อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 836 บุคลิกดีมาก
ตอนที่ 836 บุคลิกดีมาก
ตอนที่ 836 บุคลิกดีมาก
เจียงเอ๋อร์มาที่นี่ตามคำสั่งของเย่ซิวตู๋ ละแวกนี้นับว่าเป็นถิ่นของผู้มั่งคั่งและสูงศักดิ์ เขาจึงคิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะมาที่นี่ได้
ตอนนี้เขาต้องมาที่นี่เพื่อส่งจดหมายให้เย่ซิวตู๋
เพียงแต่ว่าสถานะขอทานของเขาดูไม่เหมาะสมต่อการทำงานนี้ และเย่ซิวตู๋ก็คำนึงถึงเรื่องนี้เช่นกัน จึงหาชุดใหม่มาให้เขาเปลี่ยน
เจียงเอ๋อร์นั่งอยู่ตรงจุดที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในห้องโถงชั้นล่างมาสักพักและกินอาหารที่สั่งไว้ไปมากแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นคนที่เขารู้จักลงมาชั้นล่างสักที
เดิมทีอวี้ชิงลั่วคิดว่าตัวเองตาฝาด นางขยี้ตาและมองอีกครั้งอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงยืนยันได้ว่าคนผู้นี้เป็นขอทานตัวน้อยที่นางเจอก่อนหน้านี้จริงๆ
เพียงแต่สภาพเสื้อผ้าของเขาในตอนนี้ทำให้นางตกใจ
ดูเหมือนว่าการคาดเดาครั้งก่อนของนางจะถูกต้อง เมื่อก่อนเจียงเอ๋อร์คนนี้ต้องเป็นนายน้อยจากตระกูลที่ร่ำรวยแน่นอน
ดูจากการแต่งกายของเขา แม้จะอายุยังน้อย แต่ก็เผยให้เห็นถึงบุคลิกอันสง่างามและหล่อเหลาของเขา
อวี้ชิงลั่วมองซ้ายมองขวา ไม่ไกลนัก นางต้องเดินผ่านเซวียเล่อที่ยืนเฝ้าอยู่ที่ห้องของซ่างกวนจิ่น
ตั้งแต่เกิดเรื่องกับเจินเจิน ทัศนคติของเซวียเล่อที่มีต่อนางก็กลายเป็นความยำเกรง
ดังนั้นคนคนนี้จึงนับว่าร้ายกาจ หากไม่มีเรื่องเจินเจินเกิดขึ้น คนต่อไปที่จะทำร้ายนางก็คงจะเป็นเซวียเล่อคนนี้
อวี้ชิงลั่วเม้มปากเดินผ่านเขาอย่างแช่มช้า และกำลังจะเดินลงไปข้างล่าง
ทันทีที่เซวียเล่อเห็นนางมา เขาก็เงยหน้ายืดอกขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง และทักทายนางด้วยความเคารพ “แม่นางอวี้”
“อืม” อวี้ชิงลั่วตอบกลับอย่างเย็นชาและสง่างาม จากนั้นเหลือบมองเขา “ประเดี๋ยวข้าจะออกไปข้างนอก หากมีใครถามหาข้า เจ้าก็บอกไปว่าข้าหงุดหงิดเล็กน้อย และไปซื้อสาลี่ที่ถนนข้างนอก”
“เอ่อ โอ้ ได้ขอรับ” เซวียเล่อตอบทันที หลังจากคิดอะไรบางอย่างครู่หนึ่ง เขาก็รีบพูดด้วยรอยยิ้ม “แม่นางอวี้ ข้างนอกมันร้อน ให้ข้าไปซื้อให้ท่านดีกว่าขอรับ”
อวี้ชิงลั่วแทบจะหัวเราะออกมา ดูเหมือนว่าวิธีการของซ่างกวนจิ่นจะฝังรากลึกอยู่ในหัวใจคนของเขาแล้ว และเขาสามารถเปลี่ยนทัศนคติของเซวียเล่อได้อย่างมาก
นางหรี่ตามองเขาอีกครั้ง แล้วพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า “ไม่ต้องหรอก ความปลอดภัยของเจ้านายของเจ้าสำคัญกว่า เจ้าควรอยู่อารักขาที่นี่ และอย่าให้ใครเข้าไปทำร้ายเขาได้”
