อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 857 ย้อนกลับ
ตอนที่ 857 ย้อนกลับ
ตอนที่ 857 ย้อนกลับ
เหมิงจื้อเฉิงตกใจมาก ถอยหลังสองก้าวในทันที ตะโกนอย่างไม่อยากเชื่อ “พวกเจ้าทำอะไรกัน?”
ทหารเหล่านั้นไม่ตอบ เหมิงลู่เองก็โบกมือ กล่าวเสียงดัง “ยิงได้”
‘ฟิ้วๆๆ’ ลูกธนูตกลงมาเป็นห่าฝน แต่ล้วนไม่ถูกพวกเหมิงลู่ เย่ซิวตู๋ ผู้อาวุโสสกุลเยว่และคนอื่นๆ เลย
เดิมทีในตอนแรกพวกผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็ระวังอยู่ ใครจะรู้ว่าห่าธนูนั้นกลับเหมือนจะโค้งเปลี่ยนทิศได้อย่างไรอย่างนั้น ไม่ได้ตรงเข้ามาหาร่างของพวกเขาสักนิด
แต่เหล่าผู้อารักขารอบๆ กายเหมิงจื้อเฉิงนั้น ขณะที่กำลังลำพองใจกันอยู่ กลับถูกแทงทะลุเข้าที่คอโดยตรง เบิกตากว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ จากนั้นก็ล้มลงไปนอนกับพื้น
รูม่านตาของเหมิงจื้อเฉิงขยายออก รีบชูกระบี่กวัดแกว่งกันห่าธนูที่พุ่งเข้ามา จากนั้นก็ไปซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหินใหญ่
“พวกเจ้าทรยศข้าอย่างนั้นหรือ?” เขาจ้องมองเหล่าผู้อารักขาที่ตนพามาถูกยิงจนพรุนเป็นรังผึ้ง แม้จะตะโกนให้หยุดก็ไม่มีประโยชน์
ทหารเหล่านั้นยังคงถือธนูอยู่ในมือ เล็งตรงไปที่เหมิงจื้อเฉิงและผู้อาวุโสสกุลลี่ที่ซ่อนตัวอยู่ ไม่กล่าวอันใดทั้งนั้น
ผู้อาวุโสสกุลเยว่ ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงและคนอื่นๆ ก็สีหน้าประหลาดใจอย่างมาก ไม่ค่อยอยากจะเชื่อสายตา
เหตุใดคนที่เดิมทีเป็นศัตรู จึงกลายเป็นคนฝั่งเดียวกับตนไปได้เล่า
พวกเขาพากันมองไปเหมิงลู่ที่ทำหน้าตาเฉยเมยยืนอยู่ข้างๆ
เหมิงจื้อเฉิงเองก็มองเขา ฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อ สีหน้าดุร้าย “ท่านเปลี่ยนเป็นคนของท่านตั้งแต่ตอนไหนกัน”
“เปลี่ยนคนหรือ?” เหมิงลู่หัวเราะเยาะ “เจ้าคิดมากไปแล้ว ตั้งแต่แรกนั้น พวกเขาก็เป็นคนของเจ้า ไม่เกี่ยวอันใดกับข้า”
“ท่าน… ท่านปลุกระดมพวกเขาหรือ?” เหมิงจื้อเฉิงถาม
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ด้านหลังพลธนูก็มีคนคนหนึ่งเดินออกมา แววตาแผดเผา รูปร่างกำยำ เขาเดินไปทางด้านหลังของเหมิงลู่โดยตรง มองไปยังเหมิงจื้อเฉิงแล้วกล่าว “คนไร้ปรานี โหดเหี้ยมอำมหิตอย่างเจ้า ใครจะยอมถวายชีวิตให้ เดิมทีพวกข้าล้วนไม่จำเป็นต้องให้ท่านประมุขมาปลุกระดม ทุกคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของข้า ล้วนเชื่อฟังท่านประมุขเพียงคนเดียว”
เขากล่าว จากนั้นก็พยักหน้าให้เหมิงลู่เล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าท่าทางเต็มไปด้วยความเคารพ
เหมิงจื้อเฉิงหน้าซีด เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ คนเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นคนของเขา ทั้งยังเคยสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเขาจนตาย
