อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 808 การคาดเดาของอวี้ชิงลั่ว
ตอนที่ 808 การคาดเดาของอวี้ชิงลั่ว
ตอนที่ 808 การคาดเดาของอวี้ชิงลั่ว
ล่าสุดนางกล่าวถึงเรื่องนี้ในจดหมายว่า ให้รอจนกว่าจะได้พบกัน แล้วค่อยเล่ารายละเอียดเรื่องนี้
แต่… เรื่องซ่างกวนจิ่นเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับเย่ซิวตู๋ ถ้านางเล่าไปก็เดาได้ว่าเย่ซิวตู๋จะต้องอึดอัดแน่นอน
แต่ถ้าไม่บอก ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่อาจปิดบังได้
คราวนี้นางจึงเขียนเรื่องนั้นลงไปในจดหมาย ซึ่งเดิมทียังคิดว่ามันจะดีกว่าถ้านางเขียนเล่าในจดหมาย โดยไม่ต้องเล่าต่อหน้าเย่ซิวตู๋
เขาจะรู้ได้อย่างไรว่านั่นเป็นเพียงการพบกัน อีกทั้งเขายังเริ่มพูดถึงก่อนด้วย นางควรจะเล่าต่อหน้าเขาอย่างไรดี?
“เกิดอะไรขึ้น? เล่าไม่ได้หรือ?” เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว แล้วหันไปด้านข้าง ก่อนจะไหวไหล่มองลงมาที่นาง
สายตาของอวี้ชิงลั่วเปลี่ยนไป ในสายตาของเย่ซิวตู๋ นางดูเหมือนมีความผิดบางอย่างปิดบังไว้
“ชิงเอ๋อร์!!” เย่ซิวตู๋เอ่ยกดเสียงต่ำ แต่แล้วก็คิดได้ว่าเขาตั้งใจจะช่วยเหลือนางตั้งแต่แรก และตอนนี้ชิงเอ๋อร์รอดพ้นจากอันตรายแล้ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดมันก็คงเป็นเรื่องยาก จึงไม่ควรเอ่ยน้ำเสียงเช่นนั้นกับนาง
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เย่ซิวตู๋ก็เม้มปากและนอนลงอีกครั้ง ลดเสียงลงขณะพูดว่า “ช่างมันเถิด หากเจ้าไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า”
ทันทีที่อวี้ชิงลั่วได้ยินเสียงของเขา นางก็รู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาทันทีและคิดว่าเขาคงโกรธยิ่งกว่าเดิม เมื่อรู้สึกว่าการกระทำเช่นนี้จะทำสร้างความเหินห่างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นางก็พลิกตัวมาทับหน้าอกของเขา แล้วพูดว่า “ไม่ใช่ว่าข้าเล่าไม่ได้ เพียงแต่ว่า… ถ้าเล่าแล้วท่านอย่าไม่พอใจนะ”
“???” สีหน้าของเย่ซิวตู๋จริงจัง เพราะเหตุใดกัน ชิงเอ๋อร์มีความลับอื่นอยู่เบื้องหลังการหลบหนีหรือ?
อวี้ชิงลั่วปวดหัว จิตใจของนางปั่นป่วนและไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี นางเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะลำดับคำพูดของตน “วันนั้น คนที่จับตัวข้าไปคือเหมิงพั่ว ข้าเล่าเรื่องนี้ในจดหมายแล้ว เขาไม่ได้ทำร้ายข้า แต่เขาขังข้าไว้ในห้องลับ และจับข้าล่ามโซ่ไว้ เพื่อไม่ให้ข้าเดินไปมาอย่างอิสระ แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิบัติกับข้าอย่างเลวร้าย เขายอมให้คนอื่นหาของที่ข้าอยากกินมาให้”
เมื่อนางพูดเช่นนี้จบ นางก็ลอบเงยหน้าขึ้นมองเย่ซิวตู๋
แน่นอนว่าคิ้วของเย่ซิวตู๋ขมวดมุ่น ร่องรอยของความสงสัยฉายผ่านดวงตาของเขา “เหตุใดเขาจึงดีกับเจ้านัก?”
