อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 841 เปลี่ยนวิธี
ตอนที่ 841 เปลี่ยนวิธี
ตอนที่ 841 เปลี่ยนวิธี
เมื่อเข้าห้อง อวี้ชิงลั่วก็วางหนานหนานลงกับพื้น ผลักเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “ไปเล่นทางด้านนั้นเสีย”
“…” หนานหนานสำลัก เขาไม่ใช่เด็กสองสามขวบเสียหน่อย เหตุใดจึงบอกว่าให้ไปเล่นทางนั้นเสีย เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว และจริงจังมากนะ
หนานหนานเดินไปด้านข้างสองสามก้าว นั่งลงบนเก้าอี้ มองไปยังอวี้ชิงลั่วด้วยดวงตากลมโต
อืม ไม่ได้เจอกันหลายวัน ดูเหมือนท่านแม่จะงดงามขึ้นอีก ดูท่าแล้วไม่ได้ถูกทำร้ายอันใด เขาเห็นแล้วก็พึงพอใจมาก
ความจริงเขามีหลายอย่างอยากจะพูดคุยกับท่านแม่ แต่ท่าทางของท่านแม่นั้น… อืม ให้ท่านพ่อช่วยกล่อมท่านแม่ให้สงบลงเสียก่อนค่อยว่ากันเถิด
ขณะคิด เขาก็เหลือบมองไปทางด้านเย่ซิวตู๋
เย่ซิวตู๋กระแอม นั่งลงตรงหน้าอวี้ชิงลั่วพลางรินน้ำให้นาง น้ำเสียงอ่อนโยนอย่างหาได้ยาก “เหตุใดจึงมาเสียดึกเช่นนี้ ซ่างกวนจิ่นไม่เห็นเจ้าหรือ?”
อวี้ชิงลั่วไม่แม้แต่จะมองถ้วยชาเสียด้วยซ้ำ เพียงจ้องมองเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
เย่ซิวตู๋ถูกนางมองเสียจนรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว หันหน้าหนีแล้วก็กระแอมอีกครั้ง
“ท่านพ่อโดนลมเย็นจนเป็นหวัดหรือ? ข้ามียานะขอรับ นี่ รีบกินเสียขอรับ” หนานหนานเคลื่อนไหวรวดเร็ว ไม่เท่าไรก็วิ่งมาตรงหน้าเย่ซิวตู๋ ไม่รู้ว่าหยิบยามาไว้ในมือตั้งแต่ตอนไหน ป้อนใส่ปากเย่ซิวตู๋โดยพลัน
“…” เย่ซิวตู๋จ้องมองเขา “ข้าไม่ได้เป็นหวัด”
“อ้อ” หนานหนานพยักหน้า “ไม่เป็นไรขอรับ ยานี่ท่านแม่ให้ข้ามา มีไข้ก็จะรักษา หากไม่มีไข้ก็จะแข็งแรง กินไปก็ไม่เป็นไรขอรับ”
“…” แต่มันขมมากนะ
“ยาของท่านแม่แรงมาก ท่านพ่ออย่ากลัวไปเลย” หนานหนานกล่าว มองไปยังอวี้ชิงลั่วอย่างประจบสอพลอ “ท่านแม่ ข้าพูดถูกใช่หรือไม่?”
