อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 804 รู้สึกแปลก ๆ
ตอนที่ 804 รู้สึกแปลก ๆ
ตอนที่ 804 รู้สึกแปลก ๆ
อวี้ชิงลั่วหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะยืนขึ้นอย่างสงบ แล้วขยับเข้าไปใกล้โต๊ะต้อนรับเล็กน้อย ก่อนซ่อนตัวอย่างเงียบเชียบ
เสียงของคนผู้นั้นดังขึ้นเป็นระยะ ๆ “สตรีผู้นั้นดูอ่อนโยน นางมีกิริยาวาจาเรียบร้อยมาก นางอยู่กับบุรุษที่บาดเจ็บสาหัส เขาหน้าตาหล่อเหลาและพูดน้อย… ใช่แล้ว พวกเขาเป็นน้องสาวและน้องเขยของข้า พวกเราหลงทางพรากจากกัน ข้าจึงมาตามหา… ใช่ใช่ นี่คือเงินห้าตำลึง เถ้าแก่ช่วยเก็บมันไว้เถิด… อืม ใช่ จริงหรือ? ขอบคุณเถ้าแก่”
รูม่านตาของอวี้ชิงลั่วหดตัวอย่างรุนแรง นางรู้สึกแปลก ๆ
สตรีคนนั้นได้เดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองแล้ว
อวี้ชิงลั่วยืนอยู่ชั้นล่าง ขณะจ้องมองแผ่นหลังของนางด้วยสีหน้าคาดเดาอะไรไม่ถูก
ถูกต้อง นางจำเสียงนั้นได้ แม้ว่าใบหน้าของสตรีคนนั้นจะมอมแมมและมีไฝสองเม็ดก็ตาม แต่เสียงนั้นช่างคุ้นเคยยิ่งนัก และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม นางจะไม่มีวันลืมเสียงนั้น
คนผู้นี้… คือเหมิงเคอ เหมิงเคอคือผู้ที่หลบหนีออกจากคุกมาได้อย่างไร้ร่องรอย
เหมิงเคอกล้ามาหานางในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้จริง ๆ มันคือการแก้แค้นหรือ? หรือว่ามีจุดประสงค์อื่น?
อวี้ชิงลั่วรู้สึกว่าอันแรกมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่า ตอนนี้เหมิงเคอเกลียดนางเข้ากระดูกดำ นางหนีออกจากคุกและได้อิสรภาพกลับคืนมา ฉะนั้นนางย่อมปรารถนาจะกวาดล้างศัตรูทุกคนของนาง
แต่เหมิงเคออยู่คนเดียว แล้วนางจะทำอะไรได้? นางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอ ไร้ซึ่งวรยุทธ์ นับประสาอะไรกับการจัดการกับนาง ต่อให้ต้องสู้กับเยว่ซิน นางก็ไม่อาจเอาชนะได้ด้วยซ้ำ
อวี้ชิงลั่วยืนอยู่ตรงจุดนั้นขณะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เพื่อสังเกตทั้งห้องโถงของโรงเตี๊ยมอย่างระมัดระวัง
มองไม่เห็นว่ามีใครอยู่หน้าประตูเลย แต่ก็ไม่กล้านิ่งนอนใจ
นางกังวลว่าเหมิงเคอจะไม่ได้มาคนเดียว หากมีผู้อาวุโสสกุลลี่หรือคนอื่นซ่อนตัวอยู่ในความมืด และเหมิงเคอเป็นเพียงเหยื่อล่อ นางก็จะตกหลุมพรางจริง ๆ
ชั้นบนมีเพียงซ่างกวนจิ่นอยู่ และตั้งแต่เห็นองครักษ์ของซ่างกวนจิ่นก่อนหน้านี้ อวี้ชิงลั่วก็รู้สึกว่าตอนนี้น่าจะมีใครสักคนคอยปกป้องเขาอยู่
ถ้ามีเพียงเหมิงเคอคนเดียวก็คงทำร้ายใครไม่ได้แน่นอน
