อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 871 คำนวณ
บทที่ 871 คำนวณ
บทที่ 871 คำนวณ
“ปานรูปดอกไม้หรือ?” เย่ซิวตู๋นึกย้อนไปถึงครั้งแรกที่ตนยืนยันตัวตนของหนานหนาน ก็อาศัยปานนั้นเช่นกัน
แม่นมเก๋อส่ายหน้าอีกครั้ง “แม้ปานรูปดอกไม้จะหาได้ยาก แต่ก็ไม่ได้มีเพียงบนร่างของท่านอ๋องเท่านั้น นั่นเพียงการช่วยยืนยันว่าหนานหนานเป็นชาวเหมิงเจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นแม่นมรู้ได้อย่างไร”
แม่นมเก๋อเงียบไป เม้มปากอยู่นาน จากนั้นก็กล่าวเบาๆ “เป็นเพราะทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนของข้า”
“…” เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว
“ที่ท่านอ๋องและคุณหนูได้มีความสัมพันธ์กัน เป็นแผนของข้ามาตั้งแต่แรก ข้ารู้ว่าคนที่คุณหนูได้พบคืนนั้นก็คือท่านอ๋อง”
‘ฟึ่บ’ เย่ซิวตู๋ลุกขึ้นในทันที ยืดหลังตรง จ้องมองแม่นมเก๋อด้วยความประหลาดใจ
ผ่านไปครู่ใหญ่ เขาก็ค่อยๆ ถามอย่างชัดถ้อยชัดคำ “เมื่อครู่นี้ ท่านว่าอย่างไรนะ?”
แม่นมเก๋อกัดฟัน ไม่กล้าเงยหน้าอีก
นางเก็บงำเรื่องนี้ไว้ในใจมาหกปีแล้ว ในระหว่างหกปีนี้ นาง อวี้ชิงลั่วและหนานหนานอยู่ด้วยกันก็สนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ยิ่งความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ยิ่งดีมากเท่าไร ในใจนางก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นเท่านั้น
บางเรื่องก็ยิ่งไม่กล้าพูดออกไป ตอนนี้เมื่อได้พบอวี้ชิงลั่วอีกครั้ง นางกลับรู้สึกว่า…ยิ่งไม่บอก เชือกที่ขึงอยู่ในใจนางจนตึงคงจะขาดสะบั้นลง
“ท่านอ๋องไม่สงสัยเลยหรือ ว่าเหตุใดท่านจึงได้พบคุณหนูและหนานหนานที่เจียงเฉิง?”
เย่ซิวตู๋ฟังคำนี้ก็อดไม่ได้ที่จะทำสีหน้าจริงจังมากขึ้น “แม่นมเก๋อหมายความว่า ทั้งหมดนี้อยู่ในการคำนวณของท่านหรือ?”
แม่นมเก๋อชะงักไป คำนวณหรือ? จากนั้นก็ยิ้มฝืดเฝื่อนออกมา “เจ้าค่ะ ข้าเห็นหนานหนานเติบโต เห็นคุณหนูยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่าควรให้ท่านอ๋องและครอบครัวได้กลับมาพบกันอีกครั้งแล้ว ดังนั้นข้าจึงได้จากลาโดยไม่บอก อีกทั้งยังเปิดเผยข่าวว่าข้าอยู่เจียงเฉิงให้คุณหนูรู้ ให้นางไปที่เจียงเฉิง”
เย่ซิวตู๋อดไม่ได้ที่จะแค่นหัวเราะ “ท่านไม่กลัวหรือว่าหากข้าพบหนานหนานแล้วจะฆ่าชิงเอ๋อร์?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น แม่นมเก๋อก็หัวเราะออกมาเบาๆ ในที่สุดก็เงยหน้ามองชายที่ยืนอยู่ข้างเตียง แววตาเป็นประกายราวกับภาคภูมิใจ “ไม่มีใครรู้ความสามารถของคุณหนูได้ดีเท่าข้า นางไม่เคยต้องทนทุกข์ จะปล่อยให้เรื่องพัฒนาไปถึงขั้นที่ไม่เป็นประโยชน์กับตนเองได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น ท่านอ๋องก็เป็นคนที่เห็นคุณค่าของความสามารถคน หากรู้สถานะหมอปีศาจของคุณหนู เกรงว่าจะทำใจฆ่าไม่ลง อีกอย่างยังมีหนานหนานอีก หนานหนานฉลาดเพียงนั้น แตกต่างจากเด็กห้าขวบทั่วไป ในใจของเขา คุณหนูมาเป็นที่หนึ่งเสมอ”