“ฟังจากที่เขาพูด ดูเหมือนว่ามีใครบางคนหมายปองข้าอยู่ และเหมิงพั่วต้องการมอบข้าให้กับเขา”
สีหน้าของเย่ซิวตู๋ฉายแววอันตรายทันที อวี้ชิงลั่วรีบระงับอารมณ์เขาด้วยการพูดว่า “อันที่จริงมันก็ดีเหมือนกันไม่ใช่หรือ อย่างน้อยข้าก็ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ…”
เย่ซิวตู๋จ้องมองนาง แต่ก็รู้สึกว่าสิ่งที่นางพูดมีเหตุผล ผลลัพธ์สุดท้ายที่เขาต้องการเห็นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับนางตอนนี้ ลองเทียบแล้วก็เห็นว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
แต่เมื่อเขานึกถึงจุดประสงค์ที่เหมิงพั่วจับตัวนางไป ในใจของเขาก็มีคลื่นกระเพื่อมรุนแรงเต็มไปด้วยกลิ่นอายมฤตยู
ความขัดแย้งระหว่างสองอารมณ์ ทำให้การแสดงออกของเขามืดมนยิ่งกว่าเดิม
“…ท่าน ยังอยากฟังอยู่หรือไม่?” อวี้ชิงลั่วรู้สึกว่าเขาไม่สบายใจเมื่อได้ฟังเรื่องนี้ ถ้าเขารู้ว่าซ่างกวนจิ่นเป็นคนช่วยนางไว้ เขาก็อาจจะออกไปคิดบัญชีกับอีกฝ่ายทันทีก็ได้
“ฟัง!” เย่ซิวตู๋กัดฟันตอบ
อวี้ชิงลั่วลูบหว่างคิ้วของนาง แล้วพูดต่อ “อันที่จริงข้าก็คิดเหมือนกัน ว่าข้าคงไม่อาจหนีรอดจากเงื้อมมือของเหมิงพั่วได้ บางทีอาจต้องรอให้เขาส่งตัวข้าให้คนอื่นก่อน ข้าจึงจะหนีไปได้ แต่โอกาสเป็นไปได้ก็มีเพียงครึ่งเดียว ตราบเท่าที่มีโอกาส ข้าจะไม่ยอมแพ้ ไม่รู้ว่าวันนั้นเหมิงพั่วได้ข่าวอะไร ขณะที่เขาออกไปแล้ว ข้าก็… มีคนเข้ามากลางดึก ข้าคิดว่าเป็นท่าน แต่ภายหลังก็พบว่านั่นคือซ่างกวนจิ่น“
คิ้วของเย่ซิวตู๋ขมวดเข้าหากัน ซ่างกวนจิ่นหรือ? เหตุใดจึงเป็นเขา?
เมื่ออวี้ชิงลั่วเล่าถึงตรงนี้ นางก็ไม่กล้าหยุดพูด นางจึงต้องรีบพูดต่อให้จบทันที “เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และเขาเป็นอุปราชของอาณาจักรจิงเหลย ไม่ว่าข้าจะคิดจากมุมใด ข้าก็ไม่อาจทิ้งเขาไว้คนเดียวได้”
ถ้านางเป็นแค่หมอปีศาจดังเช่นในอดีต นางก็ย่อมไม่ต้องกังวลเรื่องใด และสามารถเลือกช่วยชีวิตคนอื่นได้ตามใจต้องการ
แต่ไม่ใช่ตอนนี้ นางเป็นว่าที่ชายาของท่านอ๋องซิวแห่งอาณาจักรเฟิงชาง ถ้าซ่างกวนจิ่นตายเพื่อนาง มันจะเกี่ยวข้องกับความคับข้องใจระหว่างอาณาจักรเฟิงชางและอาณาจักรจิงเหลย เมื่อทั้งสองอาณาจักรทำสงครามห้ำหั่นกัน ทั้งนางและเย่ซิวตู๋ก็จะกลายเป็นคนบาปชั่วนิรันดร์
การหายใจของเย่ซิวตู๋หนักหน่วง และทุกลมหายใจก็เต็มไปด้วยความร้อน
อวี้ชิงลั่วยังคงซบหน้าอกของเขา จนกระทั่งคำพูดสุดท้ายจบลง นางก็เงยหน้าขึ้นมองเขา
สีหน้าของเย่ซิวตู๋มืดมน และท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดเย้ยหยัน “ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าปฏิเสธที่จะกลับมา จนถึงตอนนี้เจ้าก็ยังต้องการกลับไปกับเขา ซ่างกวนจิ่นมีทักษะบางอย่างจริง ๆ สินะ”
เปลือกตาของอวี้ชิงลั่วกระตุก เมื่อเห็นเขาเป็นเช่นนี้ นางก็รู้ว่าเขากำลังหงุดหงิดมาก
