อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 830 หนานหนานสอบสวน
ตอนที่ 830 หนานหนานสอบสวน
ตอนที่ 830 หนานหนานสอบสวน
หนานหนานลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว สวมเสื้อผ้าสีสันสดใสดูสดชื่นเป็นพิเศษให้กับตัวเอง มัดผมแบบสบายๆ แต่กลับดูนุ่มนิ่มน่ารักเป็นอย่างมาก
กระทั่งจัดการตนเองเสร็จ เขาก็วิ่งมาข้างกายเย่ซิวตู๋อีกครั้ง กล่าวเบาๆ “ท่านพ่อ ข้าอยากไปซื้อของขวัญให้น้องอวี้ อีกสองวันก็จะเป็นวันเกิดของนางแล้ว”
เย่ซิวตู๋ถอนหายใจออกมาเบาๆ “ไปขอเงินเสิ่นอิงเสีย”
ที่พูดมานี่ก็คิดจะไถเงินจากเขานี่เอง
หนานหนานพึงพอใจในทันที พยักหน้า ตบไหล่ของเย่ซิวตู๋แล้วกล่าว “ท่านพ่อช่างว่าง่ายเหลือเกิน ท่านนอนอย่างเชื่อฟังไปนะขอรับ ข้าจะไม่กวนท่านแล้ว”
เย่ซิวตู๋ถอนหายใจเบาๆ หันหลังให้เขา
หนานหนานยืนอยู่ข้างเตียงเขาแล้วผายลมออกมาอีกครั้ง จากนั้นก็ออกจากห้องไปอย่างมีความสุข
เสิ่นอิงยืนอยู่ด้านนอก เพียงหนานหนานเห็นเขา ก็เหมือนได้พบกองเงินกองทองอย่างไรอย่างนั้น แววตาเริ่มเปล่งประกาย
เสิ่นอิงตกใจจนก้าวถอยหลัง ก็พอดีกับเห็นร่างเล็กที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา
เหมิงหลัวอวี้มายืนอยู่ตรงนี้สักพักหนึ่งแล้ว เมื่อเห็นหนานหนานออกประตูมาก็เดินยิ้มแย้มเข้ามาทันที “หนานหนาน เจ้านอนพอหรือไม่?”
“น้องอวี้…” หนานหนานกำลังจะอ้าปากเตรียมขอเงินจากเสิ่นอิง เมื่อเห็นนางก็ยอมหุบปากแต่โดยดี
น้องอวี้อยู่ตรงนี้ เขาก็ไม่สามารถขอเงินท่านลุงเสิ่นได้แล้ว ไม่อย่างนั้นจะไม่เป็นผลดีต่อความประทับใจของนาง
อืม อย่างไรกว่าจะถึงวันเกิดน้องอวี้ก็ยังเหลือเวลาอีกเป็นวัน เรื่องนี้ยังไม่เร่งด่วนนัก
“หนานหนาน ชิวเอ๋อร์ลงจากเตียงได้แล้ว ข้ามาหาเจ้า อยากจะพาเจ้าไปเยี่ยมนางด้วยกัน”
เถี่ยชิวเอ๋อร์เองก็ถูกพาตัวมาจวนใหญ่เช่นกัน ร่างกายของนางบาดเจ็บ ขยับเขยื้อนไม่ถนัดนัก
ตอนนี้ผู้อาวุโสสกุลเยว่ประสบปัญหามากมาย ไม่สามารถดูแลนางให้ดีๆ ได้ อีกอย่าง นางก็ยังไม่รู้ข่าวที่ว่าพ่อแม่พี่ชายของนางตายจากไปแล้ว หากยังอยู่ที่จวนผู้อาวุโสสกุลเยว่ ก็ยากที่ข้ารับใช้จะไม่พลั้งปาก
อีกทั้งผู้อาวุโสสกุลลี่และเหมิงเคอก็หนีออกจากคุก ไม่แน่ว่าจะกลับไปแก้แค้นผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็ได้ เถี่ยชิวเอ๋อร์เองก็ถือว่าเป็นศัตรูของเหมิงเคอ เพื่อป้องกันไว้ก่อน หลังจากได้รับการอนุญาตจากท่านประมุขแล้ว ก็รับตัวนางมาอยู่ที่จวนใหญ่
ที่นี่มีเหมิงหลัวอวี้และหนานหนาน ดังนั้นเด็กๆ สองสามคนก็จะได้มีเพื่อนด้วย
เดิมทีหนานหนานคิดจะไปหาเหมิงลู่ ตอนนี้ได้ยินเหมิงหลัวอวี้นำข่าวดีมาให้ ก็เปลี่ยนเป้าหมายในทันที
