อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 798 ใครเป็นคนเสเพล
ตอนที่ 798 ใครเป็นคนเสเพล
ตอนที่ 798 ใครเป็นคนเสเพล
หนานหนานรู้จักชายผู้นี้ เขาเคยมาที่นี่หลายครั้ง และเคยเห็นชายผู้นี้หลายครั้ง
นี่คือเหมิงจื่อเย่า ลูกนอกสมรสของเหมิงจื้อเฉิง เขาเป็นลูกของอนุคนโปรดของเหมิงจื้อเฉิง เหมิงจื้อเฉิงจึงรักเขามาก ดังนั้นสถานะของเขาในคฤหาสน์จึงสูงส่งไม่น้อย
หนานหนานไม่ชอบเขา เพราะเขาดูเย่อหยิ่งมาก เห็นได้ชัดว่าแม้เขาจะเป็นลูกนอกสมรส แต่เขามักจะรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น แต่ก็ยังคงยับยั้งชั่งใจอยู่บ้าง เมื่อผู้อาวุโสสกุลหมิงยังเป็นปกติ
ตอนนี้ทุกคนในคฤหาสน์ผู้อาวุโสสกุลหมิงต่างรู้สึกเหมือนเขาได้ครองโลก และไม่มีใครทำอะไรเขาได้
หากเหมิงจื่อเชียนและเหมิงจื่อฉีมีปากเสียงกับเขาเพียงเล็กน้อย เขาก็จะไปฟ้องเหมิงจื้อเฉิง และคนที่ถูกด่าทอและทุบตีก็คือเหมิงจื่อเชียนและน้องสาวเสมอ
หนานหนานเคยเห็นเหมิงจื่อฉีจุดประทีปริมทะเลสาบ เพื่ออธิษฐานให้ผู้อาวุโสสกุลหมิงหายเร็ว ๆ แต่เหมิงจื่อเย่าเดินผ่านมาเห็นเข้า แล้วเตะประทีปที่วางไว้ริมทะเลสาบ ก่อนจะพูดจาเยาะเย้ยเหมิงจื่อฉีอย่างรุนแรง โดยบอกว่านางเป็นลูกนอกสมรส ถ้านางไม่ได้แต่งงานออกเรือนไป ก็จะต้องอยู่ที่คฤหาสน์ทั้งวัน ซึ่งเป็นการนำความโชคร้ายมาสู้คฤหาสน์ ทำให้ผู้อาวุโสสกุลหมิงต้องเจอเรื่องเช่นนี้
ถ้อยคำของเหมิงจื่อเย่านั้นชั่วร้ายมาก เหมิงจื่อฉีได้รับการอบรมตามแบบกุลสตรีมาตั้งแต่เด็ก เมื่อนางต้องโต้เถียงกับคนไร้ยางอายเช่นนี้ นางก็โกรธจนร้องไห้
เมื่อเห็นว่าคุณหนูของตนเสียใจ สาวใช้คนสนิทของนางก็อดไม่ได้ที่จะก้าวเข้าไปเถียง
ใครจะรู้ว่าเหมิงจื่อเย่าเตะนางจนถึงกับนอนอยู่บนพื้น และไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ เขายังคงไม่หนำใจ จึงก้าวเข้าไปเหยียบศีรษะของสาวใช้
เหมิงจื่อฉีก้าวเข้าไปขวางด้วยความตื่นตระหนก ทำให้นางถูกเขาผลักออกไป จนกระทั่งศีรษะของเหมิงจื่อฉีกระแทกเข้ากับต้นไม้ด้านข้าง ทำให้มีเลือดไหลออกมา
เหมิงจื่อเย่าเห็นเช่นนั้นก็แทบจะเป็นลม เมื่อเห็นว่าเหมิงจื่อเชียนและเหมิงจื้อเฉิงเดินมาพอดี เขาก็รีบฟ้องก่อนทันที โดยบอกว่าเหมิงจื่อฉีไม่ชอบเขา และรู้สึกว่าเขาเป็นลูกนอกสมรส จึงไม่คู่ควรที่จะพูดคุยกับนาง นางกับสาวใช้จึงช่วยกันทำร้ายเขา แต่เขาผลักทั้งสองก่อนเพื่อป้องกันตัวเอง
เหมิงจื่อเชียนหัวเราะทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น แค่มองแวบแรก สถานการณ์ที่นี่ก็ชัดเจนมากอยู่แล้ว และเขาก็รู้นิสัยของน้องสาวตัวเองดี
