อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 849 เจ้าไม่คู่ควร
ตอนที่ 849 เจ้าไม่คู่ควร
ตอนที่ 849 เจ้าไม่คู่ควร
อวี้ชิงลั่วกล่าวจบ ก็หันมองไปทางด้านเสิ่นอิงโดยไม่รู้ตัว
ก็เห็นกลุ่มคนอยู่ไม่ไกลนัก ซ่างกวนจิ่นกำลังแทงดาบเข้าไปในอกของเหมิงพั่ว รัศมีดูน่าเกรงขาม
ราวกับว่าเสียงทั้งหมดจางหายไปจากหู เลือดเริ่มไหลออกมาจากปากของเหมิงพั่วอย่างหนัก และค่อยๆ อาบชุดสีเทาหม่นจนกลายเป็นสีแดง
เขาจ้องมองด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ แววตาที่จ้องมองซ่างกวนจิ่นราวกับมีมีดที่คมกริบพุ่งออกมา
ผ่านไปนาน เหมิงพั่วก็เหมือนกับว่าหาเสียงของตนจนเจอแล้ว “ระหว่างเรา… แต่ว่า แต่ว่ายังมีข้อตกลง… เราเป็น…พันธมิตรกัน”
“ข้อตกลงหรือ? พันธมิตรหรือ?” ซ่างกวนจิ่นหัวเราะออกมา ทันใดนั้นลูกดอกในมือก็แทงเข้าไปอีกครั้ง
เหมิงพั่วคำรามออกมา ก็ได้ยินเสียงของซ่างกวนจิ่นที่เหมือนดังมาจากนรก “หากเจ้าเป็นพันธมิตรกับข้าจริงๆ เหตุใดจึงแสดงจุดอ่อนออกมาให้นางเห็นมากมายเช่นนี้เสียจนนางรู้ว่าทั้งหมดเป็นเพียงแผนของเราเท่านั้น เจ้าเองก็รู้อยู่ว่านางไม่ใช่คนโง่”
“เจ้า…” รูม่านตาของเหมิงพั่วหดลง
“เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนที่เล่นด้วยได้อย่างนั้นหรือ? ข้าสามารถอยู่ในตำแหน่งเช่นตอนนี้ได้ เจ้าคิดว่าเหตุผลคืออันใดเล่า?”
หากไม่มีสมอง ข้าจะยังนั่งอยู่ตรงนี้ได้อย่างมั่นคงหรือ?
เหมิงพั่วคิดว่าตนเป็นสิ่งใดกันแน่ คิดจะมาเล่นตลกกับเขา หากตนไม่ฆ่าเขา จะไม่ทำให้ตนผิดหวังหรอกหรือ?
นิ้วของเหมิงพั่วจับปลายดาบไว้ เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาทันที “ในเมื่อท่านอ๋องเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง แล้วเหตุใดต้องทำตามแผนของพวกเรามาโดยตลอดด้วยเล่า ฮ่าๆ ไม่ใช่เพราะท่านอ๋องไม่มั่นใจ ยังคงมีความหวัง หวังว่าหญิงผู้นั้นอาจจะโง่เสียหน่อยแล้วซาบซึ้งกับท่านหรือ? ฮ่าๆ ตลอดชีวิตของท่านอ๋องก็จะต้องล้มเช่นนี้ ยังจะมีคุณสมบัติใดมากล่าวถึงสถานะของท่านอีกหรือ ไม่ช้าก็เร็วก็จะถูกคนโค่นลงมาอยู่ดี”
“หุบปาก”
เหมิงพั่วกลับกล่าวต่อไป “ชีวิตนี้ของท่านอ๋องก็เป็นเช่นนี้แล้ว ท่านอุปราชในอดีตเชื่อว่าการจะเป็นชายที่ประสบความสำเร็จนั้นต้องโหดร้าย อำมหิตเลือดเย็น ตอนนี้กลับจิตใจโลเล ข้าว่า อาณาจักรจิงเหลยคงจบเห่เสียแล้ว”
“ข้า…บอก…ให้…เจ้า…หุบปาก!!”
ลมหายใจของซ่างกวนจิ่นรุนแรงขึ้นมาก เขาเพิ่มแรงที่มือ ชักดาบออกมาในทันที
ปลายดาบแหลมคมมีคราบเลือดติดออกมาเป็นแนวยาว อาบเสียจนทำให้เสื้อผ้าของเหมิงพั่วยิ่งแดงฉานเข้าไปอีก
“เจ้าจะต้อง…เสียใจ…จะต้องเสียใจ…”
“เสียใจหรือ?” ซ่างกวนจิ่นหัวเราะออกมา “จะเสียใจได้อย่างไร คนอย่างเจ้าถูกกำหนดมาให้แพ้อยู่แล้ว เจ้าน่ะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่ซิวตู๋ เรื่องนี้ข้ารู้มาตั้งแต่แรก คนอย่างเจ้า ไม่คู่ควรจะมาร่วมมือกับข้าหรอก”
“เจ้า…” ดังนั้นสิ่งที่เขาพูดเรื่องข้อตกลงและพันธมิตรนั้น ล้วนไม่จริงใจมาตั้งแต่ต้นหรือ?
