อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 824 ของสกปรกในห้องของนาง
ตอนที่ 824 ของสกปรกในห้องของนาง
ตอนที่ 824 ของสกปรกในห้องของนาง
เหมิงลู่และไป๋อีเฟิงประหลาดใจ พากันมองไปทางด้านนั้น ก็เห็นว่าอวี้ชิงลั่วเดินจากด้านข้างเข้าไปยังโรงเตี๊ยมจริงๆ ร่างของนางแวบผ่านไป
ทั้งสองคนสบตากัน “อยากลงไปดูหรือไม่”
หนานหนานอยากลงไปมาก เขาคิดถึงท่านแม่มาก ทว่า…
เขารีบยื่นมืออกไปห้ามทั้งสองคน ส่ายหน้าอย่างระมัดระวัง “ไม่ได้ขอรับ ท่านแม่ของข้ากำลังทำเรื่องสำคัญมากอยู่ที่นี่ ท่านพ่อบอกว่าจะไปรบกวนนางไม่ได้”
อืม เขาเป็นเด็กดีที่รู้ความและเชื่อฟัง ถึงแม้จะคิดถึงท่านแม่มาก แต่เขาก็ควบคุมตนเองได้เก่งมากในการไม่ให้ตนไปหาท่านแม่
อวี้ชิงลั่วรู้สึกได้ถึงสายตาแผดเผาอยู่ด้านหลัง จนกระทั่งนางหันกลับไป ก็ทันเห็นเพียงรถม้าคันหนึ่งที่แล่นผ่านไปอย่างรวดเร็วเท่านั้น เพียงแวบเดียวก็ไม่เห็นร่องรอยแล้ว
นางมุ่นคิ้ว หรือว่าจะรู้สึกไปเอง
คิดแล้วก็ส่ายหน้า เดินเข้าข้างในต่อไป ขึ้นไปยังชั้นสอง
ยังไม่ทันได้เข้าไปในห้อง ก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งเดินมาหานาง ราวกับว่ากำลังพึมพำอะไรบางอย่าง
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าเป็นสาวใช้ที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายซ่างกวนจิ่นกับผู้อารักขาที่ไม่ถูกชะตานางอย่างมากผู้นั้น สองคนนี้ดูช่างจิตใจตรงกันอย่างยิ่ง
เพียงเห็นนาง เสียงของทั้งสองคนก็หยุดลงทันที ชายคนนั้นเหลือบมองนาง เพียงแต่พยักหน้าแล้วเดินลงชั้นล่างไป
หญิงคนนั้นย่อตัวเคารพนาง กล่าวด้วยเสียงเบาๆ “แม่นางอวี้ วันนี้นายท่านสามารถเปลี่ยนอาหารได้แล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ อาหารสามมื้อนี้ล้วนเป็นโจ๊กและเครื่องเคียง คงจะไม่ดีกับร่างกายของนายท่านนัก”
จริงๆ นางถามหมอคนอื่นมาแล้ว ท่านหมอบอกว่าเดิมทีล้วนไม่จำเป็น สามารถใส่เนื้อสัตว์ได้ตั้งนานแล้ว
หญิงแซ่อวี้ผู้นี้ เห็นได้ชัดว่าจงใจทรมานนายท่าน
ไม่เข้าใจเลยจริงๆ เห็นๆ อยู่ว่านายท่านช่วยนางไว้ นางกลับไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ไม่รู้จักทดแทนบุญคุณ แต่กลับมีจิตใจชั่วร้าย ทำร้ายนายท่านเช่นนี้
นางไปพูดคุยกับนายท่านแล้ว แต่นายท่านกลับตำหนินางแทน บอกว่าทุกอย่างล้วนต้องฟังหญิงนางนี้
นายท่านตามใจหญิงแซ่อวี้ผู้นี้มากเกินไปแล้ว
อวี้ชิงลั่วลอบถอนหายใจ สาวใช้ข้างกายซ่างกวนจิ่นผู้นี้ นางไม่ได้พบหลายครั้งนัก คนที่มีภาพจำลึกซึ้งที่สุดก็คือสาวใช้ที่ชื่อเจินเจินตรงหน้า และคนที่มาส่งบัตรเชิญให้นางที่ชื่อซวงซวงผู้นั้น
เหตุใดครั้งนี้ซ่างกวนจิ่นจึงไม่ได้ให้ซวงซวงผู้นั้นมาคอยรับใช้เล่า
ดูแล้วซวงซวงมีมารยาท รู้จักเข้าหาและถอยออก ฉลาดมากนัก
