อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 887 ผิดทาง
ตอนที่ 887 ผิดทาง
ตอนที่ 887 ผิดทาง
ทุกคนนิ่งงัน พากันหันหน้าไป
ไม่นานนักก็เห็นคนผู้หนึ่งวิ่งไปด้านหน้ารถม้าด้วยท่าทางกระหืดกระหอบ
โม่เสียนที่นั่งอยู่ตรงด้านหน้าของรถม้ามองเขาด้วยความประหลาดใจ รีบลงจากรถม้า “ท่านเวิง ท่านมาได้อย่างไร”
อวี้ชิงลั่วได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจากด้านในก็เปิดม่านออกมาดู ที่แท้คนที่ยืนอยู่ข้างนอกก็คือเวิงยวน หนึ่งในห้ากรรมการผู้ตัดสินตอนเทศกาลชิมสุราครั้งนั้น
สุนัขป่าตัวน้อยของหนานหนานก็มาจากบ้านเขา เคยได้ยินหนานหนานบอกว่าเวิงยวนผู้นี้ชอบสะสมส่งของมากมายหลายชนิด ที่บ้านเขาล้วนมีของแปลกๆ ทุกอย่าง
เมื่อได้ยินว่าเหมิงจื้อเฉิงก่อกบฏ ในฐานะสหายของเหมิงลู่แล้ว เขาก็ได้เตรียมอาวุธ ดาบ ของมีคมทุกสิ่งที่ใช้เพื่อป้องกันตัวมาให้ไม่น้อย
เวิงยวนถือบางอย่างไว้ในมือ ใช้เวลาสักครู่เพื่อหายใจ จากนั้นก็เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม
“ยังดีที่มาทันนะ หนานหนาน” เขาเรียกด้านในรถม้า
หนานหนานรีบ ‘ฟุ่บ’ ชะโงกหน้าจากรถม้า เมื่อเห็นเขา แววตาก็เป็นประกายขึ้นมา
“ท่านลุงเวิง ท่านมาได้อย่างไร มีของดีจะให้ข้าใช่หรือไม่ ไอหยา จริงๆ ท่านไม่ต้องเกรงใจเพียงนี้ก็ได้ขอรับ ให้ของอย่างสองอย่างก็พอแล้ว เอาไปมากเกินข้าก็ละอายใจขอรับ”
“…” เวิงยวนหันหน้าหนีเงียบๆ เขาผิดไปแล้ว เขาไม่ควรมาเลย
จากนั้นไม่นานเขาก็ก้าวมาข้างหน้าอย่างเงียบๆ นำของในมือมอบให้เขา “นี่คือของที่ท่านประมุขให้ข้านำมามอบให้เจ้า หากมีตรงไหนไม่เข้าใจ ก็ไปถามท่านอ๋องซิวได้”
มันคือกล่องทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสใบหนึ่ง
หนานหนานรับมาไว้ในมือ รู้สึกว่าเบามาก เหมือนว่าไม่หนักเลยแม้แต่น้อย
เขาเขย่าแรงๆ สองครั้ง รู้สึก…
“เหมือนเป็นหนังสือเลย”
สีหน้าของหนานหนานสลดลงในทันที ท่านปู่ลู่จะเกินไปแล้ว ไม่อยู่ข้างกายเขา ยังจะมาจับให้เขาอ่านหนังสืออีก
เขาเงยหน้ามองเวิงยวนแวบหนึ่ง ถามอย่างเศร้าสร้อย “ข้าไม่รับไว้ได้หรือไม่ขอรับ ท่านลุงเวิง ท่านน่าจะมีของดีอย่างอื่นอีก ให้ของดีอย่างอื่นข้าจะรับไว้เป็นแน่”