อวี้ชิงลั่วยืนอยู่ในความมืด ขณะกำหมัดแน่น ดวงตาของนางจับจ้องไปที่ชั้นสอง กลั้นหายใจและตั้งสมาธิ
เหมิงเคอปรากฏตัวที่ทางเดินบนชั้นสอง ขณะที่อวี้ชิงลั่วยืนห่างออกไปเล็กน้อย นางเห็นเหมิงเคอมองไปที่ประตู แล้วเอื้อมมือไปเคาะประตู หลังจากนั้นไม่นานประตูก็เปิดออก แล้วเหมิงเคอก็เดินเข้าไป
อวี้ชิงลั่วกัดฟันตามขึ้นไปที่ชั้นสอง แต่นางไม่กล้าเข้าใกล้เกินไป
นานแล้วก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวในห้อง อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วและรออยู่ข้างนอกสักพัก
ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดออก แล้วชายร่างสูงหน้าตาเฉยเมยก็เดินออกมาจากด้านใน ชายคนนั้นเดินด้วยฝีเท้าแผ่วเบา และเคลื่อนไหวอย่างเรียบร้อย เขาแบกถุงกระสอบไว้บนหลัง แค่มองก็รู้ว่าสิ่งที่อยู่ข้างในน่าจะหนักมาก
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วขณะเหลือบมองถุงกระสอบ มองชัด ๆ ก็เห็นว่าน่าจะมีร่างคนอยู่ข้างใน
ดวงตาของอวี้ชิงลั่วเบิกกว้างทันที คงไม่ใช่เหมิงเคอใช่หรือไม่?
ชายคนนั้นก้าวต่อไปไปสองสามก้าว แล้วจู่ ๆ ก็หันกลับมา แล้วพุ่งเข้าหาอวี้ชิงลั่ว ทว่าเมื่อเห็นว่าเป็นนาง เขาก็หยุดการโจมตีทันที
เขามองไปยังอวี้ชิงลั่วที่ยืนอยู่ ร่องรอยของความโกรธปรากฏขึ้นบนสีหน้าเย็นชาของเขา
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็สะบัดแขนเสื้อแล้วพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา ก่อนหันหลังเดินไปทางขวา การเคลื่อนไหวนั้นรวดเร็วมาก เพียงชั่วพริบตาก็ไม่มีใครเห็นเลย
อวี้ชิงลั่วรู้ว่าเขากำลังจะจากไปพร้อมกับกระสอบ ใต้หน้าต่างห้องของซ่างกวนจิ่นมีทางเดินอยู่ ดังนั้นเขาจึงต้องออกไปอีกฝั่ง
แต่วินาทีต่อมา ชายคนนั้นก็กลับมาหานางอีกครั้ง เขาเม้มปากราวกับว่ากำลังอดทนกับอะไรบางอย่าง จากนั้นครู่หนึ่งเขาก็พูดเสียงเบาว่า “ในเมื่อแม่นางรู้ว่ามีคนบุกเข้าไปในห้องของนายท่าน เหตุใดจึงไม่รีบขวางไว้เล่า? หากคนที่เข้าไปเป็นจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งพอจะทำร้ายนายท่าน ตอนนี้นายท่านก็จะกำลังตกอยู่ในอันตรายไม่ใช่หรือ? นายท่านทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อแม่นางมามากแล้ว มันไม่มีเหตุผลเลยสักนิดที่แม่นางจะทำเช่นนี้”
อวี้ชิงลั่วหันหน้าไปชำเลืองมองถุงกระสอบที่สะพายอยู่บนไหล่ของเขา แล้วจ้องมองใบหน้านิ่งเฉยของเขาอยู่นาน
ทันใดนั้นก็โต้กลับ “แล้วเจ้าเล่า? ในเมื่อเจ้าพบเจ้านายของเจ้าตั้งนานแล้ว เหตุใดเจ้าไม่ปรากฏตัว? เจ้าไม่ได้คอยเฝ้าห้องของเขาหรอกหรือ? แล้วข้าจะเข้าไปทำบ้าอะไร?”