“ขอรับ” เซวียเล่อพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมและเชื่อฟังมาก
จากนั้นอวี้ชิงลั่วก็เอามือไพล่หลังเดินไปที่บันไดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
เซวียเล่อเพียงแค่มองตามหลังนางไป และหันไปจับตาดูนางด้วยความระมัดระวังทันที
เมื่ออวี้ชิงลั่วลงไปถึงชั้นล่าง เจียงเอ๋อร์ก็เห็นนางทันที ดวงตาของเขาเป็นประกายขณะทำท่าจะลุกไปหานาง
ทว่าเมื่อนึกถึงคำสั่งของเย่ซิวตู๋ เขาก็รีบระงับความดีใจเอาไว้ แล้วนั่งลงดื่มชาอย่างสบาย ๆ เช่นเดิม
เด็กคนนี้ยังเล็ก แต่แนบเนียนยิ่งนัก
เมื่ออวี้ชิงลั่วเดินมาใกล้เขา ฝีเท้าของนางก็หยุดลง นางพูดเสียงแผ่วเบาว่า “ข้าจะรอเจ้าอยู่ด้านนอกประตู เจ้าค่อยออกมาทีหลัง”
เจียงเอ๋อร์ส่งเสียง “อืม” และดื่มชาต่อไป
เขาได้ยินเย่ซิวตู๋บอกว่าต้องระวังไม่ให้ใครเห็นว่าเขามาพบกับแม่นางอวี้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายต่อเขา
เย่ซิวตู๋ระมัดระวังมากเมื่อพูดเรื่องนี้ เขาจึงระมัดระวังอยู่เสมอ และไม่กล้าประมาท
หลังจากที่อวี้ชิงลั่วเดินออกจากประตูโรงเตี๊ยมไปประมาณหนึ่งเค่อ เจียงเอ๋อร์ก็ไปที่โต๊ะบริการเพื่อจ่ายเงินและเดินตามนางออกไป
เขามองไปรอบ ๆ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เห็นว่าตรงมุมร่มรื่นของถนน อวี้ชิงลั่วกำลังนั่งยอง ๆ อยู่หน้าตะกร้าใส่ลูกสาลี่
เจียงเอ๋อร์เม้มปาก ลังเลอยู่สักพักและเดินไปอยู่ตรงมุมหนึ่ง
บริเวณนี้อยู่ไม่ไกลจากอวี้ชิงลั่ว และอยู่ด้านหลังของอวี้ชิงลั่ว ตราบใดที่นางยืนขึ้นและหันมา นางก็จะมองเห็นเขาได้
อวี้ชิงลั่วนั่งยอง ๆ อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นใช้ผ้าห่อลูกสาลี่ห้าหรือหกลูก จ่ายเงินแล้วลุกขึ้น
นางกวาดสายตาเพียงครั้งเดียวก็เห็นเจียงเอ๋อร์ทันที
ทั้งสองมองหน้ากัน เจียงเอ๋อร์มีรอยยิ้มบนใบหน้า จากนั้นหันหลังเดินเข้าไปในตรอก
แล้วอวี้ชิงลั่วก็ค่อย ๆ ตามไป
ในตรอกไม่มีใครอยู่ มีเพียงเจียงเอ๋อร์ที่ยืนพิงกำแพงอยู่ที่นั่นเพียงลำพัง เมื่อเห็นนาง เจียงเอ๋อร์ก็เผยรอยยิ้มกว้างทันที “แม่นางอวี้”
“เจ้ามาหาข้า มีเรื่องอะไรหรือ?” อวี้ชิงลั่วประหลาดใจเล็กน้อย “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ในโรงเตี๊ยมแห่งนี้?”
เจียงเอ๋อร์เกาศีรษะ แล้วเล่าเรื่องที่เขาพบกับเย่ซิวตู๋
อวี้ชิงลั่วรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อได้ยินดังนั้น และหัวเราะออกมา “เจ้าฉลาดมาก”
เขารู้ว่าต้องไปหาไป๋อีเฟิงเสียด้วย
ทันใดนั้นนางก็นึกชื่นชมความมองการณ์ไกลของตัวเอง นางคิดมานานแล้วว่าจากตัวตนของเจียงเอ๋อร์ สิ่งที่เขาเห็นและได้ยินนั้นแตกต่างจากคนอื่น และเขาอาจสามารถช่วยนางได้ในสักวันหนึ่ง
ตอนนี้เขาก็ช่วยได้มากแล้วไม่ใช่หรือ?
