อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 859 เจ้าเองก็ต้องจบไม่สวยเช่นกัน
ตอนที่ 859 เจ้าเองก็ต้องจบไม่สวยเช่นกัน
ตอนที่ 859 เจ้าเองก็ต้องจบไม่สวยเช่นกัน
ตอนที่ 859 เจ้าเองก็ต้องจบไม่สวยเช่นกัน
เหมิงพั่วเป็นคนที่ไปหาซ่างกวนจิ่นเพื่อวางแผนจัดการกับอวี้ชิงลั่ว
แต่ตอนนี้อวี้ชิงลั่วกลับมาปรากฏตัวที่นี่อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังไม่มีข่าวส่งมาจากภายนอกแม้แต่น้อย เหมิงจื้อเฉิงจึงรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาเล็กน้อย
แน่นอนว่าต่อจากนั้นเขาก็เห็นอวี้ชิงลั่วส่งยิ้มงดงามอ่อนโยนอย่างประหลาด ในแวบแรกกลับมีความรู้สึกมากมายอยู่ในนั้น
เย่ซิวตู๋สีหน้าอึมครึมขึ้นมา ยกมือขึ้นดึงแก้มนาง กล่าวเสียงต่ำ “มีอันใดจะพูดก็พูด จะยิ้มทำไมกัน?”
ตรงนี้มีบุรุษอยู่ตั้งมาก นางเป็นสตรีอายุยังน้อยทั้งยังรูปงาม ไม่รู้จักหักห้ามตนเองเสียบ้าง
อวี้ชิงลั่วชักสีหน้าไม่พอใจ จ้องมองเย่ซิวตู๋ จากนั้นก็มองเหมิงจื้อเฉิง กล่าวเบาๆ “เหมิงพั่ว… ตายแล้ว”
เหมิงจื้อเฉิงตัวสั่นสะท้าน ในหัวสมองโล่งไปหมด ที่แท้ ที่แท้ทางด้านเหมิงพั่วก็แพ้แล้ว…
ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ จ้องมองอวี้ชิงลั่วแล้วหัวเราะเย็นชาออกมา “เจ้าฆ่าเขาหรือ?”
“ท่านมองข้าเก่งกาจเกินไปแล้ว ข้าเป็นเพียงหญิงสาวไร้เรี่ยวแรงคนหนึ่งเท่านั้น…”
“อุบ…”
“แค่กๆ…”
อวี้ชิงลั่วยังไม่ทันกล่าวจบ ผู้อาวุโสสกุลเยว่ ผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงและคนอื่นๆ กลับปิดหน้าหัวเราะออกมา
อวี้ชิงลั่วสีหน้างุนงง นางกล่าวอันใดผิดกัน นางหันกลับมามองเย่ซิวตู๋
เย่ซิวตู๋กล่าวยิ้มๆ “อืม เมื่อครู่หนานหนานก็กล่าวเช่นนั้น พวกเจ้าแม่ลูกนี่ช่าง… ช่างอ่อนแอจริงๆ วางใจเถิด ข้าจะปกป้องพวกเจ้าเอง”
อวี้ชิงลั่วจ้องมองเขาด้วยแววตาดุร้าย จากนั้นก็เหลือบไปมองคนอื่นอย่างปรามๆ กล่าวอย่างเย็นชาขึ้นมา “ข้าเหาะไม่ได้เสียหน่อย เทียบกับพวกท่านแล้ว ก็เป็นเพียงหญิงสาวไร้เรี่ยวแรงคนหนึ่งเท่านั้น ข้าพูดผิดตรงไหนกัน?”
เมื่อเห็นว่านางโมโห ทุกคนก็ดูจริงจังขึ้นในทันที พยักหน้าอย่างระแวดระวัง “ใช่ๆๆ ในที่นี้ เจ้าต้องการการปกป้องจากเรามากที่สุดแล้ว เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง”
นางเป็นหมอปีศาจ นิสัยก็แปลกประหลาดนัก ทั้งยังเป็นหญิงสาวอีก พวกเขาตามน้ำไปเถิด ตามน้ำไป
อวี้ชิงลั่วส่งเสียงฮึดฮัดเบาๆ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นอย่างพอใจ มองไปทางด้านเหมิงจื้อเฉิงอีกครั้งแล้วกล่าวต่อ “ข้าเป็นเพียงหญิงคนหนึ่งที่ไร้เรี่ยวแรง จะไปประมือกับยอดฝีมือด้านการต่อสู้เช่นนั้นได้อย่างไร อืม ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะบาดเจ็บ แต่ถึงจะพบเจอปัญหา เขาก็ยังมีสภาพดีกว่าใครหลายคน อีกอย่างข้างกายเขายังพาผู้อารักขามาตั้งมากมายเช่นนั้น ข้าตัวคนเดียว จะฆ่าเขาได้หรือ?”
เหมิงจื้อเฉิงเม้มปาก กล่าวอยู่ตั้งนาน ก็ไม่เห็นนางจะพูดถึงผู้สังหารที่แท้จริงเสียที
เดี๋ยว… เดี๋ยวก่อน ผู้สังหาร… ที่แท้จริงหรือ?
