อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 802 สามคนกลายเป็นเสือ
ตอนที่ 802 สามคนกลายเป็นเสือ
ตอนที่ 802 สามคนกลายเป็นเสือ
ดวงตาของเย่ซิวตู๋มองไปยังผู้อาวุโสสกุลหมิงบนเตียงอีกครั้ง เสียงของเขาเบาลง “อีกฝ่ายเป็นคนฉลาด วิธีนี้จึงธรรมดาและตื้นเขินมากเกินไป มือสังหารอาจไม่ปรากฏตัว แต่…”
เย่ซิวตู๋นึกเย้ยหยันอีกครั้ง และทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “อย่างไรเสียก็ต้องมีสักหนึ่งหรือสองคนที่ใจร้อนอยู่เสมอ และพวกเขาจะต้องติดกับแน่นอน”
เนื่องจากอีกฝ่ายเริ่มโจมตี เขาจึงไม่อาจรอช้าได้อีกต่อไป เมื่อข่าวลือที่ว่าผู้อาวุโสสกุลหมิงกำลังจะฟื้นถูกปล่อยออกมาไปในเวลานั้น ผู้ที่สงสัยเรื่องข่าวลือนี้ก็จะคิดลึกลงไปอีกเล็กน้อย แล้วย่อมต้องรอฟังสิ่งที่ผู้อาวุโสสกุลหมิงจะพูดหลังจากฟื้นขึ้น
เย่ซิวตู๋หรี่ตาลง แล้วหารือเรื่องแผนการกับหมอเฒ่าฉยงซานอย่างละเอียด
ในเมืองหลวงขณะนี้มีข่าวที่ทำลายชื่อเสียงของเหมิงลู่ประมุขแห่งเผ่าเหมิงเป็นอย่างมาก กล่าวกันว่าเขาเริ่มหยิ่งยโสและบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ
ข่าวดังกล่าวเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงมาก่อน และทุกอย่างก็เข้าหูของอวี้ชิงลั่ว
อวี้ชิงลั่วลดขอบหมวกลงเล็กน้อย แล้ววางแท่งเงินเล็ก ๆ ลงบนโต๊ะ ก่อนเดินออกจากร้านอาหาร
นางมีความรู้สึกว่าพายุที่กำลังขับเคลื่อนทุกอย่างอยู่เบื้องหลังกำลังจะมา ข่าวลือเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่เหมิงลู่ สันนิษฐานได้ว่าคนผู้นั้นต้องการโค่นประมุข
แต่ในปัจจุบันนั้น คนเดียวที่เหมาะสมกับตำแหน่งประมุขของเผ่าเหมิงก็คือเหมิงลู่ ชาวเหมิงมีกฎว่าผู้ที่มีปานรูปดอกไม้เท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เป็นประมุขของชาวเหมิง แต่ตอนนี้มีชาวเหมิงจำนวนน้อยมากที่มีปานดังกล่าว และแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาคนอื่นมาแทนที่ประมุขคนปัจจุบัน
เหมิงลู่ฉลาดและมีความสามารถ อีกทั้งยังได้รับการแต่งตั้งจากประมุขคนก่อนด้วยตัวเอง ดังนั้นการโค่นล้มเขาจึงไม่ง่ายเลย
อวี้ชิงลั่วนั่งอยู่ในรถม้า พิงผนังด้านข้างของรถม้าครุ่นคิดเงียบ ๆ ว่าคนอื่นที่มีปานจะทำได้หรือไม่? หรือว่าจะเป็น… แค่คนธรรมดาในหมู่ชาวเหมิงที่ไม่ยอมด้อยกว่าคนอื่น และทะเยอทะยานจนทำเช่นนี้ได้?
