อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 749 เอาตัวไปเสี่ยง
ตอนที่ 749 เอาตัวไปเสี่ยง
ตอนที่ 749 เอาตัวไปเสี่ยง
ไป๋อีเฟิงวิ่งเหงื่อแตกเต็มหน้าเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย “ข้า ข้าเห็นเด็กคนนั้นที่พวกท่านพูดถึงขอรับ”
ผู้อาวุโสสองสามคนนั้นตื่นเต้นเป็นพิเศษ รีบเดินก้าวไปข้างหน้า “อยู่ที่ใดหรือ?”
มุมปากอวี้ชิงลั่วกระตุกรุนแรง ทำไมจึงเป็นเขาไปได้? ตอนนี้ควรเป็นหงเย่ที่มารายงานพร้อมอาการบาดเจ็บ ไป๋อีเฟิงมาที่นี่ทำไมกัน?
อวี้ชิงลั่วและเย่ซิวตู๋สบตากัน เย่ซิวตู๋พยักหน้า เขาถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างเงียบๆ มองไปยังด้านมุมที่ไป๋อีเฟิงวิ่งออกมาเมื่อครู่
“อ๋า…” ซ่างกวนจิ่นเปล่งเสียงทุ้มลึก มองออกไปไกลแวบหนึ่ง และเดินตามเขาไป
อวี้ชิงลั่วแววตาเฉียบคม เมื่อมองไปยังร่างของเขา หัวใจก็เต้นรัวขึ้นมาทันทีพร้อมกับขบฟันอย่างแรง เขาจะเดินตามมาทำไมกัน ก่อนหน้านี้เคยได้ยินเหมิงเคอกล่าวไว้ว่าซ่างกวนจิ่นผู้นี้และผู้อาวุโสสกุลลี่มีไมตรีต่อกัน เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์อันดี การไปของเขาครั้งนี้ คงไม่ได้จะมาทำลายแผนของนางใช่ไหม?
อย่างไรนางก็เป็นผู้ช่วยชีวิตของเขา คนผู้นี้อย่าเพิ่งมาสร้างปัญหาในตอนนี้จะได้หรือไม่?
เย่ซิวตู๋พบคนที่เดินตามมาด้านหลังในทันทีเช่นกัน เขาขมวดคิ้วฉับ จากนั้นก็ชะลอความเร็วลง หันกลับมาด้วยสายตาเย็นชา “ในวันที่ร้อนอบอ้าวเช่นนี้ ท่านอุปราชไม่พักสักหน่อยหรือ?”
ซ่างกวนจิ่นหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ส่งเสียงเยาะเย้ย “ท่านอ๋องซิวก็ยุ่งมากไม่ใช่หรือ? ข้าเองก็เพียงแค่ออกมาเดินเล่นเท่านั้น แต่กลับได้บังเอิญมาพบท่านอ๋องซิว ช่างบังเอิญนัก”
เย่ซิวตู๋ไม่มีเวลามาโต้เถียงกับเขา ในเมื่อเขาแสร้งโง่เช่นนี้ ก็ทำได้เพียงรับมืออย่างรวดเร็วฉับไว
เขาเดินมาหยุดตรงหน้าของซ่างกวนจิ่น ไม่แม้จะทักทายกันสักคำ “ในเมื่อท่านอุปราชมีเวลาว่างเช่นนี้ เช่นนั้นมาลองประมือกันดูเป็นอย่างไร?”
แม้จะพูดว่าลองประมือ แต่เมื่อลงมือกลับรุนแรงไร้ปรานี
ซ่างกวนจิ่นถอยหลังอย่างรวดเร็ว หลบเลี่ยงกรงเล็บของเขาที่พุ่งตรงเข้ามาโจมตี เขามองออกว่าเย่ซิวตู๋ผู้นี้ต้องการจัดการเขาโดยไม่ลังเล แน่นอนว่าวันนี้เขาจะต้องมีแผนอะไรบางอย่างเป็นแน่
ซ่างกวนจิ่นเองก็ไม่กล้าประมาท แม้เขาไม่คิดที่จะทำลายแผนของอวี้ชิงลั่ว แต่เย่ซิวตู๋ก็เป็นศัตรูคู่อาฆาตของเขา ในเมื่ออีกฝ่ายยั่วยุเช่นนี้ แล้วตนมีเหตุผลใดที่จะไม่สู้กลับ?