เหมิงจื้อเฉิงอ้าปากค้างในทันที มองอวี้ชิงลั่ว ถามอย่างยากลำบาก “เป็น… ฝีมือของอุปราชหรือ?”
อวี้ชิงลั่วจ้องมองเขาด้วยสายตาที่สี่ว่า ‘เจ้าฉลาดมาก ข้าขอชื่นชมเจ้า’
จากนั้นเหมิงจื้อเฉิงจึงรู้สึกว่าสถานการณ์มาถึงจุดจบแล้ว ในใจเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง “หญิงงามล่มเมืองจริงๆ ฮ่า ซ่างกวนจิ่นฉลาดเพียงใด สุดท้ายก็ตกอยู่ในกำมือหญิงคนเดียว ฮ่าๆ”
ตอนนี้เขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะหนีออกจากดินแดนเหมิงแล้ว
นี่มันหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ เหมิงพั่วตายไปแล้ว อีกทั้งซ่างกวนจิ่นยังผิดข้อตกลง เขาไม่มีทางออกแล้ว
เหมิงจื้อเฉิงสูดหายใจลึกในทันที จ้องมองเย่ซิวตู๋อย่างดุร้าย หัวเราะฮ่าๆ ออกมาเสียงดัง “เจ้าเองก็ต้องจบไม่สวยเช่นกัน เจ้าต่อกรกับลุงแท้ๆ ในอนาคตก็ต้องต่อกรกับแม่แท้ๆ เจ้าถูกกำหนดมาให้ทรยศต่อญาติพี่น้อง ข้าจะรอดูว่าต่อไปเจ้าจะจัดการอย่างไร ฮ่าๆๆ ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะทำอย่างไร”
เขากล่าวจบ ทันใดนั้นก็แสดงท่าทางดุร้ายเบิกตาโพลง ในตอนที่ทุกคนไม่ทันได้ตั้งตัวนั้น ก็เล็งไปที่หินด้านข้างแล้วพุ่งเข้าใส่อย่างแรง
ศีรษะแตกเลือดไหลอาบ ดวงตาเบิกกว้าง ตายไปทั้งที่ตายังไม่หลับ
เขารู้ความผิดของตนเองดี ตนฆ่าเด็กชาวเหมิงจำนวนมากเช่นนั้น ลอบสังหารผู้อาวุโสสกุลหมิง วางแผนชิงบัลลังก์ เหมิงลู่จะต้องให้ตนตายอย่างไร้ที่ฝังเป็นแน่ เขาไม่มีโอกาสได้กลับมาเป็นใหญ่อีกแล้ว
ทุกคนตะลึงไปเล็กน้อย ส่วนผู้อาวุโสสกุลปู้และผู้อาวุโสสกุลเซิงอ้าปากค้าง ไม่มีเหมิงจื้อเฉิงแล้ว พวกเขาพลันตื่นตระหนกในทันที
ทั้งสองคนสบตากัน ทันใดนั้นก็คุกเข่าลงต่อหน้าเหมิงลู่
“ท่านประมุข พวกข้าเองก็ไม่มีทางเลือกขอรับ เหมิงจื้อเฉิงข่มขู่พวกข้า เขาใช้ครอบครัวพวกข้ามาข่มขู่ให้พวกข้าทำเรื่องต่างๆ แทนเขา ไม่อย่างนั้นจะฆ่าครอบครัวพวกข้าทั้งครอบครัว พวกข้าเองก็ไร้หนทาง ท่านประมุข ได้โปรดให้อภัยพวกข้าด้วยเถิดขอรับ”
เหมิงลู่หันหน้าหนี ท่าทางเย็นชาอย่างมาก
ในตอนแรกนั้นเขาเห็นคุณค่าอะไรของพวกเขา จึงให้พวกเขามารับตำแหน่งผู้อาวุโสกันนะ?
คนประเภทนี้ขี้ขลาดกลัวตาย ไร้ซึ่งหลักการ ในตอนแรกนั้นเขาเห็นคุณค่าอะไรในตัวพวกเขาหรือ?
เหมิงลู่ไม่อยากฟังพวกเขาพูด เพียงแต่โบกมือ กล่าวกับผู้บัญชาการเฮ่อ “นำพวกเขาไปขังเสีย สอบสวนแล้วค่อยลงโทษ”
ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมเป็นอันขาด จะไม่ยอมปล่อยเสือกลับภูเขาอีกแล้ว
ผู้บัญชาการเฮ่อพยักหน้า เรียกให้ทหารด้านหลังมาจับทั้งสองคนแล้วมัดด้วยโซ่
เดิมทีผู้อาวุโสสกุลปู้และผู้อาวุโสสกุลเซิงยังคิดขัดขืน แต่เมื่อพบสายตาเย็นชาของเหมิงลู่ เย่ซิวตู๋และคนอื่นๆ ก็หยุดดิ้นรนไปในทันที
ฝีมือวรยุทธ์ของพวกเขาไม่ดีเท่าอีกฝ่าย ต่อให้อยากจะหนีก็ไม่มีโอกาส
ผู้บัญชาการเฮ่อมัดทุกคน จากนั้นก็ขมวดคิ้วกล่าว “ผู้อาวุโสสกุลลี่เล่า?”
