อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 753 หนานหนานคือเป้าหมาย
ตอนที่ 753 หนานหนานคือเป้าหมาย
ตอนที่ 753 หนานหนานคือเป้าหมาย
อวี้ชิงลั่วที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เอียงศีรษะ ต่อจากนี้ไปก็ไม่ใช่ธุระของนางแล้ว
ต่อหน้าประมุขและผู้อาวุโสจำนวนมาก นางกลับพูดอย่างชัดเจนว่านางจะฆ่าเด็กที่มีปานรูปดอกไม้ ต่อให้อวี้ชิงลั่วจะปล่อยนางไปด้วยความมีเมตตา แต่คนอื่น ๆ ก็จะไม่ปล่อยนางไป
ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงเป็นคนแรกที่ทนไม่ได้ เขาก้าวเข้าไปคว้าคอเสื้อของผู้อาวุโสสกุลลี่ด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว “ผู้อาวุโสสกุลลี่ ใจของเจ้าถูกความชั่วครอบงำจนมืดบอด เผ่าเหมิงของพวกเราไม่มีเด็กที่มีปานรูปดอกไม้กี่ปีแล้ว ทว่าตอนนี้เด็กมาอยู่ตรงหน้าเจ้า แต่เจ้ายังต้องการที่จะฆ่าเขา เจ้ากำลังทำให้ชาวเหมิงเดือดร้อน และต้องการให้พวกเราชาวเหมิงไม่ได้รับพรจากสวรรค์อีกใช่หรือไม่?”
อวี้ชิงลั่วตกตะลึงไปชั่วขณะ แล้วทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ นางลืมไปได้อย่างไร มีคำกล่าวของชาวเหมิงว่าคนที่มีสัญลักษณ์แบบนี้บนร่างกายจะเป็นที่รักของสวรรค์ และของขวัญจากสวรรค์ ดังนั้นชาวเหมิงจึงให้ความสำคัญกับเด็กเหล่านี้เสมอ
ผู้อาวุโสสกุลลี่มีใบหน้าซีดเผือด บัดนี้ผู้อาวุโสของเผ่าทุกคนปรากฏตัวออกมาแล้ว สิ่งที่เขาและเหมิงเคอพูดเมื่อสักครู่นี้ถูกได้ยินแบบคำต่อคำ ไม่ว่าพวกเขาจะแก้ตัวเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์
แม้แต่ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเขามาโดยตลอด ก็ยังเกลียดชังเขา
“ท่านประมุข เราควรจัดการกับพ่อลูกคู่นี้อย่างไรดีขอรับ?” ผู้อาวุโสสกุลหมิงคิดว่าตั้งแต่ตอนที่หนานหนานอยู่บนเวที ผู้อาวุโสสกุลลี่ก็มุ่งเป้าไปที่หนานหนานตั้งแต่แรกเริ่ม เขาจึงโกรธมาก
เขาไม่เคยมีไมตรีอันดีกับผู้อาวุโสสกุลลี่ และตอนนี้เขาก็ยิ่งดูถูกผู้อาวุโสสกุลลี่มากกว่าเดิม
ผู้อาวุโสสกุลหมิงค่อนข้างมีความสุขที่จะได้เห็นเขาต้องทุกข์ทรมาน
เหมิงลู่หายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองไปยังสองพ่อลูก แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “กำจัดทิ้งตามกฎของเผ่า”
อวี้ชิงลั่วไม่รู้ว่ากฎของเผ่าเหมิงคืออะไร แต่เมื่อเขาเห็นรูม่านตาของเหมิงเคอและผู้อาวุโสสกุลลี่ขยายกว้าง นางก็รู้ว่ากฎของเผ่าต้องจริงจังและเด็ดขาดเป็นแน่
เหมิงเคอรีบลุกขึ้นนั่ง คุกเข่าแล้วคลานไปหาเหมิงลู่ “ท่านประมุข ท่านประมุขเจ้าคะ ข้าผิดไปแล้ว โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย ท่านประมุข ท่านประมุข”
