อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 82 ไข่มุกเอ๋ยเจ้าอยู่ที่ใด
ตอนที่ 82 ไข่มุกเอ๋ยเจ้าอยู่ที่ใด
สำหรับห้องลับที่อยู่ด้านหลังสวน หนานหนานไม่ได้รู้สึกแปลกที่แม้แต่น้อย เขานอนอยู่ในนั้นมาหนึ่งคืนแล้ว และถือโอกาสเดินเล่นรอบ ๆ จับสังเกตการเคลื่อนไหวตอนที่เย่ซิวตู๋และโม่เสียนเดินเข้าออกด้วย จึงทำให้ทราบว่าปุ่มเปิดปิดนั้นอยู่ที่ใด
ตามหาไข่มุกครั้งนี้ ย่อมมิอาจบอกให้ท่านแม่รับรู้ และมิอาจบอกคนอื่น ๆ ให้รู้ด้วย
ด้วยเหตุนี้ ตอนที่อวี้ชิงลั่วยังคงแช่น้ำอย่างสบายใจ เด็กน้อยก็ได้หายไปแล้ว
หลังจากบรรยากาศเงียบงันไปพักใหญ่ อวี้ชิงลั่วจึงขมวดคิ้วเบา ๆ มองดูระลอกคลื่นน้ำที่ค่อย ๆ นิ่งสงบลง และเรียกเพื่อถามหยั่งเชิง “หนานหนาน…หนานหนาน?”
ไม่มีคนขานรับ แม้แต่เสียงแค่นเบา ๆ ด้วยความเงอะงะอันคุ้นเคยนั้นก็ไม่มี
อวี้ชิงลั่วรู้สึกประหลาดใจมาก จึงลุกขึ้นเช็ดน้ำออกจากเรือนร่าง เปลี่ยนเป็นชุดใหม่ทั้งชุดและเดินออกมาจากด้านในห้อง
ด้านนอกมีลมเย็นพัดผ่าน ความเย็นกระทบเข้ากับแขนของนาง ทำให้นางตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว
นางมองประตูห้องที่ว่างเปล่า มุมปากพลันกระตุกขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่
หลินมาเดินผ่านมาทางนี้พอดี ในมือของนางถือเสื้อคลุมบาง ๆ หนึ่งตัว ตอนที่เห็นอวี้ชิงลั่วก็แย้มยิ้มเล็กน้อยและโค้งกายแสดงความเคารพ “แม่นางอวี้ ลมยามราตรีค่อนข้างเย็น คลุมเสื้อคลุมหน่อยนะเจ้าคะ”
นี่เป็นสิ่งที่นายท่านกำชับพวกนางเป็นพิเศษตั้งแต่เช้าว่าให้รีบเย็บออกมา ทั้งวัสดุและงานฝีมือต่างก็ใช้ความพิถีพิถันมิน้อย
นายท่านใส่ใจต่อแม่นางอวี้มากจริง ๆ
อันที่จริงพวกนางต่างก็มีความสุขที่ได้เห็น เพราะหวังว่านายท่านจะได้เจอกับสตรีสักคนเพื่อเป็นภรรยาและให้กำเนิดบุตร ตอนนี้ก็ดีแล้ว บุตรชายก็ออกมาแล้ว ทั้งยังเป็นบุตรชายที่ทำให้ผู้คนรักใคร่ มารดาของเด็กคนนี้ไม่เหมือนกับคุณหนูของตระกูลทั่วไป ที่เห็นหน้านายท่านแล้วทำตัวติดหนึบราวกับไม่เคยเจอบุรุษมาแปดชาติ แม่นางอวี้มีภาพลักษณ์ที่สง่างามและเป็นมารดาของหนานหนาน ทั้งยังเป็นผู้มีบุญคุณที่ช่วยชีวิตนายท่านไว้ หากนางและนายท่านได้อยู่ด้วยกันหลังจากนี้จะดีขนาดไหนกันนะ
ติดเพียงว่าไม่รู้ประวัติความเป็นมาของนาง แต่ก็ไม่เป็นไร ในเมื่อนายท่านยังไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ พวกนางที่เป็นคนรับใช้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
อวี้ชิงลั่วพยักหน้าให้กับความหวังดีของหลินมาเบา ๆ สตรีผู้นี้มีอายุไล่เลี่ยกับแม่นมเก๋อ แม้จะไม่ได้ไปมาหาสู่กันเท่าไรนัก แต่ก็ทราบได้ว่าเป็นคนนิสัยดี หลังจากนำเสื้อคลุมตัว อวี้ชิงลั่วจึงเงยหน้าถาม “หลินมา เห็นหนานหนานหรือไม่?”
