อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 855 มาแล้วจริงๆ
ตอนที่ 855 มาแล้วจริงๆ
ตอนที่ 855 มาแล้วจริงๆ
เย่ซิวตู๋หรี่ตา แค่นหัวเราะออกมา
“มาแล้วจริงๆ สินะ”
พวกเหมิงลู่สองสามคนที่อยู่ด้านในได้ยินคำพูดนี้ ทั้งหมดก็เดินออกมาด้านนอกประตู จ้องมองชายที่เพิ่งปรากฏตัวข้างกายผู้อาวุโสสกุลลี่อย่างกะทันหัน สีหน้าก็เคร่งขรึมลงมาก
“เหมิงจื้อเฉิง ในที่สุดเจ้าก็มา” สีหน้าของเหมิงลู่โกรธเกรี้ยว เพียงคิดถึงความโหดเหี้ยมของเขาที่คร่าชีวิตเด็กที่ไร้เดียงสา และถึงขนาดฆ่าพ่อแท้ๆ ของตนเอง เขาก็รู้สึกหนาวเยือกในใจ อยากจะบดขยี้กระดูกเขาให้เป็นผุยผง
เหมิงจื้อเฉิงแค่นหัวเราะออกมา ทำให้สีหน้าเย็นชาของเขาดูคล้ายคลึงกับเย่ซิวตู๋
เพียงแต่นิสัยนั้นกลับต่างกันอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ
“พวกท่านซ่อนตัวอยู่ในโถงจิงจู๋จะมีประโยชน์อันใด ในจวนนี้ล้วนถูกล้อมไว้หมดแล้ว หากพวกท่านไม่ออกมา ไม่ช้าก็เร็วล้วนต้องตาย” น้ำเสียงของเหมิงจื้อเฉิงดังขึ้นเล็กน้อย แต่กลับเย็นชาไร้อารมณ์
“เย่ซิวตู๋ หากตอนนี้เจ้าออกมามอบตัว เห็นแก่ที่เราเป็นลุงหลานกัน ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”
ส่วนเหมิงลู่นั้น อย่างไรก็บอกภายนอกไปแล้วว่าถูกอสนีบาตขาดสองท่อน เช่นนั้นก็ย่อมต้องตาย
เพียงมีเย่ซิวตู๋ออกมายืนยันความผิดของเหมิงลู่ เขาเป็นประมุขของดินแดนเหมิง ก็จะสามารถช่วยยืนยันให้สถานการณ์น่าเชื่อถือขึ้นไปอีก
“ลุงหลานหรือ? ท่านเคยทำตัวเป็นลุงของข้าด้วยหรือ?” ยิ่งไปกว่านั้น เขายังสามารถลงมือได้แม้กระทั่งกับผู้อาวุโสสกุลหมิง เช่นนั้นก็อย่าว่าแต่ตนเลย
หนานหนานยืนอยู่ด้านหลังเย่ซิวตู๋ ในตอนนั้นก็กล่าวอย่างไม่ยอมด้อยกว่า “ท่านเคยทำตัวเป็นท่านปู่ของข้าด้วยหรือ?”
เหมิงจื้อเฉิงแค่นหัวเราะออกมา “นี่เจ้ารนหาที่ตายอยู่หรือ?”
“ใครกันแน่ที่รนหาที่ตาย ยังไม่เป็นที่รู้แจ้งหรอก” ผู้อาวุโสสกุลเยว่เดินหน้ามาหนึ่งก้าวแล้วหัวเราะอย่างเย้ยหยัน
เขาไม่ได้รู้จักเย่ซิวตู๋มากนัก แต่อยู่กับเหมิงลู่มาหลายปี ก็มีเข้าอกเข้าใจอย่างมาก
เขาไม่เชื่อว่าเหมิงลู่จะกล้ายั่วยุเหมิงจื้อเฉิงโดยไม่มีการเตรียมการไว้แม้แต่น้อย ประกาศชัดว่าจะให้เย่ซิวตู๋มารับตำแหน่งประมุขต่อ
เหมิงลู่ไม่ใช่คนที่จะเอาชีวิตของพวกเขามาเสี่ยง ไม่อย่างนั้นเขาที่เป็นประมุขก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะครองบัลลังก์
เหมิงจื้อเฉิงค่อยๆ หรี่ตา ทันใดนั้นก็โบกมือแล้วกล่าวเสียงดัง “ไปเอาตัวมาให้ข้า”
ทันทีที่กล่าวเช่นนี้ ก็มีคนนำตัวหญิงคนหนึ่งมา ปลายดาบเย็นเฉียบพาดอยู่ที่คอของหญิงผู้นั้น ทั้งยังมีความสั่นไหวเล็กน้อย
ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงที่เพิ่งเดินมาถึงประตูเมื่อมองเห็น สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือดในทันที รีบร้อนจะมุ่งหน้าตรงไป
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว รีบยื่นมือไปห้ามเขา “ท่านผู้อาวุโสสกุลเซี่ยง ใจเย็นก่อน”
“แต่ว่า นั่นมัน…” ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงสีหน้าซีดเซียว จ้องมองเหมิงจื้อเฉิงด้วยแววตาเคร่งขรึม “เจ้าปล่อยนางเสีย เจ้าเก่งเรื่องการรังแกคนอ่อนแอ ทั้งสตรี คนแก่ และเด็กเล็กเลยหรือ”