เย่ซิวตู๋ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ทางด้านเหมิงจื้อเฉิง เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเขายังเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ก็หัวเราะออกมาในทันที “ท่านลุง ทหารของท่าน ผู้อารักขาของท่าน ล้วนเป็นคนดินแดนเหมิงนะ”
“หมายความว่าอย่างไร”
“ในใจของชาวเหมิงมีแนวคิดบางอย่างที่ฝังลึกอยู่ อย่างเช่น… ให้เด็กที่มีปานรูปดอกไม้เป็นผู้สืบทอด เป็นความคิดที่พวกเขาสืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ ท่านคิดว่าในเวลาเพียงไม่กี่ปีนี้ แค่ท่านให้ผลประโยชน์กับเขาไม่เท่าไร ก็จะทำให้พวกเขายอมทรยศดินแดนเหมิง และต่อสู้กับท่านประมุขได้เชียวหรือ”
เย่ซิวตู๋ยิ้ม ส่ายหน้าแล้วกล่าว “ถึงแม้พวกเขาจะเป็นลูกน้องของท่าน ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องฟังคำสั่ง แต่ความคิดที่ไม่เต็มใจนี้จะถูกสั่นคลอนได้อย่างง่ายดาย อีกอย่าง ท่านคร่าชีวิตเด็กชาวเหมิงไปตั้งมากมาย นี่เป็นเรื่องที่ชาวเหมิงถือว่าทำผิดกฎสวรรค์ แล้วใครจะไปยอมรับท่านกันเล่า”
เหมิงจื้อเฉิงอยากจะเป็นประมุขของดินแดนเหมิง เป็นเรื่องเพ้อฝันเกินไปแล้วจริงๆ
ความเชื่อของชาวเหมิงที่ถูกปลูกฝังมาตั้งหลายร้อยปี ใครจะยอมทิ้งไปได้ง่ายๆ กัน?
ถ้าลูกน้องของเหมิงจื้อเฉิงไม่ใช่ชาวดินแดนเหมิง เขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จครึ่งหนึ่ง เพียงแต่น่าเสียดาย การเข้าออกดินแดนเหมิงนั้นเข้มงวดมาโดยตลอด ทหารที่เป็นลูกน้องของเขา ไม่มีทางเป็นคนนอกที่ไม่สนใจในความเชื่อของดินแดนเหมิงไปได้
เหมิงจื้อเฉิงรู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ใช่แล้ว ชาวดินแดนเหมิงมีจิตใจเข้มแข็งมาโดยตลอด อำนาจ ตำแหน่ง เงินทอง จะทำให้มุมมองที่พวกเขามีมาหลายสิบปีสั่นไหวได้อย่างไรกัน
นึกย้อนแล้วก็รู้สึกเสียใจในทันที ราวกับว่าเขาคิดอะไรตื้นเขินเกินไป
เหมิงจื้อเฉิงเริ่มถอยหลัง ที่นี่ไม่เหลือคนของเขาแล้ว หากเขาอยู่ต่อไปคงมีเพียงความตายรออยู่
แต่ไม่เป็นไร ด้านนอกยังมีเหมิงพั่วสนับสนุนอยู่ ทั้งยังมีคนที่ซ่างกวนจิ่นพามา ถึงแม้ทหารเหล่านี้จะทรยศเขา เขาก็ยังสามารถกลับมาผงาดได้ใหม่ ใช่ ยังได้อยู่
เขาไม่ยอมแพ้ เริ่มก้าวไปทีละก้าว
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว หรี่ตาเล็กน้อย มองเขาด้วยรอยยิ้ม
ทันใดนั้นก็มีคนคนหนึ่งวิ่งมาจากด้านนอกอย่างรีบร้อน ยืนหอบอยู่ตรงหน้าเหมิงจื้อเฉิง “ไม่ได้การ ไม่ได้การแล้ว ท่านประมุข”
เหมือนเขาไม่มีเวลามาสนใจสถานการณ์ตรงหน้า คำเรียกเหมิงจื้อเฉิงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
เหมิงจื้อเฉิงหันหน้าไปมองก็เห็นเป็นผู้อาวุโสสกุลเซิง หัวใจพลันสั่นไหว อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
“ท่านประมุข ข่าวลือตามท้องถนนเปลี่ยนไปแล้ว ทหารของเราก่อนหน้าล้วนถูกจับ มีคนหนึ่งตีฆ้องอีกครั้ง บอกว่าท่านประมุขฆ่าเด็กที่มีปานรูปดอกไม้หลายสิบคน ทั้งยังบอกว่าท่านลอบสังหารผู้อาวุโสสกุลหมิง ทุกคนล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าท่านเป็นผู้ร้าย ความเห็นของประชาชนเปลี่ยนข้างไป ไม่ดีกับฝั่งเราเป็นอย่างมาก พวกเรา…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ จู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้น ก็เห็นเหมิงลู่ เย่ซิวตู๋และคนอื่นๆ กำลังยืนอยู่ไม่ไกล มองเขาอย่างเย็นชา
