อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 76 สาเหตุของโรคที่แท้จริง
ตอนที่ 76 สาเหตุของโรคที่แท้จริง
“เจ้า…” ท่านหมอเจียงลุกขึ้นด้วยความตระหนกตกใจ เก้าอี้ที่อยู่ด้านหลังล้มลงเพราะไม่ทันได้ระวัง
อวี้ชิงลั่วดึงมือกลับมา เอนหลังเข้ากับพนักพิงเก้าอี้อย่างเชื่องช้า เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มอีกหนว่า “ข้าได้ยินมาว่าท่านเป็นคนตรวจและรักษานางหลี่อนุภรรยาของจวนอวี๋?”
“เจ้าเป็นใคร? บนตัวของเจ้าไม่มีโรค เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?” เขารู้สึกพิกลอยู่แล้วเชียว เมื่อครู่ลองตรวจอยู่ครึ่งค่อนวัน แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติบนร่างกายของนาง ครั้นได้ยินคำพูดของนางตอนนี้ เขาก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทั้งสองคนนี้มิได้มาที่นี่เพื่อรักษาโรค
อวี้ชิงลั่วยกขานั่งไขว่ห้าง นิ้วมือม้วนปอยผมข้างใบหูสองรอบ กล่าวเคล้ารอยยิ้ม “ท่านหมอเจียงจะประหม่าถึงเพียงนี้ไปทำไมกัน? ข้าก็แค่ถามคำถามเท่านั้น ท่านเพียงแค่ตอบมาแต่โดยดีก็พอ”
ท่านหมอเจียงถอยไปด้านหลังอีกสองสามก้าว หันมองซ้ายขวา เพื่อจะออกไปจากที่นี่และขอให้คนที่อยู่ด้านนอกช่วยเหลือ
แต่จินหลิวหลีกลับยืนขวางประตูไว้ เมื่อเห็นนางยืนอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าที่แฝงด้วยแรงสังหาร จึงทราบได้ว่าหมอที่อ่อนแออย่างเขามิใช่ศัตรูของนาง
เขามองไปยังอวี้ชิงลั่วด้วยความตื่นตระหนก ก่อนจะมองไปยังจินหลิวหลีอีกหน หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงพยักหน้าตอบ “ใช่ ข้าเป็นคนรักษาให้นางหลี่”
ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็มีคนจำนวนมากที่ทราบ ต่อให้บอกนาง ก็ไม่ได้เสียหายอะไร
อวี้ชิงลั่วคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ “เช่นนั้นท่านหมอเจียงโปรดบอกข้าได้หรือไม่ นางหลี่ป่วยเป็นโรคอะไรหรือ?”
“ข้า…ข้าไม่รู้” นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของตระกูลใหญ่ เขาจะบอกคนอื่นได้อย่างไร
“ไม่รู้?” อวี้ชิงลั่วลุกขึ้นยืน ก้าวเท้าเดินมาด้านหน้าอีกฝ่ายสองสามก้าว เลิกคิ้วพลางกระซิบเสียงเบา “ท่านหมอเจียงเป็นลูกศิษย์ผู้ปราดเปรื่องของอดีตปรมาจารย์ไท่อีเยวี่ยน มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งเมืองหลวง ชื่อเสียงมากยิ่งกว่าหมอหลวงในวังเสียอีก หมอที่มีทักษะทางการแพทย์เก่งกาจเช่นนี้ เหตุใดเพลานี้กลับบอกว่าไม่รู้อาการป่วยของคนอื่นไปเสียได้? ท่านช่วยตรวจและรักษาให้นางไปหลายหนแล้วมิใช่หรือ?”
ท่านหมอเจียงถึงกับกลืนน้ำลาย เขาเข้าใจแล้วว่าสตรีทั้งสองที่อยู่ตรงหน้า คาดว่ากำลังพุ่งเป้าไปที่จวนอวี๋
แม้อวี๋จั้วหลินแห่งจวนอวี๋จะถูกลดตำแหน่งเมื่อไม่กี่วันก่อน ถึงกระนั้นอำนาจของเขาก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรประมาท ไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องมีสักวันที่ได้กลับมาอีกหน เขามิอาจสร้างความขุ่นเคืองได้และไม่คิดจะสร้างความขุ่นเคืองให้อีกฝ่ายด้วย
อีกอย่าง สตรีที่อยู่ตรงหน้านี้ก็ไม่รู้ประวัติความเป็นมา ไม่มีใครรู้ว่าท้ายที่สุดแล้วมีเป้าหมายเช่นไร เช่นนั้นเขาจึงมิอาจบอกได้
“ร่างกายของนางหลี่ไม่สู้ดีนัก แต่น่าเสียดายที่ความสามารถของข้ามีอย่างจำกัดและทักษะทางการแพทย์ก็ยังไม่เก่งกาจมากพอ ดังนั้นหลังจากดูอาการอยู่สองสามหนก็ยังมิอาจมองออกว่านางป่วยเป็นโรคอะไรกันแน่”
“อุ้บ…” อวี้ชิงลั่วหัวเราะเบา ๆ “ท่านหมอเจียงต้องการดูแคลนตนเองเช่นนี้หรือ? หรือว่าท่านหมอเจียงไม่สนใจพิษที่อยู่บนร่างกายของตนเองแม้แต่น้อย?”
