อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 872 ตอนนั้นข้ารุนแรงมาก
ตอนที่ 872 ตอนนั้นข้ารุนแรงมาก
ตอนที่ 872 ตอนนั้นข้ารุนแรงมาก
ทว่าในตอนที่แม่นมเก๋อหันหลังคิดจะไปหอนางโลมที่ใกล้ที่สุด จู่ๆ ในหัวก็มีความคิดบ้าคลั่งอันหนึ่งผุดขึ้นมา
ในที่สุดแววตาของนางก็จับจ้องไปยังรถม้าที่จอดเงียบๆ นอกวัดร้าง
แววตานั้นราวกับว่าสามารถมองทะลุรถตรงไปยังอวี้ชิงลั่วที่นอนหมดสติอยู่ข้างในได้อย่างไรอย่างนั้น
เสียงของเย่ซิวตู๋ยิ่งอ่อนแอลงเรื่อยๆ หากยังมัวล่าช้าต่อไป เกรงว่าธาตุไฟจะต้องแตกซ่าน
แม่นมเก๋อกัดฟัน ตรงขึ้นรถม้าไปแล้วพยุงอวี้ชิงลั่วลงมา
จากนั้นก็วางนางลงข้างกายของเย่ซิวตู๋ที่สติเลือนราง พยายามใช้ความเจ็บปวดเพื่อเรียกสติกลับคืนมาอีกครั้ง แต่กลิ่นหอมจางที่โชยมาจากร่างของหญิงสาวกลับทำลายความสงบเฮือกสุดท้ายของเย่ซิวตู๋ลง
อวี้ชิงลั่วที่ถูกเย่ซิวตู๋กดร่างเอาไว้ค่อยๆ ได้สติฟื้นขึ้นมา นางกรีดร้องอย่างตื่นตระหนกและร้องขอความช่วยเหลือ จากนั้นก็ถูกเย่ซิวตู๋ดึงกลับไปปิดปากและกระทำย่ำยีอย่างรุนแรง แม่นมเก๋อมองแล้วก็สูดหายใจลึก ก่อนหมุนตัว ปิดประตูบานหนึ่งที่ยังเหลืออยู่ของวัดร้าง
นางกลับไปที่รถม้าเงียบๆ ราวกับไม่รู้สึกอันใด จูงม้าจากไปท่ามกลางความมืดกลับไปที่จวนอวี๋เพียงคนเดียว
เช้าตรู่วันถัดมา ในตอนที่อวี้ชิงลั่วกลับมาถึง ทั้งร่างก็เหมือนไร้ชีวิตชีวา ล้มทับบนตัวนางทันที
ดวงตาแม่นมเก๋อฉายแววแปลกใจ ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
“ตอนแรกข้าคิดว่าท่านอ๋องจะใช้คุณหนูเป็นยาแก้พิษ ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร ก็ต้องพากลับไปที่ตำหนักอ๋อง และปฏิบัติต่อนางอย่างกรุณา” แม่นมเก๋อกล่าวถึงตรงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขื่น “คิดไม่ถึงว่าคุณหนูจะฟื้นขึ้นมาก่อนท่านอ๋องแล้วออกจากวัดร้าง กลับมาที่จวนสกุลอวี๋”
เรื่องราวหลังจากนั้นยิ่งเหนือการควบคุม
ฮูหยินใหญ่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง รอจนกว่าอวี๋จั้วหลินกลับมาอย่างชอบธรรม เชิญหมอมาอย่างเปิดเผย และบอกอย่างเปิดเผยว่าอวี้ชิงลั่วทนความเหงาไม่ไหว แอบไปมีชู้ สมควรถูกจับถ่วงน้ำ
แม่นมเก๋อเองก็ไม่คาดคิดว่าหลังจากเรื่องนี้แล้วอวี้ชิงลั่วจะตั้งครรภ์ หากไม่ใช่เพราะอวี้จั้วหลินเชิญหมอมา ก็เกรงว่านางเองก็คงไม่รู้เรื่อง
นี่คือลูกของเย่ซิวตู๋ เป็นถึงพระนัดดาของราชวงศ์ เป็นลูกคนแรกของเย่ซิวตู๋ จะยอมให้เขาถูกคนทำร้ายได้อย่างไร ทั้งยังต้องตายด้วยข้ออ้างนี้ด้วยวิธีนี้อีกด้วย ต่อให้นางต้องตาย ก็ต้องพยายามอย่างที่สุดเพื่อปกป้องเด็กคนนี้