ถ้าเป็นเช่นนั้นขอบเขตก็กว้างมาก
“เฮ้ เจ้าเคยได้ยินหรือไม่? ผู้อาวุโสสกุลลี่ก็ถูกท่านประมุขจับกุมเมื่อนานมาแล้วเช่นกัน ข้าได้ยินมาว่าเป็นเพราะผู้อาวุโสสกุลลี่รู้เรื่องที่น่าอับอายของท่านประมุข ดังนั้นท่านประมุขจึงหาข้ออ้างจับกุมตัวเขาไป”
ทันใดนั้นก็มีเสียงแว่วมาข้างหูของนาง อวี้ชิงลั่วนั่งตัวตรง ก่อนขมวดคิ้วเปิดม่านรถม้า แล้วพูดกับคนขับรถม้าที่อยู่ด้านนอกว่า “หยุดก่อน ข้าอยากลง”
“ขอรับ” คนขับหยุดรถม้าอย่างรวดเร็ว และก่อนที่รถม้าจะหยุด อวี้ชิงลั่วก็กระโดดลงจากรถม้าแล้ว
นางหันหน้าไปมอง และพบว่าคนที่รถม้าเพิ่งแล่นผ่านมานั้นอยู่ทางซ้ายของนาง และดูเหมือนว่าเขากำลังพูดคุยกับผู้คนรอบตัวอยู่
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วและรีบเดินไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อนางเข้ามาใกล้ นางก็ลดความเร็วลง ขณะเดินตามหลังคนผู้นั้น โดยเงี่ยหูฟังบทสนทนาของพวกเขา
เสียงของทั้งสองไม่ดังแต่ก็ไม่เบาเกินไป อวี้ชิงลั่วตามหลังพวกเขาและได้ยินอย่างชัดเจน
“ใช่แล้ว ข้าก็เคยได้ยินเรื่องนี้เช่นกัน แต่ผู้อาวุโสสกุลลี่คนนี้ก็โชคดีมาก โชคดีที่เขาได้รับการช่วยเหลือจากใครบางคน ไม่เช่นนั้นเผ่าเหมิงของเราจะสูญเสียผู้อาวุโสที่ดีไปอีกคน”
“ช่วงนี้ท่านประมุขได้ทำสิ่งชั่วร้ายมามากมาย ข้าได้ยินมาว่าเมื่อก่อนเขาเป็นคนใจกว้างและมีเมตตายิ่งนัก แต่ตอนนี้ข้าคิดดูแล้ว มันเป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี”
“ชู่ว คำพูดเหล่านี้ไม่อาจพูดตามอำเภอใจได้ ตอนนี้ท่านประมุขกล้าจัดการกับผู้อาวุโสหลายคนแล้ว คนธรรมดาอย่างเราอาจต้องทุกข์ทรมานมากกว่านี้อีก”
“เจ้าจะกลัวอะไร ใคร ๆ ก็พูดถึงเรื่องนี้กันไปทั่ว ตอนนี้ข่าวลือไม่อาจปิดบังได้แล้ว ผู้อาวุโสสกุลหมิงถูกลอบสังหาร หลานสาวของผู้อาวุโสสกุลเยว่ถูกขังอยู่ในคฤหาสน์ใหญ่ และผู้อาวุโสสกุลลี่ก็ถูกท่านประมุขจับไปขังไว้ด้วยเหตุผลที่อธิบายไม่ได้ เรื่องราวต่าง ๆ เริ่มแปลกขึ้นเรื่อย ๆ และข้าได้ยินมาว่าคนต่อไปที่ท่านประมุขจะจัดการคือผู้อาวุโสสกุลเซี่ยง ในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่วันนี้ก็เกิดเรื่องกับผู้อาวุโสของเผ่าเหมิงทุกคนแล้ว บางทีมันอาจเป็นเหมือนข่าวลือจริง ๆ ก็ได้ ที่บอกว่าท่านประมุขต้องการยกเลิกกฎของเผ่าเหมิง ตรงที่ให้เด็กที่มีปานรูปดอกไม้เป็นผู้สืบทอด เช่นเดียวกับอีกสี่อาณาจักร เพื่อให้ลูกชายของเขาได้เป็นประมุขคนต่อไป”
“จริงหรือ? มีคำพูดเช่นนี้ด้วยหรือ? ไม่แปลกใจเลยที่เขาต้องการจัดการกับผู้อาวุโสของเผ่าหลายคน สุดท้ายผู้อาวุโสของเผ่าคนอื่น ๆ ก็จะไม่เห็นด้วยกับความคิดเหลวไหลของเขาแน่นอน ผู้อาวุโสสกุลหมิงมีคุณธรรมและบารมีเปี่ยมล้น แต่เขาไม่เห็นด้วยจึงต้องถูกลอบสังหาร ดังนั้นมันจึงสมเหตุสมผลมากที่เขาถูกลอบสังหาร”
สมเหตุสมผลกับผีน่ะสิ อวี้ชิงลั่วนึกอยากจะเย็บปากของพวกเขาเข้าด้วยกันโดยพลัน
การคาดเดาของพวกเขาช่างอุกอาจจริง ๆ ประมุขคนต่อไปจะเป็นลูกชายของเขางั้นหรือ? ไม่ต้องพูดถึงนิสัยของเหมิงลู่หรอก นางเคยได้ยินเรื่องของลูกชายของเหมิงลู่จากเย่ซิวตู๋ว่าลูกชายของเหมิงลู่ออกไปผจญภัยนอกเผ่าเหมิงตั้งนานแล้ว เดินทางหลายพันลี้ ท่องไปในใต้หล้า
