม่อยากให้ท่านอาจารย์และหนานหนานใกล้ชิดกันมากเกินไปแล้วใช่ไหม” ไม่รู้ว่าเย่ซิวตู๋เดินมาหยุดข้างนางตั้งแต่เมื่อไร เห็นว่าที่หน้าผากของนางก็มีเหงื่อเช่นเดียวกัน ก็ลากนางเดินไปยังเงามืดด้านข้าง
อวี้ชิงลั่วหันหน้ามองเขา “นิสัยของหนานหนานส่วนใหญ่ล้วนสืบทอดมาจากเขา”
เย่ซิวตู๋หัวเราะเบาๆ จากนั้นก็ขมวดคิ้วเงยหน้ามองไปทางด้านซ้ายของตน ด้านนั้นมีซ่างกวนจิ่นยืนอยู่ ถึงแม้ดูท่าทางแล้วจะกำลังคุยกับผู้อื่น แต่แววตานั้นก็จับจ้องมายังชิงเอ๋อร์เป็นครั้งคราว
เย่ซิวตู๋แค่นหัวเราะ ขยับตัวขวางเอาไว้ “ตอนเที่ยงอากาศร้อน เข้าไปข้างในกันเถิด”
อวี้ชิงลั่วกำลังจะพยักหน้า จู่ๆ ก็มีคนกำลังวิ่งมาจากทางด้านหนึ่ง
เถาเหวินฮั่นไม่ทันได้สนใจเย่ซิวตู๋ ผลักเขาไปด้านข้างทันที แววตาจับจ้องอยู่ที่อวี้ชิงลั่วไม่ลดละ “เจ้า เจ้าเป็นหมอปีศาจจริงหรือ?”
เย่ซิวตู๋สูดหายใจเข้าลึกๆ ใช้มือดันเขาไปข้างๆ “หากพุ่งเข้าใส่ชิงเอ๋อร์อีก ข้าจะเอาชีวิตเจ้า”
“…” เถาเหวินฮั่นเพิ่งสังเกตเห็น จับจมูกด้วยความลำบากใจ พลางหัวเราะแห้งๆ
เขาเห็นเย่ซิวตู๋ดุร้ายเพียงนี้ก็กลัวขึ้นมาเล็กน้อย เดินไปทางด้านหลังอาจารย์ของตนอย่างเงียบๆ
หมอเฒ่าฉยงซานตื่นเต้นเล็กน้อย เขาต้องการพบหมอปีศาจที่มีชื่อเสียงโด่งดังพอๆ กับตนมานานแล้ว คิดไม่ถึงว่าคนผู้นั้นจะอยู่ข้างกายตนมาตั้งนาน อีกทั้งยังเป็นลั่วลั่วที่เขารักใคร่อย่างมากอีกด้วย ความบังเอิญบนโลกนี้มีมากเกินไปแล้ว
เขาเองก็เพิกเฉยเย่ซิวตู๋แล้วหัวเราะฮ่าๆ ออกมา “ลั่วลั่ว ข้าดีใจเหลือเกิน นางหนูนี่ปกปิดข้าเสียมิดชิดเลยนะ ไม่แปลกเลยที่อายุเพียงเท่านี้ ฝีมือการแพทย์ของเจ้าก็เก่งกาจเพียงนี้แล้ว อืม ไม่เลว ไม่เลวเลย หมอปีศาจ… ชื่อเรียกนี้แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าชื่อหมอเฒ่าของข้ามากนัก”
หมอเฒ่าฉยงซานเป็นผู้อาวุโส เย่ซิวตู๋ไม่สามารถไล่เขาออกไปได้ ทำได้เพียงมุ่นคิ้ว ปกป้องอวี้ชิงลั่วให้ถอยหลังมาสองสามก้าว
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี ไม่เพียงแต่หมอเฒ่าฉยงซานที่ค่อยๆ ก้าวเข้ามา ทางด้านคนอื่นๆ อย่างผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็มาทางด้านนี้ด้วย ดูท่าแล้วเหมือนจะมาพูดคุยกับอวี้ชิงลั่วมากกว่านี้ ไม่ชอบเอาเสียเลย
แน่นอนว่าไม่นานนักก็เห็นผู้อาวุโสสกุลเยว่วิ่งมาตรงหน้าอวี้ชิงลั่ว จากนั้นก็หัวเราะฮ่าๆ ออกมา “แม่นางถังช่างซ่อนคมได้ดีจริงๆ”
อวี้ชิงลั่วถ่อมตัว “ไม่หรอกเจ้าค่ะ เพียงแค่เป็นคนธรรมดาๆ เท่านั้น”
“…” เย่ซิวตู๋หันหน้าไปมองนางแวบหนึ่ง ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ก็อย่ามาล้อเล่นให้เขาเสียสมาธิได้หรือไม่
เหมิงจื่อฉีเองก็ค่อยๆ ก้าวเข้ามาเช่นกัน มาหยุดตรงหน้าอวี้ชิงลั่วอย่างรวดเร็ว เอียงคอพิจารณานาง “คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเก่งกาจเพียงนี้ ครั้งก่อนที่แม่นางบอกข้า…” นางกล่าวถึงตรงนี้ก็ค่อนข้างอายเล็กน้อย “สิ่งที่แม่นางบอกข้าครั้งก่อน ข้าล้วนจดจำไว้ในใจ และทำตามนั้นมาโดยตลอด” โดยเฉพาะในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ นางทำตามที่อวี้ชิงลั่วกล่าวทั้งหมดจริงๆ