นางพูดคำหนึ่งพร้อมกับน้ำตาไหลพราก
เหมิงเคอมักจะร้องไห้ทุกครั้งที่นางต้องการหาประโยชน์ โดยไม่จำเป็นต้องพยายามมาก เมื่อนางร้องไห้เช่นนี้ นางก็ดูอ่อนแอและน่าสงสารมาก
เหมิงลู่มองนางด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นปัดมือของนางที่จับชายเสื้อของเขาออกทันที แล้วถอยหลังหนีไปหนึ่งก้าว
เหมิงเคอทำท่าจะก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง แต่ก็มีคนขวางนางไว้
นางหมดหวังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนหันกลับไปคลานไปหาผู้อาวุโสสกุลเยว่ “ท่านพ่อสามี ท่านพ่อสามีเจ้าคะ โปรดช่วยข้าด้วย ข้าเป็นภรรยาของเหมิงหรง เพื่อเห็นแก่เหมิงหรง ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ท่านเลี้ยงดูข้ามาจนเติบใหญ่ ท่านจะมีใจปล่อยให้ข้าตายจริง ๆ หรือเจ้าคะ?”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ขมวดคิ้ว เมื่อมองเห็นหน้าตาเหมิงเคอ แล้วนึกถึงกฎของเผ่าเหมิง เขาก็เกือบจะทนไม่ได้
เขาอยู่กับนางมาหลายปี และปฏิบัติต่อนางเหมือนลูกสาวของตนเองเสมอ มันจึงไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะรอดูนางตาย
ยิ่งไปกว่านั้นคือนางยังคงเป็นภรรยาของเหมิงหรง และเป็นสมาชิกของคฤหาสน์ผู้อาวุโสสกุลเยว่
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุก ผู้อาวุโสสกุลเยว่จะไม่ใจอ่อนเพราะพวกเขาใช่หรือไม่?
ทันใดนั้น เหมิงหลัวอวี้ที่อยู่ในอ้อมแขนของผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็ตัวสั่นอย่างแรง นางมองเหมิงเคอด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว มือเล็ก ๆ ของนางบีบแขนของผู้อาวุโสสกุลเยว่แน่น ดูหวาดกลัวยิ่งนัก
ผู้อาวุโสสกุลเยว่นิ่งงันไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นหลานสาวของเขาเป็นเช่นนี้ ดวงตาของเขาก็เป็นประกายด้วยความสงสาร และไม่ได้มองไปที่เหมิงเคออีกเลย เพียงแค่พูดประโยคเดียวว่า “เจ้าต้องรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เจ้าก่อขึ้นเอง เจ้าควรจะนึกถึงจุดจบเช่นนี้ตอนที่กำลังจะฆ่าเสี่ยวอวี้ ชาวเหมิงมีกฎของเผ่า และทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎของเผ่า”
เขาพูด ก่อนเดินไปด้านข้างสองสามก้าว แล้วปลอบโยนเหมิงหลัวอวี้อีกครั้ง
“เสี่ยวอวี้ไม่ต้องกลัว ปู่อยู่ที่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัว อีกเดี๋ยวปู่จะพาเจ้ากลับบ้าน ดีหรือไม่?”
“ข้า ข้าไม่ ไม่กลับไปได้หรือไม่?” เสียงของเหมิงหลัวอวี้แผ่วเบา แต่ถึงกระนั้นทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ได้ยิน
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “เพราะเหตุใดเล่า?”
