อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 758 มีคนจะฆ่าผู้อาวุโสสกุลหมิง
ตอนที่ 758 มีคนจะฆ่าผู้อาวุโสสกุลหมิง
ตอนที่ 758 มีคนจะฆ่าผู้อาวุโสสกุลหมิง
หงเย่เมื่อเห็นอวี้ชิงลั่ว แววตาก็ดูดีใจ รีบส่ายหน้า
อวี้ชิงลั่วดึงแถบผ้าออกจากปากของนาง ใบหน้าโกรธเกรี้ยว “เจ้าเป็นอะไรไป ไป๋อีเฟิงทำร้ายเจ้าใช่หรือไม่ ให้ตายเถิด อีกเดี๋ยวข้าจะไปคิดบัญชีกับเขา”
หงเย่ส่ายหัวอย่างแรง หายใจถี่เล็กน้อย “คุณหนู มีคนจะทำร้ายผู้อาวุโสสกุลหมิงเจ้าค่ะ”
“อะไรนะ”
อวี้ชิงลั่วแก้มือของนางที่ถูกมัด “ทำร้ายผู้อาวุโสสกุลหมิงหรือ?”
หงเย่พยักหน้า หายใจช้าขึ้นเล็กน้อย “หลังจากที่ข้าถูกไป๋อีเฟิงขังไว้ในกล่องไม่นาน ก็มีคนสองคนเข้ามา พูดคุยกันในเรื่องแปลกๆ ใจความคือต้องการทำร้ายผู้อาวุโสสกุลหมิง แต่เพราะแผนมีการเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นจึงทำได้เพียงเลื่อนแผนการออกไปเป็นการชั่วคราวเจ้าค่ะ”
หงเย่เพียงคิดถึงสิ่งที่ตนได้ยิน เมื่อคิดอย่างลึกซึ้งก็รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังวางแผนสมรู้ร่วมคิดครั้งใหญ่ จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเหงื่อตก หากพวกเขาพบตนเข้า คงรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้เสียแล้ว
เดิมทีนางเพียงทำตามแผนของอวี้ชิงลั่ว พาเหมิงหลัวอวี้ออกไปจากงาน จงใจทิ้งช่องโหว่เอาไว้เพื่อให้เหมิงเคอฉวยโอกาส
คิดไม่ถึงว่าจะพบเข้ากับไป๋อีเฟิง เขาดึงดันว่าจะเข้าร่วมด้วย หงเย่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขามากไปกว่านี้ จึงจะลงมือทำให้อีกฝ่ายสลบไปก่อนแล้วค่อยทำภารกิจต่อ
แต่ไป๋อีเฟิงเป็นคุณชายรองของตระกูลไป๋ เมื่อก่อนนางเป็นคนรับใช้ข้างกายฮองเฮาของอาณาจักรเทียนอวี่ คนหนึ่งเป็นนายน้อย อีกคนเป็นสาวรับใช้ นางจึงออมมือโดยไม่รู้ตัว
คิดไม่ถึงว่าไป๋อีเฟิงกลับหาโอกาสได้ แล้วต้านนางไว้
ถึงขนาดหาเชือกมามัดนางเอาไว้ และขังนางไว้ในกล่อง ทั้งยังขู่นางว่าหากไม่บอกก็จะได้อยู่ในนี้ตลอดไปและอย่าได้คิดจะออกไป
ในใจหงเย่ตื่นตระหนกมาก เหมิงหลัวอวี้ก็ถูกเหมิงเคอลักตัวไปแล้ว หากนางไม่ไปเตือนได้ทันเวลา เหมิงหลัวอวี้จะตกอยู่ในอันตราย
สุดท้ายแล้วก็ไม่มีวิธีอื่น หงเย่ทำได้เพียงบอกแผนของอวี้ชิงลั่วให้ฟังรอบหนึ่ง เรื่องอื่นๆ ยังไม่กล้าพูดให้ชัดเจนนัก ทั้งเวลายังกระชั้นชิดแล้ว นางจึงบอกให้ไป๋อีเฟิงไปรายงานตามที่ตนบอก