เหมิงพั่วรู้สึกเพียงว่าลมหายใจสุดท้ายเหมือนจะหมดไป เขามองซ่างกวนจิ่น ไม่พอใจอย่างมาก ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
จุดจบของเขาไม่ควรเป็นเช่นนี้ เขาต้องช่วยเหมิงกุ้ยเฟย ช่วยให้เย่ฮ่าวถิงได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด จากนั้นก็มีอำนาจยิ่งใหญ่ ถึงจุดสุดยอดของชีวิต
เหตุใดเขาจึงต้องมาจบลงที่นี่ เขาตายแล้วนางจะทำอย่างไรเล่า? ใครจะช่วยนางได้อีก จะมีใครที่คอยช่วยนางอย่างสุดความสามารถและไร้ความเกรงกลัวต่อสิ่งใดได้
เสียง ‘ฟุ่บ’ ดังขึ้น ร่างของเหมิงพั่วเอนไปด้านหลัง ตัวตรงแล้วล้มลงกับพื้นอย่างแรง ตรงหน้าไม่มีร่างของซ่างกวนจิ่นแล้ว สายตาของเขาก็พร่ามัว ในความพร่ามัวนั้น เหมือนกับมีใครบางคนเดินเข้ามาหาเขา
คนผู้นั้นดูผอมเพรียว อ่อนโยน ใบหน้างดงาม ดูสะคราญโฉมเป็นพิเศษ
คนผู้นั้นดูเหมือนจะมีอายุเพียงสิบห้าสิบหกปี ใบหน้ามักปรากฏแววเขินอาย เวลาพูดจาก็นิ่มนวล อ่อนหวานไพเราะ
หลังจากนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเก่งกาจและงดงามยิ่งขึ้น สุดยอดอย่างหาใดเปรียบ อุปนิสัยก็เปลี่ยนไปเป็นสูงส่ง มั่นใจในตนเอง แทบจะดึงดูดสายตาของคนทุกคน
ก็จริง คุณหนูใหญ่แห่งจวนผู้อาวุโสสกุลหมิง ช่างมีเอกลักษณ์และงดงามอย่างมากจริงๆ
เหมือนกับว่านางยิ้มให้เขา เรียกชื่อเขาเบาๆ
เหมิงพั่วหัวเราะเยาะตนเองในทันใด เขาบอกว่าซ่างกวนจิ่นโลเลไม่เด็ดขาด ยอมตกอยู่ในมือของหญิงเพียงคนเดียว แต่ตัวเขาเองเล่า?
หากไม่ใช่ว่าโง่เง่า เหตุใดเขาจะต้องลำบากทำเรื่องที่ผิดอย่างร้ายแรงเช่นนั้นด้วย เขาเองก็เป็นชาวเหมิง ครั้งหนึ่ง… ก็เป็นชาวเหมิงที่มีความสัมพันธ์อันดีกับท่านประมุขของดินแดนเหมิงอีกด้วย
มุมปากของเหมิงพั่วหายใจออกมาครั้งหนึ่ง เรียกเสียงต่ำ เสียงนั้นเบามาก
ซ่างกวนจิ่นมองลงไปดูเขา เห็นแต่เพียงว่ามุมปากของเขาขยับเล็กน้อย แต่ไม่รู้ว่าเขากล่าวอันใดกันแน่
ผ่านไปนาน การเคลื่อนไหวของเหมิงพั่วก็หยุดลง ดวงตาเบิกกว้าง มองไปยังท้องฟ้าสีครามเหนือศีรษะ
จากนั้นก็ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมา “ท่านพั่วตายแล้ว”
เพียงสี่คำสั้นๆ ก็เหมือนฟ้าผ่า ทันใดนั้นก็ทำให้เหล่าผู้อารักขาที่เหมิงพั่วพามานั้นระส่ำระสายไปในทันที
การเคลื่อนไหวของพวกเขาชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นเมื่อกลับมาได้สติและต้องการล่าถอย ก็ไม่ทันการเสียแล้ว
เซวียเฉิงส่งสัญญาณติดต่อแล้ว ผู้พิทักษ์ทมิฬของซ่างกวนจิ่นก็เร่งตามมา ตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการต่อสู้ เหมือนเช่นกับการตัดหัวไชเท้า ใช้ดาบตัดศีรษะคนที่เข้ามาขวางทางทีละคน