เย่ซิวตู๋กัดริมฝีปากแน่น และผลักนางออกไปแล้วกำลังจะลุกขึ้น
อวี้ชิงลั่วตื่นตระหนก ทันใดนั้นนางก็คว้ามือของเขาไว้ ก่อนผลักเขาลงบนเตียงอีกครั้ง แล้วขึ้นคร่อมเขาทันที
“ข้ายังเล่าไม่จบ ท่านอย่าเพิ่งกังวลสิ”
“เจ้ายังต้องการพูดอะไรอีก? สุดท้ายเจ้าก็จะกลับไปหาเขา” เย่ซิวตู๋มองไปที่อื่น แต่เมื่อหญิงสาวนั่งคร่อมบนตัวเขา เขาก็รู้สึกว่ามีบางตำแหน่งกำลังเริ่มร้อนขึ้นอีกครั้ง
อวี้ชิงลั่วอดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปาก เมื่อเห็นว่าเขาโกรธมากเพียงใด
“ข้าพอจะเดาได้” นางนอนคร่อมร่างเขาอีกครั้ง แล้วโน้มกายลงกระซิบข้างหูเขา
เดิมทีเย่ซิวตู๋ต้องการผลักนางออกไป แต่หลังจากได้ยินคำพูดของอวี้ชิงลั่ว เขาก็ค่อย ๆ นิ่งเงียบไป แทนที่จะใช้มือผลักนางออก เขากลับค่อย ๆ เปลี่ยนไปโอบเอวของนาง เพื่อให้นางแนบชิดกับเขาได้ถนัดขึ้น
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง อวี้ชิงลั่วก็ลุกขึ้นมองเขาด้วยแววตาสดใส
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว “ที่เจ้าพูดมานั้นจริงหรือไม่?”
“จริงสิ”
เย่ซิวตู๋ยังคงเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นรีบลุกขึ้นนั่งและกอดนางไว้บนตักของเขา สีหน้าของเขาจริงจังมากขึ้น “หากเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ยิ่งควรรีบกลับไปกับข้า”
“…” อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว “เย่ซิวตู๋ ท่านคงไม่อยากให้เรื่องไม่คืบหน้าใช่หรือไม่ อีกทั้งข้ายังต้องการตามหาแม่นมเก๋อด้วย”
“ไม่ต้องตามหาแม่นมเก๋อหรอก ข้ารู้แล้วว่านางอยู่ที่ใด”
อวี้ชิงลั่วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วผุดลุกขึ้นทันที ถ้าไม่ใช่เพราะสายตาอันว่องไวและมือที่รวดเร็วของเย่ซิวตู๋ นางคงหงายหลังล้มลงกับพื้นแล้ว
ดวงตาของนางเป็นประกาย “ท่านพูดว่าอะไรนะ? พูดอีกครั้งสิ”
“ข้าบอกว่าข้าได้ข่าวเกี่ยวกับแม่นมเก๋อแล้ว”
“จริงหรือ?” อวี้ชิงลั่วไม่อาจซ่อนความตื่นเต้นได้ แม่นมเก๋อ ในที่สุดนางก็จะได้พบแม่นมเก๋อแล้ว “ท่านหานางเจอได้อย่างไร? ท่าน…”
เย่ซิวตู๋ถอนหายใจเบา ๆ “เจ้าคิดว่าข้าอยู่ที่นี่มาตั้งนานเพื่อเล่นสนุกหรือ? ไม่เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงรู้ว่าข้ารู้ว่าเจ้าและหนานหนานมาเยือนดินแดนเหมิง? ตอนที่ข้าอยู่ในเมืองหลวงของอาณาจักรเฟิงชาง ข้ารู้เบาะแสของแม่นมเก๋อแล้ว ดังนั้นข้าจึงตามมาที่นี่ ทันทีที่ข้ารู้เรื่องตอนอยู่ในเมืองหลวง ข้าก็เริ่มลงมือแล้ว เป็นเพราะเจ้าเองที่ไม่ยอมบอกข้าตั้งแต่ต้นจนจบ และยืนกรานจะหาเรื่องใส่ตัวเอง”
นัยน์ตาของอวี้ชิงลั่วไม่อาจซ่อนเร้นความสุขที่เอ่อล้นได้ นางกอดเย่ซิวตู๋และจุมพิตเขาอย่างดูดดื่ม
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ชิงลั่วกระซิบอะไรไปนะ ท่านอ๋องถึงยอมสงบลงแบบนี้
ไหหม่า(海馬)