อวี้ชิงลั่วมองเขาแล้วแค่นหัวเราะ เจ้าเด็กนี่เริ่มประจบประแจงแล้วหรือ เช่นนั้นตอนที่ท่านพ่อตกลงยอมเป็นเหยื่อ เหตุใดจึงไม่รู้จักห้ามเขาบ้างเล่า
หนานหนานหดคอ จากนั้นก็กลับไปนอนที่เก้าอี้ยาวอย่างเชื่อฟัง
เย่ซิวตู๋ถอนหายใจเบาๆ เดินไปข้างหน้าจับมือของนางแล้วกล่าวเสียงเบา “ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธเรื่องอันใดอยู่ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ทำได้เพียงรีบจัดการให้เรียบร้อยเสีย เจ้าวางใจเถิด ข้ามีแผน จะป้องกันตนเองให้ดี”
อวี้ชิงลั่วจ้องมองเขา แต่กลับไม่ได้ชักมือออก
เย่ซิวตู๋เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกได้คืบจะเอาศอก ใช้สองมือกุมหลังมือของนางไว้
“อะแฮ่ม” หนานหนานกระแอมอย่างแรง
เย่ซิวตู๋หันหน้าไปมอง เจ้าเด็กนั่นรีบเงยหน้ามองฟ้าทันที แสดงออกว่าเขาไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
อวี้ชิงลั่วกลับกระตุกมุมปากแล้วชักมือกลับมา
เย่ซิวตู๋โมโหแล้ว กัดฟันกล่าวกับหนานหนาน “ท้องฟ้ามืดเพียงนี้แล้ว เจ้ายังไม่กลับไปนอนอีก ก่อนหน้านี้ก็พาเสี่ยวอวี้ก่อปัญหา เกือบจะทำร้ายท่านแม่ของเจ้า ข้ายังไม่ได้คิดบัญชีกับเจ้าเลยนะ”
หนานหนานเบิกตากว้าง มองท่านพ่อที่กล่าวเรื่องไร้สาระอย่างไม่อยากเชื่อ
เข้าใจอะไรผิดไปหรือไม่? ท่านพ่อบอกชัดๆ ว่าจะให้เขาไปจับเจ้าสายลับทรยศ เขายังบอกอีกว่าตนฉลาดเฉลียว มีชีวิตชีวา น่ารัก รู้จักคิด ระมัดระวัง มีประโยชน์มากมาย ถึงแม้บางครั้งจะสร้างปัญหาบ้าง แต่ก็สามารถเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสได้เสมอ ไม่แน่ว่าอาจจะจับตัวสายลับได้
เหตุใดตอนนี้ต่อหน้าท่านแม่กลับพูดว่าเขาพาเสี่ยวอวี้ไปก่อปัญหาเล่า
ก่อปัญหาหรือ?
หนานหนานแสดงออกว่าตอนนี้จะไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์พ่อลูก เขาอยากจะ… ดูถูกท่านพ่อนัก
เขาส่งเสียงฮึดฮัด แต่เมื่อเห็นว่าอวี้ชิงลั่วส่งสายตามาทางนี้ก็ยิ้มอย่างประจบสอพลอ แล้วลุกออกไปข้างนอกอย่างว่าง่าย
เมื่อเดินไปถึงตรงประตูก็ทำหน้ามุ่ยอย่างรู้สึกไม่เป็นธรรมแล้วกล่าว “ท่านแม่ ท่านอย่าไปนะ หนานหนานยังมีอีกหลายอย่างอยากคุยกับท่าน”
อวี้ชิงลั่วโบกมือ ไม่ตอบเขา
จากนั้นหนานหนานก็กลับไปยังห้องของตนอย่างลังเล
จริงๆ แล้วช่วงนี้เขานอนกับเย่ซิวตู๋ตลอด ถึงแม้ห้องของเขาจะอยู่ข้างๆ แต่ก็ปล่อยว่างมาตลอด
ตอนนี้ท่านแม่กลับมาแล้ว เขาก็ทำได้เพียงอยู่คนเดียวอย่างเหงาๆ
เมื่อเขาไป เย่ซิวตู๋ก็เข้ามาให้แล้วกล่าวเบาๆ “เจ้าก็รู้ว่ามันร้ายแรง เรื่องนี้ อย่าโทษข้าเลยนะ”
อวี้ชิงลั่วลอบสูดหายใจลึกๆ ก็เพราะนางรู้ว่ามันร้ายแรง จึงต้องโทษเขาอย่างไรเล่า
มีคนที่ไม่รักตนเองเช่นนี้ที่ไหนกัน
“เช่นนั้นข้าไม่ไปแล้ว จะอยู่ที่นี่” อย่างไรมีคนเพิ่มมาคนหนึ่ง ก็จะได้มีคนช่วยอีกแรง
เย่ซิวตู๋มุ่นคิ้ว “ชิงเอ๋อร์…”
“ท่านห้ามคัดค้านเด็ดขาด เรื่องนี้ห้ามต่อรอง” อวี้ชิงลั่วขัดจังหวะคำพูดของเขาที่ยังลังเล ส่งเสียงฮึดฮัด “อย่างไรข้าก็เป็นหมอคนหนึ่ง ถึงแม้ทักษะการต่อสู้จะไม่เท่าท่าน แต่ก็ยังมีความสามารถอื่น”
