อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 755 ข้าไม่ได้ถูกพิษ
บทที่ 755 ข้าไม่ได้ถูกพิษ
บทที่ 755 ข้าไม่ได้ถูกพิษ
สองสามคนนั้นผงะ เมื่อมองดูอีกครั้งก็เห็นเย่ซิวตู๋ลงมาจากหลังคา มายืนอยู่ข้างกายหนานหนาน
เขามองเด็กข้างกายแวบหนึ่งแล้วถาม “ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
“เหนื่อยนิดหน่อยขอรับ ท่านพ่อ อีกเดี๋ยวท่านอุ้มข้ากลับนะขอรับ” หนานหนานเช็ดเหงื่อ หายใจหอบ เมื่อเห็นเย่ซิวตู๋ก็ตื่นเต้นขึ้นมาในทันที “ท่านพ่อ เมื่อครู่ท่านเหมือนวีรบุรุษเลยขอรับ”
เย่ซิวตู๋เลิกคิ้ว พึงพอใจกับคำชมของบุตรชายอย่างมาก ลูบศีรษะของเขาแล้วหัวเราะ “เจ้าก็เหมือนกัน”
ทั้งสองคนพูดคุยหัวเราะกันอยู่สองสามคำ จากนั้นก็มองไปยังผู้อาวุโสสกุลลี่ที่ล้มลงกับพื้นและลุกขึ้นไม่ไหว ส่วนเหมิงเคอตกตะลึงไปทั้งร่าง เป็นครั้งแรกที่นางเห็นบิดาของตนตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากเช่นนี้
เหมิงลู่จ้องหนานหนานแวบหนึ่ง เดินไปตรงหน้าผู้อาวุโสสกุลลี่ ก้มหน้าลงมองเขา “นิสัยของเจ้าไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ”
ผู้อาวุโสสกุลลี่กุมหน้าอก กัดฟันหัวเราะ เงยหน้าขึ้นจ้องมองเย่ซิวตู๋และหนานหนานอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่ง มองไปยังเหมิงลู่แล้วกล่าว “เด็กคนนั้น… เหตุใดจึงมีวรยุทธ์ของท่านประมุขได้เล่า? ท่านประมุขไม่ทำตามกฎของเผ่า สอนวรยุทธ์ให้คนนอก คนแรกที่ควรถูกลงโทษด้วยกฎของชนเผ่าควรเป็นท่านกระมัง”
อย่างไรเสียก็เป็นความผิดของเหมิงลู่
หากไม่ใช่เพราะเขา ตนจะต้องจับเด็กคนนั้นเอาไว้ได้แน่ เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเด็กคนนั้นจะมีวิชาการต่อสู้ประจำตัวของเหมิงลู่
เหมิงลู่หัวเราะ “ใครบอกว่าเขาเป็นคนนอกกัน? ดินแดนเหมิงมีกฎอยู่ วรยุทธ์ของประมุข จะต้องถ่ายทอดให้แก่เด็กที่มีปานรูปดอกไม้เท่านั้น ส่วนเด็กคนนั้นก็มีปานเช่นกัน”
“ท่านว่าอะไรนะ?” ผู้อาวุโสสกุลลี่ตกใจมาก มองหนานหนานอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เด็กคนนั้น… ก็เป็นเด็กที่มีปานรูปดอกไม้อย่างนั้นหรือ เป็นไปได้อย่างไร
ผู้อาวุโสคนอื่นๆ เองก็มองหน้ากัน ในใจตกตะลึงด้วยความยินดี ก่อนจะถึงวันนี้ พวกเขายังกังวลกันอยู่ว่าไม่มีเด็กแบบนี้เกิดในดินแดนเหมิงมากว่า 20 ปีแล้ว ใครจะรู้ว่าภายในวันนี้วันเดียว กลับมีเด็กปรากฏตัวถึงสองคน ดูท่าดินแดนเหมิงจะได้รับพรจากสวรรค์แล้วกระมัง
ผู้อาวุโสสกุลหมิงอดไม่ไหว รีบก้าวไปข้างหน้า “หนานหนาน บนร่างเจ้า บนร่างเจ้ามีปานจริงๆ หรือ”
ให้ตายเถิด เขากลับไม่เคยถามเย่ซิวตู๋ในเรื่องที่สำคัญเช่นนี้เลย ก็บอกแล้วอย่างไร เหลนที่ล้ำค่าของเขาจะต้องไม่ใช่คนธรรมดา ที่แท้ ที่แท้ก็เป็นเช่นนั้น
หนานหนานทำปากจู๋ ไปหลบอยู่ที่ด้านหลังของเย่ซิวตู๋ “ท่านตาทวด ท่านจะทำอะไรขอรับ”