ไม่นานนัก ในตรอกหลังโรงเตี๊ยมก็มีเลือดไหลนองราวกับสายน้ำ กลิ่นเลือดคาวคลุ้งอบอวลอยู่ในอากาศ
คนที่อยู่ใกล้เคียงล้วนไม่มีใครเข้าใกล้แม้แต่ก้าวเดียว ถึงขนาดไปรายงานที่จวนเหล่าผู้อาวุโสที่ดูแลจัดการเมืองหลวง ก็ยังไม่มีใครที่กลับมาเลยสักคน
ทุกคนเพียงแต่รู้สึกว่าท้องฟ้าเปลี่ยนไปแล้ว เหมือนว่าจะมืดครึ้มลง หม่นหมองเสียจนสุดจะบรรยาย
ทันใดนั้นทุกๆ คนก็ล้วนเข้าไปหลบอยู่ในห้อง ไม่มีใครกล้าออกมา
คนที่เหมิงพั่วพามาถูกฆ่าทั้งหมด ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว จากนั้นเซวียเฉิงก็เก็บดาบเปื้อนเลือด เดินไปข้างกายซ่างกวนจิ่น
“นายท่าน…”
ซ่างกวนจิ่นเงยหน้ามองฟ้า ไม่รู้ว่ากำลังคิดอันใดอยู่ ผ่านไปนานก็ไม่ส่งเสียงใด
เซวียเฉิงเห็นเช่นนั้นก็เงียบไปเช่นกัน เพียงแต่ยังกังวลเล็กน้อย
ในตอนนั้นเอง ทั้งตรอกนั้นก็ไม่มีเสียงใด ราวกับว่าการต่อสู้และฆ่าตัดหัวก่อนหน้านี้นั้นเป็นภาพหลอน และไม่เคยเกิดขึ้น
ผู้พิทักษ์ทมิฬของซ่างกวนจิ่นนั้นได้รับการฝึกฝนอย่างดี เริ่มจัดการกับศพอย่างชำนาญ
ส่วนอวี้ชิงลั่วนั้น เมื่อเห็นว่าไม่มีภัยคุกคามใดๆ แล้ว ก็เริ่มจัดการกับบาดแผลของหงเย่อย่างโล่งใจ
โชคดีที่ช่วยชีวิตไว้ได้แล้ว นางพอจะวางใจได้ชั่วคราว แต่ก็ยังคงไม่กล้าละเลยแม้แต่น้อย มือยังเคลื่อนไหวไม่หยุด เหงื่อไหลซึมออกมาจากหน้าผาก
เผิงอิงหันหน้ามาสองสามครั้ง ขมวดคิ้วมองหงเย่อย่างเป็นกังวล จากนั้นก็มองอวี้ชิงลั่ว ในใจรู้สึกเป็นห่วงอยู่เสมอ
จนกระทั่งเขาหันกลับมาเป็นครั้งที่สาม ก็เห็นซ่างกวนจิ่นเดินมาทางด้านนี้พร้อมกับผู้พิทักษ์ทมิฬสองสามคน
สีหน้าของเขานั้นไม่สู้ดี ถึงขนาดบอกได้ว่าดูมืดมนและน่าสะพรึงกลัว
เผิงอิงหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ทันใดนั้นร่างกายก็เกร็ง เตรียมรับมือด้วยความประหม่า
อุปราชแห่งอาณาจักรจิงเหลยนั้นขึ้นชื่อด้านอารมณ์ที่คาดเดาไม่ได้
ถึงแม้เมื่อครู่จะช่วยแม่นางอวี้ แต่ใครจะรู้ว่าจู่ๆ ตอนนี้จะเปลี่ยนใจ คิดจะต่อสู้กับพวกเขาอีก
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เผิงอิงก็ไม่กล้าที่จะละเลยไปแม้แต่น้อย กล่าวเบาๆ “แม่นางอวี้ ระวังขอรับ”
เขาเพิ่งกล่าวจบ ซ่างกวนจิ่นก็เดินมาหยุดตรงหน้าเขาแล้ว ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้นตบเผิงอิง ทำให้เขาล้มลงกับพื้น
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
น่าคิดนะว่าเหมิงพั่วนี่จะเป็นชู้กับเหมิงกุ้ยเฟยหรือเปล่า ถึงได้ช่วยแบบถวายหัวให้ขนาดนั้น
จบไปศึกหนึ่ง ยังต้องรับกับอีกศึกหนึ่งหรือเนี่ย
ไหหม่า(海馬)