อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 866 แม่นมเก๋อรู้จักเย่ซิวตู๋
ตอนที่ 866 แม่นมเก๋อรู้จักเย่ซิวตู๋
ตอนที่ 866 แม่นมเก๋อรู้จักเย่ซิวตู๋
การเคลื่อนไหวทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งเหมิงจื่อเย่าตอบสนองอีกครั้งและคิดจะจับนางเอาไว้ แม่นมเก๋อก็เอนหลังไป มีดสั้นในมือของเขากวาดผ่านไปโดนแขนของแม่นมเก๋อ แต่นั่นก็ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตของนาง
ผู้บัญชาการเฮ่อตกใจไปชั่วขณะ ทันใดนั้นก็ตอบสนอง ตรงเข้ามาคว้าข้อมือของเหมิงจื่อเย่าแล้วกระชากเอามีดสั้นออกจากมือเขา กดลงกับพื้นอย่างแน่นหนา
แม่นมเก๋อถอนหายใจ หากผู้บัญชาการเฮ่อช้าไปก้าวเดียว นางจะต้องถูกเหมิงจื่อเย่าจับแล้วกลายเป็นตัวประกันอีกครั้ง
อวี้ชิงลั่วพยุงนางถอยมาสองก้าวออกห่างจากเหมิงจื่อเย่า จากนั้นก็ขมวดคิ้วมองไปยังแขนที่ถูกบาดของนาง
แม่นมเก๋อถอนหายใจและหัวเราะออกมา “โชคดีที่ไม่ได้บาดเจ็บหนัก นี่ก็ดีที่สุดแล้วเจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วเม้มปาก พยักหน้า หยิบยาออกมาจากร่างแล้วป้อนให้นางกิน
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งก็เห็นบาดแผลทั่วร่างของนาง ในใจเจ็บปวดอย่างมาก แม้แต่นิ้วที่กำลังพันแผลให้นางก็สั่นเล็กน้อย
“เหตุใดจึงร้องไห้อีกแล้วเล่า นี่ไม่เป็นอะไรแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ” แม่นมเก๋ออยากจะยิ้ม อยากจะปลอบนาง แต่เมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้นของอวี้ชิงลั่วก็ไม่สามารถทนยิ้มได้ น้ำตาก็ไหลออกมาด้วย
“ท่านนี่ก็ ไม่เจอกันตั้งนาน เหตุใดจึงเปลี่ยนเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวเสียแล้วเล่า ช่วงที่ผ่านมาลำบากหรือเจ้าคะ ท่านร้องไห้เสียจนข้าทนไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วกัดปาก บางความรู้สึกนางก็ควบคุมไว้ไม่ได้ ถึงจะรู้ว่าท่าทางเช่นนี้ไม่น่าดูอย่างยิ่ง แต่เมื่อเห็นคนที่นางตามหามาเป็นเวลานานปรากฏตัวตรงหน้าของตน บนร่างยังมีร่องรอยการบาดเจ็บหนักเช่นนี้ อีกทั้งเมื่อครู่ยังต้องตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต นางก็น้ำตาไหลพรากและไม่สามารถกลั้นไว้ได้
“รู้ว่าข้าลำบาก แต่เหตุใดท่านยังทิ้งข้ากับหนานหนานได้ลง” น้ำเสียงของอวี้ชิงลั่วยังมีความขุ่นเคือง เม้มปากก้มหน้าไม่มองสีหน้าของนาง เพียงแต่สองมือนั้นยังพันแผลบนร่างของนางอย่างรวดเร็ว
แม่นมเก๋ออึ้งไป ผ่านไปนานก็พึมพำออกมา “ที่ผ่านมา… ลำบากหรือเจ้าคะ”
“แผลของท่าน ใครเป็นคนทำ เหมิงจื้อเฉิงหรือ”
“อืม” แม่นมเก๋อตอบเสียงเบา จากนั้นก็เงียบไป
อวี้ชิงลั่วเงยหน้า ก็พบว่านางดูอ่อนแออย่างมาก เดิมทีก็ต้องกลั้นใจถูกเหมิงจื่อเย่าลากตัวออกมา เมื่อครู่ก็ใช้แรงทั้งหมดจึงหนีออกมาจากคมมีดได้ เกรงว่าตอนนี้คงไม่มีแรงเหลือเพียงพอให้กล่าวอันใดได้อีก