“ข้าขอดูหน่อย มาสิ มานี่ ให้ตาทวดดูเสียหน่อย”
หนานหนานส่ายหน้าดิก ไม่เต็มใจอย่างมาก “ไม่ได้ขอรับ ในที่กลางแจ้งเช่นนี้ ถอดเสื้อผ้าออกจะไม่สบายเอา ไม่ได้ๆ ข้าเป็นคนสำรวม จะทำเรื่องที่ไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร”
“…” เย่ซิวตู๋มุมปากกระตุก จู่ๆ ก็นึกถึงภาพเมื่อตอนแรกที่เขาเห็นปานบนร่างของหนานหนาน
ในตอนนั้น เด็กคนนี้ยอมถอดเสื้อผ้าทั้งหมดต่อหน้าคนจำนวนมากเพียงเพื่อจะหาเงิน
เหตุใดไม่กี่เดือนหลังจากนั้น การถอดเสื้อผ้าจึงกลายเป็นเรื่องไม่เหมาะสมไปได้?
ถึงแม้จะคิดเช่นนั้น แต่เย่ซิวตู๋ก็ก้าวไปด้านหน้า พยายามแยกผู้อาวุโสสกุลหมิงที่กำลังคุกคามเข้ามา กล่าวด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ท่านอาจารย์ หยุดเถิดขอรับ”
“นี่ เจ้าจะมาขวางทำไมกันเล่า ข้าเพียงอยากจะตรวจสอบเท่านั้น เจ้าหลีกไปเสีย” ผู้อาวุโสสกุลหมิงไม่เกรงใจเย่ซิวตู๋แม้แต่น้อย ผลักเขาออกไปทันที
ผู้อาวุโสสกุลหมิงเป็นผู้อาวุโส เย่ซิวตู๋ย่อมไม่สามารถลงมือกับเขาจริงๆ ได้ เขาโบกมือที่อยู่ด้านหลัง หนานหนานตัวสั่น รีบวิ่งไปที่ด้านหลังอวี้ชิงลั่วอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสสกุลหมิงอึ้งงัน กับสตรีอย่างอวี้ชิงลั่วแล้ว… เขาย่อมลงมือไม่ได้
เพียงแต่… เหตุใดจึงรู้สึกว่าสีหน้าของหลานสะใภ้ผู้นี้ดูไม่สู้ดีนัก อีกทั้งแววตาเกลียดชังนี้ยังจ้องมองไปยัง… ท่านประมุขของพวกเขา
ผู้อาวุโสสกุลหมิงตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว ไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าหาหนานหนานแล้ว เพียงแต่เห็นว่าผู้อาวุโสคนอื่นๆ กำลังพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น ดังนั้นจึงอดไม่ได้ เดินเข้าไปพูดคุยด้วยสองสามประโยค
ทว่าเหมิงลู่นั้นไม่สนใจสายตาดุดันของอวี้ชิงลั่ว ยังคงมองไปยังผู้อาวุโสสกุลลี่
พักใหญ่ก็ค่อยๆ ถอนหายใจแล้วกล่าว “เจ้าทำร้ายเด็กสองคนที่มีปานรูปดอกไม้ติดๆ กัน เป็นความผิดที่ไม่อาจให้อภัยได้ พวกเจ้า มาจับเขาไปเสีย”
ผู้อารักขาที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงก็เข้ามาทันที จับผู้อาวุโสสกุลลี่มัดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ผ่านไปพักใหญ่กว่าผู้อาวุโสสกุลลี่จะได้สติกลับมา
จากนั้นจู่ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะเสียงดัง
“ดี คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ฮ่าๆๆๆ เด็กคนนี้ก็เป็นสมบัติล้ำค่าของดินแดนเหมิงเช่นกัน ฮ่าๆ เช่นนั้นข้าเองก็วางใจ มีเด็กคนสำคัญเช่นนี้ถูกฝังไปกับข้า ให้ตายก็คุ้มค่า ฮ่าๆๆๆ”
เหมิงลู่ตะลึง ผู้อาวุโสคนอื่นๆ เองก็ตกตะลึงไปเช่นกัน ผู้อาวุโสสกุลหมิงพุ่งไปตรงหน้าเขาทันที คว้าคอเสื้อของเขาแล้วกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าหมายความว่าอย่างไร เหตุใดต้องฝังหนานหนานไปกับเจ้าด้วย?”
