อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 800 เรื่องร้ายแรงกว่านั้น
ตอนที่ 800 เรื่องร้ายแรงกว่านั้น
ตอนที่ 800 เรื่องร้ายแรงกว่านั้น
เมื่อเหมิงจื่อเย่าเห็นเขา ใบหน้าของเขาก็เผยความยินดี ทันใดนั้นก็ทำสีหน้าหม่นหมอง ขณะกุมหน้าอกเดินกะโผลกกะเผลกไปข้างเหมิงจื้อเฉิง “ท่านพ่อ พวกคนชั้นต่ำสองคนนี้หยิ่งผยองนัก พวกเขาทำร้ายลูกในคฤหาสน์ของเราขอรับ”
เมื่อหนานหนานได้ยินดังนั้นก็รู้สึกไม่พอใจทันที นี่เป็นการพูดโกหกหน้าตายชัดๆ
เห็นได้ชัดว่าคนที่เป็นฝ่ายทำร้ายคือเขา ช่างน่ารังเกียจนักที่โยนความผิดเช่นนี้มาให้คนอื่น
เหมิงจื้อเฉิงหรี่ตามองไปยังทหารยามทั้งสอง หนานหนานเห็นเขากำมือแน่น ราวกับว่าวินาทีต่อมาจะบีบคอของทหารยามทั้งสองคน
เขาจึงก้าวเข้าไป เชิดหน้าพูดว่า “เป็นข้าเองที่ทำร้ายเขา”
เหมิงจื้อเฉิงขมวดคิ้วและคลายมือออกเล็กน้อย ก่อนจ้องเขม็งมาที่หนานหนาน “อวี้ฉิงหนาน จื่อเย่าเป็นญาติของเจ้า เหตุใดเจ้าจึงไม่สุภาพอย่างยิ่ง นี่คือสิ่งที่เย่ซิวตู๋สอนเจ้ามาหรือ?”
“ญาติหรือ?” หนานหนานโกรธจัด สองคนนี้สมแล้วที่เป็นพ่อลูกกันจริง ๆ พวกเขาช่างน่ารำคาญพอ ๆ กันจนเขาอยากจะผูกทั้งสองคนเข้าด้วยกันแล้วนำไปฝังเสียจริง แต่เหมิงจื้อเฉิงมีศักดิ์เป็นปู่ของเขา เขาจึงต้องอดทน ต้องอดทน ต้องอดทน
“พ่อของข้าบอกว่าญาติของข้าคือท่านอาจื่อเชียน แต่เขาไม่ใช่”
เมื่อเหมิงจื่อเย่าได้ยินดังนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะก้าวเข้าไปหมายจะตีเขา แต่หนานหนานรู้เท่าทันและถอยหลังหนีไปสองสามก้าวทันที
เหมิงจื้อเฉิงสูดหายใจ พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง “จื่อเย่าก็เป็นญาติของเจ้าด้วย เจ้าไม่ควรทำตัวหยาบคายเมื่อเจอญาติของเจ้าในภายหน้า ไม่เช่นนั้นข้าจะไปสั่งสอนพ่อของเจ้า”
“…” ตอนนี้ แม้แต่ทหารยามสองคนก็อดไม่ได้ที่จะหน้าบึ้ง
พวกเขาได้ยินมานานแล้วว่าเหมิงจื้อเฉิงปฏิบัติต่อลูกนอกสมรสและลูกในความสมรสแตกต่างกัน และวันนี้ก็ได้เห็นมันแล้ว เขามีคุณสมบัติอะไรที่จะสั่งสอนท่านอ๋องได้? ช่างน่าขันนัก ไม่ต้องพูดถึงว่าท่านอ๋องซิวไม่ใช่ลูกชายของเขาเลย ด้วยทัศนคติของเหมิงจื้อเฉิงที่มีต่อลูกชายนอกสมรสของเขาแล้ว ต่อให้เขาจะเป็นบิดาของท่านอ๋องซิว เขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมอยู่ดี
ช่างน่าขันเหลือเกิน
เหมิงจื้อเฉิงไม่มีเวลาคุยเรื่องเหลวไหลกับพวกเขาอีก และทำท่าจะเดินเข้าไปในเรือน
ดวงตาของเหมิงจื่อเย่าเป็นประกาย และรีบตามเขาไป
ทว่าทหารยามทั้งสองตอบสนองอย่างรวดเร็ว ด้วยการรีบเอื้อมมือไปขวางพวกเขาไว้ “ขออภัย ใต้เท้าเหมิง ท่านเข้าไปไม่ได้ขอรับ”
เหมิงจื้อเฉิงเยาะเย้ย “อะไร? อวี้ฉิงหนานสามารถเข้าไปได้ แต่ข้าเข้าไม่ได้งั้นหรือ? เจ้าเข้าข้างกันหรือว่าท่านประมุขมีจุดประสงค์อื่น? ตอนนี้มีข่าวลือมากมายข้างนอก หรือว่ามันจะจริงอย่างว่า หากเป็นเช่นนั้นจริงข้าจะต้องเข้าไปดูให้ชัดเจนมากกว่านี้”
