อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 821 แต่เขามีเงิน
ตอนที่ 821 แต่เขามีเงิน
ตอนที่ 821 แต่เขามีเงิน
ไป๋อีเฟิงตื่นเต้นเอามากๆ แทบจะทำให้หนานหนานตกใจ
แต่เมื่อดูตั๋วเงินสองใบในมือแล้ว เขาก็ไม่ถือสาอันใด ทันใดนั้นก็หันไปดูทางที่ไป๋อีเฟิงชี้ ก็เห็นศีรษะเล็กๆ ศีรษะหนึ่งจริงๆ
ครั้นได้ยินเสียงเรียกของไป๋อีเฟิง ศีรษะนั้นก็หดกลับเข้าไปอีกครั้ง
หลายคนในห้องมองหน้ากันอย่างตกตะลึง หนานหนานกลับสาวเท้าเล็กๆ ก้าวเดินไปแล้ว เดินไปยังข้างเตียง ไม่กล่าวอันใดก็เอนตัวลงนอนและมุดกลิ้งเข้าไปอย่างคล่องแคล่ว
“…” เย่ซิวตู๋ ไป๋อีเฟิง และเหมิงลู่ต่างพากันกระตุกมุมปากอย่างบ้าคลั่ง
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงพูดคุยเบาๆ ดังออกมาจากใต้เตียง “เจ้าเป็นใครหรือ เหตุใดเจ้าจึงมาซ่อนตัวอยู่ในนี้ ในนี้มีหนูหรือ ข้าช่วยเจ้าจับได้นะ”
“…” มุมปากของเย่ซิวตู๋ ไป๋อีเฟิง และเหมิงลู่กระตุกอย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
“จริงสิ คนที่ท่านลุงไป๋ตามหาเป็นเจ้าหรือไม่ เจ้าวางใจเถิด ท่านลุงไป๋ของข้าเป็นคนดี ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก แต่เขาก็มีเงินนะ ปกติแล้วเขาอาจจะเอาแต่ยิ้มและดูไม่จริงจัง แต่เขาก็มีเงิน อีกอย่าง เขาผู้นี้ถึงแม้จะไม่มีภรรยาเลยจนถึงตอนนี้ แต่เขามีเงินนะ เขา…”
“หนานหนาน!!” หว่างคิ้วของไป๋อีเฟิงสั่นกระตุก อดไม่ได้ที่จะอยากลากตัวเจ้าเด็กนั่นออกมาตีให้หนักเสีย โดยเฉพาะเมื่อเห็นเย่ซิวตู๋และเหมิงลู่ที่อยู่ข้างๆ หัวเราะกันจนตัวสั่น ก็แทบอยากจะยัดเขากลับเข้าไปในท้องแม่แล้วให้เกิดใหม่เสีย
อะไรคือการบอกว่าเขามีเงิน ความรู้สึกเพียงอย่างเดียวที่มีต่อเขาก็คือเขามีเงินใช่หรือไม่?
เสียงอู้อี้ของหนานหนานดังมาจากใต้เตียง “ท่านลุงไป๋ท่านอย่าเพิ่งส่งเสียงดังสิขอรับ เขาค่อนข้างกลัว ข้ากำลังปลอบเขาอยู่ ท่านจะทำเขาตกใจนะ”
ในที่สุดเด็กที่อยู่ใต้เตียงก็ทนไม่ไหวแล้ว ผลักหนานหนานเบาๆ แล้วกระซิบ “ข้าไม่ได้กลัว ข้าเพียงแต่… ข้าเพียงแต่กำลังตามหาแม่นางอวี้ พวกเจ้าพาแม่นางอวี้มาเสีย หากเป็นคนอื่นข้าจะไม่เจอหน้า”
แม่นางอวี้หรือ?