“เฮอะ เด็กคนนั้นถูกยาพิษของข้า หากไม่มียาแก้พิษ เขาก็อยู่ไม่พ้นคืนนี้เป็นแน่ ฮ่าๆๆ ข้ารู้ว่าฝีมือการแพทย์ของแม่นางแซ่ถังผู้นั้นสูงส่ง แต่การจะหายาแก้พิษให้ได้ในคืนนี้ คงทำได้แค่ฝันเท่านั้นล่ะ ฮ่าๆๆๆ”
ผู้อาวุโสสกุลหมิงและเหมิงลู่เปลี่ยนสีหน้าในทันที หันไปมองหนานหนานพร้อมกัน
ผู้อาวุโสสกุลลี่ยอมทุ่มสุดตัว “ฮ่าๆๆ มีเขาถูกฝังไปพร้อมกัน ข้าก็ไม่สนใจแล้ว ฮ่าๆๆ…”
“แต่ว่า ข้าไม่ได้ถูกพิษนะ” เสียงอ่อนแรงของหนานหนานดังขึ้น
เสียงหัวเราะของผู้อาวุโสสกุลลี่หยุดลงทันที เขาหรี่ตามองหนานหนานในทันใด “เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ?”
“ข้าบอกว่าข้าไม่ได้ถูกพิษ น้ำแกงที่ท่านให้ข้ามา ข้าแอบเททิ้งไปหมดแล้ว” หนานหนานทำสีหน้าไร้เดียงสา
“เป็นไปได้อย่างไร?” เหมิงเคอที่นิ่งเงียบไปอย่างสิ้นหวังเงยหน้าขึ้นมาทันทีแล้วร้องออกมา
หนานหนานดูถูกพวกเขาอย่างมาก “พวกท่านช่างโง่จริง คิดว่าทุกคนจะโง่เหมือนพวกท่านหรือ ข้าฉลาดเพียงนั้น สืบทอดแต่สิ่งดีๆ ของท่านพ่อกับท่านแม่มา จะถูกคนวางกับดักง่ายๆ ได้อย่างไร ข้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าในน้ำแกงของพวกท่านมียาพิษ มีแต่พวกท่านนั่นแหละที่มั่นอกมั่นใจในตัวเองนัก คิดว่าข้ามันโง่”
ผู้อาวุโสสกุลหมิงหัวเราะลั่น “ดี ที่แท้ก็สืบทอดสิ่งดีๆ ของข้าไปนี่เอง”
“…”
ไร้ยางอายนัก เด็กก็บอกอยู่ว่าได้พ่อได้แม่มา เกี่ยวอะไรกับตาทวดอย่างท่านด้วยเล่า
เหมิงลู่หัวเราะออกมา ไม่กล่าวอันใดกับผู้อาวุโสสกุลลี่อีก เขาโบกมือแล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึม “พาตัวเขาไปขังเสีย”
“ไม่นะ ไม่ได้ จะเป็นไปได้อย่างไร ไม่ เขาถูกยาพิษ ปล่อยข้านะ ปล่อย ปล่อยข้า ไอ้พวกคนชั่ว…” ผู้อาวุโสสกุลลี่รับไม่ได้ ผลลัพธ์เช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดเอาไว้จริงๆ เขาไม่ยินยอมและยังคงตะโกนต่อไป
เพียงแต่ว่าตอนนี้ไม่มีใครสนใจเขาแล้ว สุดท้ายแล้วเสียงร้องนั้นก็ค่อยๆ ไกลออกไป ในห้องเงียบลงในทันใด
เหมิงลู่เอามือไพล่หลัง จากนั้นก็หรี่ตาลงเล็กน้อย เดินไปด้านข้างหนานหนานแล้วถามเขา “หนานหนาน เมื่อครู่ เหตุใดจึงไม่ใช้วรยุทธ์ของดินแดนเหมิงเล่า”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เลือกทำร้ายเด็กได้ถูกคนมาก คิดว่าพิษน้อยนิดจะทำอะไรหนานหนานได้เหรอ เด็กคนนี้แพรวพราวจะตาย
ไหหม่า(海馬)