เย่ซิวตู๋หลุบตาลง ริมฝีปากเม้มแน่น
ครั้นเขาเงียบไป ความโกรธของอวี้ชิงลั่วก็ปะทุขึ้นมาอีก “ข้าจะบอกให้นะ ต่อให้ไล่ข้าไปวันนี้ พรุ่งนี้เช้าข้าก็จะกลับมาอีก”
นางหยิกแขนของเขาอย่างแรง หรี่ตากล่าวเสียงทุ้ม “เหมิงลู่ให้ข้าดูสมุดแล้ว ข้าเองก็ทนไม่ไหวกับเด็กเหล่านั้นที่ถูกฆ่า ดังนั้นข้าก็จะไม่ห้ามการตัดสินใจของท่านในครั้งนี้ แต่ข้าต้องมีส่วนร่วมด้วย”
น้ำเสียงของอวี้ชิงลั่วตึงเครียด เย่ซิวตู๋เงยหน้าขึ้นมองนาง เห็นแววตาของนางแน่วแน่ ริมฝีปากเม้มแน่น แต่แววตากลับเป็นประกายอย่างมาก ทำเอาคนหวั่นไหวเป็นพิเศษ
เขาขยับเข้าไปใกล้อีกเล็กน้อยแล้วกัดริมฝีปากล่างของนาง
อวี้ชิงลั่วชะงักไป จากนั้นใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยว
แต่ความรู้สึกนุ่มนวลและชาที่ริมฝีปาก ทำให้ใจนางอ่อนยวบ มือที่ปัดป้องก็หยุดลง
ผ่านไปครู่ใหญ่ เย่ซิวตู๋ก็ถอยหลัง จากนั้นก็จับมือนางอีกครั้ง หัวเราะเบาๆ แล้วกล่าว “เจ้ากลับมาเช่นนี้ แล้วทางด้านซ่างกวนจิ่นจะทำอย่างไรเล่า”
“ทำอย่างไรอะไรกัน เดิมทีข้าก็ต้องกลับมาอยู่แล้ว หากไม่ใช่ว่าวันนี้ท่านให้เจียงเอ๋อร์มาส่งจดหมาย ข้าเองก็คงบอกลาเขาไปแล้ว เขาอยากทำเช่นไรก็แล้วแต่เขาสิ” อวี้ชิงลั่วรู้สึกว่าริมฝีปากรุ่มร้อน นางเม้มปากเล็กน้อย
เมื่อเห็นเช่นนี้เย่ซิวตู๋ก็ขุ่นเคืองอีกครั้ง ขยับเข้าไปใกล้นางอีก
อวี้ชิงลั่วหรี่ตา รีบเอียงคอไปข้างหลัง ใช้สองมือกันไว้ “หยุดก่อน ข้าพูดจริงๆ นะ”
เย่ซิวตู๋ไม่เต็มใจนัก เขาไม่ได้แตะต้องนางมาสองสามวันแล้ว ตอนนี้แม้แต่จะให้เขาชิมของหวานเสียหน่อยก็ไม่ได้ ช่างขี้เหนียวนัก
“เอาล่ะ เช่นนั้นก็มาพูดความจริงกัน” เย่ซิวตู๋นั่งตัวตรง เห็นหน้านางเริ่มเป็นสีแดงก็กล่าวเสียงต่ำ “ในเมื่อเจ้าก็เห็นด้วยกับความคิดของข้าแล้ว เช่นนั้นก็ไม่ต้องโกรธแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ได้หรือไม่นั้น…”
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว ฟังคำที่เขาพูด จะปฏิเสธอย่างนั้นหรือ
“ชิงเอ๋อร์ เจ้าลืมสิ่งที่ข้ากล่าวเมื่อครั้งก่อนไปแล้วหรือ?” เย่ซิวตู๋หรี่ตามองนาง
อวี้ชิงลั่วชะงัก สิ่งที่กล่าวเมื่อครั้งก่อนหรือ
“ท่าทางที่กำลังคาดเดาของเจ้านั้น แสดงว่าคงจะจำได้กระมัง” เย่ซิวตู๋ยิ้มพลางส่ายหน้า “เช่นนั้นก็มีปัญหาแล้ว มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่จะหยุดได้”
กล่าวถึงตรงนี้ เขาก็ยังไม่พอใจนัก “ถึงแม้ข้าจะไม่เห็นด้วยนัก แต่ในเมื่อเจ้าอยากร่วมด้วย เช่นนั้นก็มาเปลี่ยนวิธีการเข้าร่วมกัน ไม่จำเป็นต้องอยู่ข้างกายข้า ส่วนทางด้านซ่างกวนจิ่นนั้น…”
อวี้ชิงลั่วโกรธมาก มองเขาอยู่นาน สุดท้ายก็กัดฟัน ส่งเสียงฟึดฟัดแล้วหันหลังจากไป
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
หนานหนานโดนพ่อแกงแล้วหนึ่ง โอ๋เอ๋นะลูก
ท่านอ๋องนี่เผลอไม่ได้เลยนะคะ คิดจะชิมเต้าหู้ภรรยาตลอดเลย
ไหหม่า(海馬)