อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 863 ตามใจท่าน
ตอนที่ 863 ตามใจท่าน
ตอนที่ 863 ตามใจท่าน
เสียงนั้นไร้ปรานีอย่างมาก ทำให้คนในห้องล้วนชะงักไปครู่หนึ่ง
จากนั้นก็เห็นหญิงวัยกลางคน รูปร่างซูบผอม หน้าซีดผิดปกติเดินเข้ามาในห้อง
ด้านหลังของนางก็ยังมีหนานหนานที่ทำท่าด้อมๆ มองๆ ตามมาด้วย
เมื่อเย่ซิวตู๋เห็นเขา ก็มีสีหน้าสงสัย ไหนบอกว่าอยู่ที่คฤหาสน์ประจำเผ่าเพื่อปกป้องเหมิงหลัวอวี้และชิวเอ๋อร์ไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงมาที่นี่ได้เล่า
เขาโบกมือเรียกหนานหนาน ถามเขา “เจ้ามาได้อย่างไร”
“จู่ๆ ข้าก็นึกได้ว่าท่านย่าโดนขังอยู่ ทั้งยังได้ยินว่าผู้อาวุโสสกุลลี่มาที่นี่แล้ว กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับนาง จึงรีบมาช่วยน่ะขอรับ”
หนานหนานเชื่อฟังมาก เมื่อหันหน้ามองในห้องแล้วไม่พบร่างของท่านแม่ตนก็ถอนหายใจอย่างเงียบๆ ทันใดนั้นก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา
“ท่านพ่อ ข้าจะบอกให้นะ ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อฟังท่านแล้วอยู่ที่คฤหาสน์ประจำเผ่า ข้าถามท่านปู่ลู่มาแล้ว ท่านปู่ลู่เป็นประมุขใช่หรือไม่เล่า? เขาให้ข้ามาที่นี่เพื่อตามหาท่านย่า เช่นนั้นข้าที่เป็นเด็กเชื่อฟังคนหนึ่ง จะไม่เชื่อฟังท่านประมุขได้อย่างไรเล่า? ดังนั้นจึงได้มาที่นี่”
เย่ซิวตู๋กระตุกมุมปาก มาก็มาสิ ยังต้องหาข้ออ้างมากมายเพียงนี้อีก
เขาส่ายหน้าก่อนจ้องมองหนานหนานด้วยแววตาดุดันอีกครั้ง จากนั้นก็เงยหน้ามองไปทางด้านเหมิงฉี่เยว่
อีกฝ่ายกลับจับจ้องไปยังบุตรชายบุตรสาวด้วยแววตาโหยหา ดวงตาเป็นประกายอย่างมาก
สองพี่น้องเหมิงจื่อเชียนและเหมิงจื่อฉีก็มีสีหน้าประหลาดใจ เมื่อเห็นสตรีที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวในห้องก็ตกใจเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่งก็พึมพำออกมา ร้องเสียงเบา “ท่านแม่หรือ?”
“ดีจริง ดีจริงๆ พวกเจ้าโตขนาดนี้แล้ว” เหมิงฉี่เยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ ริมฝีปากของนางสั่นเล็กน้อย
เหมิงจื่อเชียนทั้งสองคนนั้นไม่สนิทสนมกับแม่มากนัก ตอนนี้เห็นท่าทางตื่นเต้นอย่างมากของนาง ก็แปลกใจและไม่ชินอย่างมาก
แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงอื่นดังมาจากด้านนอก ต่อจากนั้นก็เห็นคนถูกผลักเข้ามาอย่างแรง
คนในห้องพากันหันหน้าไปพร้อมกัน ก็เห็นหญิงวัยกลางคนอีกคนถูกเสิ่นอิงอุ้มแล้วปล่อยลงตรงหน้าของหรูซือ
เมื่อเหมิงจื่อเชียนและเหมิงจื่อฉีเห็นหน้าของคนผู้นั้นอย่างชัดเจน ก็อ้าปากค้างทันที
เหมิงจื่อฉีตกใจมากเสียจนลุกขึ้นจากเตียง มองหน้าเหมิงฉี่เยว่และหญิงผู้นั้นสลับกันไปมา สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
“เหตุใด เหตุใดจึงมี มีท่านแม่สองคนเล่า?”
