อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 847 ทำร้ายหงเย่อย่างสาหัส
ตอนที่ 847 ทำร้ายหงเย่อย่างสาหัส
ตอนที่ 847 ทำร้ายหงเย่อย่างสาหัส
กล่าวจบ เซวียเฉิงก็ยกกระบี่ขึ้นแล้วแทงเข้าใส่ทางด้านหน้าอวี้ชิงลั่ว
หงเย่รีบชักกระบี่อ่อนที่เอวออกมาแล้วมุ่งหน้าเข้าไปทันที เกิดเสียงดัง ‘เคร้ง’ พร้อมกับปลายกระบี่ถูกปัดเบนออกไป
ซ่างกวนจิ่นไม่แม้แต่จะมอง ตอนนี้กระทั่งหายใจก็ยังลำบาก เขาถอยไปสองสามก้าว พิงกำแพงที่ด้านข้าง
เหมิงพั่วชำเลืองมองเขาแล้วลอบยิ้ม จากนั้นจู่ๆ กลับขึ้นเสียง “เฮ้อ เหตุใดจึงลงมือเสียแล้วเล่า เซวียเฉิง เหตุใดเจ้าจึงใจร้อนเช่นนี้ อวี้ชิงลั่วยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไม่ให้ยาแก้พิษ เหตุใดเจ้าจึงลงไม้ลงมือเสียแล้ว?”
เหมือนกับว่าเซวียเฉิงแทบไม่ได้ยินที่เขาพูดเลย เพลงกระบี่ยิ่งทวีรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
เพียงแต่เขามีความกังวลอยู่ในใจ จึงยังไม่กล้าลงมือฆ่า เกรงว่าถึงตอนนั้นไปทำให้อวี้ชิงลั่วไม่พอใจและโกรธขึ้นมา จะยิ่งไม่ยอมมอบยาแก้พิษให้
ดังนั้นเป้าหมายของเขาในตอนนี้ คือการจับเป็นหงเย่
ในใจเซวียเฉิงเข้าใจดี อวี้ชิงลั่วผู้นี้จริงๆ แล้วมักจะปกป้องคนข้างกาย นางมาที่ดินแดนเหมิงตามลำพังเพียงเพื่อแม่นมเก๋อเพียงคนเดียว ย่อมยอมทำอะไรบางอย่างเพื่อสาวใช้คนสนิทได้
ซ่างกวนจิ่นกลับไม่สนใจว่าพวกเขาต่อสู้กันเป็นอย่างไรบ้าง เพียงแต่ค่อยๆ หลับตา ไม่รู้ว่ากำลังคิดอันใดอยู่
เสียงการต่อสู้ยังคงดึงดูดให้คนมาดู ถึงแม้ทางด้านนี้จะเป็นประตูหลัง แต่ก็มีคนผ่านไปผ่านมาอยู่บ้าง
เหมิงพั่วโบกมือ ให้คนเหล่านั้นที่เขาพามาคอยขวางไว้ ไม่ให้ใครเข้ามา
ส่วนเขาก็หรี่ตา มองดูเซวียเฉิงและหงเย่สู้กัน
เพียงแต่ยิ่งดู เขาก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อยๆ
เซวียเฉิงผู้นี้เห็นชัดว่ายังออมมืออยู่ ไม่อย่างนั้นเขาที่เป็นถึงผู้อารักขาของอุปราชเหตุใดจึงจัดการแม้แต่สาวใช้คนเดียวไม่ได้
เหมิงพั่วดูอยู่ชั่วยามหนึ่ง และไม่คิดจะเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไป
การมาในครั้งนี้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้อวี้ชิงลั่วมาขวางทางจนซ่างกวนจิ่นผิดสัญญา
เหมิงพั่วแค่นเสียงเย้ยหยันออกมา ยกมือขึ้น ทันใดนั้นก็มีผู้อารักขาคนหนึ่งมาที่ด้านหลังของเขา
เหมิงพั่วออกคำสั่งข้างหูเขาเบาๆ “เจ้าไปช่วยเสียหน่อย ดูท่าผู้อารักขาเซวียผู้นั้นจะทำตามที่ใจอยากไม่ได้”