แต่เหมิงจื้อเฉิงไม่ได้ถาม เขาตบหน้าเหมิงจื่อฉีทันที และสั่งว่านางต้องเรียกเขาว่า “พี่ชาย” ด้วยความเคารพเมื่อเจอเหมิงจื่อเย่า ไม่เช่นนั้นนางจะถูกไล่ออกจากบ้าน
เหมิงจื่อเชียนไม่ทันตั้งตัว จึงไม่อาจไปขวางเหมิงจื่อฉีไว้ได้ทัน และเขาได้ให้เหตุผลกับพ่อของเขาเพียงไม่กี่คำ แต่เขากลับถูกพ่อเตะอย่างแรง โดยบอกว่าเขาเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของน้องสาวด้วย
หนานหนานซ่อนตัวอยู่หลังโขดหินมาสักพักแล้ว และเขาเพิ่งเห็นเหตุการณ์ตอนที่เขาออกมาเดินเล่นด้วยอารมณ์ไม่ดี เขาคาดไม่ถึงว่าจะเจอเรื่องเช่นนี้ ทว่าตอนนั้นเขากังวลเรื่องแม่อยู่ในใจ จึงไม่มีอารมณ์จะไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนอื่นและไม่ได้ออกไปปรากฏตัว จนทำให้เหมิงจื่อฉีได้รับบาดเจ็บ แต่ในเวลานั้นเขาเห็นว่าเหมิงจื่อเชียนและคนอื่น ๆ กำลังมา และคิดว่าจะสามารถมาช่วยเหมิงจื่อฉีได้ทันเวลา
แต่ความเป็นไปของสถานการณ์นั้นเกินจินตนาการของเขา
หนานหนานเคยคิดว่าเหมิงจื้อเฉิงค่อนข้างเป็นคนเย็นชา และไม่น่าคบหา เขาจึงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อมองเขา และยังรู้สึกว่าเขาเป็นคนลึกลับชอบกล
แต่เขาไม่รู้เลยว่าเขาจะหลงอนุภรรยาจนทำร้ายฮูหยินของตัวเอง และปฏิบัติต่อลูกสาวของตนเช่นนี้ เพราะเห็นแก่ลูกนอกสมรส
ในขณะนั้นเขาแทบทนไม่ได้ โกรธมากจนเกือบจะพุ่งเข้าไปต่อยเหมิงจื้อเฉิงกับลูก แต่ก็ยังคงสะกดกลั้นอารมณ์ไว้ และก้าวเข้าไปอย่างสงบ แล้วอธิบายสาเหตุและผลของเรื่อง โดยบอกเหมิงจื้อเฉิงอย่างเคร่งขรึมว่า แม้เหมิงจื่อฉีจะดูถูกลูกนอกสมรสจริง ๆ แต่ก็เป็นเรื่องปกติ ไม่เช่นนั้นก็ลองให้ทุกคนมาตัดสินดูว่าใครถูกใครผิด
หนานหนานรู้สึกว่าตัวเองหล่อเหลาที่สุดในเวลานั้น ท่าทางมั่นคงแน่วแน่ของเขาจะต้องทำให้หลายคนหลงใหลแน่นอน
เหมิงจื้อเฉิงได้ยินดังนั้นก็จ้องมองเขาด้วยสายตาชั่วร้าย และบอกให้เหมิงจื่อฉีอยู่ในห้องให้ดี และอย่าเดินไปรอบ ๆ เขาไม่แม้แต่จะตำหนิเหมิงจื่อเย่าสักคำ จากนั้นเขาก็เดินจากไป
หนานหนานโกรธมากจนแทบขาดใจ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็มองเหมิงจื้อเฉิงและเหมิงจื่อเย่าว่าเป็นเพียงสวะกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นคนประเภทที่เขาเกลียดมาก
ตอนนี้เขาได้เห็นคนที่น่ารำคาญและน่าขยะแขยงอีกครั้ง หนานหนานก็รู้สึกหงุดหงิดและรู้สึกว่าตนโชคร้ายมาก
ไป๋อีเฟิงสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด จากลมหายใจของหนานหนาน เขาเลิกคิ้วและถามว่า “อะไรหรือ? คนผู้นี้ทำให้เจ้าไม่พอใจมากหรือ?”