หากไม่ใช่เพราะปัจจัยเหล่านี้ แม่นมเก๋อคงไม่ให้โอกาสพวกเขาได้พบเจอทำความรู้จักกันในช่วงเวลาเช่นนี้เป็นแน่
“ยิ่งไปกว่านั้น ในใจของข้าเองก็คิดมาโดยตลอด ว่าคุณหนูเป็นสตรีที่คู่ควรกับท่านอ๋อง”
ไม่ว่าจะเป็นด้านฐานะ ด้านความสามารถ ล้วนเป็นคู่ที่สวรรค์สรรค์สร้าง
เดิมทีเย่ซิวตู๋มีสีหน้าโกรธเกรี้ยว แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สุดท้ายก็สงบลง
แม้ไม่พอใจกับการกระทำของแม่นมเก๋อเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรเสียนางก็วางแผนต่อตนและชิงเอ๋อร์มาตลอดหกปี จึงต้องยอมรับว่าเขาเห็นด้วยกับคำพูดของนาง
ในโลกนี้ ไม่มีใครที่เหมาะสมกับเขาได้เท่าชิงเอ๋อร์อีกแล้ว
เย่ซิวตู๋เม้มปากแน่นอยู่ครู่หนึ่ง เท้าขวาเลื่อนเก้าอี้ข้างๆ มาแล้วนั่งลงอีกครั้ง
ผ่านไปครู่ใหญ่เขาก็สูดหายใจลึกๆ ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ตอนนั้นมันเกิดอันใดขึ้น? เล่าให้ข้าฟังอย่างละเอียด”
“เจ้าค่ะ” แม่นมเก๋อลดสายตาลงแล้วตอบรับ
“เจ็ดปีก่อน เหนียงเหนียงคิดจะโจมตีข้า แต่ข้ารู้ตัวเสียก่อน แม่นมอีกคนที่เป็นคนของเหนียงเหนียงสนิทกับข้าและช่วยข้าให้หนีออกมา เดิมทีข้าหดหู่ใจ ต้องการออกจากเมืองหลวง ออกไปจากอาณาจักรเฟิงชาง เพียงแต่ตอนที่พักผ่อนอยู่ที่ประตูหลังของจวนกลับได้เจอคุณหนู คุณหนูใจดี เห็นว่าข้ายากจนไร้ที่อยู่ จึงพาข้ากลับไปด้วย”
“ตอนนั้นข้าจึงได้รู้ว่าคุณหนูเป็นภรรยาของอวี๋จั้วหลินคุณชายใหญ่ตระกูลอวี๋ เพียงแต่…ชีวิตกลับไม่ดีนัก”
แม่นมเก๋อกล่าว เงยหน้ามองเย่ซิวตู๋ เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเขาดูโกรธเกรี้ยว ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ตอนนั้นในใจอวี๋จั้วหลินมีหญิงอีกคน ในคืนวันแต่งงานเขาทิ้งคุณหนู พาหญิงผู้นั้นออกจากจวนอวี๋ไปและไม่กลับมาอีก ฮูหยินใหญ่ของจวนอวี๋จึงไม่พอใจคุณหนู ทำให้นางต้องลำบาก แม้คุณหนูจะอยู่คนเดียวในเรือนเล็กห่างไกล ไม่มีความต้องการหรือเรียกร้องอันใด นางก็มักจะจับผิดอยู่เสมอ มักจะใช้กฎในจวนมาลงโทษคุณหนูซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งล้ำเส้น บางครั้งถึงขนาดไม่ให้คุณหนูกินดื่มเลยทั้งวัน สั่งคุณหนูราวกับเป็นข้ารับใช้”
“ในจวนอวี๋นั้น แม้แต่สาวใช้ที่ต่ำต้อยที่สุดก็ยังรังแกคุณหนูได้ ว่ากันตามตรงแล้ว ในตอนนั้นข้าเองก็เข้มงวดกับคุณหนูและหวังให้นางได้ดีจริงๆ”
