อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 890 ใครกันแน่ที่ตามฆ่าเจ้า
ตอนที่ 890 ใครกันแน่ที่ตามฆ่าเจ้า
ตอนที่ 890 ใครกันแน่ที่ตามฆ่าเจ้า
เย่ซิวตู๋เม้มปาก โม่เสียนเก็บความประหลาดใจไว้ทันที หันหลังไปหาเสิ่นอิง
เมื่อกลับมาอีกครั้ง ในมือก็มีชุดสะอาดเพิ่มขึ้นมาชุดหนึ่ง ซึ่งเป็นชุดของเขาเอง
เขาตัวสูงกว่าเจียงอวิ๋นเซิงเล็กน้อย เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อีกฝ่ายก็ใส่ได้พอดี
“รอยเลือดที่สวนด้านหลังถูกทำความสะอาดแล้วขอรับ ดูจากร่องรอยแล้ว หมอเจียงน่าจะเข้ามาจากกำแพงทางด้านหลัง ด้านนอกมีรถม้าจอดอยู่คันหนึ่ง ข้าน้อยไปตรวจสอบแล้ว นั่นเป็นรถม้าของพ่อค้าที่ชั้นหนึ่งของโรงเตี๊ยม ท่านหมอเจียงน่าจะแอบมากับรถม้าที่บรรทุกสินค้าขอรับ”
เย่ซิวตู๋พยักหน้า “จัดการรถม้าคันนั้นอย่างไร”
“เสิ่นอิงและเผิงอิงเปลี่ยนสิ่งของที่เปื้อนเลือดทั้งหมดแล้วขอรับ”
เย่ซิวตู๋ตอบรับว่า ‘อืม’ จากนั้นก็ไม่ได้กล่าวอันใดอีก
โม่เสียนพาแม่นมเซียวและเยว่ซินออกไป ในห้องเหลือเพียงอวี้ชิงลั่ว เย่ซิวตู๋ และหนานหนานเพียงสามคน
มองไปยังคนที่นอนอยู่บนเตียงยาว อวี้ชิงลั่วก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและงงงวยขึ้นมา “เจียงอวิ๋นเซิงมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร เขาเป็นหมอธรรมดาอยู่ที่ร้านยาในเมืองหลวงไม่ใช่หรือ อยู่ดีๆ อยู่แล้ว เหตุใดจึงมีปัญหาถูกไล่ฆ่าได้เล่า”
“ก็ไม่ถือว่าธรรมดา เมื่อก่อนอาจารย์ของเขาเป็นหัวหน้าแพทย์ที่ไท่อีเยวี่ยน ทั้งยังถูกฆ่า” เย่ซิวตู๋กล่าวเสียงเบา
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ นั่นสิ อาจารย์ของเขาถูกฆ่า พวกเขาล้วนรู้ว่าอาจารย์เขากำความลับบางอย่างไว้
แต่เจียงอวิ๋นเซิงพาพวกเขาไปที่เก็บของของอาจารย์เขาตอนมีชีวิตอยู่ พวกเขาล้วนตามหาเบาะแสมาโดยตลอด แต่กลับไม่พบสิ่งใดเลย
ดูท่าทาง เจียงอวิ๋นเซิงก็คงถูกจับตามองเพราะเรื่องนี้ อีกทั้ง…
อวี้ชิงลั่วเงยหน้าสบตาเย่ซิวตู๋ ใบหน้าของทั้งคู่มีร่องรอยของความจริงจังฉายอยู่
“จริงๆ แล้วมีเรื่องราวอันใดเกิดขึ้น ต้องรอให้เขาฟื้นก่อนจึงจะรู้ได้” เย่ซิวตู๋กล่าว “เจ้าเหนื่อยแล้ว ไปพักผ่อนที่ห้องข้างๆ เถิด”
อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า เรื่องวุ่นวายเพียงนี้ นางจึงตื่นเต็มตาแล้ว ไม่รู้สึกง่วงงุนเลยแม้แต่น้อย
ดูจากอาการของเจียงอวิ๋นเซิงแล้ว พวกเขาก็คงต้องอยู่ที่นี่อีกหนึ่งวัน
อวี้ชิงลั่วลูบท้อง “ไปกันเถิด ไปกินข้าว ข้าหิวแล้ว”
หนานหนานตามมาทันที “เดี๋ยวๆ เดี๋ยวๆ ข้าก็หิวมากแล้ว” เขาต่างหากที่เป็นคนเหนื่อยที่สุด
หมอเจียงเป็นคนตัวใหญ่เพียงนั้น เขาที่ตัวเล็กนิดเดียวต้องพยุงคนตั้งแต่สวนด้านหลังมาจนถึงชั้นสอง ทั้งยังต้องคอยเคลื่อนไหวอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ให้คนเห็นอีก
เหนื่อยทั้งใจและกายเช่นนี้ บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลยรู้หรือไม่
เย่ซิวตู๋อุ้มเขาขึ้นมา จากนั้นก็ออกจากห้องไปพร้อมอวี้ชิงลั่ว
ให้พนักงานนำอาหารเย็นมาส่งที่ห้อง เย่ซิวตู๋กำชับโม่เสียนและเยว่ซิน “คืนนี้พวกเจ้าสองคนคอยเฝ้าเขาไว้ ตั้งใจให้มากหน่อย”
“ขอรับ” โม่เสียนเข้าใจอยู่ ท่านหมอเจียงผู้นี้พบปัญหาใหญ่เข้าให้แล้ว
