อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 848 กดดันทุกย่างก้าว
ตอนที่ 848 กดดันทุกย่างก้าว
ตอนที่ 848 กดดันทุกย่างก้าว
เหมิงพั่วแค่นหัวเราะออกมา ทันใดนั้นก็เปลี่ยนทิศทางไปโจมตีหงเย่อีกครั้ง
สีหน้าอวี้ชิงลั่วเปลี่ยนไป จะเก็บแส้ในมือมาก็ไม่ทันแล้ว ทำได้เพียงทิ้งแส้แล้วพุ่งตัวเข้าใส่เหมิงพั่ว
ไม่รู้ว่าในมือเหมิงพั่วมีหน้าไม้เพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหน หันหน้ามาเล็งใส่อวี้ชิงลั่ว
“คุณหนู คุณ… อุบ” หงเย่เบิกตากว้าง อยากจะช่วย แต่จู่ๆ บาดแผลบนร่างกลับถูกเหยียบเอาไว้ นางเจ็บเสียจนหายใจแทบไม่ออก เกือบจะหมดสติไป
อวี้ชิงลั่วไม่รู้วิชาตัวเบา การจะหลบลูกศรหน้าไม้นั้นย่อมเป็นไปไม่ได้
เหมิงพั่วหัวเราะออกมา นิ้วมือวางอยู่บนไกของหน้าไม้แล้ว ต่อจากนั้นก็ค่อยๆ ปล่อย ลูกศรนั้นพุ่งแหวกออกไปในอากาศตรงไปทางด้านของอวี้ชิงลั่ว
ทว่า ยังไม่ทันที่รอยยิ้มของเหมิงพั่วจะจางหาย ร่างกายของอวี้ชิงลั่วกลับลอยสูงขึ้นแล้วร่อนลงที่ด้านหลังของเขา
เหมิงพั่วหันหน้าไปทันที ก็เห็นมือของซ่างกวนจิ่นโอบเอวของอวี้ชิงลั่วเอาไว้
ดูเหมือนเมื่อครู่จะโชคดี ทว่าจู่ๆ กลางอกก็เจ็บขึ้นมา เขางอตัว จากนั้นก็พ่นโลหิตสีดำออกมาอีกครั้ง
อวี้ชิงลั่วมีสีหน้าประหลาดใจ “ท่าน…”
“เอายาแก้พิษให้ข้า” ซ่างกวนจิ่นเงยหน้า มองนางอย่างดุร้าย
อวี้ชิงลั่วเม้มปากแน่น ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าแรงบีบที่เอวนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก
“ไม่ต้องการช่วยชีวิตสาวใช้ของเจ้าแล้วหรือ” ซ่างกวนจิ่นเย้ยหยัน
อวี้ชิงลั่วหันหน้า มองไปทางหงเย่ที่อยู่ใต้เท้าของเหมิงพั่ว ดูเหมือนว่านางจะทนความเจ็บไม่ได้ และหมดสติไปแล้ว
นางอ้าปากค้างไปทันที เสียงต่ำของซ่างกวนจิ่นดังขึ้นข้างหูอีกครั้ง “ข้าไม่ไปทำลายแผนของเย่ซิวตู๋เป็นใช้ได้แล้ว นำยาแก้พิษมาให้ข้า”
อวี้ชิงลั่วมองเขาในทันที ไม่อยากเชื่อเท่าใดนัก
“สตรีอย่างเจ้านี่… หากไม่เชื่อ ก็ให้เพียงยาแก้พิษที่พอจะบรรเทาพิษในร่างของข้าได้ก็พอแล้วนี่”
อวี้ชิงลั่วมือสั่น ครั้งนี้กลับลงมืออย่างรวดเร็ว รีบส่งยาสีดำให้เขาเม็ดหนึ่ง
ซ่างกวนจิ่นกลืนลงไปโดยไม่แม้แต่จะคิด
รูม่านตาของเหมิงพั่วหดลง รู้สึกว่าเหลือเชื่อเล็กน้อย ซ่างกวนจิ่นผู้นี้ช่างหมกมุ่นเสียจริงๆ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ยังจะช่วยอวี้ชิงลั่วอยู่อีก
ก่อนหน้านี้เขาพูดไปตั้งมากมาย อีกฝ่ายไม่ได้ฟังเข้าหูเลยแม้แต่น้อยหรือ?
เหมิงพั่วเปลี่ยนความตั้งใจ ผ่านไปครู่หนึ่งก็หัวเราะออกมา “ท่านอุปราช กระทั่งตอนนี้ยังเพ้อฝันถึงแม่นางอวี้อยู่อีกหรือ?”