“ไม่เพียงแค่นั้นหรอก ถ้าเขากล้ามาล่วงเกินข้า ข้าจะตีเขาให้ตาย จะทุบจนเขาจำหน้าพ่อตัวเองไม่ได้เลยด้วย” ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะทุบตีบิดาของคนคนนี้ด้วย
ไป๋อีเฟิงคิดว่ามันยากที่จะได้เห็นหนานหนานมีท่าทางรังเกียจราวกับเหยียบอาจม จึงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
บุรุษผู้นี้เป็นใคร เหตุใดจึงไม่เคยเห็นมาก่อน แต่การมีอยู่ของเขานั้นดูมีอำนาจมาก มีอำนาจมากเสียจนแม้แต่หนานหนานที่โกรธมากก็ยังทำอะไรไม่ได้
“ดูเหมือนว่าเขาจะไปเรือนท่านตาทวด” ทันใดนั้นเสียงของหนานหนานก็ดังขึ้น
ไป๋อีเฟิงเงยหน้าขึ้น และเห็นว่าเหมิงจื่อเย่าหันหน้าเดินไปทางเรือนที่ผู้อาวุโสสกุลหมิงอยู่ตอนนี้
หนานหนานขมวดคิ้ว กลอกตาอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเราตามไปดูกันเถิด”
เมื่อเขาพูดจบ เขาก็เริ่มดิ้นในอ้อมแขนของไป๋อีเฟิง เพื่อพยายามออกจากอ้อมแขนของเขา
“ตกลง” ไป๋อีเฟิงวางเขาลงบนพื้น คนตัวเล็กแตะเท้าสองครั้งแล้วขยับตัว
เพียงเสี้ยววินาทีที่ไป๋อีเฟิงกะพริบตา เด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าเขาก็หายไปอย่างรวดเร็ว
มุมปากของเขากระตุกทันที แล้วตามไปเงียบ ๆ
เหมิงจื่อเย่าเดินอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าเขาก็ยืนอยู่หน้าประตูเรือนของผู้อาวุโสสกุลหมิง
ยามสองคนที่ประตูยื่นมือหยุดเขาไว้ทันที “ท่านประมุขสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าไปขอรับ”
“พวกเจ้าพูดจาไม่รู้ที่ต่ำที่สูง รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร? ปู่ของข้านอนอยู่ที่นั่น ท่านปู่กำลังจะตาย แล้วจะไม่อนุญาตให้หลานชายไปเยี่ยมเขาได้อย่างไร? พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์มาหยุดข้าไว้ตรงนี้” เหมิงจื่อเย่าชำเลืองมองยามทั้งสองด้วยท่าทางเย็นชาและหยิ่งผยอง
ยามทั้งสองไม่ชอบน้ำเสียงของเขามาก พวกเขาต่างก็รู้ว่าคนที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาเป็นใคร และเพราะพวกเขารู้ พวกเขาจึงปฏิบัติต่อเขาด้วยความดูถูกเล็กน้อย
สำหรับเหมิงจื่อเย่า สิ่งที่แย่ที่สุดคือทัศนคติเช่นนี้
เขาเป็นลูกชายคนโปรดของเหมิงจื้อเฉิง หากไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสสกุลหมิงให้เหมิงจื้อเฉิงแต่งงานกับภรรยาคนปัจจุบันโดยพลการ แม่ของเขาก็คงไม่ต้องยอมจำนนและกลายเป็นอนุเช่นนี้ แล้วเขาจะกลายเป็นลูกนอกสมรสที่ด้อยกว่าคนอื่นได้อย่างไร?
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถ้าตัวตนของเหมิงจื่อเชียนและเหมิงจื่อฉีเป็นลูกชายและลูกสาวที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตอนนี้คนที่รับผิดชอบจัดการทั้งบ้านจะไม่ใช่แม่ของเขาหรือ? เขาคือลูกชายคนโปรดปรานที่พ่อจะให้สืบทอดทุกสิ่งในอนาคต
สิ่งเดียวที่ขวางทางเขาตอนนี้คือผู้อาวุโสสกุลหมิง ถ้าเขาจากไปก็จะไม่มีใครในครอบครัวนี้พูดอะไรเกี่ยวกับเหมิงจื่อเชียนและน้องสาวสักคำ
เมื่อเหมิงจื่อเย่านึกถึงสภาพของผู้อาวุโสสกุลหมิงที่นอนรอความตายอยู่บนเตียง แต่ก็ยังไม่ตาย เขาก็รู้สึกเหมือนหัวใจถูกกรงเล็บแมวข่วน ช่างรู้สึกอึดอัดยิ่งนัก
ยามทั้งสองเห็นว่าการแสดงออกของเขาเริ่มเกรี้ยวกราด พวกเขาก็มองหน้ากันด้วยแววตาระแวดระวัง และพูดว่า “พวกเราน้อมรับคำสั่งของท่านประมุขเท่านั้น คนเสเพลโปรดกลับมาทีหลังเถิด”
“เจ้าเรียกใครว่าคนเสเพล?” เหมิงจื่อเย่าจ้องมองคนสองคนที่อยู่ข้างหน้าเขาด้วยความโกรธ
“แน่นอนว่าเป็นเจ้า” ทันใดนั้นร่างเล็ก ๆ ก็เดินออกมาที่ลานบ้านด้วยท่าทางผ่อนคลาย
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
หรือว่าจะเป็นเหตุการณ์ลูกฆ่าพ่อ เพื่อให้หลานเป็นใหญ่ในบ้านกันนะ?
ไหหม่า(海馬)