ไป๋อีเฟิงก็ไม่ได้คิดจะสืบสาวถึงความซับซ้อนของเรื่องนี้ เขาก็เพียงอยากแหย่ขาเข้าไปข้างหนึ่ง อยากจะทำ ‘เรื่องไม่ดี’ กับอวี้ชิงลั่วเพียงเท่านั้น
หลังจากรู้เรื่อง เขาก็ซ่อนหงเย่ไว้ในกล่องชั่วคราว ปิดฝาแล้วจากไป
จากนั้นหลังเขาไปได้ไม่นาน ก็มีคนเข้ามาในอาคารหลังเล็กนี้
ตอนแรกหงเย่คิดว่าเป็นไป๋อีเฟิงกลับมา แต่จากนั้นก็รู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้ เวลาสั้นเกินไป เรื่องของไป๋อีเฟิงน่าจะยังจัดการไม่เสร็จสิ้น
ประสบการณ์หลายปีทำให้นางกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว เกร็งร่างกาย รออย่างเงียบๆ ให้คนด้านนอกจากไป
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าด้านนอกเป็นเสียงของชายหนุ่มสองคน เรื่องที่คุยกันกลับเป็นแผนการลอบสังหารผู้อาวุโสสกุลหมิง
ผู้อาวุโสสกุลหมิงเป็นท่านตาของท่านอ๋องซิว เป็นท่านตาทวดของหนานหนาน เรื่องแบบนี้ นางย่อมไม่กล้าประมาทในเรื่องนี้ อีกทั้งตามคำที่ทั้งสองคนนั้นพูดแล้ว ดูเหมือนว่าการลอบสังหารผู้อาวุโสสกุลหมิงจะเป็นเพียงก้าวแรก หงเย่อยู่ในวังหลวงมาหลายปี ย่อมคิดออกถึงแผนการใหญ่ที่ถูกวางไว้ได้อย่างง่ายดาย
นางรู้สึกว่าในเรื่องนี้ คนที่อาจจะได้รับอันตรายอาจจะเป็นคุณหนูและหนานหนานด้วย ในใจก็กังวลมาก อยากจะออกไปรายงาน
แต่ทั้งสองคนนั้นดูท่าทางจะมีวรยุทธ์สูงส่ง เพียงนางส่งเสียงเล็กน้อยก็เกรงว่าจะถูกฆ่าได้ในทันที
ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงอดทนไว้ แม้ขาจะเป็นตะคริวก็ทำได้เพียงทนไว้
โชคดีว่าสิ่งที่ทั้งสองคนคุยกันนั้นมีเรื่องบางอย่าง สถานการณ์วันนี้ได้เปลี่ยนแปลงไป คงฆ่าผู้อาวุโสสกุลหมิงไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงเลื่อนแผนออกไปชั่วคราว
รอจนกระทั่งทั้งสองคนออกไป หงเย่จึงกล้าหายใจ เพียงแต่ว่านางอยู่ในกล่อง ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงภาวนาให้ไป๋อีเฟิงกลับมาโดยเร็ว
เมื่อครู่ตอนที่อวี้ชิงลั่วเรียกนาง หงเย่ยังไม่กล้าตอบกลับ จนกระทั่งระบุตัวตนอย่างระมัดระวังจนแน่ใจแล้ว จึงวางใจได้แล้วออกแรงกระแทกกล่องสองครั้ง
อวี้ชิงลั่วช่วยนวดขาที่เป็นตะคริวของนางไปพลางฟังเรื่องราวอย่างละเอียดแล้วขมวดคิ้ว
“เช่นนั้นแล้ว เป็นเพราะแผนที่เราพาเสี่ยวอวี้ออกมา จึงทำให้แผนของพวกเขาเปลี่ยน และลงมือฆ่าผู้อาวุโสสกุลหมิงไม่ได้ใช่หรือไม่?”