นั่นคือภรรยาของเขา ครั้นเห็นหน้านาง เห็นใบหน้าซีดเซียวของนางตอนนี้ที่กำลังถูกผู้อารักขาสองคนจับตัวไว้อยู่ และดาบเล่มนั้นดูเหมือนจะปาดเข้าไปที่คอของนางเมื่อใดก็ได้ ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
เหมิงจื้อเฉิงหัวเราะออกมา คว้าผมของหญิงผู้นั้นในทันใด ดึงนางมาไว้ตรงหน้าของตน สีหน้ากระหายเลือดอย่างผิดปกติ “คนที่ทำการใหญ่ไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยหรอก หากพวกคนอ่อนแออย่างเด็ก สตรี หรือคนแก่มีประโยชน์ เช่นนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นคนอ่อนแอ แต่เป็นใบมีดคม ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยง ท่านรักใคร่คนในครอบครัวมาโดยตลอด ครั้งนี้ข้าอยากจะเห็นนัก ว่าท่านจะเลือกสิ่งใด”
ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงสีหน้าโกรธเกรี้ยว หันไปมองเหมิงลู่
สีหน้าของเหมิงลู่ถึงแม้จะดูดุร้าย แต่ยังถือว่านิ่งสงบอยู่ น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ กล่าวเบาๆ “เจ้าวางใจเถิด ข้าไม่ปล่อยให้ครอบครัวเจ้าเป็นอันใดไปหรอก”
เขากล่าว จากนั้นก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองไปยังเหมิงจื้อเฉิง กล่าวเสียงเย็น “ก่อนหน้านี้ข้าก็รู้สึกว่าเจ้าเป็นคนจิตใจยากจะหยั่งถึง โดยเฉพาะหลังจากที่ฉี่เยว่แต่งงานกับเจ้าแล้ว เจ้าก็ยิ่งดูโหดเหี้ยมยิ่งขึ้นไปอีก เพียงแต่เห็นแก่ผู้อาวุโสสกุลหมิง ข้าจึงไม่ได้เข้าไปแทรกแซงเรื่องระหว่างสามีภรรยาของพวกเจ้า”
เหมิงลู่กล่าว ถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดต่อ “คิดไม่ถึง ว่าเจ้าจะทรยศนาง เลี้ยงจิ้งจอกสาวไว้ข้างกาย ทั้งยังปฏิบัติกับบุตรชายบุตรสาวของฉี่เยว่อย่างไร้ปรานีเช่นนั้น ช่างน่าเสียดายจริงๆ”
เหมิงจื้อเฉิงแค่นหัวเราะออกมา “ตอนนี้ท่านกล่าวเรื่องพวกนี้จะมีประโยชน์อันใด? เหมิงลู่ หากท่านเป็นประมุขที่คิดถึงประชาชนจริงๆ เช่นนั้นท่านก็ยอมให้จับกุมเสียแต่โดยดีเถิด จะได้ไม่ต้องทำให้เกิดเรื่องอยุติธรรมกับครอบครัวผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงด้วย”
เขากล่าวพลางกำเรือนผมของหญิงผู้นั้นแล้วดึงแรงขึ้นเล็กน้อย
หนังศีรษะของหญิงผู้นั้นกระตุก สีหน้าบิดเบี้ยวไปมาก
เพียงแต่นางยังเป็นคนหัวแข็งคนหนึ่ง ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้กลับไม่ร้องคร่ำครวญแม้แต่น้อย ทั้งยังไม่ร้องไห้ขอความเห็นใจ
ถึงขนาดที่ว่าดวงตาเป็นประกายสดใสคู่นั้นที่มองไปยังผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงยังคงเหมือนเก่า ไม่มีความนัยว่าขอร้องให้ช่วยเหลือเลยแม้แต่น้อย
นางไม่ต้องการทำให้เขาต้องลำบาก ยิ่งไม่ต้องการให้เขาทำเรื่องไม่ถูกไม่ควรเพราะตนด้วย นั่นคือสามีของนาง สามีของนางเป็นชายที่จิตใจเด็ดเดี่ยว
เหมิงลู่หรี่ตา สีหน้าของเขามีความผันแปรไปเล็กน้อย นิ้วมือกลับกำแน่น
เย่ซิวตู๋มองเขาแวบหนึ่ง กล่าวเบาๆ “ยังไม่ถึงเวลาขอรับ”
ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงที่อยู่ด้านข้างอึ้งงัน ยังไม่ถึงเวลาหรือ? ที่แท้ในใจของท่านประมุขก็มีแผนอยู่แล้วหรือ?