ดังนั้น ตอนที่อวี้ชิงลั่วถูกขังอยู่ในเรือนเก็บฟืน ถูกฟ้าผ่า ถูกแม่ลูกเฉินจีซินเอาไปขาย ถูกนายท่านอวี้ไล่ออกจากบ้าน ถูกอวี๋จั้วหลินตามฆ่า นางก็ล้วนคอยปกป้องอยู่ข้างกายอวี้ชิงลั่วอย่างสุดความสามารถและเด็ดเดี่ยวแน่วแน่
“เพียงแต่คิดไม่ถึง หลังจากคุณหนูรอดชีวิตจากการคลอดบุตรได้แล้ว ก็เหมือนว่าได้เกิดใหม่ ฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง ไม่มีความอ่อนแออย่างเช่นก่อนหน้าเลย ถึงขนาดค้นพบพรสวรรค์ทางการแพทย์อย่างน่าประหลาดใจเสียด้วย จึงได้ประสบความสำเร็จดังเช่นตอนนี้”
และคิดไม่ถึงว่าชีวิตของนางจะมีความเปลี่ยนแปลงมากเพียงนี้ ไม่เพียงแต่กลายเป็นหมอปีศาจ แต่ยังมีฮ่องเต้แห่งอาณาจักรเทียนอวี่เป็นบิดาบุญธรรม ทั้งยังได้ความแข็งแกร่งจากทั้งในยุทธภพและราชสำนักมาไม่น้อย
หลายปีมานี้แม่นมเก๋ออยู่ข้างกายอวี้ชิงลั่ว คอยเฝ้าดูหนานหนานเติบโต ยิ่งนานยิ่งรู้สึกชอบพวกเขาสองคน มองว่าอวี้ชิงลั่วเป็นเหมือนลูกสาวแท้ๆ คนหนึ่ง
ดังนั้นเมื่อนางรู้ว่าเย่ซิวตู๋อยู่เจียงเฉิง นางก็มีความคิดอยากให้ครอบครัวพวกเขาได้กลับมาเจอกัน ให้หนานหนานได้รู้จักบรรพบุรุษของตน
อย่างไรเสียด้วยความสามารถของอวี้ชิงลั่วและความฉลาดของหนานหนาน ก็ไม่ต้องกลัวการปองร้ายของเหมิงกุ้ยเฟยแล้ว ด้วยสถานะของนางตอนนี้ ก็สามารถอยู่ข้างกายเย่ซิวตู๋ได้อย่างสง่าผ่าเผย นางปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสม หนานหนานเองก็ได้เป็นบุตรคนแรกของภรรยาคนแรกของเย่ซิวตู๋ มีเกียรติมีฐานะ
“เรื่องเหล่านี้ ข้าเก็บไว้ในใจมาโดยตลอด ไม่กล้าพูดออกไป เดิมทีคิดว่าครั้งนี้ตกอยู่ในมือของเหมิงจื้อเฉิง คงจะอยู่ต่อได้ไม่นานแล้ว ก็คิดว่าจะเก็บความลับนี้ไว้ตลอดไป แต่ทว่าคุณหนูและหนานหนานกลับมายังดินแดนเหมิงตามลำพังโดยไม่สนใจอันตรายเพียงเพื่อช่วยข้า เมื่อเห็นพวกเขาปรากฏตัวต่อหน้า ข้าก็รู้สึก… เหมือนความรู้สึกผิดในใจมันท่วมท้นเป็นอย่างมาก”
มุมปากของเย่ซิวตู๋ยังคงตึงแน่น หลังจากฟังแม่นมเก๋อเล่าเรื่องทั้งหมด เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะเผชิญหน้านางด้วยความรู้สึกแบบไหน
แม่นมเก๋อไม่ได้ทำร้ายเขา อย่างมากก็เพียงปกปิดความลับนี้กับเขามาโดยตลอด อาจกล่าวได้ว่าตอนนั้นเป็นนางที่ช่วยตนไว้ ทั้งยังช่วยปกป้องชิงเอ๋อร์และหนานหนานแทนเขามาตลอดหลายปี
ตั้งแต่ต้นจนจบ คนที่ถูกทำร้ายก็มีเพียงชิงเอ๋อร์ ทั้งหนึ่งในคนที่ทำร้ายนาง ก็มีตนรวมอยู่ด้วย
เย่ซิวตู๋รู้สึกเพียงว่าลำคอแห้งผาก มีความรู้สึกเหมือนเสียงนั้นติดอยู่ในลำคอและไม่สามารถพูดออกมาได้
สองมือของเขากำแน่น ลมหายใจหยุดนิ่ง
ผ่านไปนาน ในห้องที่เงียบสงัดจนน่ากลัว ก็มีเสียงอันแหบแห้งของเขาดังขึ้น “ตอนนั้นข้า…กระทำรุนแรงกับชิงเอ๋อร์มากหรือ?”
