อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 762 ท่านดูสิว่าข้าได้สมบัติอะไรมาบ้าง
ตอนที่ 762 ท่านดูสิว่าข้าได้สมบัติอะไรมาบ้าง
ตอนที่ 762 ท่านดูสิว่าข้าได้สมบัติอะไรมาบ้าง
อวี้ชิงลั่วเม้มปาก “เรื่องเหมิงเคอ…”
“แม่นางถัง ในเมื่อเหมิงเคอทำเช่นนั้น นางก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกสะใภ้ของข้าแล้ว ข้าจะบอกให้หรงเอ๋อร์ทำหนังสือหย่าให้ข้า” ผู้อาวุโสตระกูลเยว่ขัดจังหวะนางด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเย็นชา ตอนนี้เขาได้พูดคุยกับเหมิงหลัวอวี้หลายครั้ง และเมื่อเขารู้เกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดของนาง เขาก็แทบจะบันดาลโทสะด้วยความโกรธ
หลานสาวที่อยู่เพียงแค่ใต้จมูกของเขาต้องทนทุกข์ทรมานมาก
ถ้านางไม่ฉลาดหลักแหลมและใช้วิธีแสร้งเป็นบ้า นางอาจถูกทรมานจนตายไปแล้ว
เขาคิดเสมอว่าเหมิงเคอนั้นไร้เดียงสาและใจดี แต่ไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งเหล่านี้คือภาพลวงตา เห็นได้ชัดว่านางเป็นหญิงร้ายกาจที่หลอกลวงทุกคนในคฤหาสน์ และเกือบทำให้เขาติดกับความอยุติธรรมไปด้วย
หากคนเช่นนี้ถูกลงโทษในฐานะภรรยาของเหมิงหรง ก็จะเป็นความอัปยศสำหรับคฤหาสน์ผู้อาวุโสสกุลเยว่
อวี้ชิงลั่วเงียบไปครู่หนึ่ง เมื่อลองครุ่นคิดดูก็เหมือนว่านี่จะเป็นความคิดที่ดี เดิมทีนางกังวลว่าผู้อาวุโสสกุลเยว่และเหมิงหรงอยู่กับเหมิงเคอมาหลายปี หากเขาแสดงความเมตตาต่อผู้ใต้บังคับบัญชาของนางก็จะเกิดปัญหาอีก ดังนั้นนางจึงจงใจมาปรากฏตัวที่คฤหาสน์อีกเพื่อให้ความมั่นใจแก่พวกเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นแล้ว
เสี่ยวอวี้… เป็นเด็กฉลาดยิ่งนัก
“แม่นางถัง” ผู้อาวุโสสกุลเยว่ถอนหายใจเบา ๆ “ทุกวันนี้ข้ารบกวนเจ้ามาก เสี่ยวอวี้บอกข้าว่าเจ้าดูแลนางและปกป้องนางมาโดยตลอด เจ้าไม่เพียงแต่เป็นผู้ช่วยชีวิตของหรงเอ๋อร์เท่านั้นที่ แต่ยังเป็นผู้มีพระคุณของคฤหาสน์ผู้อาวุโสสกุลเยว่ของข้าด้วย หากเจ้าต้องการความช่วยเหลือใดในอนาคต แม่นางถังก็เพียงแค่บอกข้ามาเท่านั้น”
อวี้ชิงลั่วยกยิ้ม “ผู้อาวุโสสกุลเยว่พูดเกินไปเจ้าค่ะ ข้าแค่มีโชคชะตาร่วมกับเสี่ยวอวี้เท่านั้น” ใช่แล้ว ยังต้องใช้ความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนอีกสองสามคำ ถ้านางต้องการความช่วยเหลือจากเขาจริง นางจะไม่เกรงใจแน่นอน
ทั้งสองคุยกันอยู่พักหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นาน หญิงรับใช้คนหนึ่งก็เข้ามาบอกว่า “ท่านประมุข แม่นางถัง คุณหนูพูดคุยกับคุณชายอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า คุณชายสั่งให้ข้าน้อยมาแจ้งเจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าเสี่ยวอวี้จะยังคงมีความประทับใจที่ดีต่อพ่อคนนี้ ดังนั้นนางจึงไม่รอช้าอีกต่อไป
“ผู้อาวุโสสกุลเยว่ ข้ายังมีสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้นข้าต้องขอตัวกลับไปก่อน แล้วข้าจะมาหาเสี่ยวอวี้วันอื่นนะเจ้าคะ”
ผู้อาวุโสสกุลเยว่พยักหน้าและส่งนางออกจากคฤหาสน์ จนกระทั่งเห็นแผ่นหลังของนางค่อย ๆ ห่างออกไป เขาจึงถอนหายใจเบา ๆ
อูเหมี่ยนเซิงที่ยืนอยู่ข้างเขาพูดเบา ๆ ว่า “คาดไม่ถึงเลยนะขอรับว่านางจะเป็นหมอปีศาจชื่อดัง”
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ศิษย์สองคนของหมอเฒ่าฉยงซานไม่สามารถเอาชนะนางได้” ผู้อาวุโสสกุลเยว่เสริม “สตรีผู้นี้น่าทึ่งนัก มีข่าวลือว่าหมอปีศาจมีนิสัยแปลกประหลาด แต่ข้าคิดว่านางก็ค่อนข้างปกติ”
อูเหมี่ยนเซิงหัวเราะ “ตอนที่พวกเรายังไม่คุ้นเคยกับนางในตอนแรก พวกเราก็รู้สึกเหมือนกันว่าสตรีผู้นี้เย็นชา และไม่สุภาพไม่ใช่หรือขอรับ?”