หนานหนานลดเสียงลง “แม่นางอวี้ที่เจ้าพูดถึง ใช่อวี้ชิงลั่วหรือไม่ นั่นคือท่านแม่ของข้านะ เจ้าตามหาข้าก็เหมือนตามหาแม่ข้านั่นแหละ มีอันใดจะกล่าวก็บอกข้าได้เลย”
ไป๋อีเฟิงถอนหายใจ ยักไหล่แล้วกล่าวกับเย่ซิวตู๋ “คืออย่างนี้ เดิมทีเด็กคนนี้มาตามหาอวี้ชิงลั่ว เขาบอกว่ามีเรื่องสำคัญมากต้องบอกนาง เพียงแต่ตอนนี้ไม่รู้ที่อยู่ของอวี้ชิงลั่ว จึงมาหาข้า เจ้าก็รู้ ก่อนหน้านี้เขาเคยส่งจดหมายให้ข้าและอวี้ชิงลั่ว”
ส่งจดหมายหรือ? เย่ซิวตู๋นึกถึงเด็กขอทานคนนั้นขึ้นมาทันที
“เด็กคนนี้หาตัวอวี้ชิงลั่วไม่พบ ข้าเองก็หานางไม่พบ” ไป๋อีเฟิงหมดสิ้นหนทางอย่างมาก “แต่ดูท่าทางรีบร้อนของเขา ข้าก็ทำได้เพียงมาหาเจ้า ดูว่าเจ้ามีวิธีพาอวี้ชิงลั่วมาพบเขาได้หรือไม่ ไม่อย่างนั้นหากเขาไม่ได้พบอวี้ชิงลั่ว ก็จะไม่ยอมกล่าวอันใดทั้งนั้น”
เย่ซิวตู๋เงียบไป ในใจครุ่นคิด ครู่ใหญ่ก็เอ่ยถามคนที่อยู่ใต้เตียง “เจ้าคือเจียงเอ๋อร์ใช่หรือไม่”
ในห้องนั้นเงียบไปครู่หนึ่ง ไป๋อีเฟิงมองเย่ซิวตู๋อย่างสงสัย หรือว่าเขาเองก็รู้จักเด็กคนนี้
ใต้เตียงไม่มีการเคลื่อนไหวอยู่ครู่หนึ่ง ผ่านไปครู่ใหญ่ ศีรษะเล็กๆ นั้นก็ค่อยๆ โผล่ออกมา เมื่อเห็นเย่ซิวตู๋ แววตาของเขาก็เป็นประกาย
“เป็นท่านเองหรือ?” เจียงเอ๋อร์ลุกออกมาจากใต้เตียงในทันใด ยืนอยู่ตรงหน้าเย่ซิวตู๋ในทันที
ทันใดนั้นหนานหนานก็รู้สึกว่าด้านข้างว่างเปล่า รีบใช้มือเท้าตะกุยตะกายออกมา “นี่ เจ้าออกมาแล้วเหตุใดจึงไม่ทักทายข้าเสียบ้าง ใต้เตียงนั้นช่างมืดนัก ข้าอยู่คนเดียวแล้วกลัวมากนัก หากมีหนูมากัดข้าจะทำอย่างไร เจ้าไม่คุ้มกันข้า ข้าจะเสียหายมากนัก”
เจียงเอ๋อร์ควบคุมมุมปากของตนไม่ให้กระตุก หันไปมองเขาแวบหนึ่ง รอจนกระทั่งหนานหนาน ออกมาแล้ว เขาก็พบว่าเด็กคนนี้รูปงามอย่างมากจริงๆ
เขามองหนานหนานแวบหนึ่ง พบว่าหน้าตาของเขากับอวี้ชิงลั่วนั้นมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง
เขาหันหน้ามาอีกครั้ง มองด้านหลังของเย่ซิวตู๋แล้วถาม “แม่นางอวี้ไม่อยู่หรือขอรับ”
“อืม นางมีธุระเล็กน้อย ไม่สามารถมาที่นี่ได้ชั่วคราว เจ้ามีธุระอันใด สามารถบอกข้าได้เลย” เย่ซิวตู๋ชี้ไปยังเก้าอี้ด้านข้างของเขา ให้เขานั่งลง
ส่วนตนก็เดินไปปัดฝุ่นบนร่างของหนานหนาน จากนั้นก็อุ้มเขามานั่งด้วยกัน
เจียงเอ๋อร์มองท่าทางที่พวกเขาปฏิบัติต่อกัน เห็นว่าเย่ซิวตู๋ไม่สนใจความสกปรกบนร่างกายหนานหนานเลย แววตาก็ค่อยๆ หม่นหมองลง ปรากฏร่องรอยของความอิจฉา
เพียงแต่เขาสูดหายใจลึกๆ อย่างรวดเร็ว จัดการความรู้สึกตนเอง แล้วมองทุกคนแวบหนึ่ง
เมื่อเห็นเหมิงลู่ก็เอียงคออย่างนึกสงสัย รู้สึกเหมือนว่าคุ้นเคยกับคนผู้นี้ ราวกับว่าเคยพบที่ไหนมาก่อน
ไป๋อีเฟิงถอนหายใจเบาๆ โชคดีที่คนยังอยู่ เขายังนึกว่าจู่ๆ เขาจะหายตัวไปอย่างกะทันหัน หรือถูกใครฆ่าเสียแล้ว