“จริง ๆ ด้วย…” เจียงอวิ๋นเซิงมองดูนิ้วมือทั้งห้าที่ยังคงดำคล้ำ ใบหน้าก็เริ่มเขียวแล้ว
อวี้ชิงลั่วเหลือบมองเขาปราดหนึ่ง ยังคงแย้มยิ้มต่อไป “ท่านหมอเจียงเป็นหมอมีชื่อเสียง น่าจะทราบว่าพิษเช่นนี้ถอนได้ยาก แน่นอน ท่านอาจคิดว่าข้ากำลังขู่ให้กลัว หากกลับไปก็ลองไปหาปรมาจารย์แห่งสำนักของท่านดูได้ แต่น่าเสียดายยิ่งนักที่พิษนี้เป็นสิ่งที่ข้าพัฒนาด้วยมือของข้าเอง นอกจากข้าก็ไม่มีผู้ใดที่จะถอนพิษได้ มิเช่นนั้นท่านหมอเจียงจะลองดูก็ย่อมได้”
เจียงอวิ๋นเซิงมีใบหน้าถอดสีอย่างหนัก เขามองดูสีดำบนปลายนิ้วมือที่เริ่มลุกลาม ภายในใจก็เกิดอาการสั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้ามอยู่
เป็นอย่างที่อวี้ชิงลั่วกล่าวไว้ เขาเป็นหมอ ย่อมทราบดีว่าพิษนี้ร้ายแรงเพียงใด ทำลายสติสัมปชัญญะของมนุษย์มากเพียงใด และเขาก็รู้ดีถึงความสามารถของตนเอง ทราบดีว่าเขามิอาจถอนพิษนี้ได้ อย่างมากที่สุดภายในระยะเวลาสั้น ๆ เขาก็ไม่มีปัญญาที่จะหาวิธีเพื่อถอนพิษให้ตนเอง สตรีผู้นี้ใจเหี้ยมเหลือเกิน ถึงได้มีวิธีการที่ชั่วร้ายเช่นนี้
เขาถลึงตามองอวี้ชิงลั่ว ภายในใจด่าสาปส่งนางไม่รู้กี่หน แต่ก็ทำอะไรนางไม่ได้ เมื่อครู่เขาไม่รู้เลยว่าสตรีผู้นี้วางพิษลงบนตัวของเขาได้อย่างไร เพราะเขาไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย
“ท่านหมอเจียงคิดดูให้ดีเถิด” จินหลิวหลีที่ยืนพิงอยู่ข้างประตู จ้องมองเขาที่ดวงตากลอกไปมาอย่างไม่หยุด จึงเตือนเขาด้วยความหวังดี “สูญเสียชีวิตของตนเองเพื่ออนุภรรยาที่มิได้เกี่ยวข้องอะไรกับตนเอง ไม่ได้มีความคุ้มค่าเอาเสียเลย จริงหรือไม่?”
สูญเสียชีวิตของตนเองเพื่ออนุภรรยาที่มิได้เกี่ยวข้องอะไรกับตนเอง?
เรื่องเช่นนี้ คนธรรมดาย่อมทราบดีว่าต้องเลือกอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น ตำแหน่งของอนุภรรยาก็เป็นตำแหน่งต้อยต่ำในสายตาของบุรุษอย่างพวกเขาเหล่านี้
เจียงอวิ๋นเซิงเงยหน้ามองทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้า ขบฟันแน่น กล่าวเสียงทุ้มต่ำ “ตกลง ข้าจะบอก”
อวี้ชิงลั่วและจินหลิวหลีหันสบตากัน และตั้งใจฟังด้วยความเคารพ
“โรคของนางหลี่ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไร แค่เป็นภาวะหยินพร่อง แค่ปรับให้ดีอาการก็ดีขึ้นได้ แต่อารมณ์ของนางหลี่ดูหดหู่ มิอาจรักษาอารมณ์ที่มีความสุขไว้ได้ จึงทำให้ร่างกายอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ ทำให้เจ็บป่วยอยู่บ่อยครั้ง และมีใบหน้าขาวซีด ยิ่งไปกว่านั้นนางเคยพลัดตกน้ำจนป่วยหนักครั้งหนึ่งจนเป็นสาเหตุของโรค ทำให้กลายเป็นเช่นนี้ ทุกครั้งที่ข้าไป ก็ทำได้เพียงแค่จ่ายยาเพื่อบำรุงร่างกายให้นาง และพึ่งพาตัวนางเองให้ค่อย ๆ ปรับตัวถึงจะหาย”
ระหว่างที่พูด เจียงอวิ๋นเซิงก็จ้องมองมาที่พวกนาง เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนฟังคำพูดเหล่านี้จบ สีหน้าที่อยู่บนใบหน้ายังคงดูเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มดังเดิม ภายในใจก็อดเกิดอาการใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ มิได้ นี่พวกนางยังไม่เข้าใจอีกหรือ?