“หนานหนาน?” หลินมาชะงัก พยักหน้า “เห็นเจ้าค่ะ เมื่อครู่เห็นถือเงินสองถุงนั้นเดินไปที่สวนด้านหลัง ถามว่าจะไปทำอะไร เขาก็ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ บอกว่าไปทำธุระ”
เด็กน้อยคนนั้นก็น่าสนใจจริง ๆ ถือถุงเงินสองถุงนั้นทั้งวันแล้ว ไม่กลัวเหนื่อยบ้างเลย
ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ? อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว นางกลอกตารอบหนึ่ง ทราบได้ในทันทีว่าเจ้าเด็กคนนั้นต้องมีความลับปิดบังนางเป็นแน่
“แม่นางอวี้ นี่ก็เย็นย่ำแล้ว แม่นางจะรับประทานอาหารค่ำก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ? คุณชายน้อยบอกว่าอีกเดี๋ยวจะกลับมารับประทานเองเจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า “ไม่ล่ะ ข้าจะไปหาหนานหนานก่อน หลินมา รบกวนท่านไปบอกในครัวให้ข้าหน่อย ว่าไม่ต้องนำสำรับมาวางก่อน”
“เอ๋?” หลินมาชะงัก ก่อนจะพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”
ครั้นกล่าวจบนางก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยและถอยหลังออกไป
อวี้ชิงลั่วหรี่ตาลง การเคลื่อนไหวของหลินมาดูสุภาพและวางตัวอย่างดีเยี่ยม ราวกับผ่านการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ มีความเหมาะสมทั้งการเข้าหาและถอยออกไป
สถานะที่ไม่ธรรมดาของเย่ซิวตู๋ผู้นี้ทำให้นางรู้สึกปวดหัว
นางลอบถอนหายใจ ก่อนจะเบนสายตากลับมา หมุนกายเดินไปยังสวนด้านหลังตามที่หลินมาชี้บอกเมื่อครู่
สวนที่อยู่สวนด้านหลังเงียบสงัด บริเวณนี้ไม่มีแสงสว่าง จึงทำให้มืดสลัวเป็นพิเศษ
อวี้ชิงลั่วชะโงกหน้ามอง หนานหนานมาทำอะไรในสถานที่อันมืดมิดในช่วงเวลาดึก ๆ ดื่น ๆ เช่นนี้?
นางเกิดความสงสัยขึ้นเต็มอก ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในด้วยฝีเท้าอันเบากริบ ราวกับกลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว
อวี้ชิงลั่วเดินหาอยู่ด้านในสวนครึ่งชั่วยามแล้ว แต่ก็ยังไม่เจอหนานหนานแม้แต่เงา ราวกับเขาหายตัวไปกับอากาศอย่างไรอย่างนั้น เพราะไม่มีร่องรอยแม้แต่น้อย
อวี้ชิงลั่วหรี่ตาลงเล็กน้อย ในที่สุดนางก็มาหยุดอยู่ที่ด้านหลังของภูเขาเทียม นิ้วมือกดลงบนหินเบา ๆ และจมหายเข้าไปอยู่ในห้วงแห่งความคิด
แต่นางไม่รู้เลยว่าภายในห้องลับที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของนาง เด็กน้อยที่ถูกตัดสินว่าหายตัวไป บัดนี้กำลังคุกเข่ายงโย่ยงหยกควานหาไข่มุกราตรีที่เขารักอยู่บนพื้น
“ทำไมถึงไม่มีนะ?” หนานหนานเกิดความประหลาดใจแทบแย่แล้ว ภายในใจก็เริ่มเกิดความกังวล
ไข่มุกราตรีมีราคาสูงมาก หากหายไป มิเท่ากับเขาเสียหายครั้งใหญ่หรอกหรือ?