“ท่านปู่คิดมากเกินไปขอรับ” น้ำเสียงของหนานหนานเปลี่ยนไป เมื่อได้ยินเขาพูดว่าต้องการสั่งสอนพ่อของเขา “ท่านปู่ ท่านปู่ลู่ปฏิบัติต่อทุกคนเหมือนกัน ไม่มีใครสามารถเข้าไปในเยี่ยมท่านตาทวดในเรือนได้ ข้าและท่านต่างก็เหมือนกัน แต่สถานะของข้าสูงส่งกว่าท่านปู่ ดังนั้นข้าจึงสามารถเข้าไปหลบแดดใต้ชายคาในเรือนได้ขอรับ”
เหมิงจื้อเฉิงแผ่รังสีอำมหิตทันที “เจ้าหมายความว่าอย่างไร ที่ว่าสถานะของเจ้าสูงส่งกว่าข้า?”
หนานหนานเผยรอยยิ้มไร้เดียงสา ก่อนจะเท้าเอวพูดว่า “ข้ามีปานรูปดอกไม้ ข้าได้รับความโปรดปรานจากสวรรค์ ข้าจึงมีสถานะสูงในเผ่าเหมิง ท่านปู่ ท่านไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ใช่หรือไม่ อ๋อ อย่างไรเสียท่านพ่อของข้าก็มีเหมือนกัน ดูเหมือนคนที่ไม่มีปานรูปดอกไม้จะไม่อาจไปสั่งสอนเขาได้ แน่นอนว่าถ้าท่านปู่อยากมีบ้าง ข้าก็สามารถวาดให้ได้ บางทีพี่ทหารยามสองคนนี้อาจจะตาบอดขึ้นมากะทันหัน แล้วอนุญาตให้ท่านเข้าไปได้ ดีหรือไม่ขอรับ?”
ดวงตาของเหมิงจื้อเฉิงฉายแววเกรี้ยวกราดทันที เขาจ้องมองหนานหนานด้วยสายตาอาฆาตแค้น
หนานหนานรู้สึกได้ แต่สีหน้าของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขายกยิ้มอย่างไร้เดียงสา และยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตา
ทหารยามสองคนมองหน้ากัน และในขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณเตือนกันให้ตื่นตัว แม้ว่าเหมิงจื้อเฉิงจะเป็นลูกชายของผู้อาวุโสสกุลหมิง และมีศักดิ์เป็นปู่ของหนานหนาน แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าเขาจะไม่โจมตีหนานหนาน สุดท้ายจิตใจของชายคนนี้ก็… ลึกล้ำยิ่งนัก
เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปนาน เหมิงจื้อเฉิงนึกเย้ยหยัน ก่อนสะบัดแขนเสื้อหันหลังเดินจากไป
แต่เสียงที่เย็นชาดังมาแต่ไกลว่า “อวี้ฉิงหนาน เจ้าจะได้เข้าใจว่าสิ่งที่เจ้าพูดในวันนี้รุนแรงเพียงใด”
หนานหนานขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าคำพูดของเหมิงจื้อเฉิงน่าจะมีเจตนาอื่นแฝงเร้นอยู่
จู่ ๆ เขาก็นึกถึงจดหมายจากแม่ของเขาขึ้นมาได้ โดยบอกว่าปู่คนนี้เป็นตัวปัญหา และเขาอาจเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับคนที่ลักพาตัวนางไป แม้ว่าหนานหนานจะเห็นด้วยกับมุมมองของแม่ แต่เขาก็ไม่อยากจะเชื่อ เพราะอย่างไรเสียปู่ก็เป็นลูกชายแท้ ๆ ของท่านตาทวด และเป็นลูกชายคนเดียวด้วย ถ้าเขาเป็นคนใจร้ายที่ลักพาตัวท่านแม่ไป แล้วท่านตาทวดจะเสียใจเพียงใด
“เจ้า เหตุใดจู่ ๆ เจ้าจึงอารมณ์เสียมากถึงเพียงนี้?” ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง จากนั้นร่างของหนานหนานก็ถูกยกขึ้น แล้วมาอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าของเสียง
เขาหันไปมองคนที่อยู่ตรงหน้า ก่อนเปลี่ยนสีหน้าและดึงเคราด้วยรอยยิ้ม “ท่านทวดฮั่ว ท่านออกมาได้อย่างไรขอรับ?”