เด็กคนนี้ดูระแวดระวังมาก น่าจะรู้ว่าข้างนอกไม่มีอวี้ชิงลั่ว เข้าใจว่าเขาไม่ใช่คนดี จึงไปซ่อนอยู่ที่ใต้เตียง
เขารินน้ำให้อีกฝ่าย เมื่อมองเห็นว่าบนร่างเขาเป็นเสื้อผ้าที่นำมาปะต่อกันก็ชะงักไป จากนั้นก็ดันจานขนมให้เขา กล่าวว่า “นี่คือนายน้อยเย่ เป็นสามีของแม่นางอวี้ ข้าเห็นว่าเจ้าเร่งรีบตามหาแม่นางอวี้ จึงทำได้เพียงพาเขามา เจ้าไม่ต้องกลัว”
เจียงเอ๋อร์เคยพบเย่ซิวตู๋มาก่อน ถึงแม้ตอนที่พบเขาจะรู้สึกกดดันอย่างมาก แต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้ว
เขาดื่มน้ำอึกหนึ่ง จากนั้นก็กล่าวด้วยเสียงเบา “ครั้งก่อนแม่นางอวี้บอกข้าเอาไว้ ปกติให้สนใจข่าวคราวรอบตัวให้มากขึ้น หากมีอันใดผิดปกติให้มาบอกนาง”
“หลังจากนั้น ข้าก็คอยสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว พบว่าตอนนี้ในเมืองหลวงมีข่าวลือมากมาย ล้วนกล่าวว่าท่านประมุขจิตใจไม่บริสุทธิ์ ทำร้ายผู้อาวุโสสกุลหมิง ผู้อาวุโสสกุลลี่และคนอื่นๆ”
“เช้าตรู่วันนี้ ก็มีข่าวลือแพร่ออกมา ข้างถนนมีคนพูดคุยกัน บอกว่าผู้อาวุโสสกุลหมิงอาการดีขึ้นและใกล้จะฟื้นแล้ว เพียงแต่ท่านประมุขกลัวว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาแล้วจะไม่เป็นการดีกับตน จึงได้สั่งมือสังหาร ให้ไปฆ่าผู้อาวุโสสกุลหมิงเสีย ถึงขนาดจะตัดความสัมพันธ์กับตน จึงได้โทษเหมิงจื่อเย่า หลานชายของผู้อาวุโสสกุลหมิงแทน”
“ตอนแรกที่ได้ยินข้าก็รู้สึกว่าเหลือเชื่ออย่างมาก โดยเฉพาะท่าทางของคนที่พูดคุยเรื่องนี้ตามถนนนั้นก็น่าสงสัยยิ่งนัก เขากล่าวคำพวกนั้นล้วนเป็นการปลุกระดมคนอื่นๆ ไม่ว่าจะในที่ลับหรือที่แจ้งก็ล้วนพูดจาทำลายชื่อเสียงของท่านประมุข”
“โดยเฉพาะคนพวกนี้ดูไม่คุ้นหน้าเลย ข้าอยู่ตามถนนนี้มาตั้งนาน ก็ไม่เคยเห็นเขามาก่อน
“ตอนนั้นข้ารู้สึกสนใจ เห็นว่าเขากล่าวคำพูดเหล่านั้นจบก็จากไปแบบลับๆ ล่อๆ ข้าจึงตามไป เหมือนได้ยินว่าเขาพูดคุยกับใครอยู่ คนผู้นั้นกำลังสั่งให้เขาไปที่ถนนทางด้านตะวันออกเพื่อไปปล่อยข่าว ทั้งยังให้เงินเขา ระหว่างนั้นก็เหมือนจะกล่าวชื่อของแม่นางอวี้ ข้ารู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวกับแม่นางอวี้ จึงรีบมาตามหาขอรับ”
เจียงเอ๋อร์กินขนมชิ้นหนึ่ง วันนี้ยุ่งมาตั้งแต่เช้า เขาหิวเล็กน้อยแล้วจริงๆ จึงไม่ได้เกรงใจอันใด
หนานหนานเห็นเช่นนั้นก็ลงจากตักของเย่ซิวตู๋ จากนั้นก็ไปที่อีกโต๊ะหนึ่งแล้วเอาผลไม้มา ดันไปไว้ตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม “กินเถิด สิ่งนี้กินแล้วบำรุงร่างกายได้ดี”
เย่ซิวตู๋และเหมิงลู่สบตากัน แววตาเป็นประกาย
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ใครมันเป็นคนต้นคิดปล่อยเฟคนิวส์ว่าประมุขดินแดนเหมิงเป็นคนลอบสังหารผู้อาวุโสสกุลหมิงคะ ต้องสืบหาตัวมันแล้ว
ไหหม่า(海馬)