หนานหนานยิ้มแย้ม ทันใดนั้นก็วิ่งไปหาทางด้านนาง จากนั้นก็เริ่มอธิบายเสียงเจื้อยแจ้ว “ไม่ใช่ท่านแม่สองคนขอรับ ท่านอา คนบนพื้นเป็นตัวปลอมขอรับ คนที่อยู่ที่เรือนของตน กินมังสวิรัติและสวดมนต์ไหว้พระ ที่ท่านอาทั้งสองได้พบบ้างเป็นครั้งคราวตลอดหลายปีมานี้ ที่นางแปลกแยกและเย็นชากับพวกท่าน ก็เป็นเพราะนางไม่ใช่ตัวจริง เกรงว่าพวกท่านจะจำได้และเปิดโปงตน จึงต้องเก็บตัวขอรับ”
เขากล่าว จากนั้นก็ไปดึงมือของเหมิงฉี่เยว่เดินมาตรงหน้าแล้วกล่าว “นี่คือท่านแม่ตัวจริงของท่านอาทั้งสองขอรับ เพียงแต่ท่านย่าน่าสงสารมาก ถูกท่านปู่ขังไว้ในห้องลับถึงสิบห้าปี สุขภาพจึงไม่ค่อยดีแล้วขอรับ”
พวกเหมิงจื่อเชียนทั้งสองคนเงยหน้าในทันใด มองไปยังเหมิงฉี่เยว่ อ้าปากพะงาบอยู่หลายครั้ง กลับไม่สามารถกล่าวอะไรได้
พวกเขาตกใจกับสิ่งที่หนานหนานกล่าวเมื่อครู่ ตัวปลอมหรือ? ถูกขังไว้สิบห้าปีหรือ? เรื่องพวกนี้ เรื่องพวกนี้ พวกเขาไม่เคยคิดถึงมาก่อนเลย มันน่าประหลาดใจและไร้เหตุผลเกินไปแล้ว
เขามองไปยังเย่ซิวตู๋โดยไม่รู้ตัว ราวกับว่าเขาเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญ อยากจะได้รับการยืนยันจากสีหน้าของเขา
เย่ซิวตู๋พยักหน้า ถอนหายใจแล้วกล่าว “นางเป็นแม่แท้ๆ ของเจ้าจริงๆ เรื่องนี้ อีกเดี๋ยวข้าจะอธิบายกับเจ้า แต่ท่านแม่ของเจ้านั้นถูกท่านลุงขังไว้สิบห้าปีจริงๆ”
ทันทีที่กล่าวจบ เหมิงฮูหยินที่เพิ่งถูกเหวี่ยงลงไปนั่งกับพื้นเมื่อครู่ก็ร้องห่มร้องไห้ขึ้นมา คลานไปที่เท้าของเหมิงจื่อฉี น้ำตาไหลพราก “คุณหนู ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด ข้าไม่ได้อยากปลอมเป็นเหมิงฮูหยิน ข้าไม่มีทางเลือกเจ้าค่ะ ท่านเหมิงขู่ว่าจะเอาชีวิตข้า หากข้าไม่เชื่อฟัง ก็จะจบชีวิตอย่างเลวร้ายเจ้าค่ะ”
“คุณหนู นายน้อย หลายปีมานี้ ถึงข้าจะปลอมตัวเป็นท่านแม่ของพวกท่าน แต่ก็ไม่เคยกระทำการอันใดเพื่อทำร้ายพวกท่านเลย เห็นแก่ที่ข้าปฏิบัติกับพวกท่านตามปกติ ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
เหมิงจื่อเชียนและเหมิงจื่อฉีรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ห่อเหี่ยวลงเล็กน้อย
ตอนนี้ในใจสับสนอย่างมาก เหมือนกับว่าไม่ได้ยินสิ่งที่นางกล่าวเลย
ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าท่านแม่ผู้ให้กำเนิดตนจะถูกท่านพ่อจับขัง มองดูใบหน้าซีดเซียวและท่าทางโงนเงนจะล้มแหล่มิล้มแหล่ของเหมิงฉี่เยว่แล้ว สองพี่น้องก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น หลายปีมานี้พวกเขากลับไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ จำเหมิงฮูหยินตัวปลอมไม่ได้ จึงต้องทำให้ท่านแม่ของพวกเขาต้องทนทรมานมากมายเช่นนี้
ในใจเหมิงฉี่เยว่กลับไม่ได้คิดเช่นนั้น เมื่อเห็นบุตรชายบุตรสาวทั้งสองเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ในใจกลับรู้สึกพึงพอใจแต่ก็รู้สึกผิด อยากจะก้าวไปข้างหน้าแต่ก็ไม่กล้า
หางตาเหลือบไปเห็นหรูซือที่ตั้งใจจะทำตัวไร้ตัวตน ทันใดนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆ ระงับอารมณ์ในใจไว้ แล้วมองหรูซืออย่างเย็นชา “เจ้ายังคิดจะยุแยงอยู่ที่นี่อีกหรือ เหมิงจื้อเฉิงตายอย่างไร เจ้าคิดว่าเจ้ากล่าวไม่กี่คำก็เชื่อได้แล้วหรือ เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าลูกๆ ของข้าจะโง่เหมือนเหมิงจื่อเย่า ที่จะให้เจ้าหลอกได้ง่ายๆ และแยกแยะอันใดไม่ออก?”