หลังจากซ่างกวนจิ่นกินยาแล้ว ก็รู้สึกสบายไปทั้งตัว ความรู้สึกหายใจติดขัดเมื่อครู่หายไปหมดจด รู้สึกราวกับว่ามีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง
เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้น มองเหมิงพั่วแวบสายตาหนึ่ง
ต่อจากนั้นก็ลุกขึ้นในทันที พุ่งตัวเข้าโจมตีเหมิงพั่ว
เหมิงพั่วตกใจมาก รีบยกมือขึ้นป้องกัน “ท่านอุปราชทำอันใดกัน คิดจะทำลายข้อตกลงระหว่างเราหรือ”
“ข้อตกลงหรือ เจ้าลืมไปแล้วใช่หรือไม่ว่าข้อตกลงของเราคืออะไร เงื่อนไขที่ข้าจะช่วยเจ้า คือต้องได้ตัวอวี้ชิงลั่ว ตอนนี้นางไม่ได้เป็นของข้า เช่นนั้นข้อตกลงก็เป็นโมฆะ เจ้าจะฆ่านาง ข้าจะปล่อยเจ้าไปได้หรือ”
ซ่างกวนจิ่นลงมืออย่างแรง
เหมิงพั่วรู้สึกถึงเลือดที่พลุ่งพล่าน เดิมทีเขาก็บาดเจ็บจากเย่ซิวตู๋มาแล้ว อาการบาดเจ็บภายในค่อนข้างรุนแรง
ตอนนี้จะประมือกับซ่างกวนจิ่นได้อย่างไร เขาฟาดมาหนึ่งฝ่ามือ เหมิงพั่วก็อดไม่ได้ที่จะถอยเท้าสองสามก้าว กระอักเลือดออกมา
เขารีบมองซ่างกวนจิ่นอย่างระแวดระวัง ยกมือขึ้น กล่าวกับผู้อารักขาสิบกว่าคนที่ด้านหลัง “จัดการพวกมันเสีย”
ตรอกแคบนั้นเกิดเสียงเอะอะโวยวายในทันที เซวียเฉิงและผู้อารักขาอีกสองคนของซ่างกวนจิ่นตื่นตัวทันใด รีบเข้าไปปกป้องซ่างกวนจิ่น
เหมิงพั่วจะใช้โอกาสนี้หลบหนี ซ่างกวนจิ่นกลับจ้องมองเขาเขม็ง
อวี้ชิงลั่วรีบใช้โอกาสนี้วิ่งเข้าไป ลากหงเย่มาไว้ตรงมุมด้านหนึ่ง ไม่กล้ารอช้าอีกแม้แต่น้อย รีบจับชีพจรของนาง
สถาณการณ์ของหงเย่ค่อนข้างร้ายแรง อวี้ชิงลั่วเป็นกังวลมาก
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีคนคนหนึ่งพุ่งเข้ามาจากไม่ไกล อวี้ชิงลั่วเพียงเงยหน้าขึ้นก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
คนผู้นั้นเหวี่ยงเอาผู้อารักขาที่ขวางทางออกไป ทั้งตอนลงมือก็หนักมือมาก เมื่อวิ่งมาถึงข้างกายอวี้ชิงลั่ว รูม่านตาก็หดลง เห็นหงเย่ที่อยู่ที่พื้น แววตาก็เปลี่ยนไปในทันใด “หงเย่…”
“เผิงอิง เหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่ได้”
“นายท่านไม่วางใจแม่นางอวี้ จึงให้ข้ามาดู เมื่อข้ามาถึงที่นี่ก็พบว่า… แม่นางอวี้ หงเย่เป็นอะไรหรือขอรับ นางเป็นอะไรหรือไม่ นาง…” แววตาของเผิงอิงยังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างของหงเย่ รู้สึกเหมือนตนแทบหยุดหายใจ
อวี้ชิงลั่วสูดหายใจลึก รีบกล่าว “อาการของนางค่อนข้างสาหัส ในเมื่อเจ้ามาแล้วก็ช่วยเฝ้าระวังให้ข้าที ข้าต้องรีบปฐมพยาบาลหงเย่ เจ้าอย่าให้ใครเข้ามาใกล้ล่ะ”
นางอยากจะพาหงเย่กลับโรงเตี๊ยม แต่ตอนนี้ที่นี่ยังวุ่นวายอยู่ ประตูหลังก็ถูกคนขวางไว้อย่างแน่นหนา อยากจะไปที่นั่นย่อมไม่สามารถทำได้ ไม่แน่ว่าจะทำร้ายหงเย่ให้อาการหนักขึ้นไปอีก