หมอเฒ่าฉยงซานหัวเราะ “ข้าเกรงว่าหนานหนานจะตกอยู่ในอันตราย” เขาพูดแล้วก็หันหลังกลับไปในเรือน พร้อมกับหนานหนานในอ้อมแขน
และจู่ ๆ ทหารยามทั้งสองก็ ‘ตาบอด’ ขึ้นมาทันที พวกเขาทำราวกับมองไม่เห็นอะไรเลย และยังคงยืนคอยคุ้มกันอยู่นอกสนามอย่างสงบ
ไป๋อีเฟิงมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากระยะไกล และอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า
หลังจากที่หนานหนานเข้ามาในห้องแล้ว เขาก็วิ่งตรงไปยังขอบเตียงของผู้อาวุโสสกุลหมิง คุกเข่าลงบนพื้น แล้วใช้มือเล็ก ๆ จับมือเขาไว้แน่น ก่อนพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ท่านตาทวด หนานหนานมาหาแล้ว เมื่อไหร่ท่านจะฟื้นเล่าขอรับ? หนานหนานสัญญาว่าหากท่านตาทวดฟื้นขึ้นมา ข้าจะเชื่อฟังคำพูดของท่านตาทวด เรียนรู้วรยุทธ์ของท่านตาทวด และใช้ทักษะของท่านตาทวดให้เกิดประโยชน์สูงสุดแน่นอนขอรับ”
หมอเฒ่าฉยงซานลอบถอนหายใจ เมื่อก่อนเขาและผู้อาวุโสสกุลหมิงเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของกันและกัน ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน พวกเขาจะต้องทะเลาะกันเสมอ ทุกวันนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสสกุลหมิงที่ไม่อาจตอบสนองได้ เขาพูดไปตั้งมากมาย แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ตอบสนองใด ๆ ทำให้เขารู้สึกเศร้ามาก
เขาลูบศีรษะหนานหนาน แล้วพูดเบา ๆ ว่า “วันนี้เจ้าไปเผชิญหน้ากับเหมิงจื้อเฉิงและลูกชายได้อย่างไร? เจ้าก็รู้ว่าเหมิงจื้อเฉิงลำเอียงรักลูกนอกสมรสของเขามากเกินไป ดังนั้นต้องระวังตัวให้ดี เขาอาจจะทำร้ายเจ้าเพื่อลูกนอกสมรสของเขาก็ได้”
หนานหนานทำแก้มป่อง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เขาพูดถึงพ่อของข้าไม่ดีขอรับ เขาบอกว่าเขาต้องการสั่งสอนพ่อของข้า แม้แต่ท่านตาทวดก็ไม่เคยพูดจาหยิ่งผยองเช่นนี้ พ่อของข้าต้องการให้เขาสั่งสอนหรือ? ข้าไม่อาจทำให้ท่านพ่อเสียหน้าได้ขอรับ”
มุมปากของหมอเฒ่าฉยงซานกระตุก เจ้าตัวเล็กนี่ดูเหมือนจะหนักแน่นในการปกป้องคนใกล้ชิดมาก
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน จู่ ๆ ก็มีร่างหนึ่งเดินเข้ามาจากนอกประตู
หนานหนานและหมอเฒ่าฉยงซานหันหน้าไปมองพร้อมกัน และเห็นเหมิงลู่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หมอเฒ่าฉยงซานรู้สึกประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้น? ท่านประมุขเหมิง ข่าวลือข้างนอกรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือ?”
“ไม่ใช่แค่นั้น” เหมิงลู่ส่ายหน้า “มีเรื่องร้ายแรงกว่านั้นเกิดขึ้น”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
น่าสงสัยมาก เดาว่าเหมิงจื้อเฉิงนี่น่าจะเกี่ยวกับการลักพาตัวชิงลั่วไม่มากก็น้อย
ไหหม่า(海馬)