อวี้ชิงลั่วขี้เกียจจะสนใจนาง เพียงกล่าวอย่างเกียจคร้าน “ข้าเป็นหมอ ข้ารู้ว่าสิ่งใดดีต่อร่างกายของคนไข้มากกว่าเจ้านัก หากเจ้าไม่พอใจ ก็เปลี่ยนให้หมอคนอื่นมารักษาซ่างกวนจิ่นเถิด”
“ท่าน..” เจินเจินโกรธมาก นางเองต้องการตามหมอคนอื่นมา ติดที่นายท่านไม่เห็นด้วยเท่านั้น
อวี้ชิงลั่วชำเลืองมองนาง จากนั้นก็เดินผ่านนางเข้าไปข้างในโดยตรง
เจินเจินหันหน้ากลับไปอย่างรวดเร็ว มองด้านหลังของนางเขม็ง แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง คอยดูเถิด คนที่ไม่ชอบใจเจ้าไม่ได้มีแค่ข้าคนเดียว อย่าคิดว่านายท่านปกป้องเจ้าแล้วเจ้าจะกล้าทำตามใจตนเองได้เช่นนี้ ไม่ช้าก็เร็วเจ้าก็จะตายโดยไร้ที่ฝังเป็นแน่
ครั้งนี้ ข้าจะสอนบทเรียนให้เจ้าเสียหน่อย
“เฮอะ” เจินเจินส่งเสียงฮึดฮัด หันหลังกลับไปยังห้องของซ่างกวนจิ่น
อวี้ชิงลั่วกลับไปยังห้องของตนเอง เพิ่งเข้าห้องไปก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย
ตรงหน้าของนางไม่ไกลนัก มีงูสองตัวเลื้อยไปมา เมื่อเห็นนางเดินเข้าประตูก็แลบลิ้นออกมา ส่งเสียงฟ่อๆ ใส่นางทันที
อวี้ชิงลั่วหน้าเครียดขึ้นมาในพริบตา ต่อจากนั้นก็บีบยาเม็ดในมือแล้วโปรยลงบนร่างและกระโปรงของตน
จากนั้นก็ค่อยๆ เดินหน้าไปทีละก้าว
งูสองตัวนั้นที่เดิมทีจะเลื้อยเข้ามาใกล้ก็ชะงักลง ต่อจากนั้นก็เลื้อยไปทางด้านหลัง ไม่กล้าเข้าใกล้อวี้ชิงลั่วอีก
อวี้ชิงลั่วหัวเราะออกมา ย่อตัวลงเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปที่งูทั้งสอง กล่าวน้ำเสียงอ่อนโยน “ช่างน่าเสียดายนัก หนานหนานชอบศึกษาเรื่องงูยิ่งนัก ตอนนี้เขาไม่อยู่ จึงไม่ได้พบพวกเจ้า”
งูสองตัวนั้นรีบถอยห่างไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว ดูท่าทางแล้วกลัวนางเป็นอย่างมาก
อวี้ชิงลั่วยิ้ม ลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก
เสียงดัง ‘แกร๊ก’ ประตูปิดลงอีกครั้ง
อวี้ชิงลั่วหมุนส้นเท้า เดินไปทางห้องด้านซ้าย
นางตรงเข้าห้องไปโดยไม่แม้แต่จะเคาะประตู
เจินเจินกำลังจัดแจงของของซ่างกวนจิ่น เมื่อเห็นนางเข้าประตูมา สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
“แม่นางอวี้ ก่อนจะเข้าห้องผู้อื่น ควรเคาะก่อนไม่ใช่หรือเจ้าคะ”
“ขอโทษที พอดีว่าข้าหวาดกลัวและตื่นตระหนกเกินไป ดังนั้นจึงลืมมารยาทพื้นฐานที่สุดไปน่ะ” อวี้ชิงลั่วกล่าวอย่างไม่รีบร้อน ไม่มีท่าทีหวาดกลัวและตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย
แต่ซ่างกวนจิ่นด้านข้างกลับวางหนังสือที่อยู่ในมือ เลิกคิ้วกล่าว “ดูสีหน้าเจ้าไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ว่าอย่างไร มีเรื่องอันใดไม่พอใจหรือ”
“ในห้องข้ามีงูสองตัว ข้าย่อมไม่พอใจอยู่แล้ว”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ” ซ่างกวนจิ่นลุกขึ้นจากที่นั่งนุ่มทันที สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก “งูหรือ? เจ้าถูกกัดหรือไม่ บาดเจ็บไหม… อุบ…”