สิ่งที่เย่ซิวตู๋พูดต้องเป็นความจริง
อวี้ชิงลั่วหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเดินกลับไป
เท่านั้น…
ผู้อาวุโสสกุลลี่และเหมิงเคอออกมาจากคุกแล้วทั้งคู่ เกรงว่าพวกเขาจะไม่ปลอดภัย
สองคนนั้นเกลียดชังนางกับหนานหนานเป็นที่สุด ตอนนี้นางมาอยู่ที่นี่ ทำให้แทบไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่หนานหนาน… ไม่รู้ว่าเขาจะตกเป็นเป้าหมายของพวกเขาหรือไม่
จู่ ๆ อวี้ชิงลั่วก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย นางต้องการกลับไปหาเย่ซิวตู๋ และกลับไปหาหนานหนาน
ทว่าสองวันที่ผ่านมา อาการบาดเจ็บของซ่างกวนจิ่นกำเริบและเริ่มแย่ลงอีกครั้ง อีกทั้งผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาก็ยังหาเขาไม่พบ และไม่รู้ว่าเขาไปไหน
อวี้ชิงลั่วตั้งใจวาดลวดลายสัญลักษณ์ที่ซ่างกวนจิ่นมอบให้นางจากระยะไกล แต่ผลที่ได้ก็ไม่ค่อยดีนัก
อวี้ชิงลั่วเข้าไปในรถม้าอีกครั้ง และบอกให้คนขับรถม้ากลับไปที่โรงเตี๊ยม
ทันทีที่ลงจากรถม้า เสี่ยวเอ้อก็ทักทายนางทันที “ฮูหยิน ท่านกลับมาแล้ว ข้าส่งอาหารกลางวันให้สามีของท่านตามคำสั่งของท่านแล้วขอรับ ท่านไม่ต้องกังวลนะขอรับ”
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุก สามี ฮูหยิน… นางรู้สึกว่าขนหัวลุกเมื่อได้ยินคำเรียกทั้งสองนี้
อวี้ชิงลั่วต้องการย้ายไปพักที่โรงเตี๊ยมอื่นมานานแล้ว แต่ซ่างกวนจิ่นไม่สามารถขยับตัวตอนนี้ได้จริง ๆ ไม่เช่นนั้นอาการของเขาจะแย่ลง และนางก็คงต้องขนหัวลุกอีกหลายครั้ง
เมื่อเสี่ยวเอ้อเห็นว่านางยังคงเงียบ และไม่สามารถมองเห็นสีหน้าใต้หมวกผ้าโปร่งของนางได้อย่างชัดเจน เสี่ยวเอ้อก็เดาว่านางอาจจะอารมณ์ไม่ดี ดังนั้นเขาจึงได้แต่ถอยหลังออกไปอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย และหยุดพูดกับนาง
อวี้ชิงลั่วแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อไม่มีใครพูดคำว่าสามีให้นางได้ยิน นางก็รู้สึกดีขึ้น
เมื่อเดินเข้าไปในโถงก็พบว่ามีคนมากมายนั่งอยู่สองสามคน และได้ยินคนพูดเรื่องเหมิงลู่ไม่หยุด ซึ่งทำให้นางรู้สึกระคายหูยิ่งนัก
ครั้งนี้เถ้าแก่ไม่ได้ขับไล่คนเหล่านี้ออกไป ดังนั้นนางจึงรู้สึกหวั่นไหวอยู่ในใจ ว่าคนจะเชื่อครึ่ง ๆ กลาง ๆ กับข่าวลือดังกล่าว
อวี้ชิงลั่วลอบถอนหายใจ สามคนกลายเป็นเสือ*ได้จริง ๆ แม้แต่คนที่สนับสนุนเหมิงลู่อย่างเถ้าแก่ก็ยังเปลี่ยนใจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าข่าวลือนั้นทรงพลังเพียงใด
* สามคนกลายเป็นเสือ (三人成虎) เป็นสำนวน หมายถึง เมื่อคนพูดถึงกันเยอะ จากข่าวลือจะกลายเป็นข่าวจริง
นางส่ายศีรษะ แทนที่จะตั้งใจฟังสิ่งที่คนเหล่านั้นคุยกัน นางกลับเดินขึ้นบันไดไป
ทว่าขณะที่นางก้าวไป จู่ ๆ ก็มีคนลงมาจากด้านบนและชนเข้ากับนางอย่างแรง ทำให้หมวกผ้าโปร่งหลุดออกจากศีรษะของนาง
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วแล้วรีบหันหน้าหนี เมื่อชายคนนั้นเห็นว่าเป็นนาง ร่องรอยของความผิดปกติก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาก้มหน้าลงทันทีและรีบออกจากโรงเตี๊ยม
…………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ชนกับใครเข้าล่ะเนี่ย แล้วคนๆ นั้นอยู่ฝ่ายไหนกัน
ไหหม่า(海馬)