หงเย่พยักหน้า เมื่อแขนขาขยับได้แล้วนางก็รีบออกมาจากกล่อง ไม่กล้าปล่อยให้อวี้ชิงลั่วนวดขาขวาที่เป็นตะคริวของตนต่อ
อวี้ชิงลั่วเห็นว่าอาการของนางดีขึ้นแล้วก็ละมือกลับมา ยืนขึ้นมองออกไปยังภาพด้านนอกหน้าต่าง เม้มปากแน่น
“คุณหนู ต่อไปเราจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ”
ผู้อาวุโสสกุลหมิงมีสถานะพิเศษ คุณหนูจะไม่ยุ่งคงไม่ได้
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ “ข้ากลับคิดถึงเรื่องของผู้อาวุโสสกุลเซิ่งในวันนี้ เขาได้รับบาดเจ็บภายใน ข้ามีความรู้สึกว่าบาดแผลของเขานี้ น่าจะไม่ใช่อุบัติเหตุ”
ในดินแดนเหมิงช่วงนี้เกิดเรื่องมากมายจริงๆ ยังหาตัวแม่นมเก๋อไม่พบ ผู้อาวุโสสกุลหมิงก็กำลังถูกคุกคามถึงชีวิตอีก
เพียงแต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าใครที่คิดร้ายต่อเขากันแน่ สิ่งเดียวที่ทำได้ก็มีเพียงป้องกันก่อนที่มันจะเกิด
“น่าเสียดายจริงๆ ที่ข้าไม่เห็นหน้าของทั้งสองคนนั้น ได้ยินเพียงแต่เสียง” หงเย่ยืนอยู่ด้านหลังอวี้ชิงลั่ว กล่าวเสียงเบา “อีกอย่างน้ำเสียงของพวกเขาก็จงใจลดให้เบาลง นอกจากที่รู้ว่าพวกเขาคิดร้ายต่อผู้อาวุโสสกุลหมิงแล้ว ก็ไม่รู้เบาะแสอะไรอีกเจ้าค่ะ”
“เพียงแค่เรื่องนี้ ก็ถือเป็นเบาะแสใหญ่แล้ว” อวี้ชิงลั่วหันกลับไปเปิดกล่อง มองไปรอบๆ นางไม่ได้ขยับมันไปที่อื่น น่าจะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้ “ไปกันเถิด เรื่องนี้ต้องเตือนผู้อาวุโสสกุลหมิงไว้เสียหน่อย”
“คุณหนู ผู้อาวุโสสกุลหมิงฝีมือการต่อสู้สูงส่ง เกรงว่าเขาจะไม่จริงจังกับคำเตือนนี้นะเจ้าคะ” จริงๆ แล้วที่หงเย่อยากจะพูดก็คือ ผู้อาวุโสสกุลหมิงนั้นหยิ่งยโส เกรงว่าต่อให้รู้ว่ามีคนต้องการทำร้ายเขา เขาก็จะไม่ยอมรับ ยิ่งจะยั่วยุให้คนผู้นั้นลองมาเอาชีวิตของตนดูเสียอีก
อวี้ชิงลั่วเห็นด้วยกับข้อนี้อย่างมาก ผู้อาวุโสสกุลหมิงดูเป็นคนประพฤติตัวดี แต่แท้จริงแล้วเหมือนเด็กก็ไม่ปาน
เห็นได้จากการที่เขาและหมอเฒ่าฉยงซานไม่ลงรอยกัน พบกันทีไรก็พร้อมจะทะเลาะกันขึ้นมา
อวี้ชิงลั่วเดินลงจากบันได หลังจากออกมาจากอาคารหลังเล็กก็ไม่เห็นมีใคร จากนั้นก็รีบออกจากอาคารหลังนั้นมาพร้อมกับหงเย่
“เรื่องนี้ฝากให้เย่ซิวตู๋และหนานหนานดูแลเถิด” อวี้ชิงลั่วคิดหาวิธีเกลี้ยกล่อมผู้อาวุโสสกุลหมิงไม่ออก ทำได้เพียงเอาเรื่องนี้ไปบอกเย่ซิวตู๋
จากการที่เย่ซิวตู๋ให้ความสำคัญกับผู้อาวุโสสกุลหมิง จะต้องไม่ประมาทอย่างแน่นอน
จู่ๆ อวี้ชิงลั่วก็คิดว่า ตนมาที่ดินแดนเหมิงไม่ถูกเวลาเลยจริงๆ
หงเย่อ้าปาก สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้กล่าวอันใด ตอนนี้ก็ทำได้เพียงเท่านี้แล้ว หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี
แต่เปลือกตาของอวี้ชิงลั่วอดไม่ได้ที่จะกระตุก รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
ทั้งสองคนพูดคุยกันเบาๆ สองสามประโยค จากนั้นก็เดินกลับไปยังที่จัดงานอย่างช้าๆ
จู่ๆ ก็เกิดเสียงดังขึ้นมาจากทางด้านที่จัดงาน ทั้งสองคนตกใจ ขณะเดียวกันก็หันไปมอง ก็เห็นหนานหนานยืนอยู่บนเวทีกลม ในมือถือไหสุราไว้ จ้องมองไปยังหอคอยสุราที่ล้มลงบนพื้นอย่างว่างเปล่า และตรงหน้าเขาก็มีคนคนหนึ่งที่ยืนอยู่อย่างตกตะลึง ในมือของเขาก็ถือจอกสุราไว้ สีหน้าไร้เดียงสา
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ใครกันนะที่คิดจะฆ่าผู้อาวุโสสกุลหมิง หรือว่าผู้อาวุโสสกุลลี่จะเป็นแค่หมากตัวหนึ่ง
ไหหม่า(海馬)