“ปล่อย ปล่อยข้า” ในที่สุดเหมิงจื่อเย่าที่ถูกกดไว้กับพื้นไม่ไกลนักก็ตอบสนอง ทันใดนั้นก็เริ่มดิ้นรนอย่างหนัก สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “อ๊าก ปล่อย ปล่อยนะ”
อวี้ชิงลั่วบีบมือของแม่นมเก๋อ กล่าวเบาๆ “ท่านพักก่อนเถิด รออีกเดี๋ยวข้าจะพาท่านกลับไป หนานหนานคิดถึงท่านมาก”
นางกล่าวจบก็สูดหายใจลึกๆ แล้วยืนขึ้น เดินไปทางด้านเหมิงจื่อเย่า ก้มลงมองเขาแล้วกล่าว “ข้าลืมบอกเรื่องบางอย่างกับเจ้าไป แม่นมเก๋อไม่ได้เคลื่อนไหวช้าเลยแม้แต่น้อย ข้ามีชีวิตอยู่ได้ถึงตอนนี้ได้ก็เพราะแม่นมเก๋อ แม้ว่าทักษะของนางจะไม่ได้เยี่ยมยอด แต่ต่อหน้าคนโง่เขลาอย่างเจ้า การจะป้องกันตัวเองย่อมไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด”
อวี้ชิงลั่วกล่าว จากนั้นก็แค่นหัวเราะออกมา จ้องมองดวงตาไม่อยากจะเชื่อของเหมิงจื่อเย่า แล้วกล่าวเสียงดุดัน “หากเจ้าฟังคำแนะนำของข้าก่อนหน้านี้ ในเรื่องที่เปลี่ยนข้าเป็นตัวประกัน ไม่แน่ว่าอาจจะเดินหน้าต่อไปได้สักสองสามก้าว อย่างน้อยถ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของคนที่เขาลือกันว่าเต็มไปด้วยเล่ห์กลอย่างข้า หากข่าวลือแพร่ออกไปคงจะน่าฟังกว่าหน่อย”
“สารเลว ไอ้พวกสารเลว นังคนชั่วช้า ปล่อยข้านะ ปล่อย” เหมิงจื่อเย่าโกรธเสียจนไม่รู้จะกล่าวอันใด พูดจาสะเปะสะปะ ดิ้นรนอย่างแรง
อวี้ชิงลั่วเห็นท่าทางเช่นนั้นของเขาก็สุดจะทนเล็กน้อย ไม่อยากมองดูเขาทำตัวสร้างปัญหาอย่างคนโง่อีกแล้ว ไม่รู้ว่าในมือมีเข็มเงินตั้งแต่ตอนไหน และจู่ๆ มันก็แทงเข้าที่ไหล่ของเขา
ต่อจากนั้นเหมิงจื่อเย่าก็ดูเหมือนจะหมดเรี่ยวแรง อ่อนปวกเปียกลง แม้แต่แรงจะร่ำร้องยังไม่มี
“มัดตัวเขาเสีย แล้วส่งตัวไปให้ท่านประมุขของเจ้า ให้เขามาจัดการ”
“ขอรับ” ผู้บัญชาการเฮ่อโบกมือ ทหารสองคนที่ด้านหลังก้าวมาทันที ในมือก็ไม่รู้ว่าไปหาเชือกมาตั้งแต่เมื่อไร จับเขามัดเอาไว้ทันที
จากนั้นอวี้ชิงลั่วก็เดินมาทางด้านแม่นมเก๋ออีกครั้ง ดึงมีดสั้นที่มัดไว้กับน่องออกมา แล้วตัดโซ่เหล็กที่ข้อเท้าของนางออก
เมื่อไร้พันธนาการ แม่นมเก๋อก็รู้สึกสบายขึ้นไม่น้อย
อวี้ชิงลั่วมองบาดแผลบนร่างนาง เม้มปากเล็กน้อย ผ่านไปครู่ใหญ่จึงกล่าวเบาๆ “ท่านเองก็เหนื่อยแล้ว ข้าจะพาท่านไปพักเสียก่อน มีเรื่องอะไรจะคุยก็รอให้พักฟื้นดีเสียก่อน แล้วเราก็ค่อยๆ มาคุยกัน”
“เจ้าค่ะ” แม่นมเก๋อหัวเราะออกมา เมื่อเห็นนาง จิตใจที่อดทนมาโดยตลอดก็สบายขึ้นทันที ราวกับว่าได้พบคนสำคัญแล้ว ในที่สุดก็สบายตัวขึ้น ค่อยๆ หลับตาลง
อวี้ชิงลั่วมองท่าทางของนางก็อดไม่ได้ที่จะกำนิ้วแน่น กล่าวกับผู้บัญชาการเฮ่อ “รบกวนท่านให้คนนำเกี้ยวนุ่มๆ มาให้ข้าที”
“แม่นางจะรบกวนเรื่องใด เพียงสั่งมาคำเดียวเป็นใช้ได้แล้วขอรับ” ผู้บัญชาการเฮ่อหัวเราะออกมา หันหลังแล้วเดินจากไป
ใครจะรู้ว่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ไม่ไกลนักก็มีร่างเล็กๆ ร่างหนึ่งวิ่งมาอย่างเร่งรีบ
หนานหนานพบเข้ากับผู้บัญชาการเฮ่อ เมื่อเห็นเขาก็รีบถาม “ท่านแม่ข้าเล่า?”
