อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 764 ท่านต้องให้เงินข้า
ตอนที่ 764 ท่านต้องให้เงินข้า
ตอนที่ 764 ท่านต้องให้เงินข้า
เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาเช่นเขาของคนด้านบน หนานหนานก็ตีหน้าเศร้าทำท่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในทันใด มือข้างหนึ่งยื่นกรงขึ้น มืออีกข้างกอดขาเย่ซิวตู๋ “ท่านพ่อ ข้าถูกหลอกขอรับ บุตรชายที่ใจดีและน่ารักถูกผู้ร้ายหลอกเสียแล้ว โมโหแทบเป็นแทบตายเลยขอรับ”
เย่ซิวตู๋มุมปากกระตุก อุ้มเขาขึ้นมา หันไปมองกรงในมือของเขา ก็รู้ว่าเด็กคนนี้ได้สิ่งที่ต้องการไปแล้ว
เขาอุ้มบุตรชายเดินขึ้นไปชั้นบน เมื่อเห็นอวี้ชิงลั่วที่ยืนอยู่ตรงทางเดินก็เลิกคิ้ว ราวกับว่ากำลังถามนางว่าเกิดอะไรขึ้น
อวี้ชิงลั่วคิด เย่ซิวตู๋ช่างมาไม่ถูกเวลาเลยจริงๆ ไม่มีอะไรสนุกๆ ให้ดูแล้ว
นางไม่สนใจ หันหลังกลับเข้าห้องไป
หงเย่รอจนเย่ซิวตู๋เข้าห้องมาแล้ว จากนั้นก็ปิดประตูอย่างรู้ความ ยอมถอยออกไป
ในห้องเหลือกันอยู่สามคน เย่ซิวตู๋จึงวางหนานหนานลงกับพื้นแล้วถาม “เหตุใดจึงถูกหลอกเล่า?”
“เฮ้อ ท่านลุงเวิงบอกว่าเป็นหมาป่า เขาโกหกข้า ท่านแม่บอกว่านี่คือหมาใน ท่านพ่อ ข้าต้องไปคิดบัญชีกับท่านลุงเวิง”
หนานหนานวางกรงลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เปิดผ้าคลุมสีดำออก แล้วก็จ้องมองลูกสุนัขป่าด้วยดวงตาเล็กๆ ที่เบิกกว้าง จริงๆ แล้วเขาอยากจะปล่อยมันออกมามากๆ แต่ท่านลุงเวิงบอกว่าอย่าปล่อยมันในโรงเตี๊ยมจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นจะทำให้ผู้อื่นตกใจแล้วจะไม่เป็นการดี
เย่ซิวตู๋มองดูอย่างละเอียดพักหนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น แววตามองไปยังอวี้ชิงลั่วราวกับว่านางอยู่ในกำมือ
อีกฝ่ายดื่มชาแล้วเงยหน้าขึ้นมองรังสีที่แผ่มา ไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย
เย่ซิวตู๋กระแอมครั้งหนึ่ง อวี้ชิงลั่วหันไปมองเขาอย่างดุดัน
เย่ซิวตู๋หัวเราะ โน้มตัวเข้าไปตรงหน้านาง “คืนนี้จะไล่ข้าลงจากเตียงอีกหรือไม่?”
“…”
“จะให้ข้าโกหกเพื่อเจ้าไหม?” เย่ซิวตู๋ถามอีกครั้ง
อวี้ชิงลั่วยิ้มยังฟัน กล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ไม่ ต้อง!!” อย่างไรคืนนี้ก็ไม่ให้เขาขึ้นเตียงของนางอยู่แล้ว
เย่ซิวตู๋หรี่ตา ยกมือกวักเรียกหนานหนาน “หนานหนาน รู้หรือไม่ว่าหมาในและหมาป่าต่างกันอย่างไร?”