เหมิงลู่มองผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงอย่างลึกซึ้ง เห็นสีหน้าของเขาดีขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองเหมิงจื้อเฉิงอีกครั้ง กล่าวด้วยเสียงทุ้ม “เหมิงจื้อเฉิง ข้าขอถามหน่อย เหตุที่หลายปีมานี้ที่ดินแดนเหมิงไม่ปรากฏเด็กที่มีปานรูปดอกไม้เลย เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่?”
สีหน้าของเหมิงจื้อเฉิงเปลี่ยนไปในทันใด ปฏิเสธทันที “ท่านว่าอะไรกัน? ข้าไม่เข้าใจ”
“ไม่เข้าใจหรือ” เหมิงลู่แค่นหัวเราะ “เพื่อให้เจ้าได้บรรลุความทะเยอทะยานของตน หลายปีมานี้ ไม่ว่าครอบครัวไหนที่ปรากฏเด็กที่มีปานรูปดอกไม้ เจ้าก็จะกำจัดในทันทีใช่หรือไม่?”
ทุกคนตะลึง เด็กที่มีปานรูปดอกไม้… ถูกฆ่าหรือ?
ไม่เพียงแต่คนเหล่านั้นที่อยู่ด้านหลังเหมิงจื้อเฉิง แม้แต่ผู้อาวุโสสกุลลี่ก็เต็มไปด้วยสีหน้าประหลาดใจเช่นกัน
ถึงขนาดคนที่อยู่ในโถงจิงจู๋เองก็เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงและผู้อาวุโสสกุลเยว่ในตอนนี้เองก็ไม่สนใจเหมิงจื้อเฉิงแล้ว รีบถามออกมา “ท่านประมุข นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้นกัน?”
เหมิงลู่ไม่กล่าวอันใดทั้งนั้น ส่วนเย่ซิวตู๋ที่มีสมุดอยู่กับตัวก็ยื่นส่งให้ผู้อาวุโสสกุลเยว่ทันที
ผู้อาวุโสทั้งสองคน รวมถึงเหมิงผูเซิ่งที่ตามมาทีหลัง ต่างก็ยืดคอมามองดู เมื่อเห็นวันเดือนปีเกิดของเด็กและชื่อของบิดามารดา สีหน้าของสองสามคนนั้นก็เปลี่ยนไปในทันที
ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ชี้ไปยังเหมิงจื้อเฉิงแล้วด่าทอ “เจ้ามันชั้นต่ำเสียยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ที่แท้ยี่สิบปีมานี้ ลูกของข้า… ลูกของข้าก็ถูกเจ้าฆ่า…”
บนนั้นเองก็มีชื่อของเขาและภรรยา และเวลาที่ลูกคนแรกของพวกเขาเกิด
ที่แท้เด็กคนนั้นก็มีปานรูปดอกไม้ ที่แท้เขาก็ถูกเหมิงจื้อเฉิงฆ่า
“ท่านก็แค่เพียงหาเหตุผลมาเล่นงานข้าก็เท่านั้น” เหมิงจื้อเฉิงปฏิเสธ เมื่อสายตามองไปยังสมุดที่อยู่ในมือพวกเขา ก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมอย่างมาก
เรื่องอื่นนั้นยอมรับได้ แต่เรื่องพวกนี้ เขาจะต้องปฏิเสธให้ถึงที่สุด
หากมีคนรู้เข้าว่าเขาทำเรื่องพวกนี้ เกรงว่าเขาจะรับตำแหน่งประมุขได้ยากยิ่งกว่าเดิม
ตอนนี้ไม่สามารถอธิบายได้ ยิ่งอธิบายยิ่งจะผิดพลาด เขามองไปยังผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงที่เห็นได้ชัดกว่าถูกเรื่องนี้กระตุ้นเข้าแล้ว ต่อให้นำภรรยาของเขามาขู่ ก็เกรงว่าจะไม่ยอมมอบตัวอยู่ดี ดังนั้นจึงยกมือขึ้น ตบหน้าผากของภรรยาเขาในทันใด
แต่ในตอนนั้นหญิงผู้นั้นก็หดตัวต่ำลงแล้วหลบได้ในทันที
เหมิงจื้อเฉิงเงยหน้าขึ้นอย่างตกตะลึง
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จะมีไพ่ตายอะไรออกมาอีกนะ ดูท่าฝั่งท่านอ๋องจะมีไพ่ตายหลายใบเลย
ไหหม่า(海馬)