เวิงยวนคิด เขามีลูกหมาป่าแล้วไม่ใช่หรือ เจ้าเด็กนี่มีของดีเพียงนั้นแล้วยังไม่รู้จักพออีก
เขากระแอมแรงๆ สองครั้ง กล่าวเสียงต่ำ “ไม่มีอย่างอื่นแล้ว”
เขากำลังจะจริงจัง สีหน้าดูแล้วสง่าเป็นอย่างมาก
หนานหนานถอนหายใจ รู้สึกท่วมท้นเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่งก็ตอบว่า ‘อื้อ’ กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก “เช่นนั้นท่านลุงเวิง ลาก่อนขอรับ”
ขณะกล่าว เขาก็เอนศีรษะไปด้านหลังและปิดม่าน วางหัวไว้บนหมอนที่ท่านแม่ของตนเตรียมไว้ให้ จ้องมองกล่องด้วยดวงตาแผดเผา
แต่เขาไม่อยากจะเปิดมัน ผ่านไปครู่หนึ่งก็วางไว้ข้างกายและไม่สนใจมันอีก
ทว่าหลังจากนั้น จู่ๆ ก็มีคนยกมุมผ้าม่านขึ้น จากนั้นก็มีกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสถูกโยนตามเข้ามา
หนานหนานอึ้งงัน ยังไม่ทันได้ตอบสนอง ก็ได้ยินเสียงเวิงยวนดังเข้ามา “นี่คือของที่ข้าให้เจ้า กลับไปก็เปิดดูเสีย ข้ายังมีธุระ ไม่ส่งพวกเจ้าออกจากเมืองแล้ว เดี๋ยวเราก็จะได้เจอกันอีก”
ทันทีที่สิ้นเสียง ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดอีก
หนานหนานลุกขึ้นถือกล่องสี่เหลี่ยมไว้ในมือ รีบเปิดม่านเพื่อมองออกไปข้างนอก แต่ด้านนอกกลับไม่มีวี่แววของเวิงยวนแล้ว
เย่ซิวตู๋เห็นว่าพูดคุยกันพอแล้ว จากนั้นก็โบกมือ เอ่ยเสียงดัง “ไปได้”
เขานั่งตัวตรงอยู่บนหลังม้าตัวใหญ่ ท่าทางน่ายำเกรงและเย็นชา ดูสง่างามเป็นพิเศษ
รถม้าสองคันทั้งด้านหน้าและด้านหลังเริ่มขยับ มีม้าเจ็ดแปดตัวล้อมรอบ ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปยังประตูเมือง
ผู้อาวุโสสกุลเยว่และผู้อาวุโสสกุลเซี่ยงเองก็ตามมาทางด้านหลัง ส่งพวกเขาออกจากเมือง
จนกระทั่งพวกเขาทั้งขบวนจากไปไกล พวกเขาก็ค่อยๆ ถอนหายใจออกมา
“พวกเขาจากไปเช่นนี้ ก็ดูเหมือนว่าดินแดนเหมิงรู้สึกเหน็บหนาวขึ้นมามากทีเดียว”
“นั่นสิ ถึงแม้จะอยู่ด้วยกันไม่นาน แต่ครอบครัวนี้มีวิธีการทำสิ่งต่างๆ ให้คนชอบอย่างมาก จริงสิ… ท่านประมุข ไม่ส่งคนไปอาณาจักรเฟิงชางหรือ เหมิงจื้อเฉิงก่อกบฏ คนผู้นั้นที่อาณาจักรเฟิงชาง… ก็ไม่พ้นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องไม่ใช่หรือ?”
