อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 784 เริ่มทรมาน
ตอนที่ 784 เริ่มทรมาน
ตอนที่ 784 เริ่มทรมาน
แม้เหมิงพั่วจะเข้ามาพร้อมคนรับใช้เสมอ แต่เขาก็มีธุระของตนเอง จึงไม่ได้เข้ามาที่ห้องลับตลอดเวลา
เช่นนั้นนางต้องหาวิธี ให้คนรับใช้คนนั้นมาอยู่ในห้องลับกับนางตลอดเวลา
อวี้ชิงลั่วก้มหน้าลง นางเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี ต่อให้ออกไปไม่ได้ แต่เหมิงพั่วก็ไม่ได้ทำร้ายตน เขาย่อมปฏิบัติกับนางเป็นอย่างดี ไม่ให้นางต้องบุบสลายเป็นแน่
เช่นนั้นนางต้องทำร้ายตนเอง แม้วิธีนี้จะดูรุนแรงไปเสียหน่อย แต่อย่างน้อยที่สุด หากนางป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ ก็ต้องมีคนมาคอยดูแลตลอดเวลา
แต่ทว่า… จะป่วยเป็นอันใดดีเล่า?
อวี้ชิงลั่วพยักหน้าพลางครุ่นคิด ร่างกายของนางแข็งแรงมาโดยตลอด การเจ็บไข้ได้ป่วยจึงดูไม่เหมาะกับนาง อีกทั้งตอนนี้นางก็ไม่มียาใดติดตัวที่จะทำให้ตนป่วยได้
แต่ถ้านางทำร้ายตนเอง นั่นก็ไม่ใช่วิธีที่ดี ถึงตอนนั้นจะยิ่งทำให้เหมิงพั่วสงสัย เกรงว่าตนจะมีเล่ห์เหลี่ยม ถึงตอนนั้นคงจับตาดูอย่างใกล้ชิดกว่าเดิม
ให้ดีที่สุดก็ต้องป่วยตามธรรมชาติ แต่ที่นางคิดออกก็มีเพียงวางยาในอาหาร
เพียงแต่ว่าการวางยาในอาหาร ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
อวี้ชิงลั่วเม้มปาก จากนั้นครู่หนึ่งก็ยกมือขึ้นดึงเชือกสั่นระฆัง
จากนั้นไม่นาน ประตูหินก็ถูกเปิดออก เหมิงพั่วพิงประตู เหลือบตามองนาง “มีอันใดหรือ?”
“ข้าหิว”
เหมิงพั่วแทบยืนไม่ไหว “เมื่อครู่เจ้าเพิ่งกินอาหารเช้า”
อวี้ชิงลั่วเหล่ตามองเขา “ข้าอยู่ที่นี่ไม่มีอะไรทำ นอกจากกินแล้วยังทำอันใดได้อีกเล่า อีกอย่างกระเพาะข้าก็ย่อยได้ดี ไม่นานนักในท้องก็ว่างเปล่าแล้ว เจ้าเองก็รู้ว่าบุตรชายข้ากินเก่งนัก ข้อได้เปรียบนั้นเขาได้มาจากข้านั่นแหละ”
“นั่นคือข้อได้เปรียบหรือ?” หญิงผู้นี้เองก็เป็นคนไร้ยางอายเช่นกัน เหมิงพั่วหรี่ตา ไม่อยากจะสนใจนางอย่างยิ่ง แต่พอคิดถึงประโยชน์ของนาง ก็อดทนแล้วถามนาง “เจ้าอยากกินอันใด?”