คุณชายเย่สั่งให้ข้ามาส่งจดหมายฉบับนี้ให้ท่านขอรับ” เจียงเอ๋อร์หยิบจดหมายออกมาจากอก แล้วยื่นให้กับมือของนางอย่างระมัดระวัง ด้วยใบหน้าที่เขินอายเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนว่า “คุณชายเย่ยังสั่งให้คนทำชุดนี้ให้ข้าด้วย มันสวมใส่สบายมาก เงินที่ข้าใช้ซื้อของกินที่โรงเตี๊ยม คุณชายเย่ก็เป็นคนมอบให้ด้วยเช่นกันขอรับ”
เขาต้องการแสดงความขอบคุณ แต่กลับไม่สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าเย่ซิวตู๋ที่มีสีหน้าเข้มงวดและค่อนข้างกดดันได้
อวี้ชิงลั่วหัวเราะ แล้วพยักหน้าชมเชย “อืม ชุดนี้สง่างามเข้ากับเจ้ามาก ทำให้ดูสุภาพเรียบร้อย มีบุคลิกดีมาก”
“ลูกชายของแม่นางอวี้ราวกับถูกแกะสลักด้วยหยก น่ารักมากเลยขอรับ” เจียงเอ๋อร์และอวี้ชิงลั่วเริ่มคุ้นเคยกัน และพวกเขาก็ค่อย ๆ คุยกันมากขึ้น
เมื่อพูดถึงหนานหนาน สีหน้าของอวี้ชิงลั่วก็เศร้าหมองขึ้น ผ่านมาตั้งสองสามวันแล้วที่นางได้เจอเขา นางกำลังคิดถึงเขานัก
ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเล็กนั่นอ้วนขึ้นหรือไม่ อยากจะหยิกแก้มเล็ก ๆ นุ่มนิ่มนั่นเสียจริง
“ใช่แล้ว นายน้อยหนานหนานฝากให้ข้าบอกบางอย่างกับแม่นางอวี้ด้วยขอรับ”
“เอ๊ะ? บอกเรื่องอะไร?” อวี้ชิงลั่วถามขณะเปิดซองจดหมาย
นางรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย นางวางแผนว่าจะกลับไปคืนนี้ เหตุใดเย่ซิวตู๋ถึงขอให้เจียงเอ๋อร์ส่งจดหมายถึงนาง มีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?
เจียงเอ๋อร์นึกถึงท่าทางจริงจังของหนานหนาน เขาจึงเรียนรู้ที่จะวางตัวให้ดูสง่างามไปด้วย “นายน้อยหนานหนานบอกว่าเขามีวรยุทธ์ล้ำเลิศ จึงสามารถป้องกันตัวเองได้ดี ดังนั้นแม่นางอวี้โปรดป้องกันตัวเองให้ดีด้วยขอรับ”
อวี้ชิงลั่วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นิ้วของนางที่ถือซองจดหมายแข็งค้าง
คำพูดเช่นนี้… เหตุใดจึงฟังดูแปลกพิกลชวนให้ไม่สบายใจ?
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วขึ้น และรีบดึงกระดาษจดหมายข้างในออกมา ก่อนจะกวาดสายตาอ่านทันที อ่านข้อความเกือบสิบบรรทัดอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง สายตาของนางก็มืดมน และสีหน้าของนางก็ค่อนข้างบึ้งตึง
เจียงเอ๋อร์นึกขึ้นได้ว่าหนานหนานพูดมากกว่านี้ และเดิมทีต้องการจะพูดต่ออีก แต่เมื่อเงยหน้ามาเห็นสีหน้าของอวี้ชิงลั่วก็ตกใจทันที และรีบปิดปากตัวเองอย่างเชื่อฟัง
เขาอ่านสีหน้าของผู้คนได้ดีมาก และสีหน้าของอวี้ชิงลั่วตอนนี้ก็ไม่สู้ดีนัก
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ในจดหมายเขียนไว้ว่ายังไงบ้างนะ ชิงลั่วถึงทำหน้าเหมือนกลืนบอระเพ็ดแบบนั้น
ไหหม่า(海馬)