“อย่างไรนางก็เป็นแม่ของซิวตู๋ หากเราเข้าไปแทรกแซงคงไม่ดีเท่าไร เรื่องนี้ยกให้พวกเขาจัดการเถิด ซิวตู๋ย่อมมีแผนอยู่แล้ว”
“อ๋า… จริงๆ ตอนนี้ผู้อาวุโสสกุลหมิงหมดสติไปก็ดีแล้ว หากฟื้นขึ้นมาพบว่าลูกชายลูกสาวของตนล้วน… ช่างเถิดๆ ไม่พูดแล้ว กลับกันดีกว่า”
ทั้งสองคนส่ายหน้าและคุยกันอีกสองสามคำ มองเงาของพวกเย่ซิวตู๋หายลับไปจากสายตา ก็ขี่ม้ากลับไปที่ประตูเมือง
รถม้าไม่ได้วิ่งเร็วนัก อวี้ชิงลั่วและหนานหนานอยู่กันตามลำพัง ส่วนแม่นมเซียว เยว่ซิน และคนอื่นๆ นั่งอยู่ในรถม้าด้านหลัง
หนานหนานอยากรู้เรื่องกล่องที่เวิงยวนให้เขามาก แต่คิดได้ว่าเขาบอกให้กลับไปก่อนค่อยเปิด ก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย
“อันนี้เปิดไม่ได้ เช่นนั้นก็เปิดอันนี้สิ” อวี้ชิงลั่วยื่นมือยื่นกล่องหนังสือกล่องนั้นให้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
สิ่งที่เหมิงลู่มอบให้เขา… ก็ไม่รู้ว่าเป็นหนังสืออะไร เหตุใดนางจึงรู้สึกเหมือนเปลือกตากระตุกเช่นนี้
หนานหนานมีของขวัญที่เวิงยวนมอบให้ ก็ไม่สนใจกล่องของขวัญกล่องนั้นของเหมิงลู่อีกต่อไป
ตอนนี้ได้ยินอวี้ชิงลั่วกล่าวเช่นนั้น ก็ขยับเข้ามาใกล้อย่างกระตือรือร้น ทั้งร่างเบียดเข้ากับตัวท่านแม่ ศีรษะน้อยๆ ชะโงกดู “ท่านแม่ ท่านเปิดดูหน่อยสิขอรับ”
อวี้ชิงลั่วเม้มปาก ยื่นมือดันศีรษะของเขาออกไป จริงๆ เลย ผมเข้าปากนางหมดแล้ว
หลังจากผลักหนานหนานออกไปหน่อยแล้ว นางก็นำกล่องนั้นเปิดออก
ที่เห็นนั้นเป็นหนังสือเล่มหนึ่งจริงๆ ทั้งยังเป็นหนังสือ…ศิลปะการต่อสู้
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุกอย่างแรง ไม่สนใจแม้แต่น้อย โยนหนังสือทิ้งไปที่มุมรถม้าทันที
“ข้าว่าแล้วเชียว ว่าต้องไม่ใช่ของดีอันใด”
หนานหนานกะพริบตา คลานไปหยิบหนังสือมาเปิดดูแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนท่านปู่ลู่จะเขียนหนังสือศิลปะการต่อสู้ด้วยตนเองนะขอรับ อืม ท่านี้ข้าเคยเรียน ด้านหลังยังมีอีกไม่น้อยเลย อืมๆ กลับไปข้าจะดูให้ละเอียด อืมๆ หนังสือเล่มนี้ไม่หนา ข้าคงเรียนได้อย่างรวดเร็ว อืมๆ ถึงตอนนั้นข้าจะเป็นยอดฝีมือการต่อสู้ที่ไร้คู่ต่อกรให้ได้”
“เจ้าท้องผูกหรือ อืมๆ อะไรกัน” อวี้ชิงลั่วมองเขาอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก ไม่สนใจหนังสือเล่มนั้นเลยสักนิด
นางบอกแล้วอย่างไร เหมิงลู่จะให้ของดีอะไรได้อีก ให้หนังสือมาเล่มหนึ่ง ก็ไม่มีทางเป็นหนังสือทั้งสี่และคัมภีร์ทั้งห้าไปได้
ที่แท้สุดท้ายแล้วก็เพราะชอบใจในพรสวรรค์หนานหนาน ทำใจปล่อยไปไม่ได้
อวี้ชิงลั่วส่งเสียงฮึดฮัด ใบหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก เห็นหนานหนานยังหดตัวอยู่ที่มุมรถอ่านอย่างสนอกสนใจก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตา ขี้เกียจจะสนใจเขา
จึงหันหลังแล้วเปิดม่านมองทิวทัศน์ด้านนอก
แต่เมื่อเห็นแล้ว จู่ๆ นางก็ชะงักไป รูม่านตาหดลงในทันที
“เย่ซิวตู๋ เราจะไปที่ไหนกัน?”
เส้นทางนี้… ดูเหมือนจะผิดทางนะ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ใครมีแผนอะไรหรือเปล่านะ หรือว่าจะโดนดักโจมตีเลยต้องไปทางอื่น?
ไหหม่า(海馬)