อวี้ชิงลั่วหัวเราะออกมา บุคคลผู้นี้ หากไม่ทุกข์ทรมานสักหน่อย คงไม่ยอมเรียนรู้แต่โดยดี
หากการที่หลี่หรานหร่านมีร่างกายอ่อนแอไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ อวี๋จั้วหลินจะยอมเสี่ยงโดนจักรพรรดิคาดโทษในฐานที่ถ่อไปถึงเจียงเฉิงไกลกว่าพันลี้เพื่อตามหาหมอปีศาจหรือ? หลังจากรออย่างทุกข์ทรมานถึงห้าวันเพื่อให้ได้เจอหน้าหมอปีศาจแล้วยังต้องจ่ายเงินอีกหนึ่งหมื่นตำลึงด้วย?
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ เงยหน้ามองเจียงอวิ๋นเซิงอีกหน นางส่ายหน้า ลุกขึ้นพูดกับจินหลิวหลี “พวกเราไปเถอะ”
“นี่ ช้าก่อน แม่นาง ยาถอนพิษของข้าเล่า?” เจียงอวิ๋นเซิงชะงัก รีบสาวเท้ามาด้านหน้าหนึ่งก้าว มือคู่นั้นที่กลายเป็นสีดำยื่นออกมาขวางตรงหน้าอวี้ชิงลั่ว ขมวดคิ้วพลางเอ่ยถาม
“ท่านหมอเจียงมีจรรยาบรรณแพทย์ ไม่เต็มใจที่จะบอกอาการของคนไข้ เรื่องนี้ข้าเข้าใจได้ แต่ข้าเป็นพวกที่เกลียดคนพูดปดมากที่สุด ในเมื่อท่านหมอเจียงไม่สนใจชีวิตของตนเองเช่นนี้ ข้าก็หมดคำที่จะพูด” อวี้ชิงลั่วยักไหล่ ก่อนจะหันไปส่งสายตาให้จินหลิวหลี
อีกฝ่ายยื่นมือออกมากดลงบนบ่าของเจียงอวิ๋นเซิง อีกฝ่ายส่งเสียงคำรามออกมาหนึ่งเสียง แขนที่อ่อนแรงหล่นลง มองไปยังทั้งสองคนที่เดินออกนอกประตูด้วยความตื่นตระหนกตกใจมากยิ่งขึ้น
เห็นพวกนางยื่นมือออกไปเปิดประตูแล้ว เขาจึงไม่สนอะไรให้มากมายอีก รีบตะโกนว่า “ช้าก่อน ข้า…ข้าจะบอกความจริง ข้าจะบอกความจริง”
ฝีเท้าของอวี้ชิงลั่วหยุดลง ทว่ากลับกล่าวด้วยรอยยิ้มโดยไม่หันกลับมา “ท่านหมอเจียงจะพูดความจริงแล้วจริง ๆ หรือ? อืม ในเมื่อท่านจริงใจเช่นนี้ ข้าก็จะจริงใจสักหน่อยด้วยการบอกอาการของยาพิษนี้ก็แล้วกัน อันที่จริงยาพิษนี้ก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร ก็แค่ทำให้คนตายอย่างน่าอนาถไปสักหน่อย ทั้งร่างกายคล้ายกับถูกกัดกร่อน ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นน้ำอย่างช้า ๆ ร่างระเบิดได้ง่ายมาก”
เจียงอวิ๋นเซิงหน้าขาวโพลน ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้ว เขารู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาเริ่มเจ็บปวดผิดธรรมชาติ ความเจ็บปวดเช่นนี้คล้ายกับยาพิษได้เริ่มลุกลามแล้ว เหมือนกับกำลังกัดกร่อนอวัยวะภายในของเขาอย่างช้า ๆ
“นางหลี่เป็นหมัน”
…นางหลี่เป็นหมัน…นางหลี่เป็นหมัน…นางหลี่เป็นหมัน…
มุมปากของอวี้ชิงลั่วค่อย ๆ กระตุกขึ้นจนกลายเป็นเส้นโค้ง
…………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ยาพิษแรงมาก ไม่บอกคือตายของแท้
เอาละสิ ภรรยาเป็นหมันแบบนี้ อวี๋กระจั๊วหลินนี่จะเป็นคนไร้ทายาทไหมนะ
ไหหม่า(海馬)