“ลงจากเตียงได้แล้วหรือ เช่นนั้นไปกันเถิด เราไปดูเสียหน่อย” หนานหนานเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว ทันใดนั้นก็เหมือนว่าคิดอะไรออก หันหลังกลับมา กลับไปในห้องแล้วยกเอากรงออกมาด้วย
“ไม่ได้พาโร่วโร่วไปเดินเล่นนานแล้ว ข้าพามันไปเยี่ยมชิวเอ๋อร์ด้วยดีกว่า”
เจ้าหมาป่าน้อยตัวนี้เชื่องมาก หนานหนานชอบมันอย่างยิ่ง บางครั้งแม้จะปล่อยมันออกมา มันก็จะคอยตามหลังหนานหนาน บอกให้ทำสิ่งใดก็ทำ นับว่าฉลาดมาก
จนหนานหนานกังวลว่าหากมันเชื่อฟังเช่นนี้แล้วจะสูญเสียความดุร้ายไปหรือไม่
แต่วันนั้นมีงูโผล่มาจากที่ไหนไม่อาจทราบได้โดยหนานหนานไม่ทันได้ระวัง เจ้าหมาป่ากลับกระโจนเข้าไปแล้วกดเจ้างูตัวเล็กไว้ใต้กรงเล็บตรงตำแหน่งเจ็ดชุ่นพอดิบพอดี
ไม่เพียงแต่หนานหนานเท่านั้นที่ตกใจอย่างมาก แม้แต่เหวินเทียนที่ตอนนั้นคอยตามอยู่ข้างกายก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว
ตั้งแต่นั้นมา หนานหนานก็รักเจ้าหมาป่ามากขึ้น มีของอร่อยใดก็จะแบ่งให้มัน ถึงแม้เจ้าหมาป่าน้อยไม่แม้แต่จะมองอาหารเหล่านั้น แต่หนานหนานก็ยังคงรู้สึกเหมือนตนกำลังแบ่งปันกับมัน เป็นเรื่องที่ทำให้มีความสุขอย่างมาก
เหมิงหลัวอวี้ชอบหมาป่าน้อยตัวนี้มาก ถึงมันจะเป็นมิตรกับหนานหนานเพียงคนเดียว และรักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างระแวดระวัง แต่มันก็ไม่ทำร้ายใคร อีกทั้งตอนอยู่กับหนานหนานก็ยังน่ารักเป็นพิเศษอีกด้วย
เห็นว่าหนานหนานเดินออกมาพร้อมกับกรง เหมิงหลัวอวี้ก็ยิ้มแย้มขึ้นมาทันที
จากนั้นสองสามคนก็เดินไปยังเรือนที่เถี่ยชิวเอ๋อร์อาศัยอยู่
แต่เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว หนานหนานก็เห็นอาเฟิงผู้ติดตามของเหมิงลู่เดินอย่างรีบร้อนไปยังโถงจิงจู๋
หนานหนานกะพริบตา มองเขาแวบหนึ่งอย่างแปลกใจ
อาเฟิงเองก็เห็นพวกเขา พยักหน้าให้พวกเขา ไม่ได้กล่าวอันใดแล้วเดินต่อไป
หนานหนานรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้ร้ายแรง กลอกตาสองครั้งจากนั้นก็กล่าวกับเหมิงหลัวอวี้ที่อยู่ด้านข้าง “ข้าขอไปหาท่านปู่ลู่ก่อน เจ้าไปหาชิวเอ๋อร์เถิด อีกเดี๋ยวข้าจะตามไป”
“เอ๋” เหมิงหลัวอวี้เอียงคอมองเขาด้วยความประหลาดใจ
ยังไม่รอให้นางตอบสนอง ก็เห็นหนานหนานเดินตามอาเฟิงไปแล้ว
เสิ่นอิงกระตุกมุมปาก กล่าวกับผู้อารักขาที่พาเหมิงหลัวอวี้มา “ดูแลคุณหนูเหมิงด้วย”
กล่าวจบก็รีบตามหนานหนานไป
หนานหนานเพิ่งเข้ามาถึงโถงจิงจู๋ ก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศหนาวเยือกฉับพลัน ผิดปกติอย่างมาก
เขายืนอยู่ที่เดิมแล้วเอียงคอครุ่นคิด หันกลับไปถามเสิ่นอิง “เมื่อคืนท่านพ่อกลับมาตอนไหนหรือ ตอนที่เขากลับมา มีสิ่งใด… เปลี่ยนไปหรือไม่?”