โอกาสที่ทั้งสองคนจะได้ ‘ลองประมือ’ กันนั้นหาได้ยาก เช่นนั้นแล้วก็มาลองกันสักตั้งเถิด
ฝีมือของซ่างกวนจิ่นเองก็ไม่ได้แย่กว่านัก ฝ่ามือวายุของเย่ซิวตู๋รุนแรง หลังจากหลบไม่กี่ครั้ง มันก็พุ่งตรงเข้ามาอีก
เย่ซิวตู๋ประมือกับเขาสองสามครั้ง เห็นร่างเล็กๆ กำลังเดินไปในทิศทางที่ตนเพิ่งไป ดวงตาก็หรี่ลงพร้อมกับรู้สึกโล่งอก มือที่ซัดพลังโจมตีซ่างกวนจิ่นก็ชะลอความเร็วลงเช่นกัน ในเมื่อคนผ่านไปแล้ว เช่นนั้นตอนนี้ก็เหลือเพียงลากตัวซ่างกวนจิ่นไป
ซ่างกวนจิ่นขมวดคิ้ว เย่ซิวตู๋ทำบ้าอะไรอยู่กันนะ ก่อนหน้านี้ยังทำท่าทางเหมือนจะรีบจัดการ ตอนนี้กลับมีท่าทางเชื่องช้า เอาแต่หลบไปมา
เย่ซิวตู๋และซ่างกวนจิ่นต่อสู้กันอย่างดุเดือด หลังจากอวี้ชิงลั่วผลักหนานหนานให้จากไปแล้วก็ค่อยละสายตามาหยุดที่ไป๋อีเฟิง
ผู้อาวุโสสองสามคนห้อมล้อมอยู่ตรงหน้าไป๋อีเฟิง ถามที่อยู่ของเหมิงหลัวอวี้อย่างเป็นกังวล
ไป๋อีเฟิงกลืนน้ำลาย แต่ทันใดนั้นก็เอ่ยตะกุกตะกัก ดูลังเลขึ้นมา
เหมิงลู่ขมวดคิ้ว “ที่แท้แล้วมันเกิดเรื่องอันใดขึ้น?”
ไป๋อีเฟิงกัดฟัน จากนั้นก็หลับตาแล้วกล่าวออกมาดังๆ “ข้าได้พบเด็กคนนั้นจริงๆ ขอรับ แต่ตอนนี้นางถูกคนจับเอาไว้ คนผู้นั้นดูเหมือนจะพยายามทำร้ายนางขอรับ”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ ใครจับนางไป?”
“คือว่า… คือว่า…” ไป๋อีเฟิงพูดตะกุกตะกัก เหลือบตาขึ้นมองก็เห็นผู้อาวุโสสกุลเยว่กำลังเดินมาไม่ไกล รีบชี้นิ้วไปที่เขา “เป็นหญิงสาวที่ตอนแรกนั่งอยู่ตรงด้านหลังเขาขอรับ เหมือนจะเป็นฮูหยินน้อยของจวนผู้อาวุโสสกุลเยว่ ชื่อเหมิงเคอหรืออะไรสักอย่าง”
ทุกคนผงะไป สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ผู้อาวุโสสกุลเยว่ที่วิ่งมาตรงหน้าเขาได้ยินประโยคนั้นพอดี จึงรีบคว้าคอเสื้อของไป๋อีเฟิงแล้วกล่าว “เจ้าบอกว่าเหมิงเคอหรือ? นางอยู่ที่ใดกัน เป็นนางที่พาตัวเสี่ยวอวี้ไปจริงๆ หรือ?”
ผู้อาวุโสสองสามคนไม่ค่อยอยากจะเชื่อ “จะเป็นเหมิงเคอได้อย่างไร? นางเป็นบุตรสาวของผู้อาวุโสสกุลลี่ นางไม่ใช่บุตรสะใภ้ของผู้อาวุโสสกุลเยว่หรอกหรือ เหตุใดจึงทำร้ายหลานสาวของผู้อาวุโสสกุลเยว่ได้ นี่…”
พวกเขากล่าวได้เพียงครึ่งเดียวก็เหมือนกับว่าคิดอะไรออก จู่ๆ ก็หยุดชะงักลง จริงด้วย ถึงแม้เหมิงเคอจะเป็นภรรยาของเหมิงหรง แต่เด็กคนนั้น… ไม่ใช่ลูกของนาง
เรื่องสกปรกในครอบครัวตระกูลใหญ่อย่างเช่นภรรยาหลวงอยากฆ่าลูกนอกสมรสนั้นมีให้เห็นอยู่ไม่น้อย
แต่เหมิงเคอดูเป็นคนอ่อนโยนจิตใจดีอยู่เสมอ ที่แท้นางก็มีจิตใจชั่วร้ายเช่นนี้ด้วยหรือ?