“ก็ของกินเล่นทั่วไปน่ะ ขนม ถั่ว เนื้อวัวอะไรพวกนั้น เอาไว้กินเล่น อย่างไรข้าก็ไม่รู้ว่าต้องอยู่ที่นี่อีกนานเท่าไร หาอะไรทำฆ่าเวลาเสียหน่อย หรือไม่เจ้าก็เอาหนังสือมาให้ข้าอ่านเสียหน่อยสิ”
“…” เหมิงพั่วสูดหายใจเข้าลึกๆ หันกลับแล้วปิดประตูหิน
ไม่นานนักก็มีคนรับใช้นำกล่องอาหารเข้ามา เหมิงพั่วยังคงเดินตามมาจากทางด้านหลัง
อวี้ชิงลั่วเห็นท่าทางที่เอาแต่ตามติดของเขา สีหน้าก็เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
ของว่างนั้นถูกห่อด้วยผ้าเช็ดหน้า เหมิงพั่วไม่มีทางเอาถาดหรือของที่มีคมพวกนั้นมาให้นาง ผ้าถูกเปิดออก ถูกจัดวางบนโต๊ะทีละอย่าง อวี้ชิงลั่วเหลือบมอง ดี มีของที่นางต้องการพอดี
เหมิงพั่วหยิบหนังสือมาจากด้านหลัง วางไว้ตรงหน้าของนาง “นี่ให้เจ้า ค่อยๆ อ่านไปก็ได้”
อวี้ชิงลั่วพลิกดูอย่างลวกๆ สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที วรรณกรรมสอนหญิง เขาให้นางอ่านวรรณกรรมสอนหญิงหรือ?
“ช่วยเอาหนังสือที่ดู ที่ดู… ลึกซึ้งหน่อยให้ข้าอ่านได้หรือไม่ เจ้าคิดว่าหนังสือประเภทนี้ หากข้าอ่านจะมีประโยชน์หรือ? หากข้าสนใจในหนังสือเล่มนี้ ตอนนี้ข้าคงอยู่ที่ห้องส่วนตัวและปักผ้าแล้ว บนโลกนี้คงไม่มีหมอปีศาจ เจ้าหาตำราแพทย์มาให้ข้าจะดีกว่า ถ้าหาไม่ได้จริงๆ เอาบันทึกประวัติศาสตร์ก็ได้”
เหมิงพั่วสูดหายใจลึก หญิงผู้นี้ปัญหาเยอะเสียจริง
เขาแค่นเสียงไม่พอใจ เดินออกจากห้องลับไป
แววตาอวี้ชิงลั่วเป็นประกาย มีโอกาสก็ต้องคว้าไว้ นางรีบกล่าวกับคนรับใช้ข้างๆ “ข้าอยากได้เกาลัด”
คนรับใช้ผู้นั้นอึ้งงัน ยังคงก้มหน้า ไม่ได้ตอบสนองอันใด
แต่อวี้ชิงลั่วรู้ว่านางได้ยิน เมื่อครู่นางเห็นท่าทางที่ตัวแข็งทื่อของอีกฝ่าย
นางไม่กล้ากล่าวอันใดมากกว่านี้ เหมิงพั่วกลับมาอย่างรวดเร็ว ในมือถือบันทึกประวัติศาสตร์เล่มหนึ่ง วางไว้ตรงหน้าอวี้ชิงลั่ว
อวี้ชิงลั่วเหลือบมองเขา ลากโต๊ะนั้นไปที่เตียงหิน จากนั้นก็นั่งลงบนเตียงหิน กินของว่างพลางอ่านหนังสือ
เหมิงพั่วนั่งมองนางจากด้านข้างอยู่นาน ดูไม่ออกถึงพฤติกรรมผิดปกติใดๆ ของนาง ดูเหมือนว่านางจะชอบหนังสือประวัติศาสตร์จริงๆ ดูจะติดใจมาก
หญิงผู้นี้แปลกประหลาดนัก ดูหนังสือพวกนี้แล้วลืมตนไปเสียสิ้น
เหมิงพั่วส่ายหน้า ส่งให้คนรับใช้ออกไป
ตอนนี้อวี้ชิงลั่วอ่านหนังสือเพื่อฆ่าเวลาจริงๆ อดทนรอการมาถึงของมื้อเที่ยง
หลังผ่านไปสองชั่วยาม นางก็อ่านไปได้เกือบหนึ่งในสี่ของหนังสือ ประตูหินเปิดออกอีกครั้ง เหมิงพั่วยังคงเดินตามคนรับใช้มา นำอาหารกลางวันมาให้
อวี้ชิงลั่วปิดหนังสือลง ยืดเอวแล้วปรบมือ กล่าวชมเหมิงพั่วอย่างหากได้ยาก “หนังสือสนุกมาก ถือว่าเจ้าทำได้ดีนะ”
เหมิงพั่วแค่นเสียง เขาเห็นว่านางกินของว่างบนโต๊ะเสียเกือบหมด สีหน้าดูเคร่งขรึมทันใด นางกินไปเท่าไรแล้ว นี่ไม่รู้สึกไม่สบายตัวเลยหรือ ตอนนี้จะต้องกินอาหารเที่ยงแล้ว จะกินลงหรือ?