“ท่าน…” ชายคนนั้นพูดไม่ออก เมื่อเขาได้พบคนอย่างอวี้ชิงลั่ว เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดไม่ออก หลังจากถูกคำพูดของนางโต้แย้งกลับ
ใช่แล้ว พวกเขาพบเจ้านายของพวกเขาตั้งแต่วันแรกแล้ว และพวกเขาก็คอยปกป้องคุ้มครองเจ้านายอยู่ตลอด
พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าอวี้ชิงลั่วพูดและทำอะไรบ้างในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงรู้สึกไม่พอใจ
สถานะของนายท่านคืออะไร? ไม่มีใครในอาณาจักรจิงเหลยกล้าดูหมิ่นเขา สตรีเช่นไรที่จะปฏิเสธเขา? แต่เขาตกหลุมรักนางผู้เป็นหญิงที่ไม่บริสุทธิ์และมีลูกชายแล้วหนึ่งคน แต่สตรีผู้นี้โง่เขลายิ่งนัก แม้ว่าเจ้านายจะเสี่ยงชีวิตเพื่อนาง นางก็ยังคงไม่แยแส ซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้เจ้านายครั้งแล้วครั้งเล่า
ทำให้ความพยายามของเจ้านายผู้สูงส่งของพวกเขาดูสูญเปล่า
เขาจ้องมองอวี้ชิงลั่วด้วยสายตาเหยียดหยาม จากนั้นครู่หนึ่งก็หันหลังเดินจากไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
อวี้ชิงลั่วจ้องมองแผ่นหลังของเขาขณะครุ่นคิด
หลังจากนั้นไม่นานนางก็ถอนหายใจยาว แล้วเดินไปที่ห้องของซ่างกวนจิ่น
ทันทีที่ประตูถูกผลักออก เสียงเย็นชาของซ่างกวนจิ่นก็ดังขึ้น “เจ้ายอมกลับมาแล้ว”
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุกสองครั้ง นางเดินไปนั่งที่โต๊ะ แล้วเทน้ำใส่แก้วยกขึ้นจิบเงียบ ๆ
เมื่อผ่านไปนานแล้ว ซ่างกวนจิ่นก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากนาง เขาก็เริ่มหงุดหงิดมากขึ้น “อวี้ชิงลั่ว เรากำลังพูดกับเจ้า”
“ท่านอุปราชต้องการบอกอะไรกับข้าหรือไม่?” อวี้ชิงลั่วหันกลับมา และเห็นซ่างกวนจิ่นนอนเอนกายพิงหัวเตียงด้วยสีหน้ามืดมน เขาจ้องมองนางด้วยสายตาราวกับจะกลืนกินนางเข้าไปได้
ซ่างกวนจิ่นรู้สึกว่าท่าทางของอวี้ชิงลั่วแตกต่างไปมาก ตั้งแต่นางเข้าประตูมาในครั้งนี้ แต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามีอะไรผิดปกติ และไม่สามารถอธิบายได้ เขาไม่อาจเอ่ยวาจาตำหนินางออกไปได้
เขาทำได้เพียงพึมพำด้วยเสียงเย็นชา ขณะหันหน้าหลบสายตาของนาง “เมื่อสักครู่นี้มีคนเข้ามาหาเจ้า”
“ใคร?”
“เหมิงเคอ” ซ่างกวนจิ่นพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ร่างกายของข้าขยับได้แล้ว เปลี่ยนไปอยู่ที่อื่นกันเถิด”
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า “ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน ให้องครักษ์กลับมาช่วยเก็บข้าวของของท่านเถิด อย่างไรเสีย ข้าคิดว่าพวกเขาน่าจะอยู่ไม่ไกล”
ทันทีที่ซ่างกวนจิ่นได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาก็มืดมนลงอีกครั้ง
อวี้ชิงลั่วลุกขึ้นเดินออกไปที่ประตู แต่หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ ๆ นางก็หยุด แล้วหันหน้าไปถามเขาว่า “เหมิงเคอจะเป็นอย่างไรบ้าง?”
“เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า?” ซ่างกวนจิ่นมองนางด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ไม่ใช่ว่าข้างนอกมีคนของเหมิงเคอล้อมอยู่นะ เหมือนส่งตัวเองมาเป็นเหยื่อล่องี้
ไหหม่า(海馬)