“อย่าเพิ่งคุยกันอยู่เลย ตอนนี้เสี่ยวอวี้ตกอยู่ในอันตราย มีเรื่องอันใดก็รอให้เจอตัวคนก่อนค่อยคุยเถิดเจ้าค่ะ จะเป็นเหมิงเคอที่ต้องการจะทำร้ายเสี่ยวอวี้จริงหรือไม่นั้น เดี๋ยวเราค่อยมาสืบสาวกันก็ได้เจ้าค่ะ” อวี้ชิงลั่วขัดจังหวะความสงสัยของทุกคนโดยตรง
วันนี้นางกระทำการเสี่ยงโดยใช้เหมิงหลัวอวี้เป็นเหยื่อล่อ
อวี้ชิงลั่วรู้ชัดว่าสองสามวันนี้มีความกดดันอย่างหนัก ทำให้เหมิงเคอแทบจะทนไม่ไหวแล้ว การที่นางพาเหมิงหลัวอวี้มาปรากฏตัวในวันนี้จะต้องทำให้เหมิงเคอตื่นตระหนก หากไม่มีเรื่องผิดพลาดอันใด นางจะต้องฉวยโอกาสอันหาได้ยากนี้ลงมือกับเหมิงหลัวอวี้แน่นอน
แน่นอนว่าหากนางไม่ลงมือ ตนก็จะต้องหาวิธีมาบังคับให้นางทำให้ได้
แต่จนถึงตอนนี้ สิ่งต่างๆ ยังผ่านไปได้ด้วยดี เดิมทีนางยังต้องการหาข้ออ้างแยกจากเหมิงหลัวอวี้ระหว่างงานชิมสุรา คิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องของผู้อาวุโสสกุลเซิ่งเกิดขึ้นพอดีให้ตนได้ซ้อนแผน นางจึงลุกจากที่นั่งแล้วทิ้งเหมิงหลัวอวี้ไว้กับหงเย่
จากนั้นหงเย่จะพาเหมิงหลัวอวี้ออกจากตำแหน่ง เหมิงเคอก็ตามไปจริงๆ รอจนหงเย่เข้าห้องสุขาและแยกจากเหมิงหลัวอวี้ เหมิงเคอก็จับเหมิงหลัวอวี้ออกห่างจากห้องสุขา จากนั้นหงเย่ก็ต้องวิ่งมารายงานอย่างรีบร้อน เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าคนที่มารายงานนั้นจะเป็นไป๋อีเฟิง
ส่วนอวี้ชิงลั่วนั้น เพียงต้องรับหน้าที่พาท่านประมุขและผู้อาวุโสสองสามคนนั้นไปดูฉากที่เหมิงเคอทำร้ายเหมิงหลัวอวี้เป็นพอ เพียงแต่นางไม่วางใจตอนที่เหมิงหลัวอวี้ต้องเผชิญหน้ากับเหมิงเคอตามลำพัง ดังนั้นหลังจากที่ไป๋อีเฟิงมาแล้ว ก็ให้เย่ซิวตู๋ไปคอยปกป้องเหมิงหลัวอวี้อย่างลับๆ หากมีอะไรเกิดขึ้น ด้วยทักษะของเย่ซิวตู๋แล้ว การช่วยนางคงไม่ใช่ปัญหา
เพียงแต่ซ่างกวนจิ่น… คนผู้นั้นคือตัวแปรไม่คาดคิดที่เข้าไปพัวพันอยู่กับเย่ซิวตู๋ นางจึงทำได้เพียงส่งหนานหนานไป
เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าเหมิงหลัวอวี้จะต้านทานเหมิงเคอได้หรือไม่ นางทำได้เพียงกระตุ้นให้ทุกคนไปที่นั่นโดยเร็วด้วยเกรงว่าจะสายเกินไป และนี่ก็คือประเด็นสำคัญที่สุด
ทุกคนได้ยินคำที่อวี้ชิงลั่วกล่าวก็พากันพยักหน้า จากนั้นก็รีบเดินตามไป๋อีเฟิงไป
ไป๋อีเฟิงสบโอกาส ก็มากระซิบข้างหูของอวี้ชิงลั่ว “ผู้อาวุโสสกุลลี่ก็อยู่กับเหมิงเคอขอรับ คนไปเยอะถึงเพียงนี้ การเคลื่อนไหวมากเกินไป เกรงว่าจะไปกระตุ้นความระแวดระวังของผู้อาวุโสสกุลลี่เข้า”
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว นางเองก็คิดถึงความเป็นไปได้นี้ไว้แล้ว ดังนั้นนางจึงให้เพียงท่านประมุขและผู้อาวุโสสกุลหมิงไปด้วย พวกเขามีวิชาต่อสู้แข็งแกร่ง ทั้งยังสามารถซ่อนวรยุทธ์ของตนไว้ได้
ผู้คนมาถึงทางด้านนอกห้อง ไป๋อีเฟิงและอวี้ชิงลั่วส่งสายตาหากัน
อวี้ชิงลั่วมองเห็นผู้อารักขาของผู้อาวุโสสกุลลี่ที่คอยเฝ้าอยู่ด้านนอกจากระยะไกลก็ขมวดคิ้วและยกมือขึ้นให้ทุกคนหยุด นางเดินไปที่ข้างกายเหมิงลู่แล้วกล่าว “ท่านประมุข ข้าเห็นว่าตรงนั้นน่าสงสัยจริงๆ เจ้าค่ะ ค่อนข้างแปลกนัก พวกเราไม่ควรบุกเข้าไปเช่นนี้”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
แผนการของชิงลั่วช่างลึกล้ำนัก ขอแค่อย่ามีอะไรมาทำให้ผิดแผนก็พอ
ไหหม่า(海馬)