จริงๆ แล้วเหมิงจื่อฉียังมีความรู้สึกที่ซับซ้อนต่ออวี้ชิงลั่ว ตอนแรกไม่รู้ตัวตนของนาง ต่อมาท่านปู่บอกนางว่าคนผู้นี้เป็นภรรยาของพี่ชายห่างๆ มีลูกแล้วเสียด้วยซ้ำ ตอนนั้นในใจนางก็ยังมีหลายความรู้สึกผสมปนเปกัน
เย่ซิวตู๋เป็นคนที่นางชื่นชมมาตั้งแต่ยังเด็ก เพียงแต่รักเขาข้างเดียว พยายามอย่างไรเขาก็ไม่เหลียวแล จากนั้นก็ไม่ได้เจอกันหลายปี ความรู้สึกบางอย่างก็จางหายไป ต่อมาก็ได้พบกับสามีคนปัจจุบัน ถึงแม้สามีจะไม่ได้มีฐานะสูงส่ง แต่ก็ดีกับนางเป็นอย่างมาก ตอนนี้ทั้งคู่ถือว่าเข้ากันได้อย่างดี อยู่อย่างมีความสุข
แต่สุดท้ายแล้ว เย่ซิวตู๋ก็ถือเป็นรักแรกของนาง กับหญิงสาวที่เขาชอบพอแล้ว ก็มักจะมีการเปรียบเทียบอยู่ในใจเสมอ
เพียงแต่เปรียบเทียบเช่นนี้แล้ว ก็พบว่าทั้งสองคนล้วนแตกต่างกันอย่างมาก เดิมทีก็เทียบกันไม่ได้เลย นางกลับชื่นชมชีวิตและนิสัยใจคอของอวี้ชิงลั่ว นางแทบจะเดินทางไปทั่วโลก ทั้งยังได้พบเห็นเรื่องราวมากมาย อยู่คนละโลกกับคุณหนูที่ร่ำรวยอย่างนาง
ตอนนี้ได้รู้อีกว่านางเป็นหมอปีศาจ นางกล่าวว่าตนมีบุตรได้ เช่นนั้นก็จะต้องไม่ผิดพลาดเป็นแน่
ดังนั้นเหมิงจื่อฉีเมื่อมองอวี้ชิงลั่ว ก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้งและกระอักกระอ่วนใจอยู่เสมอ
เมื่อครู่ก็หุนหันพลันแล่นไป จึงวิ่งมาเช่นนี้ เห็นว่าเย่ซิวตู๋ปกป้องนาง ความรู้สึกในใจ… ก็ไม่ถือว่าหึงหวง แต่กลับเศร้าเล็กน้อย
อวี้ชิงลั่วยิ้มให้นาง กล่าวเพียงประโยคเดียว “ทำต่อไปก็ใช้ได้แล้ว”
นางกล่าวจบ ก็มีสองสามคนที่โหวกเหวกโวยวายมาจากทางด้านนั้น ซึ่งนางไม่รู้จักแม้แต่น้อย แต่ก็ยังมาเกาะแกะพูดคุยกับนาง
ผู้อาวุโสสกุลลี่ใช้ฉวยโอกาสที่สถานการณ์กำลังวุ่นวายนี้ออกไปจากที่นี่อย่างเงียบๆ เดินไปทางด้านหลัง
หลังจากเขาไปไม่นาน อูเหมี่ยนเซิ่งก็รีบวิ่งมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีอย่างยิ่ง น้ำเสียงดังเล็กน้อย “ไม่ได้การแล้ว แม่นางถัง เด็กที่เจ้าพามาวันนี้… นางหายตัวไปแล้ว”
อวี้ชิงลั่วถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มคน กล่าวเช่นนี้ คนรอบตัวนางก็หยุดส่งเสียง มองไปยังอูเหมี่ยนเซิงที่วิ่งมาอย่างประหลาดใจ
อวี้ชิงลั่วเบียดฝูงชนออกมา เดินไปทางด้านหน้าเขาและถามอย่างกระวนกระวาย “หายไปแล้วหมายความว่าอย่างไร?”
ด้านข้างนางมีความเคลื่อนไหวมากมาย บนเวทีกลมก็ยังมีผู้อาวุโสหลายคน ต่างก็มองมาทางนี้ แม้แต่เหมิงลู่ก็ยังเดินมาทางด้านนี้
อูเหมี่ยนเซิงเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก กล่าวอย่างกังวล “ก็คือไร้ร่องรอยของนาง และไม่รู้ว่านางไปไหนแล้ว ตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย”
จริงๆ แล้วจู่ๆ เขาพบว่าเหมิงเคอที่อยู่ด้านข้างก็ไม่อยู่แล้วเช่นกัน ทั้งยังไม่เห็นเด็กคนนั้น ในใจรู้สึกแปลกๆ เมื่อครู่ก็เห็นผู้อาวุโสสกุลลี่จากไปด้วยสีหน้าลุ่มลึก ความรู้สึกไม่สบายใจนั้นรุนแรงขึ้น อดไม่ได้ที่จะตระหนกแล้ววิ่งมาบอกกับอวี้ชิงลั่วก่อน
…………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ท่านอ๋องอย่าตีไหน้ำส้มแตกเรี่ยราดได้หรือไม่?
อ้าว หลัวอวี้หายไปแล้ว เป็นนังเหมิงเคอลักตัวไปแน่ๆ
ไหหม่า(海馬)