หนานหนานกะพริบตา สีหน้าสับสน
“รูปร่างของหมาป่านั้นคล้ายหมาใน แต่จมูกของมันจะแหลมยาว ปากจะกว้างกว่าเล็กน้อย หูตั้งตรงไม่โค้งงอ หางตั้งตรงไม่ตกลง ขนจะออกสีเทา”
เมื่อเขากล่าวจบก็มองอวี้ชิงลั่วแวบหนึ่ง จากนั้นก็รินชาให้ตนเอง
หนานหนานงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็หันกลับมามองเจ้าตัวน้อยในกรงอย่างละเอียด จากนั้นแววตาก็เป็นประกาย “ท่านพ่อ นี่คือหมาป่า”
เย่ซิวตู๋พยักหน้า
หนานหนานเอียงศีรษะ เดี๋ยวนะ หากนี่คือสุนัขป่า เช่นนั้น…
เขาหันหน้ามาในทันใด จ้องมองอวี้ชิงลั่ว “ท่านแม่ ท่านหลอกข้า”
“อืม” อวี้ชิงลั่วยอมรับอย่างตรงไปตรงมา
“ท่านแม่ การโกหกเด็กนั้นไม่ดีนะขอรับ ท่านต้องขอโทษข้า” หนานหนานยังคงกล่าวต่ออย่างจริงจังมาก
“ขอโทษ” อวี้ชิงลั่วดื่มน้ำอึกหนึ่ง ยังคงตอบอย่างตรงไปตรงมา
หนานหนานรู้สึกขุ่นเคือง พุ่งตัวไปข้างหน้าปีนขึ้นไปบนตักของนาง “ท่านแม่ ท่านขอโทษอย่างไม่จริงใจเลย ข้าไม่ยอมรับ”
อวี้ชิงลั่วคว้าคอเสื้อของเขา วางเขาไว้ในอ้อมแขนของเย่ซิวตู๋ วันที่อากาศร้อนเช่นนี้ มาตัวติดกันแบบนี้ไม่อึดอัดบ้างหรือ
“เช่นนั้นบอกมาสิ แบบไหนจึงจะดูจริงใจเล่า?”
หนานหนานเชิดคางขึ้น กล่าวอย่างจริงจังมาก “ท่านต้องให้เงินข้า”
“แค่กๆ” เย่ซิวตู๋สำลักน้ำชา มองเห็นหนานหนานรีดไถเงินอย่างออกหน้าออกตา เขาก็พูดอะไรไม่ออก
หนานหนานมีน้ำใจมาก รีบลูบหน้าอกให้เขา “ท่านพ่อค่อยๆ ดื่มสิขอรับ ไม่มีใครมาแย่งท่านหรอก”
เย่ซิวตู๋ไม่ต้องการเข้าไปแทรกระหว่างการต่อสู้ระหว่างแม่ลูกอีกต่อไป ไม่มีทางที่หนานหนานจะเอาชนะชิงเอ๋อร์ได้แน่
แน่นอนว่าต่อจากนั้นก็เห็นอวี้ชิงลั่วหรี่ตา กล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าขอเงินข้าหรือ?”
รังสีของอวี้ชิงลั่วแข็งแกร่งเกินไป หนานหนานหดคอ หลบอยู่ในอ้อมอกของเย่ซิวตู๋ เพียงแต่ว่าเพื่อแผนการหาเงินอันยิ่งใหญ่ของตนเอง เขายังคงเกาคอและกล่าวอย่างอ่อนแรง “นั่น นั่นแสดงให้เห็นว่าท่านเห็นค่าของข้ามากเพียงไหนไม่ใช่หรือ? ท่านโกหกข้า ในใจของข้ากับเจ็บปวด หากว่าไม่มีเงินก็รักษาไม่ได้ ข้าเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของท่าน ท่านจะไม่สนใจข้าไม่ได้นะขอรับ”
อวี้ชิงลั่วเคาะโต๊ะซ้ำๆ เย่ซิวตู๋มองการกระทำของนาง พบว่ามีรอยยิ้มที่อธิบายไม่ได้อยู่ในสายตานั้น
ในห้องเงียบไปนาน มือเล็กของหนานหนานดึงแขนเสื้อของเย่ซิวตู๋ “ท่านพ่อ ท่านเองก็ช่วยลูกชายที่รักของท่านพูดหน่อยสิขอรับ”
เย่ซิวตู๋เอามือแตะจมูกแสร้งว่าไม่ได้ยิน เมื่อครู่เขาก็ทำชิงเอ๋อร์ขุ่นเคืองไปแล้ว หากกล่าวอะไรออกไปอีก เกรงว่าหนึ่งเดือนต่อจากนี้จะไม่สามารถขึ้นเตียงนอนได้อีก
อวี้ชิงลั่วจ้องมองสองพ่อลูกอย่างดุดัน จากนั้นก็เอานิ้วชี้ไปที่หนานหนาน “เจ้ากล่าวเช่นนี้ เจ้าก็มีเรื่องที่ทำร้ายจิตใจข้าเช่นกัน เจ้าก็ควรให้เงินข้า เพื่อรักษาหัวใจที่เปราะบางของข้าด้วยใช่หรือไม่?”