อาหารถูกวางลงบนโต๊ะทีละอย่าง อวี้ชิงลั่วกวาดตามองก็ไม่เห็นเกาลัด แววตามืดหม่นไปเล็กน้อย
เพียงแต่นางก็ยังนั่งลงอย่างสงบ กินอาหารทุกจาน เมื่อวางตะเกียบลงไปบนอาหารจานที่สาม มุมปากของนางก็โค้งขึ้นแบบแทบจะมองไม่เห็น
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง เกาลัดนี้ถูกสับละเอียดคลุกเคล้าอยู่ ดูภายนอกมองไม่ออกเลย เพียงแต่รู้สึกได้ว่าอาหารจานนี้ถูกปรุงรสด้วยบางอย่าง สำหรับเหมิงพั่วที่ยืนหยัดในความเป็นบุรุษต้องอยู่ห่างจากห้องครัว เป็นคนที่ไม่เคยทำกับข้าว เกรงว่าคงจะดูไม่ออกเลย แท้จริงแล้วคนรับใช้ผู้นี้ก็เป็นคนฉลาด
เมื่อกินอาหารเสร็จ นางก็โบกมือไล่ทั้งสองคนออกไปอย่างไม่แยแส เริ่มอ่านหนังสือต่อไป
เหมิงพั่วหรี่ตา เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าตนเป็นที่ขวางหูขวางตาเช่นนี้ หญิงคนนี้ยอมอยู่กับหนังสือประวัติศาสตร์ที่น่าเบื่อ แต่ไม่เต็มใจจะถามคำถามเรื่องตนเองกับเขา ในหัวคิดเรื่องอันใดอยู่ ดูไม่มีความคิดเป็นปกติเอาเสียเลย
เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ครู่หนึ่ง อวี้ชิงลั่วกลับหมกมุ่นอยู่กับหนังสือมาตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นจุดที่น่าตื่นเต้นก็ตบโต๊ะในทันที
เหมิงพั่วสะดุ้งตกใจ กระตุกมุมปาก จากนั้นก็หันหลังจากไป
คนรับใช้หลุบสายตาลง ในที่สุดก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น หลังจากมองไปยังอวี้ชิงลั่วอย่างรวดเร็วพร้อมสายตาสงสัย สุดท้ายก็จากไป
ประตูหินปิดลง แสงในห้องลับก็หรี่ลงเล็กน้อย
แววตาของอวี้ชิงลั่วละออกจากหนังสือประวัติศาสตร์ มองไปยังเปลวเทียนที่สั่นไหวอยู่ไม่ไกล รอคอย…
รอคอย…
รอคอย…
รอคอย…
ทันใดนั้นสีหน้าของนางก็ขาวซีดในทันใด กระโดดลงจากเตียงหิน โซ่เหล็กที่รัดข้อเท้าของนางเกือบทำให้นางสะดุดล้มลงกับพื้น
อวี้ชิงลั่วกุมหน้าอก อาเจียนออกมาทันทีที่มุมห้อง และทันใดนั้นก็อาเจียนออกมาอีกอย่างหนัก
รสชาติความเจ็บป่วยเช่นนี้ นางไม่ได้สัมผัสมันมานานแล้ว
ในท้องรู้สึกเกร็ง นางจะจดจำไว้ไปตลอด และจะต้องเอาคืนจากเหมิงพั่วอย่างแน่นอน
หน้าผากของอวี้ชิงลั่วมีเหงื่อไหลซึม สีหน้าซีดเผือด กลิ่นเปรี้ยวโชยอยู่ในห้องลับ แต่นางก็ไม่สนใจ กลับมีรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปาก
ผ่านไปครู่หนึ่งก็รู้สึกว่าอาเจียนพอแล้ว ในที่สุดมือของนางก็เอื้อมไปจับเชือกแขวนระฆังอยู่และดึงสั่นอย่างแรง
……………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
แผนดีอยู่ ใช้อาการแพ้เกาลัดเป็นข้อได้เปรียบสินะ
ไหหม่า(海馬)