ผู้อาวุโสของผู้อาวุโสสกุลเยว่นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง “ถูกต้อง ตอนที่นางบอกว่าเงื่อนไขในการช่วยหรงเอ๋อร์คือต้องกำจัดเหมิงเคอ ข้ารู้สึกตกใจมาก และรู้สึกว่าหญิงคนนี้เสียสติไปแล้ว เมื่อมาคิดดูตอนนี้ ทุกอย่างที่นางทำก็เพื่อคฤหาสน์ผู้อาวุโสสกุลเยว่ของเรา น่าเสียดายที่หญิงคนนี้มีสามีและลูกแล้ว ไม่เช่นนั้น…”
ไม่เช่นนั้นหากได้หมั้นหมายกับหรงเอ๋อร์ มันจะดีเพียงใด
อูเหมี่ยนเซิงหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนเม้มปาก หันหลังกลับเข้าไปในประตู
อวี้ชิงลั่วหาวติดต่อกันสองครั้งเพื่อให้จมูกโล่งขึ้น เหตุใดนางถึงคิดถึงใครบางคนหลังจากที่ออกจากคฤหาสน์ผู้อาวุโสสกุลเยว่?
อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า แล้วเดินไปยังโรงเตี๊ยม
เมื่อนึกถึงคำพูดที่เย่ซิวตู๋พูดก่อนที่จะจากไปก็อดไม่ได้ที่จะกัดฟัน นางต้องกลับไปยังโรงเตี๊ยมที่พักอยู่ เพราะต้องกลับไปจัดสัมภาระเตรียมเดินทาง เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ก็ใจหวิวเล็กน้อย
หลังจากกลับถึงโรงเตี๊ยม คนที่อยู่หน้าประตูก็รีบทักทายนางทันที และพูดด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรว่า “แม่นาง มีคนมากมายกำลังรอท่านอยู่นานแล้วขอรับ”
“รอข้าหรือ?” อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว
รอยยิ้มของชายคนนี้ช่างประจบประแจง เพราะเหตุใดกัน คนที่รอนางอยู่มีสถานะสูงส่งและให้ค่าตอบแทนมากหรือ?
อวี้ชิงลั่วเหลือบมองเขาด้วยความสงสัย และตามเขาไปจนถึงห้องส่วนตัว
เมื่อชายคนนั้นเปิดประตูออก เพียงแค่อวี้ชิงลั่วเหลือบมองเข้าไป นางก็หันหลังกลับเตรียมจะจากไปทันที
ชายคนนั้นตกตะลึง “อ้าว แม่นาง แม่นาง ท่านจะ…”
“แค่บอกไปว่าข้ายังไม่กลับมา” อวี้ชิงลั่วพูดโดยไม่หันกลับมามอง
มุมปากของชายคนนั้นกระตุก เมื่อเขาเปิดประตูตอนนี้ ทุกคนข้างในก็เห็นหมดแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาต้องถูกสงสัยว่าเป็นคนหลอกลวง และเขาไม่สามารถทำให้คนที่อยู่ข้างในขุ่นเคืองได้
ขณะที่เขากำลังคิด คนในห้องส่วนตัวก็ก้าวออกมาเช่นกัน พวกเขารีบเดินไปยืนขวางหน้าอวี้ชิงลั่ว “แม่นางอวี้ ได้โปรดอยู่ต่อก่อน”
“หนานหนานไม่ได้อยู่ที่นี่” อวี้ชิงลั่วกอดอกมองพวกเขา
มีอะไรผิดปกติหรือไม่ คิดจะมาบีบบังคับนางที่อยู่คนเดียวและอ่อนแอหรือ? หากต้องการยืนขวางหน้ากันเช่นนี้ เหตุใดจึงไม่ไปหาเย่ซิวตู๋ เหตุใดจึงมาหานาง?