เจินเจินรีบก้าวมาข้างหน้า ประหม่าเป็นอย่างมาก “นายท่าน อาการบาดเจ็บท่านยังไม่หายดี ไม่ควรตื่นตระหนกเกินไปนะเจ้าคะ แม่นางอวี้ยังยืนอยู่ตรงนี้อย่างสบายดี ย่อมไม่มีเรื่องอันใดเป็นแน่เจ้าค่ะ”
ซ่างกวนจิ่นได้ยินดังนั้นก็มองอวี้ชิงลั่วแวบหนึ่ง ไม่ได้มีท่าทางเหมือนถูกงูกัดเลยจริงๆ
จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ ขมวดคิ้วแล้วกล่าว “เหตุใดในห้องเจ้าจึงมีงูสองตัวได้เล่า”
อวี้ชิงลั่วนั่งลงไม่ไกลจากเขา ถอนหายใจ “นั่นสิ งูพิษสองตัวที่ใหญ่เท่าแขนเชียว เพียงข้าเข้าประตูไปมันก็แลบลิ้นใส่ข้า ท่าทางเช่นนั้น ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว”
นางกล่าว จากนั้นก็ตบอกตนเองเบาๆ ท่าทางราวกับยังมีความกลัวอยู่ในใจ
แต่เจินเจินที่อยู่ข้างๆ กลับกัดฟันและแอบคิด เหตุใดงูสองตัวนั้นจึงไม่ได้กัดนางให้ตายเสีย ปล่อยให้นางมาเสแสร้งแกล้งทำอยู่ที่นี่ได้อีก
คิ้วของซ่างกวนจิ่นแทบจะขมวดเป็นปม “ที่นี่ไม่ควรมีงูสิ เจ้าอย่าเพิ่งเข้าห้องนั้นไปชั่วคราว เดี๋ยวข้าจะให้คนไปจับงูสองตัวนั้นเอง”
เขากล่าว ทันใดนั้นก็ตะโกนออกไปทางด้านนอก “เซวียเฉิง เข้ามา”
เพียงครู่เดียวก็มีผู้อารักขาแปลกหน้าเข้าประตูมา คุกเข่าลงข้างหนึ่ง “นายท่าน”
“เจ้าไปที่ห้องของแม่นางอวี้ จับงูสองตัวในห้องของนางออกมา และตรวจสอบดูอีกว่ายังมีของสกปรกอื่นใดในห้องหรือไม่ อีกเดี๋ยวข้าจะตรวจสอบว่างูสองตัวนั้นเข้าไปได้อย่างไร อีกอย่าง ลงไปข้างล่างแล้วเปลี่ยนห้องให้แม่นางอวี้เสีย เจ้า…”
“เดี๋ยวก่อน” ซ่างกวนจิ่นยังไม่ทันกล่าวจบ จู่ๆ อวี้ชิงลั่วก็ยกมือขึ้นขัดเขา
ซ่างกวนจิ่นมองด้วยความประหลาดใจ “มีอันใดหรือ?”
“เรื่องเล็กเพียงนี้ ไม่ต้องรบกวนผู้อารักขาของท่านหรอก เขามาดูแลความปลอดภัยของท่าน ให้มาจับงูให้ข้านั้นจะไม่เหมาะสม” อวี้ชิงลั่วยิ้มแล้วมองไปยังผู้อารักขาผู้นั้น
ซ่างกวนจิ่นงงงวย “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วมองไปยังเจินเจินที่อยู่ด้านข้าง ยิ้มแล้วกล่าว “เรื่องเล็กเพียงนี้ ให้แม่นางเจินเจินทำเถิด”
ใบหน้าของเจินเจินซีดลงทันใด นิ้วของนางสั่นเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะแห้งๆ “แม่นางอวี้ล้อเล่นแล้วเจ้าค่ะ ข้าน้อย ข้าน้อยขี้ขลาด อย่าว่าแต่งูตัวเท่าแขนเลยเจ้าค่ะ แม้แต่งูน้ำธรรมดาๆ ข้าน้อยก็ยังกลัวเลย”
“อย่างนั้นหรือ” อวี้ชิงลั่วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา “แม่นางเจินเจินมีกลิ่นฉยงหวงบนร่างกาย ข้าก็นึกว่าแม่นางรู้ดีเสียอีก ว่างูกลัวสิ่งนี้มากที่สุด”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เธอมีพิรุธนะเจินเจิน งูมันจะมาได้ไงถ้าไม่ใช่ฝีมือของเธอ
ไหหม่า(海馬)