ทุกคนตกใจ ตอนนี้เพิ่งพบว่าเมื่อครู่เอาแต่สนใจเหมิงจื้อเฉิง จนละเลยผู้อาวุโสสกุลลี่ที่ดุร้ายโหดเหี้ยมไป
เหมิงลู่สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที โบกมือแล้วกล่าวเสียงทุ้ม “รีบไปตามหาตัว อย่าให้พลาดไปแม้แต่ซอกมุมเดียว”
“ขอรับ” ทุกคนตัวแข็งทื่อ ในใจรู้สึกย้อนเสียใจ
ชัยชนะอยู่ตรงหน้า แต่พวกเขากลับทำพลาดครั้งใหญ่
ผู้อาวุโสสกุลลี่ผู้นั้น ถึงแม้จะเสื่อมกำลังไปแล้ว แต่ถ้าไม่กำจัดเสีย ก็จะกลายเป็นภัยได้
“ท่านประมุขโปรดวางใจ ด้านนอกคฤหาสน์ประจำเผ่าล้วนมีทหารล้อมเอาไว้ ผู้อาวุโสสกุลลี่อาจยังไม่สามารถหลบหนีออกไปได้ขอรับ”
แต่เมื่อเขากล่าวจบ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง
ทุกคนมองไปตามเสียง ก็เห็นทหารคนหนึ่งหน้าซีด ชี้ไปที่ด้านหลังก้อนหินแล้วกล่าว “ตายแล้ว…”
เย่ซิวตู๋และอวี้ชิงลั่วรีบเดินออกไป มองไปตามทิศทางของนิ้วที่เขาชี้ ก็เห็นทหารคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าซีดขาว เสื้อคลุมบนร่างถูกถอดออก
อวี้ชิงลั่วย่อตัวลง วางนิ้วมือบนข้อมือของเขา และไม่รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจอีกต่อไปแล้ว
สีหน้าของนางมืดมนลงเล็กน้อย ลุกขึ้นแล้วส่ายหน้า “ตายแล้ว”
“ท่านแม่ ผู้อาวุโสสกุลลี่ผู้นั้นจะต้องขโมยชุดคลุมของทหารผู้นี้ไป ไม่แน่ว่าเขาอาจจะปลอมเป็นทหารแล้วออกจากคฤหาสน์ประจำเผ่าไปแล้วก็ได้ขอรับ” หนานหนานกล่าวอย่างกระวนกระวาย
จากนั้นก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ รีบกล่าวกับอวี้ชิงลั่วและเย่ซิวตู๋ “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้ากลัวว่าเขาจะทำร้ายน้องอวี้กับชิวเอ๋อร์ ข้าขอกลับหอจิงจู๋ก่อนนะขอรับ ข้าต้องปกป้องพวกนาง”
“อืม ไปเถิด” เย่ซิวตู๋พยักหน้า หนานหนานวิ่งกลับไปอีกครั้งอย่างรีบร้อน
ผู้บัญชาการเฮ่อประกบมือกล่าวกับเหมิงลู่ “ท่านประมุข ข้าจะส่งคนไปจับเขาทันทีขอรับ”
“อืม ระวังตัวด้วย”
เหมิงจื้อเฉิงและเหมิงพั่วทั้งสองคนถูกกำจัดแล้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าจบลง ตอนนี้ก็เหลือเพียงปลาเล็กปลาน้อยที่พยายามดิ้นรนต่อไป
เหมิงลู่หันหน้ามา จากนั้นก็ออกคำสั่งไปทางผู้อาวุโสสกุลเยว่และผู้อาวุโสสกุลเซี่ยง เรื่องข่าวลือตามท้องถนน เรื่องอำนาจของเหมิงจื้อเฉิงที่ยังเหลืออยู่ เรื่องผลที่จะตามมาหลังจากนี้ ทุกอย่างล้วนต้องปรึกษากันและจัดการให้ดี
เย่ซิวตู๋เองก็กล่าวลาเหมิงลู่ “ข้าต้องไปที่จวนผู้อาวุโสสกุลหมิงเสียหน่อย”
เหมิงลู่พยักหน้า “ทางด้านนั้นต้องให้เจ้าจัดการแล้ว”
“ให้หนานหนานอยู่ที่โถงจิงจู๋ไปก่อนนะขอรับ อีกเดี๋ยวข้าจะกลับมาหาเขา” เย่ซิวตู๋พาอวี้ชิงลั่วไปจากคฤหาสน์ประจำเผ่า ตรงไปยังจวนผู้อาวุโสสกุลหมิง
แต่ไปได้เพียงครึ่งทาง ทหารภายใต้บังคับบัญชาของเขาก็มารายงาน “มีคนเห็นผู้อาวุโสสกุลลี่เข้าไปในจวนผู้อาวุโสสกุลหมิงขอรับ”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ขุนตัวใหญ่โดนกินแล้วหนึ่ง เหลืออีกหนึ่งที่ยังลอยนวล จะตามจับทันไหมนะ
ไหหม่า(海馬)