“นายท่านกลับมาประมาณยามไฮ่ แต่ไม่มีอันใดผิดปกติ จริงสิ ได้ยินนายท่านบอกว่า เหมือนจะจับคนคนหนึ่งกลับมาได้” เสิ่นอิงนึกได้ว่าเย่ซิวตู๋กล่าวอะไรบางอย่างเอาไว้
ตอนนั้นที่นายท่านกล่าวเช่นนั้น สีหน้าของเขาเย็นชามาก ราวกับว่าไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอันใด และไม่รู้ว่าจับใครกลับมา
จับคนคนหนึ่งกลับมาหรือ? แววตาของหนานหนานเป็นประกายทันที
เขายังจำได้ว่าเมื่อวานตอนบ่าย ท่านพ่อตามคนร้ายคนนั้นไป หรือว่าหาตัวคนเบื้องหลังได้แล้วหรือ?
หนานหนานยกขาสั้นๆ ขึ้นอีกครั้ง เดินเข้าไปในโถงจิงจู๋
ตอนที่เย่ซิวตู๋ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ท้องฟ้าก็สว่างหมดจดแล้ว
เขาลูบคอ นึกได้ว่าคืนนี้ชิงเอ๋อร์จะกลับมา อารมณ์ก็ดีขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ
เยว่ซินนำอาหารเช้าเข้ามา เย่ซิวตู๋กินอย่างช้าๆ สองสามคำ หันไปถาม “หนานหนานเล่า?”
“ข้าน้อยก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ เพียงแต่เมื่อเช้านี้ ข้าน้อยเห็นหนานหนานเข้าไปในโถงจิงจู๋ ไม่นานนัก ในนั้นก็มีเสียงกรีดร้องน่าเวทนาดังมาจากข้างใน เดิมทีข้าน้อยอยากไปดู แต่ท่านเหวินหยุดข้าน้อยไว้ บอกว่าไม่จำเป็น ให้ข้าน้อยมาเตรียมอาหารเช้าให้ท่านอ๋องเจ้าค่ะ”
เยว่ซินนึกถึงเสียงกรีดร้องนั้น ก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว
เสียงกรีดร้องหรือ
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว รู้สึกว่า…เจ้าเด็กน้อยนั้นไปสร้างเรื่องอันใดอีกแล้ว
เขาดื่มโจ๊กอีกสองอึก หลังจากอิ่มแล้วก็วางตะเกียบลงและครุ่นคิด ตรงไปยังโถงจิงจู๋
“โอ๊ย…” ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น
เย่ซิวตู๋เพิ่งเดินมาถึงด้านนอกของโถงจิงจู๋ก็ต้องตกใจ รู้สึกว่าเสียงร้องนี้ทำเอาเส้นขนลุกชัน เขาขมวดคิ้วทันที จากนั้นก็เร่งฝีเท้า
อาเฟิงคอยเฝ้าอยู่ทางเข้าหอจิงจู๋ เมื่อเห็นเขาเข้ามาก็รีบมาคำนับแล้วกล่าว “ท่านอ๋องซิว”
“หนานหนานเล่า?”
สีหน้าของอาเฟิงแปลกไปทันที ชี้ไปข้างในอย่างลังเลแล้วกล่าว “อยู่ข้างใน… กำลังสอบสวนคนแซ่ชีขอรับ”
“เขาเป็นคนสอบสวนหรือ?” เย่ซิวตู๋สงสัย
สีหน้าของอาเฟิงยิ่งแปลกเข้าไปอีก ถึงขนาดอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแห้งๆ “ขอรับ”
เย่ซิวตู๋มองเขาด้วยสายตาพิกล แล้วเดินเข้าไป
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ใช้วิธีไหนสอบสวนกันนะ จะต้องเป็นวิธีที่แสบมากแน่ๆ เรื่องแสบซนไว้ใจหนานหนานได้เลย
ไหหม่า(海馬)