“ขอรับ” ผู้อารักขาผู้นั้นตอบรับ แววตาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม พุ่งตัวเข้าไปในทันที
อวี้ชิงลั่วเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเหมิงพั่วมาโดยตลอด เมื่อเห็นภาพนี้ ก็เข้าไปขวางโดยไม่กล่าวอันใดทั้งนั้น
ที่เอวของนางมีแส้อยู่เส้นหนึ่ง นางไม่ได้ใช้มันมานานแล้ว จึงหยิบออกมาในทันใด แล้วเหวี่ยงไปที่ผู้อารักขาผู้นั้น
อวี้ชิงลั่วลงมืออย่างไร้ปรานี ผู้อารักขาผู้นั้นถูกเฆี่ยน เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่นโดยพลันพร้อมกับรอยเลือดปรากฏบนหน้าอก ทำให้เขาต้องถอยหลังไปสองก้าว
เหมิงพั่วขมวดคิ้ว “แม่นางอวี้ เจ้าเอายาแก้พิษออกมาเถิด จะเป็นการดีกับทุกคน”
“ข้าบอกให้เจ้าหุบปาก เหตุใดจึงกล่าวเรื่องไร้สาระมากมายเพียงนี้” อวี้ชิงลั่วหัวเราะหยัน สะบัดข้อมือแล้วดึงแส้กลับมา
เหมิงพั่วมองซ่างกวนจิ่นอีกครั้ง เห็นเขายังคงไม่ขยับแม้แต่น้อยก็หรี่ตา ให้สองคนที่ด้านหลังเข้าไปพร้อมกัน
“พวกเจ้าไปเสีย ต้องนำยาแก้พิษมาจากนางให้ได้ สีหน้าของท่านอุปราชไม่สู้ดีแล้ว อย่าให้เขาเป็นอะไรไป”
เขากล่าวจบก็หันมองซ่างกวนจิ่นอีกครั้ง เห็นว่าเขาไม่ตอบสนอง รอยยิ้มก็ปรากฏที่มุมปาก
เหมิงพั่วโบกมือ ทั้งสองคนนั้นก็พุ่งเข้าใส่อวี้ชิงลั่วทันที
การที่อวี้ชิงลั่วจะรับมือกับพวกเขา ย่อมไม่มีปัญหาใด แส้ในมือของนางเหวี่ยงไปมา การเคลื่อนไหวเฉียบขาด มีท่าทางเหมือนจินหลิวหลีเป็นอย่างมาก
ผู้อารักขาทั้งสองคนทำได้เพียงก้มหรือกระโดดหลบ ไม่สามารถเข้าใกล้ได้
เหมิงพั่วเองก็ไม่สนใจ ให้ผู้อารักขาคนเดิมไปช่วยเซวียเฉิงจัดการหงเย่
ถึงแม้อวี้ชิงลั่วจะรับมือกับสองคนได้ แต่ก็ไม่สามารถแยกร่างไปช่วยหงเย่ได้ จึงขมวดคิ้วในทันที
“หากพวกเจ้ากล้าทำร้ายหงเย่แม้แต่ปลายผม ก็อย่าคิดจะได้ยาแก้พิษของซ่างกวนจิ่นอีก” อวี้ชิงลั่วออกแรง หนึ่งคนในนั้นถูกนางเหวี่ยงออกไป
ทิศทางนั้นเป็นทิศทางเดียวกับที่ซ่างกวนจิ่นยืนอยู่พอดี
สีหน้าของซ่างกวนจิ่นโกรธเกรี้ยว มองอวี้ชิงลั่วอย่างเย็นชา ผู้อารักขาข้างกายเขารีบกันเขาไว้ ไม่ให้มีใครล้มมาโดนนายท่าน
เหมิงพั่วกลับหัวเราะออกมา กล่าวประโยคหนึ่ง “แม่นางอวี้ เจ้าช่างไม่รู้ความเกินไปแล้ว นี่เห็นสาวใช้ของเจ้าดีกว่าท่านอุปราชอีกหรือ”
ครั้นเขากล่าวเช่นนั้น ผู้อารักขาทางด้านนั้นก็ตรงเข้าไปประมือกับหงเย่แล้ว
เซวียเฉิงขมวดคิ้ว ไม่อยากให้คนผู้นั้นมาช่วย นี่กลัวว่าสถานการณ์จะไม่วุ่นวายอย่างนั้นหรือ?
