อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 868 จากไป
ตอนที่ 868 จากไป
ตอนที่ 868 จากไป
อวี้ชิงลั่วกล่าว เงยหน้าขึ้นจ้องมองเย่ซิวตู๋ด้วยสีหน้าที่อธิบายไม่ถูก
อีกฝ่ายกระตุกมุมปากแล้วครุ่นคิด ทำได้เพียงตอบ “ข้าไม่ได้เจอนางมาหลายปีแล้ว”
หมายความว่า ขนาดชิงเอ๋อร์ยังคิดไม่ออก แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไร
หนานหนานหันหน้ามองซ้ายทีขวาที จากนั้นก็ยกมือขึ้นแล้วกล่าว “ท่านแม่ ข้ารู้”
‘พรึ่บ’ แววตาของอวี้ชิงลั่วและเย่ซิวตู๋หันมามองเขาพร้อมๆ กันพลางหรี่ตาเล็กน้อย
หนานหนานกระแอมในทันใด หันไปมองที่บิดามารดาด้วยท่าทางเขินอาย ราวกับจะแสดงออกว่า ‘พวกท่านโง่เกินไปแล้ว เรื่องเพียงนี้ยังรู้ไม่มากเท่ากับข้าที่เป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง ช่างน่าดูถูกเหลือเกิน’
จากนั้นก็กล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจ “ที่แม่นมเก๋อจะสื่อ บอกได้ว่าหากไม่ใช่นางที่พยายามเลี้ยงดูท่านพ่อตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ไม่แน่ว่าตอนนี้ท่านพ่ออาจจะโตมาโหดร้าย รูปไม่หล่อ ท่านแม่จะต้องไม่ชอบท่านพ่อ และไม่ยอมอยู่กับเขา ดังนั้นตอนนี้เห็นว่าท่านแม่และท่านพ่ออยู่ด้วยกัน ทั้งยังมีลูกชายที่น่ารัก ฉลาดเฉลียว มีชีวิตชีวา ไปเจอใครใครก็รัก ไม่เสียแรงของนางจริงๆ”
“…” สีหน้าเย่ซิวตู๋ดำทะมึนลงในทันใด มองบุตรชายสุดที่รักทำท่าทางราวกับว่าข้าพูดไว้ไม่ผิด ข้ารู้จักแม่นมเก๋อดีถึงขนาดว่ารู้ใจกัน เขานี่ช่าง… อยากจะโยนเจ้าเด็กนี่ออกไปเหลือเกิน
อวี้ชิงลั่วกระตุกมุมปาก นึกเสียใจเล็กน้อย
บุตรของตนนั้นมีนิสัยอย่างไรนางก็รู้ดี เหตุใดจึงมานั่งจริงจังฟังเรื่องไร้สาระของเขากันนะ
นางเริ่มกังวลกับระดับสติปัญญาของตนในช่วงนี้แล้ว
หนานหนานเงยหน้า มองท่านพ่อท่านแม่ที่มีสีหน้าดูถูก ก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที
“ทำไมพวกท่านทำหน้าแบบนั้น ข้าทายไว้ต้องไม่ผิดแน่ ไม่อย่างนั้นรอแม่นมเก๋อฟื้นขึ้นมา พวกท่านลองถามนางดูก็จะรู้เอง”
“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องบอก ข้าก็จะถามอยู่แล้ว” อวี้ชิงลั่วยกมือขึ้นมา ลูบศีรษะของเขาแล้วเสแสร้งยิ้ม “ดังนั้นตอนนี้ หุบปากเสีย!!”
“…” หนานหนานรู้สึกไม่ยุติธรรม ท่านแม่ใจร้ายเกินไปแล้ว เขาเริ่มกังวลเกี่ยวกับอนาคตของตนอย่างสุดซึ้ง
หลังส่งเสียงฮึดฮัดเบาๆ ก็หันหลังวิ่งจากไป
อวี้ชิงลั่วเงยหน้าขึ้นสบตากับเย่ซิวตู๋ แล้วทั้งสองคนก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนัก
เหตุใดบุตรชายของพวกเขา จึงไม่เหมือนพวกเขาเลยแม้แต่น้อยกันนะ?