“แม่นางอวี้อยู่ทางนั้น” ผู้บัญชาการเฮ่อชี้ไปทางด้านหลัง
หนานหนานมองไปตามทางที่นิ้วของเขาชี้ ดวงตาเป็นประกายแล้วเรียกออกมา “ท่านแม่ ข้ามาแล้ว”
ยังไม่ทันกล่าวจบก็วิ่งไปทางอวี้ชิงลั่วแล้ว
ดวงตาของแม่นมเก๋อที่หลับไป เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยก็เบิกกว้างในทันที มองร่างเล็กที่ร่างเริงนั้น ในดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ไม่สนแม้แต่ความเหนื่อยล้าของตน
หนานหนานวิ่งเข้ามาใกล้ก็พบว่ามีคนพิงแม่ของตนอยู่ เมื่อมองดูดีๆ แล้วก็ตกตะลึงไป
จากนั้นเขาก็วิ่งไปตรงหน้าทั้งสองคนทันที ร้องเสียงดัง “แม่นมเก๋อๆ เป็นท่านจริงๆ ด้วย ฮือๆ… ในที่สุดก็พบท่านแล้ว”
เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก อวี้ชิงลั่วที่เห็นร่างเขาพุ่งมาราวกระสุนปืนใหญ่ก็รีบห้ามไว้ จ้องมองเขา “เบาๆ หน่อย ไม่เห็นหรือว่าแม่นมเก๋อบาดเจ็บ”
“…” หนานหนานชะงักไป จากนั้นก็ตกใจอย่างมาก “แม่นมเก๋อบาดเจ็บได้อย่างไร ฮือๆ จะต้องเจ็บมากเลยใช่หรือไม่ ตรงนี้มีแต่เลือด มีแผลเยอะเหลือเกิน ฮือๆ… ใครทำท่านขอรับ แม่นมเก๋อท่านโปรดวางใจ ตอนนี้หนานหนานเก่งมาก ข้าจะต้องช่วยแก้แค้นให้ท่านได้แน่ หนานหนานจะเป่าๆ ให้ท่านเอง อีกเดี๋ยวก็จะไม่เจ็บแล้ว”
เขาร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่ส่งเสียงดังลั่น
เย่ซิวตู๋ที่เดินตามหลังมาเมื่อได้ยินเสียงร้องของเขา ในใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะ เข้าใจว่าอวี้ชิงลั่วเกิดปัญหาอะไรขึ้น รีบวิ่งไปข้างหน้าทันที
จนกระทั่งได้เห็นภาพเหตุการณ์ข้างหน้าก็ค่อยหยุดลง ลอบถอนหายใจโล่งอก
เงาของเขาเลื่อนเข้ามาปกคลุมเป็นเงาขนาดใหญ่
แม่นมเก๋อรู้สึกได้ เงยหน้าขึ้นมองเขา
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆ นางก็เบิกตากว้าง สูดหายใจเข้าลึกๆ ทันที “ท่าน… ท่าน… ท่านอ๋องซิว…”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ท่านอ๋องมีความสัมพันธ์แบบไหนกับแม่นมเก๋อกันนะ ทำไมถึงดูตกใจขนาดนั้น
ไหหม่า(海馬)