อย่างไรเผิงอิงก็มาแล้ว มีเขาอยู่ อวี้ชิงลั่วก็วางใจได้เล็กน้อย
เผิงอิงพยักหน้า รีบยืนขึ้นหันหลังให้พวกนาง
เพียงแต่เงียบไป จากนั้นก็หันกลับมาทันที กล่าวกับอวี้ชิงลั่วอย่างเคร่งขรึม “แม่นางอวี้…ไม่ว่าจะอย่างไร ขอให้ท่านโปรดช่วยนาง อย่าให้นางเป็นอะไรไป ข้า… จะรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมากขอรับ”
อวี้ชิงลั่วลอบถอนหายใจ นางรู้ว่าเผิงอิงคิดอะไรอยู่ ครั้งก่อนบังเอิญได้ยินเขากล่าวกับเย่ซิวตู๋ และรู้ว่าเขาคิดกับหงเย่อย่างไร
เพียงแต่หัวใจของหงเย่กลับอยู่ที่เหวินเทียน สองคนนั้นรักกัน ทำให้เผิงอิงต้องเศร้าใจอย่างเลี่ยงไม่ได้
ในช่วงสองสามวันนี้ ก็ไม่เห็นว่าเผิงอิงมีการเคลื่อนไหวอันใด วันนั้นได้ยินเยว่ซินบอกว่าเหวินเทียนและเผิงอิงเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เผิงอิงน่าจะช่วยพวกเขาอยู่
เพียงแต่ตอนนี้เขาเห็นหงเย่เป็นเช่นนี้ ก็น่าจะทนไม่ไหว
นางพยักหน้าให้เผิงอิง และกล่าวอย่างจริงจังมากเช่นกัน “เจ้าวางใจเถิด หงเย่ดีกับข้าถึงเพียงนั้น ข้าย่อมช่วยนางสุดความสามารถ”
จากนั้นเผิงอิงก็พยักหน้า สูดหายใจเข้าลึกๆ หันกลับไปปกป้องพวกนาง
สถานการณ์ค่อนข้างรุนแรง ผู้พิทักษ์ทมิฬของซ่างกวนจิ่นได้รับคำสั่งให้รออยู่ ไม่ได้อยู่ในโรงเตี๊ยม
ทางฝั่งเขามีเพียงสามคน โชคดีที่ล้วนมีฝีมือทั้งสิ้น
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น กำลังคนน้อยก็ยากจะเอาชนะฝั่งที่คนมาก หนึ่งในนั้นก็ได้รับบาดเจ็บอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้เหมิงพั่วจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซ่างกวนจิ่น แต่คนข้างกายเขาก็พอจะขัดขวางได้อยู่
ดังนั้นเมื่อต่อสู้กันไปกันมาสองสามครั้ง ซ่างกวนจิ่นก็ทำให้เหมิงพั่วบาดเจ็บได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เหมิงพั่วกลับเคลื่อนไหวนอกสนามรบมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับว่าจะหนีจากการโจมตีของซ่างกวนจิ่นได้อย่างรวดเร็ว
เผิงอิงขมวดคิ้วมองอยู่ครู่หนึ่ง ถึงแม้จะไม่เข้าใจสถานการณ์นัก แต่ก็เห็นได้ชัดว่าซ่างกวนจิ่นน่าจะเป็นคนฝั่งเดียวกับตน
สายตาของเขาระแวดระวัง มีคนเข้ามาใกล้ ก็จับคนออกไปโดยไม่ลังเล
อวี้ชิงลั่วเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไม่สนใจสิ่งใดทั้งนั้น ทำได้เพียงพยุงอาการของหงเย่ให้คงที่โดยเร็วที่สุด
นางป้อนยาให้หงเย่ติดต่อกันหลายเม็ด และสุดท้ายก็ช่วยชีวิตของหงเย่กลับมาได้
จากนั้นนางก็ถอนหายใจโล่งอก แต่ทันใดนั้นเผิงอิงที่คอยเฝ้าอยู่ข้างกายของพวกนางก็ส่งเสียงร้องต่ำออกมา
อวี้ชิงลั่วตกตะลึง ถามโดยไม่รู้ตัว “เป็นอะไรไปหรือ?”
…………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จะหนีกันยังไงล่ะเนี่ย โดนล้อมไว้ทุกทิศเลย
ไหหม่า(海馬)