เห็นๆ อยู่ว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นคนฉลาดเพียงนี้ บุตรชายกลับไม่ได้รับการถ่ายทอดลักษณะนี้ไปเลย กลับมีนิสัยหลงตัวเองอย่างไร้ยางอายเสียได้
“ต่อไปหากเจ้าคลอดลูกอีกคน จะต้องให้หนานหนานเคารพรักอยู่ห่างๆ แล้วล่ะ” เย่ซิวตู๋กล่าวออกมาอย่างจริงจังมาก
ไม่อย่างนั้นจะชักนำพากันไปทางไม่ดี
“…” อวี้ชิงลั่วกระตุกมุมปาก ในใจเขาคิดเรื่องไร้สาระอันใดอยู่ อะไรคือการ… คลอดลูกอีกคนกัน?
นางเคยบอกว่าจะมีอีกคนหรือ เขาควรถามความเห็นนางก่อนไม่ใช่หรือ?
อวี้ชิงลั่วเงยหน้าจ้องเขาอย่างดุดัน
จากนั้นก็เห็นหนานหนานวิ่งกลับเข้ามาอย่างรีบร้อน
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว “ไปแล้วไม่ใช่หรือ เจ้ากลับมาเร็วเกินไปแล้วนะ”
“ข้ามา… ข้ามา…” มาฟ้อง หนานหนานครุ่นคิด กลืนคำพูดในปากกลับลงไป กล่าวอย่างจริงจังมาก “ท่านแม่ ข้ามีธุระจึงได้เข้ามา ผู้บัญชาการเฮ่อจับผู้อารักขาในจวนทั้งหมดไปแล้ว เขาถามว่าท่านพ่อจะไปดูหรือไม่”
จริงๆ แล้วเขาอยากจะบอกว่า ผู้บัญชาการเฮ่อไม่ยอมให้เขาออกจากเรือน บอกว่าถึงแม้จะจับคนของเหมิงจื้อเฉิงหมดทั้งจวนแล้ว แต่ก็กลัวว่าจะยังมีคนที่เล็ดลอดไปได้อยู่
อวี้ชิงลั่วมองเขาอย่างสงสัย ดูไม่เหมือนว่าเขาจะมาที่นี่เพื่อรายงานเลย
หนานหนานเงยหน้ามองลำแสงที่ตกกระทบศีรษะ แสร้งทำเป็นว่าไม่เห็นสีหน้าที่ท่านแม่ของตนแสดงออก
เย่ซิวตู๋ครุ่นคิด ท่านประมุขมีธุระมากมาย เมื่อครู่เขาออกไปรอบหนึ่ง ด้านนอกยังคงโกลาหลอยู่ ที่จวนผู้อาวุโสสกุลหมิงนี้ก็มีเพียงเขาและเหมิงจื่อเชียนที่มาแก้ไขปัญหา จะทิ้งปัญหาเอาไว้ไม่ได้ ถึงตอนนั้นจะลำบากท่านอาจารย์อีก
“ข้าจะไปดูหน่อย เจ้ารอข้าอยู่นี่เถิด” เย่ซิวตู๋บีบมือของอวี้ชิงลั่ว จากนั้นก็หันหน้าไปสั่งหนานหนาน “เจ้าอยู่ที่นี่คอยปกป้องท่านแม่และแม่นมเก๋อ อย่าไปวิ่งซนที่ไหนล่ะ”
“ท่านพ่อวางใจเถิด ความปลอดภัยของท่านแม่ ยกให้เป็นหน้าที่ข้าเอง ข้าฝีมือดี ใครก็สู้ไม่ได้เป็นแน่”
“…” ไร้ยางอายเสียจริง
เย่ซิวตู๋ลอบกล่าวในใจ หันหลังออกจากห้องไป เดินไปหาเหมิงจื่อเชียน
เมื่อหนานหนานเห็นว่าเขาจากไปแล้ว ก็เอนตัวลงบนตักของอวี้ชิงลั่ว กอดเอวของนางซุกเข้าไปในอ้อมอก “ท่านแม่ ตอนนี้ตามหาแม่นมเก๋อเจอแล้ว เราจะกลับอาณาจักรเฟิงชางเมื่อไหร่หรือขอรับ”
อวี้ชิงลั่วผงะไป ก้มลงมองเขาแวบหนึ่ง “เจ้าไม่ชอบดินแดนเหมิงหรือ?”
นางยังนึกว่ามีเหมิงหลัวอวี้ มีเถี่ยชิวเอ๋อร์ หนานหนานน่าจะชอบอยู่ที่นี่ และไม่เต็มใจจะจากไปเสียอีก
“ชอบขอรับ” หนานหนานตอบอย่างเป็นธรรมชาติ
“แล้วเหตุใดจึงอยากไปแล้วเล่า?”
หนานหนานเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “เพราะข้าอยากพาน้องอวี้กับชิวเอ๋อร์ไปดูอาณาจักรเฟิงชาง ท่านแม่ท่านคงไม่รู้ ข้าบอกว่าข้าเคยไปอาณาจักรเทียนอวี่ อาณาจักรเฟิงชาง อาณาจักรหลิวอวิ๋น น้องอวี้กับชิวเอ๋อร์ต่างก็ตาเป็นประกาย ไม่รู้ว่าอิจฉากันเพียงไหน ดังนั้นข้าจึงให้สัญญาว่าจะพาพวกนางไปทุกที่ ดูแม่น้ำและภูเขาอันยิ่งใหญ่ นี่คือคำสัญญาลูกผู้ชาย จะผิดสัจจะไม่ได้ขอรับ”
“…” มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย
หนานหนานเอียงคอถามอย่างแปลกใจ “ปากท่านแม่เป็นอะไรหรือ?”
เขากล่าวโดยไม่สนใจคำตอบของอวี้ชิงลั่ว เริ่มนับนิ้วอีกครั้ง “อีกอย่างที่อาณาจักรเฟิงชางก็ยังมีเสี่ยวเฉิงเฉิง ยังมีท่านอาเป่าเอ๋อร์ ยังมีเสด็จปู่ แล้วก็ยังมีเย่หลานเวยที่น่ารังเกียจ แล้วก็ยังมีอีกหลายคนที่ข้าคิดถึงมาก ไม่ได้เจอนานเพียงนี้ ไม่รู้ว่าพวกเขาลืมข้าไปหรือยัง”
อวี้ชิงลั่วหัวเราะเหอะๆ ใครจะลืม ไม่มีใครลืมเจ้าแน่
“แต่ทว่าข้าก็ทำใจจากดินแดนเหมิงไปไม่ได้ โดยเฉพาะตอนนี้ท่านปู่ทวดยังไม่ฟื้น ข้าอยากรอจนเขาฟื้นก่อนค่อยจากไป แต่ท่านปู่ฮั่วบอกว่าเรื่องนี้ยังไม่แน่นอน อาจจะไม่ฟื้นเป็นเวลาหลายปีก็ได้ ดังนั้นตอนนี้ข้าจึงสับสนมาก ท่านแม่ ท่านช่วยแนะนำข้าหน่อยสิ ท่านว่าข้าควรไป หรือไม่ควรไปดี”
แม้แต่ขมับของอวี้ชิงลั่วก็เริ่มสั่นกระตุก นางยกตัวหนานหนานออกจากร่างตนเอง ส่งเสียงฮึดฮัด “แนะนำอะไรเจ้ากัน เจ้าจะไปหรือไม่ไป ก็ต้องฟังพวกข้าไม่ใช่หรือ พวกข้าไปกันตอนไหน เจ้าก็ไปตอนนั้น หากพวกข้าไม่ไป เจ้าก็อย่าคิดจะได้ไป เจ้าจะสับสนอันใดกัน”
“…” หนานหนานเบิกตากว้าง เหมือนกับว่า.. เขาลืมคิดเรื่องสำคัญเช่นนี้ไปเสียสนิท
อวี้ชิงลั่วเห็นเขาตกใจอย่างมาก สุดท้ายก็ถอนหายใจแรง ในที่สุดใจก็สงบเสียที
หนานหนานรู้สึกไม่ยุติธรรมเป็นอย่างมาก คิดว่าตนเองเป็นลูกผู้ชายตัวเล็กๆ ยังไม่สามารถตัดสินใจอันใดเองได้ ในใจก็หดหู่มาก
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ดังเข้ามาในหู
หนานหนานอึ้ง หันหน้าไปมอง จากนั้นก็ร้องออกมาอย่างดีใจ “ท่านแม่ แม่นมเก๋อฟื้นแล้ว”
อวี้ชิงลั่วหันหน้ามาทันที ก็เห็นคนบนเตียงลืมตาขึ้น ถึงแม้จะยังหน้าซีดอยู่ แต่ดวงตากลับอ่อนโยนอย่างมาก
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ให้แม่นมเก๋อพูดเถอะหนานหนาน ยิ่งคาดเดามันยิ่งดูหลงตัวเองหมดเลย
ไหหม่า(海馬)