“พวกเรารู้ว่าเขาอยู่กับท่านเวิง” ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงยิ้ม แล้วยกนิ้วชี้เข้าไปข้างใน “แม่นางอวี้ เข้าไปดื่มชาข้างในกันเถิด”
อวี้ชิงลั่วมองย้อนกลับไป และพบว่านางดึงดูดความสนใจของคนกลุ่มใหญ่ที่มายืนขวางอยู่ที่นี่ ไม่ต้องพูดถึงว่าตัวตนของผู้อาวุโสตระกูลหลายคนมีความสำคัญมาก เห็นได้ชัดว่านางตกเป็นเป้าหมายในการโน้มน้าวของทุกคน
หลังจากคิดเช่นนี้แล้ว นางก็หันหลังกลับเข้าไปในห้องส่วนตัว
ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงถอนหายใจด้วยความโล่งอก และรินชาให้นางทันทีที่ประตูปิด
คิ้วของอวี้ชิงลั่วกระตุก ขณะมองไปที่ถ้วยชา นางก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ผู้อาวุโสของเผ่าเหมิงผู้มีเกียรติรินชาให้นาง นางจะกล้าดื่มของขวัญชิ้นใหญ่เช่นนี้หรือไม่?
“ข้ารู้ว่าเหตุใดพวกท่านจึงมาอยู่ที่นี่ แต่ข้าก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ข้าไม่เห็นด้วยที่จะให้หนานหนานอาศัยอยู่ในเผ่าเหมิง” อวี้ชิงลั่วเม้มปาก แล้วพูดตามตรง “แต่ถ้าพวกท่านสามารถเกลี้ยกล่อมเขาได้ ข้าก็ไม่ขัดข้อง สุดท้ายข้าก็ยังเป็นแม่ที่ค่อนข้างใจกว้าง”
ประโยคนั้นจากอวี้ชิงลั่วทำให้ผู้อาวุโสของเผ่าทั้งสามเงียบทันที พวกเขามองหน้ากันแล้วหัวเราะแห้ง ๆ
“แม่นางอวี้ หนานหนานมีพรสวรรค์และเฉลียวฉลาด น่าเสียดายหากเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ ชาวเหมิงมีท่านประมุขและพวกเราทุกคนเป็นผู้อาวุโส หากพวกเขาได้รับการฝึกฝนอย่างดี เขาจะได้เป็นใหญ่เป็นโตในอนาคต และมีหรือที่แม่นางอวี้ผู้เป็นแม่ของหนานหนานจะไม่มีชื่อเสียงตามไปด้วย?”
อวี้ชิงลั่วหัวเราะ “ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงเจ้าคะ ข้ามีชื่อเสียงอยู่แล้ว และช่วงนี้ข้าก็เริ่มแก่ตัวขึ้นแล้ว จึงชอบทำตัวสบาย ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นข้าจึงไม่ต้องการชื่อเสียงใด ๆ”
“…” อืม หมอปีศาจนี่ช่างสมคำร่ำลือยิ่งนัก
หลายคนสำลักและพูดไม่ออก
บัดนี้ประตูห้องส่วนตัวถูกเคาะอีกครั้ง เมื่อชายคนนั้นเปิดประตูออก ก็เห็นว่าหงเย่ยืนอยู่ข้างหลังประตู
หงเย่มองมายังกลุ่มคนจำนวนมาก จากนั้นเดินข้างอวี้ชิงลั่วอย่างรวดเร็ว “คุณหนู หนานหนานกลับมาแล้วเจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วหันหน้าไปมองผู้อาวุโสของเผ่า จากนั้นลุกขึ้นเงียบ ๆ “อย่างไรเสียข้าก็ยังคงยืนยันคำเดิม หากพวกท่านคิดว่าสามารถเกลี้ยกล่อมหนานหนานได้ ก็ไปเกลี้ยกล่อมหนานหนาน แต่ข้ามีคำแนะนำสำหรับพวกท่านเช่นกัน”
“คำแนะนำอะไร?”
“หนานหนานไม่ใช่เด็กชาวเหมิงคนเดียวที่มีปานรูปดอกไม้ เหตุใดพวกท่านไม่เปลี่ยนเป้าหมายเล่าเจ้าคะ?”
หลายคนตกตะลึง เปลี่ยนเป้าหมายหรือ? เป็นไปได้หรือไม่ว่า……
อวี้ชิงลั่วทิ้งรอยยิ้มที่มีความหมายไว้ ก่อนหันหลังเดินจากไป
ใครจะคิดว่าขณะที่นางอยู่บนชั้นสอง ร่างที่อยู่ในอาการตื่นเต้นจะวิ่งออกมาจากด้านใน “ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าได้สมบัติอะไรมาบ้าง?”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จะหว่านล้อมหนานหนานให้อยู่ในดินแดนเหมิงได้หรือเปล่าน้า เด็กคนนี้รักอิสระจะตายไป
ไหหม่า(海馬)