ไม่ได้การล่ะ ต้องหาต่อไป หาให้ละเอียด
เพื่อไข่มุกราตรีเม็ดนั้น ในที่สุดเขาก็วางถุงเงินทั้งสองถุงไว้ข้าง ๆ และจดจ่ออยู่กับการตามหาเครื่องมือผลิตเงินของตนเอง
ถึงอย่างไรที่นี่ก็ไม่มีใครอยู่แล้ว วางเงินไว้ในนี้ก็ไม่มีใครเอาไปอยู่ดี สิ่งนี้ทำให้เขาสบายใจ
หนานหนานพยักหน้าอย่างมั่นใจ เปิดประตูหินบานแรกที่อยู่ตรงหน้า เดินเข้าไปด้านในเพื่อตามหา นอกจากม้านั่งหินสองตัวที่ว่างเปล่า ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเลย
“เอ๋ ตอนเช้าข้าเคยมาที่นี่หรือ?” เขากุมศีรษะ มองดูสถานที่แปลกตาอย่างสมบูรณ์ ก็เกิดความคิดในทันที ก่อนจะกลับไปอีกครั้ง
ภายในห้องลับแห่งนี้แทบจะตัดผ่านทั้งจวน โครงสร้างด้านในทั้งใหญ่และซับซ้อน หนานหนานเดินเข้า ๆ ออก ๆ อยู่สองครั้ง แต่ก็มีคนนำทางทุกครั้ง ตอนนี้เขาเข้ามาเพียงลำพัง ทั้งยังก้มหน้าและยกก้นเดินอีก จะรู้จักทางได้อย่างไรกัน ผ่านไปได้ไม่นาน เขาก็ไม่รู้แล้วว่าเหนือใต้ออกตกคือทางใด
“ไข่มุกราตรี ไข่มุกราตรี ไข่มุกจ๋า ไข่มุกจ๋า เจ้าอยู่ที่ใดกัน? รีบออกมาเร็วเข้า” หนานหนานเดินผ่านประตูหินอีกผ่านหนึ่ง เดินเข้ามาหาด้านใน สถานที่แห่งนี้คล้ายกับห้องนั้นที่เขาอยู่ แต่ก็มีส่วนที่ไม่เหมือนกันอยู่
“อืม คงไม่ใช่ห้องนี้” หนานหนานออกแรงพยักหน้า หมุนกายเดินออกไป เพิกเฉยต่อไข่มุกราตรีเม็ดนั้นที่นอนร้องไห้อย่างเงียบ ๆ อยู่ใต้เตียงอย่างสมบูรณ์
เขาเดินเข้ามาด้านในอีกสองสามก้าว ก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ ราวกับว่าตอนที่ท่านลุงโม่เสียนพาเขาเข้ามานั้นมันไม่ได้มีเส้นทางให้เดินมากมายขนาดนั้น
หนานหนานออกแรงทึ้งเส้นผม ในที่สุดเขาก็ค้นพบว่ารู้ตัวอีกที ดูเหมือนว่าตัวเอง…จะหลงทางเข้าแล้ว
“จริง ๆ เลย เหตุใดท่านพ่อถึงได้สร้างห้องลับที่มีขนาดใหญ่โตขนาดนั้น ข้าหาทางออกไม่เจอแล้ว โถ่เอ๊ย เงินของข้ายังอยู่ตรงนั้นอยู่เลย ตอนนี้จะทำอย่างไร? เอากลับมาไม่ได้แล้ว ไม่ได้การล่ะ รอให้ข้าออกไปได้เมื่อไร ข้าต้องคุยกับท่านพ่อให้ดีแล้ว” หนานหนานแอบขุ่นเคือง โดยเฉพาะตอนที่เขานึกได้ว่าเงินที่เขาอุ้มตลอดทั้งวันถูกวางอยู่ตรงนั้นอย่างโดดเดี่ยว เขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
ท่านพ่อที่เขาพูดถึงกลับเดินผ่านประตูหินสองบานเมื่อหนึ่งก้านธูปก่อนหน้านี้ หยุดอยู่ด้านหน้าประตูไม้บานหนึ่ง ครั้นชะงักไป จู่ ๆ เขาก็รู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวที่หู และแอบรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น
เมื่อนึกถึงสองแม่ลูกคู่นั้นที่อยู่ในจวน เขาก็หลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เขาปรับอารมณ์บนใบหน้าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นมือออกไป ครั้นประตูไม้ถูกเปิดออก ฉากที่อยู่ด้านในนั้นพลันสะท้อนอยู่นัยน์ตาของเขา รวมไปถึงบุรุษวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
เป็นเพราะได้ยินเสียงฝีเท้า บุรุษผู้นั้นจึงเงยหน้าขึ้นทันใด เมื่อเห็นเย่ซิวตู๋ก็รีบคุกเข่าลงอีกครั้ง “กระหม่อมมาเข้าเฝ้าท่านอ๋องเย่พะยะค่ะ”
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เจ้าเด็กหนีแม่ไปหาไข่มุกในห้องลับแล้วค่ะ แล้วก็หลงทางอยู่ในนั้นอีก วงวารน้องจริงๆ
นายท่านเย่เป็นท่านอ๋องลำดับที่เท่าไหร่ล่ะเนี่ย
ไหหม่า(海馬)