แม่นมเก๋ออยู่ข้างกายเหมิงกุ้ยเฟยมาหลายปี เห็นวิธีการและความแข็งแกร่งของเหมิงกุ้ยเฟย ย่อมทนมองอวี้ชิงลั่วที่มักจะถูกรังแกตลอดทุกที่ทุกเวลาไม่ได้
“ข้าอยู่ข้างกายคุณหนูมานาน และได้รู้ความมืดดำในจวนอวี๋มาบ้าง ข้างกายคุณหนูไม่มีคนที่มีประโยชน์เลย ข้าทำได้เพียงคิดให้มากหน่อย ดังนั้นจึงอ่อนไหวกับเรื่องฮูหยินใหญ่อย่างมาก วันนั้นเมื่อเห็นฮูหยินลอบไปพบคนคนหนึ่ง ข้าก็รู้สึกว่ามันแปลกจึงตามไป ก็พบว่าเป็นอวี๋จั้วหลินที่จากไปได้ครึ่งปี”
“อวี๋จั้วหลินและฮูหยินใหญ่ลอบตกลงกัน อยากจะทำลายความบริสุทธิ์ของคุณหนู ให้นางไม่มีหน้าอยู่ที่จวนอวี๋อีก จากนั้นก็จะได้แต่งเอาหญิงที่ตนรักเข้ามาเป็นภรรยาหลวงอย่างถูกต้องเหมาะสม”
ตอนนั้นนางรู้สึกว่าแม่ลูกสกุลอวี๋นั้นเลวร้ายเกินไปแล้วจริงๆ หากคุณหนูอยู่ต่อ ต่อให้ครั้งนี้ไม่ถูกทำร้าย แต่ก็จะมีครั้งต่อไป บางทีอาจใช้โอกาสนี้ออกไปจากจวนอวี๋ได้ ไม่ว่าจะไปที่ใด ก็ดีกว่าที่นี่ทั้งนั้น
ดังนั้นคืนนั้นฮูหยินใหญ่จึงแอบให้คนไปมัดอวี้ชิงลั่ว นางแอบตามอยู่ด้านหลังตลอดเวลา เห็นว่าพวกเขานำตัวคนไปทิ้งไว้ที่วัดร้างแห่งหนึ่ง กล่าวบางอย่างกับขอทาน จากนั้นก็ให้เงินก้อนหนึ่งแล้วจากไป
ถึงแม้แม่นมเก๋อจะมีวรยุทธ์ในระดับธรรมดา แต่ก็มากเกินพอในการจัดการกับขอทาน หลังจากจัดการขอทานเสร็จแล้ว นางก็ไปเตรียมรถม้าคันหนึ่ง นำอวี้ชิงลั่วไปไว้ในนั้น รอให้ฟ้าสว่างก็ออกจากอาณาจักรเฟิงชาง
แต่ตอนที่เพิ่งพาอวี้ชิงลั่วขึ้นรถม้า แม่นมเก๋อก็เห็นเย่ซิวตู๋ถูกคนไล่ฆ่า บนตัวมีบาดแผล ลมหายใจก็ไม่มั่นคง
ส่วนคนที่ตามฆ่านั้นก็เป็นผู้อารักขาข้างกายของเหมิงกุ้ยเฟย
แม่นมเก๋อรู้ว่าสถานการณ์ร้ายแรง จึงแอบล่อให้มือสังหารเหล่านั้นไปยังทิศทางตรงกันข้าม
เมื่อกลับมาอีกครั้ง นางก็เห็นเย่ซิวตู๋พิงกองหญ้าอยู่กลางวัดร้าง หอบอย่างหนัก ทั้งร่างเปียกโชกราวกับโดนฝน
ดวงตาคู่นั้นเบิกโพลงราวกับสัตว์ป่า ใครเข้าใกล้ก็จะกัดให้ตายอย่างไรอย่างนั้น
แม่นมเก๋อรักเอ็นดูเย่ซิวตู๋เป็นพิเศษมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะเมื่อเหมิงกุ้ยเฟยลำเอียง นางก็ยิ่งดูแลอย่างดี
ดังนั้นเมื่อเห็นท่าทางของเขาเช่นนี้ สีหน้าก็จริงจังขึ้นมา
นางอยู่ในวังมาหลายปี มีสิ่งใดยังไม่เคยเห็นบ้างเล่า? สภาพของเย่ซิวตู๋เป็นเช่นนี้ นางก็ย่อมรู้ได้ชัดเจนว่าเกิดอันใดขึ้น น่าจะถูก…วางยาปลุกกำหนัด
ดังนั้นทางเลือกเดียวของแม่นมเก๋อก็คือต้องหาหญิงคนหนึ่ง
โชคดีที่ตรงนี้อยู่ไม่ห่างจากหอนางโลมนัก หากมีเงินพาหญิงคนหนึ่งออกมาย่อมไม่ใช่ปัญหาใหญ่
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
แม่นมเก๋อคือลาสต์บอสนี่หว่า ดูวางแผนเป็นระบบระเบียบมาก
ไหหม่า(海馬)