“หัวใจของท่านแข็งแกร่งออก ยังจะต้อง…” หนานหนานตอบกลับโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นสีหน้าโกรธเกรี้ยวของท่านแม่แล้วก็รีบหยุด หันกลับมาถาม “ข้าไปทำอะไรให้ท่านแม่เจ็บปวดหรือขอรับ”
หนานหนานคิดอย่างงุนงงอยู่พักหนึ่ง ช่วงนี้เขาเป็นเด็กดีมาก เหมือนว่าไม่ได้ทำเรื่องอันใดที่ผิดปกติ วันนี้ที่เทศกาลชิมสุราก็มีส่วนร่วมด้วย ท่านแม่ควรให้รางวัลเขาจึงจะถูก
“ท่านแม่ ท่านจะเลี่ยงการจ่ายเงิน จึงคิดหาเรื่องอันใดก็ไม่รู้ขึ้นมาไม่ได้นะขอรับ ข้าเป็นคนกตัญญู ทั้งยังฉลาดหลักแหลม จะไปทำร้ายท่านแม่ได้อย่างไร?”
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว ส่งเสียงฮึดฮัด
หนานหนานใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มองท่าทางของท่านแม่ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
หนานหนานพยายามขบคิด ก็พบว่าเขาไม่ได้ทำอะไรไม่ดีจริงๆ
แต่ท่าทางเช่นนี้ของท่านแม่ทำให้หัวใจดวงน้อยของเขาเต้นแรง อืม ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องรีบเปลี่ยนเรื่องจึงจะดีกว่า
“อ๋า จริงสิ ท่านแม่ หมาป่าน้อยของข้าตั้งชื่อว่าอย่างไรดีขอรับ ข้าคิดดูแล้ว น่าจะต้องเป็นชื่อที่ดูโอ่อ่าเสียหน่อย ชื่อฉยงป้าเป็นอย่างไรขอรับ”
“อุ๊บ…” อวี้ชิงลั่วคิดจะเมินคำพูดของเขาแต่ก็ถูกสองประโยคหลังทำให้ผงะไป
“ไม่ได้หรือขอรับ” หนานหนานเห็นการตอบสนองยิ่งใหญ่ของท่านแม่ก็รีบเปลี่ยน “เช่นนั้นชื่อหลางหลางดีหรือไม่ ท่านดูสิ เจ้าพยัคฆ์ทมิฬของท่านพ่อชื่อเป้าเป้า เช่นนั้นข้าก็ตั้งชื่อมันว่าหลางหลาง ชื่อเพราะทั้งยังจำง่ายด้วย”
ตอนนั้นเอง แม้แต่ใบหน้าของเย่ซิวตู๋ก็เคร่งเครียดไป พยัคฆ์ทมิฬมีชื่อนี้ตั้งแต่ตอนไหนกัน เหตุใดเขาจึงไม่รู้
“อืม เป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมมาก ท่านแม่ ข้าจะพาหลางหลางไปอาบน้ำนะขอรับ ข้าต้องป้อนอาหารให้มัน ดูแลมันให้ดีๆ ลาก่อนขอรับ” กล่าวเสร็จแล้วเขาก็ยกผ้าสีดำออกจากกรงอีกครั้ง ยกกรงแล้วจากไป
อวี้ชิงลั่วหรี่ตา เสียงเย็นเยียบถึงกระดูกดังจากทางด้านหลังของหนานหนาน “ข้ายังพูดไม่จบ เจ้าจะไปไหนกัน”
หนานหนานเสียวสันหลังวาบ เหงื่อเริ่มออก
เหตุใดท่านแม่จึงไม่คล้อยตามการเปลี่ยนประเด็นของเขากัน?
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เรื่องหน้าหนาจะสู้ท่านแม่ได้หรือหนานหนาน ท่านแม่หน้าหนาระดับเซียนแล้วนะ
ไหหม่า(海馬)