“ในคฤหาสน์มีคนไม่ดีเยอะมาก พวกเขาทุบตีข้า ไม่ให้อาหาร ไม่ให้ข้าใส่เสื้อผ้ากันหนาว แล้วให้ลงไปในน้ำเพื่อจับปลา ถ้าข้าจับไม่ได้ พวกเขาก็จะเอาเข็มทิ่มข้า แล้วขังข้าไว้ในห้องมืดเล็ก ๆ ที่มีหนูและแมลงสาบมากมาย พวกมันคลานเข้ามารุมกัดข้า มันแย่มาก ข้าไม่อยากกลับเลย ข้า ข้าต้องการตามท่านน้าชิงไป ท่านน้าชิงจะเลี้ยงข้า” เหมิงหลัวอวี้ตัวสั่น
นางพูดด้วยเสียงสั่นเครือ และดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ราวกับว่ากำลังนึกถึงสิ่งที่น่ากลัวเหล่านั้น ซึ่งทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า
ยิ่งเหมิงเคอได้ยินมากขึ้น ใบหน้าของนางก็ยิ่งซีดลง
แม้จะยังเด็ก แต่เหมิงหลัวอวี้มีความคิดที่ลึกซึ้งมาก นางนึกถึงเรื่องราวเลวร้ายเหล่านั้น แต่ในความเป็นจริงนางกำลังฟ้อง และกำลังจัดการทุกคนที่ทำร้ายนางอย่างสาสม เพื่อที่เหมิงเคอจะได้ไม่มีโอกาสลุกขึ้นยืนอีก
แน่นอนว่าหลังจากฟังเรื่องนี้แล้ว เหมิงลู่ก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดด้วยเสียงครึ้มว่า “ลูกหลานของชาวเหมิงที่เป็นของขวัญจากสวรรค์ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ ผู้อาวุโสสกุลเยว่ เจ้าควรจัดการคนรับใช้ในคฤหาสน์ ให้พวกเขาได้รู้เสียทีว่าใครเป็นเจ้านายของพวกเขา”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม เมื่อก่อนเหมิงเคอเป็นคนเดียวที่ปกครองบ้าน นางเป็นผู้ดูแลคฤหาสน์ทั้งหมด และคนรับใช้ในคฤหาสน์ก็ฟังแค่นางเท่านั้น
คนเหล่านั้นก็เป็นคนชั่วเช่นกัน และพวกเขาก็ปฏิบัติต่อคุณหนูของคฤหาสน์อย่างโหดเหี้ยม คนใช้ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงและไม่เกรงกลัวความตายเช่นนี้สมควรตาย บัดนี้ควรได้รับการจัดการยิ่งนัก
เหมิงลู่เม้มปาก แล้วพูดต่อว่า “สำหรับเด็กคนนี้ ให้ข้าดูแลชั่วคราวก่อนก็ได้ เด็กคนนี้ดูฉลาดมาก หากได้รับการฝึกฝนอย่างดี นางจะต้องประสบความสำเร็จในอนาคตแน่นอน”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ตกตะลึง ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความยินดี และรีบตอบทันทีว่า “ขอรับ ท่านประมุข”
อวี้ชิงลั่วหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เสี่ยวอวี้ฉลาดยิ่งนัก ครั้งนี้เกรงว่าเหมิงเคอคงจะไม่มีโอกาสได้ลุกขึ้นยืนอีก
เหมิงลู่หันกลับมาหรี่ตา แล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยง ขอมอบหมายให้เจ้าคอยดูสองคนนี้เอาไว้ หลังงานเทศกาลชิมสุราในวันนี้จบลง พวกเขาจะถูกจัดการตามกฎของเผ่า”
“ขอรับ” ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงหายใจเข้าลึก ๆ แล้วก้าวเข้าไปยกตัวเหมิงเคอขึ้น
เหมิงเคอยังคงต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ด้วยสายตาที่เย็นชาของเหมิงลู่ นางก็รู้สึกราวกับถูกใครบางคนบีบคอไว้ ทำให้นางไม่อาจพูดอะไรได้สักคำ
ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงเรียกคนมาจากข้างนอกแล้ว และในไม่ช้าองครักษ์สองคนก็มาที่นี่ พวกเขาตะลึงไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นสถานการณ์ข้างใน
แต่เขายังคงเชื่อฟังคำสั่งและมัดเหมิงเคอไว้
ส่วนผู้อาวุโสสกุลลี่…
ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงแอบถอนหายใจ จนถึงตอนนี้มันก็เป็นความผิดของพวกเขาเอง เขาเป็นผู้อาวุโสของเผ่าจึงควรปฏิบัติตามกฎของเผ่าอย่างเคร่งครัด ในเมื่อเป็นเช่นนี้จึงยิ่งมีความผิดร้ายแรงยิ่งขึ้น
ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงก้าวเข้าไปดึงตัวเขาด้วยตัวเอง แต่ทันใดนั้นเอง ผู้อาวุโสสกุลลี่ที่ทรุดตัวลงและเงียบตลอดเวลา จู่ ๆ ก็เงยหน้าขึ้นกวาดสายตาไปทางฝูงชนด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด จากนั้นก็พุ่งตัวไปข้างหน้า โดยเล็งไปยังหนานหนานที่ยืนอยู่ไม่ไกล
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ดูแต่ละอย่างที่หลัวอวี้โดนแล้วก็…นังเหมิงเคอ หล่อนจะต้องไม่ตายดี
หนานหนานหลบไป!
ไหหม่า(海馬)