“…” แม่นมเก๋อหันหน้าอย่างเงียบๆ นึกถึงท่าทางตื่นตระหนกและเจ็บปวดของอวี้ชิงลั่วในตอนนั้น ก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น
ผ่านไปครู่ใหญ่นางจึงตอบอย่างลำบากใจ “ท่านอ๋องในตอนนั้นถูกวางยา ก็ไม่สามารถควบคุมตนเองได้เจ้าค่ะ”
แม้ตอนนั้นที่นางอาบน้ำให้อวี้ชิงลั่วแล้วจะเห็นรอยฟกช้ำดูน่ากลัวอย่างมาก แต่ตอนนั้นเย่ซิวตู๋เองก็ไม่มีสติ ควบคุมกำลังไม่ได้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน
เย่ซิวตู๋เม้มปากแน่น เช่นนั้นก็แสดงว่ารุนแรงอย่างมากจริงๆ
เขาเงียบไปอีกครั้ง ก้มหน้าลงเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่
แม่นมเก๋อเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี เรื่องเช่นนี้เดิมทีมีสาเหตุมาจากนาง ถึงแม้นางจะรู้สึกผิด แต่นางก็ไม่เสียดายเลย
โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นท่าทางที่มีชีวิตชีวาของหนานหนานในตอนนี้ ได้เห็นท่าทางเย่ซิวตู๋และอวี้ชิงลั่วที่รักกันหวานชื่น นางรู้สึกดีใจเสียด้วยซ้ำ
เสียง ‘ครืด’ ดังขึ้น
แม่นมเก๋อเงยหน้าในทันใด ก็เห็นเย่ซิวตู๋ค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ดันเก้าอี้ด้านหลังออกไป แล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ
“ท่านอ๋อง…” แม่นมเก๋อเรียกเบาๆ
เย่ซิวตู๋หันหลังให้นางแล้วหายใจเข้าลึกๆ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป จากนั้นก็กล่าวเสียงต่ำ “อาการบาดเจ็บบนร่างของท่านยังไม่หายดี พักผ่อนเถิด หากมีเรื่องอันใด หายดีแล้วค่อยคุยกัน”
“…” แม่นมเก๋อลังเลจะพูดบางอย่าง หลังจากอ้าปากสองสามครั้ง สุดท้ายก็ไม่ได้กล่าวออกไป มองร่างผอมสูงของเขาค่อยๆ หายไปจากสายตา
ประตูถูกเปิดออก เย่ซิวตู๋มองดวงดาวมากมายเหนือศีรษะ รู้สึกว่าหายใจไม่ออกเป็นอย่างมาก
หนานหนานและอวี้ชิงลั่วที่กำลังคุยกันอยู่ตรงขั้นบันได เมื่อได้ยินเสียงก็หันหน้าไปทันที เมื่อเห็นเขา แววตาก็เปล่งประกาย
ทันใดนั้นก็สบตากับหนานหนาน ทั้งสองคนรีบวิ่งมาข้างหน้า เข้าใกล้เขาด้านซ้ายและขวา ยิ้มพลางถาม “พวกท่านคุยอะไรกันอยู่ข้างในหรือ?”
หนานหนานพยักหน้า “คุยอะไรหรือๆ”
เย่ซิวตู๋มองซ้ายมองขวา สีหน้าดูซับซ้อน สับสน แต่ก็ไม่อาจอ้าปากพูดได้
รอยยิ้มบนใบหน้าของอวี้ชิงลั่วค่อยๆ หุบลงไปตามสีหน้าของเขา หยุดชะงัก จากนั้นก็ขมวดคิ้ว “เกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่?”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เป็นความจริงที่โหดร้ายมากอะ ถ้าชิงลั่วรู้ว่าคนที่ทำร้ายตัวเองเป็นคนเดียวกับคนที่คอยดูแลตัวเองนี่จะรู้สึกยังไงอะ มันให้ความรู้สึกเหมือนถูกหักหลังเลยนะ
ไหหม่า(海馬)