ผู้อาวุโสสกุลเซิงอ้าปากค้างมองไปรอบๆ จากนั้นก็พบว่าบรรยากาศผิดปกติ
ร่างกายของเขาแข็งทื่อทันที ฝีเท้าถอยไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว
ในหัวของเหมิงจื้อเฉิงว่างเปล่า ยังไม่ทันได้กล่าวอันใด ทันใดนั้นก็เห็นอีกคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาทางด้านนี้
คนผู้นั้นสีหน้าลนลานยิ่งกว่า วิ่งมาอย่างโซซัดโซเซล้มลงหลายครั้ง สีหน้าซีดเผือด ร่างกายดูยุ่งเหยิง ไม่มีท่าทางสูงส่งของผู้อาวุโสเลยแม้แต่น้อย
เขาวิ่งมาตรงหน้าเหมิงจื้อเฉิง สูดหายใจเฮือกใหญ่ กล่าวอย่างร้อนรน “ท่านประมุข ไม่ได้การแล้ว เหล่าทหารที่ล้อมจวนอยู่ ทั้งหมด… ทั้งหมดล้วนเปลี่ยนฝ่ายแล้ว ทันใดนั้นพวกเขาก็ล้อมท่านถงและท่านซ่าน รวมถึงคนกว่าสิบคนที่พวกเขาพามาด้วย ผู้บัญชาการเฮ่อก็ได้นำคนเข้ามาในคฤหาสน์ประจำเผ่าแล้วด้วย ทำอย่างไรกันดี”
ทันทีที่กล่าวจบ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็ต้องตกตะลึงเช่นกัน
ตอนนี้ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงพึงพอใจแล้ว ฉีกยิ้มมุมปากหัวเราะเย้ยหยัน “ผู้อาวุโสสกุลปู้ เหตุใดจึงวิ่งเร็วเพียงนั้น วิชาต่อสู้ของเจ้าสูงส่งมากไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงกลัวผู้บัญชาการเพียงคนเดียวเล่า?”
ผู้อาวุโสสกุลปู้ถอยเท้าไปสองก้าว ฝีมือเขาไม่ได้อ่อนแอ แต่จู่ๆ ทหารจำนวนมากขนาดนั้นก็โจมตีเข้ามาทีเดียว ต่อให้เขาจะฝ่าการปิดล้อมมาได้ แต่ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องหมดแรง
อีกอย่างเรื่องกลับดำเนินไปเร็วเกินไป ทำให้เขาไม่ทันได้ตั้งตัว จะสนใจเรื่องราวมากขนาดนั้นได้อย่างไร
เหมิงจื้อเฉิงได้ยินการรายงานจากผู้อาวุโสทั้งสอง สีหน้าก็ยิ่งไม่สู้ดี รู้ว่าตอนนี้ไม่มีทางให้หวนกลับแล้ว
เย่ซิวตู๋พูดถูก ถึงแม้ทหารเหล่านั้นจะแสดงออกว่าเชื่อฟังเขา แต่ในใจลึกๆ แล้วกลับยังคงภักดีต่อเหมิงลู่
ไม่แปลกเลย เขาก็รู้สึกอยู่ว่าเรื่องมันแปลกเกินไป เหตุใดจึงล้อมจวนผู้อาวุโสและคฤหาสน์ประจำเผ่าได้ง่ายๆ เช่นนี้ เหมิงลู่และเย่ซิวตู๋เองก็ฉลาดเพียงนั้น เหตุใดจึงไม่มีการเตรียมพร้อมเลยแม้แต่น้อย
ที่แท้เขาก็กระโดดเข้าสู่กับดักของพวกเขามาตั้งแต่ต้นแล้ว พวกเขากำลังใช้ดาบนี้คืนสนอง
เหมิงจื้อเฉิงไม่อยากรอช้า “ไปกัน” ตอนนี้เขาทำได้เพียงหนีออกไปก่อน ด้านนอกยังมีเหมิงพั่วและซ่างกวนจิ่น เขาทำได้เพียงใช้พวกเขาเพื่อหนีออกไปจากดินแดนเหมิงก่อน
เขาพูดพลางหันหลังแล้ววิ่งหนี ใครจะรู้ว่าทันใดนั้นก็มีทหารกลุ่มหนึ่งวิ่งมาตรงหน้า คนที่นำมาก็คือผู้บัญชาการเฮ่อ รวมถึง… อวี้ชิงลั่วที่มีสีหน้านิ่งเฉย
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
จนมุมแล้วมั้ง ท่านน่าจะแพ้หมากกระดานนี้แล้วเหมิงจื้อเฉิง
ไหหม่า(海馬)