หรูซือกัดฟัน นี่นางบอกว่าลูกของตนโง่หรือ
“เจ้าฉลาดนักนี่ เจ้าฉลาดเสียจนถูกจับขังไว้อย่างไร้สาเหตุถึงสิบห้าปี สุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่เพราะข้าเป็นที่โปรดปราน ส่วนเจ้าก็แพ้หรอกหรือ”
เหมิงฉี่เยว่หัวเราะ หลังจากนั้นก็หันหน้าไปกล่าวกับเย่ซิวตู๋ “ซิวเอ๋อร์ หญิงผู้นี้ ปล่อยให้ข้าจัดการได้หรือไม่”
ถึงแม้นางจะยังอ่อนแออยู่มาก แต่แววตาเป็นประกาย ดูมีจิตใจแข็งแกร่ง
เย่ซิวตู๋มอง คิดว่านางในตอนนี้เหมือนกับเหมิงลู่อย่างมาก
เขาพยักหน้า “ตามใจท่านป้าเลยขอรับ” เรื่องเช่นนี้ เขาเองก็ไม่อยากยุ่ง
เหมิงฉี่เยว่ย่อตัวลง จ้องหน้าหรูซือ แววตาเย็นชาอย่างมาก “ข้าแพ้อย่างนั้นหรือ? แต่สุดท้ายแล้วตอนนี้ ความเป็นความตายของเจ้ากลับอยู่ในมือข้า เจ้าคิดว่าใครแพ้กัน ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ เหตุใดเจ้ายังทำตัวแข็งกร้าวอยู่เล่า ข้านึกว่าเจ้าจะร้องขอความเห็นใจเสียอีก”
หรูซือผงะ ทันใดนั้นก็ได้สติ นาง… ต้องการมีชีวิตต่อไป
เย่ซิวตู๋โค้งริมฝีปากอย่างเย้ยหยัน พาหนานหนานออกมาจากห้อง เขาไม่อยากเสียเวลาสนใจเรื่องด้านในนี้
แต่ทางด้านชิงเอ๋อร์นั้น ก็ไม่รู้ว่าไปที่ไหน เหตุใดจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาอีก
“ท่านพ่อ” หนานหนานหันหน้ามองเขาอย่างแปลกใจ
เย่ซิวตู๋เลิกคิ้ว ขมวดคิ้วเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่งจึงค่อยๆ ถอนหายใจแล้วกล่าว “เราไปตามหาแม่เจ้ากัน”
“ขอรับ” เขาเองก็แปลกใจ เหตุใดท่านพ่ออยู่ที่นี่ แต่ท่านแม่กลับหายไป
เย่ซิวตู๋สั่งความกับเหมิงจื่อเชียนที่อยู่ด้านในคำหนึ่ง จากนั้นก็อุ้มหนานหนานจากมาอย่างรีบร้อน เดินตรงไปทางด้านที่อวี้ชิงลั่วหายลับไปก่อนหน้านี้
ส่วนอวี้ชิงลั่วที่เขากล่าวถึงนั้น ตอนนี้กลับยืนอยู่ด้านนอกประตูเล็กเตี้ยๆ เม้มปากแน่น
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ท่านอ๋องปล่อยให้เจ้ากรรมนายเวรเขาจัดการกันเองแล้ว เพราะในใจตอนนี้มีแต่ชิงลั่ว
ไหหม่า(海馬)