เขาพอจะฟังออกว่าเหมิงพั่วผู้นี้แม้จะสู้เพื่อนายท่านอยู่ แต่จริงๆ แล้วแค่กำลังยุแยงเท่านั้น
ทุกๆ ประโยคของเขาล้วนแทงใจของนายท่าน แม้อยากจะมองข้ามแต่ก็ทำไม่ได้
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น จู่ๆ ผู้อารักขาคนนั้นก็ลงมือ มือขวาถือกระบี่ มือซ้ายกลับไม่รู้ว่ามีมีดสั้นโผล่มาตั้งแต่ตอนไหน ทันใดนั้นก็เล็งไปที่ท้องของหงเย่แล้วแทงเข้าไป
หงเย่หลบกระบี่ของเซวียเฉิงได้อย่างหวุดหวิด การจะหลบอีกครั้งนั้นเป็นไปไม่ได้ ทำได้เพียงถอยหลังไปครึ่งก้าว
แต่ก็ไม่ทันแล้ว ‘ฟุ่บ’ เสียงของมีดสั้นที่แทงเข้าไปในเนื้อนั้นบาดหูเป็นพิเศษ
เซวียเฉิงอึ้งงันไป สีหน้าของผู้อารักขาผู้นั้นกลับดูดุร้าย ยกเท้าแล้วเตะเข้าไปที่ท้องของหงเย่
“อึก…” หงเย่เปล่งเสียงในลำคอ ร่างอ่อนยวบกระเด็นปลิวไปเหมือนเศษผ้า ล้มลงตรงหน้าอวี้ชิงลั่วอย่างแรง
รูม่านตาของอวี้ชิงลั่วหดลง ฟาดแส้อย่างแรง จากนั้นรีบชักมือยืนอยู่ข้างหงเย่แล้วกล่าวอย่างกระวนกระวาย “หงเย่ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
“คุณหนู…” หงเย่ใช้มือกุมหน้าท้อง บนนั้นล้วนเต็มไปด้วยเลือดเสียจนหลังมือของนางกลายเป็นสีแดง
อวี้ชิงลั่วรู้สึกเหมือนการหายใจหยุดชะงักไป นางรีบนำเม็ดยาออกมาจากตัว ป้อนใส่ปากของหงเย่ทันที
“ไม่เป็นไร เจ้าวางใจเถิด ไม่เป็นไรหรอก” อวี้ชิงลั่วรีบห้ามเลือดให้นาง
เหมิงพั่วหัวเราะออกมา หันหน้าไปมองทางซ่างกวนจิ่น
แต่กลับเห็นว่าสีหน้าของเขายังคงนิ่งเฉย ดวงตาไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
ถึงแม้ตอนนี้อวี้ชิงลั่วจะตื่นตระหนกมาก ถึงแม้ชีวิตของหงเย่กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เขาก็ยังคงนิ่งสงบ สีหน้าเรียบเฉย
เซวียเฉิงเก็บดาบ มาที่ข้างกายของซ่างกวนจิ่นแล้วลดศีรษะลงเล็กน้อย
ความตั้งใจเดิมของเขาไม่ใช่การทำร้ายหงเย่ นี่มีแต่จะทำให้แม่นางอวี้ไม่พอใจมากยิ่งขึ้น
“นายท่าน พิษของท่าน…” เซวียเฉิงเริ่มไม่มั่นใจเล็กน้อยแล้ว ตอนนี้หากตรงเข้าไปอีก อาจจะไม่เหมาะสมนัก
ซ่างกวนจิ่นสูดหายใจลึกๆ พิษกำลังกระจายตัว เขารู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย
“อวี้ชิงลั่ว เอายาแก้พิษมา!!” น้ำเสียงของเขาเย็นชาอย่างมาก ท่าทางเช่นนี้ทำให้เซวียเฉิงเองก็ตกใจ
นายท่านไม่เคยมีท่าทางเช่นนี้มาก่อน ยามที่เผชิญหน้ากับแม่นางอวี้
ท่าทางเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ามีความอาฆาตอยู่
เหมิงพั่วมีความสุข เขาก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง กล่าวกับซ่างกวนจิ่น “ท่านอ๋อง ให้ข้าเอามาให้ท่านเถิด แม่นางอวี้ผู้นี้ช่างไม่เชื่อฟังเสียเลยจริงๆ”
ซ่างกวนจิ่นเม้มปาก ไม่กล่าวอันใดทั้งนั้น
เหมิงพั่วเลิกคิ้ว ขยับเข้าไปใกล้อวี้ชิงลั่ว เมื่อเห็นว่าซ่างกวนจิ่นไม่ได้แสดงออกอันใดก็กระโดดขึ้น แล้วพุ่งเข้าโจมตีอวี้ชิงลั่วโดยตรง
หงเย่ตกใจมาก รีบผลักนางออกไป “คุณหนู รีบหนีไปเจ้าค่ะ”
เหมิงพั่วเข้ามาใกล้ อวี้ชิงลั่วจึงมัวใส่ใจหงเย่ไม่ได้ ทำได้เพียงถอยหลัง
แส้ในมือเหวี่ยงออกไปอีกครั้ง เข้าใกล้ใบหน้าของเหมิงพั่ว
…………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
โอ๊ย หงเย่บาดเจ็บแล้ว จะฝ่าวิกฤตนี้ไปยังไงดีนะ
ไหหม่า(海馬)