อีกทั้งปัญหาใหญ่นี้ เป็นไปได้มากว่าจะมาหาถึงที่เมื่อไรก็ได้
โชคดีที่เขาอยู่เฝ้าทั้งคืนอย่างปลอดภัยไร้อันตราย
มีเยว่ซินคอยดูแล อาการของเจียงอวิ๋นเซิงก็ถือว่าคงที่แล้ว ไม่ได้ตัวร้อนหรือมีไข้อะไร
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่ออวี้ชิงลั่วมาถึง สีหน้าของเจียงอวิ๋นเซิงก็ดีขึ้นเล็กน้อย
เพียงแต่อาการเขายังไม่เหมาะที่จะเคลื่อนไหวนัก เพียงขยับก็มีเลือดไหลอย่างต่อเนื่อง บาดแผลก็จะเปิดอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นหากว่าตามความคิดของเย่ซิวตู๋แล้ว ก็ควรไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุดจะดีกว่า
อวี้ชิงลั่วเม้มปาก ตรวจดูอาการของเจียงอวิ๋นเซิง
ยังดีที่หลังจากผ่านไปหนึ่งคืน บาดแผลที่นางเย็บก็ดูดีขึ้น หากผ่านไปอีกวัน เวลาขยับระวังตัวหน่อยก็ไม่มีปัญหาแล้ว
เยว่ซินไม่ได้นอนทั้งคืน อวี้ชิงลั่วจึงไล่นางให้ไปพักผ่อน แม่นมเซียวยืนอยู่ข้างๆ ถอนหายใจเบาๆ “คุณหนู เราออกเดินทางไป จะต้องพาหมอเจียงไปด้วยหรือไม่เจ้าคะ”
“น่าจะเป็นเช่นนั้น” ต้องดูตอนที่เขาฟื้นเสียก่อนค่อยว่ากัน หากอาการเป็นอย่างที่นางและเย่ซิวตู๋คิด เช่นนั้นจะไม่ช่วยเขาก็คงไม่ได้
แต่นางคิดว่าหากไม่ใช่ก็ใกล้เคียง คงต้องพาเขาไปด้วย
แม่นมเซียวขมวดคิ้ว พาคนเจ็บไปด้วย เกรงว่าจะทำให้เสียเวลาไปไม่น้อย
ทั้งสองคนกำลังคุยกัน ทันใดนั้นเจียงอวิ๋นเซิงที่อยู่บนตั่งยาวก็ขมวดคิ้ว
อวี้ชิงลั่วตกใจ รีบยกมือขึ้นหยุดไม่ให้แม่นมเซียวพูด เลื่อนเข้าไปนั่งใกล้ๆ เจียงอวิ๋นเซิง
“หมอเจียง หมอเจียง”
เจียงอวิ๋นเซิงร้องครางด้วยความเจ็บ มุ่นคิ้วแน่นขึ้นมา ส่งเสียงคร่ำครวญเหมือนว่าจะเจ็บเล็กน้อย
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็หันหน้ามาเล็กน้อยแล้วค่อยๆ ลืมตา
เย่ซิวตู๋เข้ามาก็เห็นเขามองขึ้นด้านบนอย่างงุนงงพอดี แววตาเป็นประกาย เดินมาข้างกายอวี้ชิงลั่วแล้วถาม “ฟื้นแล้วหรือ?”
น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำมีพลัง ดังเข้าไปในหูของเจียงอวิ๋นเซิง
เขาหันหน้ามาเสียงดังกรอบแกรบ เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างเตียง สีหน้าก็ดูตื่นเต้นขึ้นมาทันใด “ท่านอ๋องซิว แม่นางอวี้ ข้า… โอ๊ย…”
เจียงอวิ๋นเซิงคิดจะลุกขึ้นนั่ง แต่เพียงเขาขยับก็ทำให้บาดแผลฉีก เจ็บเสียจนต้องนอนกลับลงไปอีกครั้ง
อวี้ชิงลั่วรีบห้ามเขา “โธ่ หมอเจียง เจ้าอย่าขยับสิ เจ้าบาดเจ็บหนักทั้งยังเสียเลือดมาก อย่าทำให้อาการแย่กว่าเดิมสิ”
“อืม…” เจียงอวิ๋นเซิงหายใจออกยาวๆ ช้าๆ จากนั้นก็คลี่ยิ้มมุมปาก มองอวี้ชิงลั่วและเย่ซิวตู๋ด้วยใบหน้าซีดเผือด
ท่าทางของเขาดูวางใจขึ้นแล้ว แววตาขยับเล็กน้อย เหมือนจะมีประกายของน้ำตาอยู่
“ท่านอ๋องซิว แม่นางอวี้ ข้าคิดไม่ถึงเลย… ว่าจะพบพวกท่าน หากไม่มีพวกท่าน เกรงว่าข้า… คงจะช่วยตัวเองไม่ไหวและจากไปเสียแล้ว” เจียงอวิ๋นเซิงเป็นหมอ เขารู้อาการบาดเจ็บของตนดี
เขาเองก็ไม่ใช่ว่าไม่มีความสามารถในการรักษาตัวเอง เพียงแต่เขาหนีมาโดยตลอด ไม่มีเวลา และไม่มีปัจจัยรักษา
เขาไม่มีแม้แต่เวลาจะพัก ทั้งวันล้วนต้องตัวสั่นด้วยความกลัว แววตาคอยระแวดระวังตลอด
ดังนั้น ก่อนหน้าตอนที่หนานหนานปรากฏตัวตรงหน้าตน เขายังนึกว่าตนเองมองผิดไปหรือจำคนผิด หากไม่ใช่หนานหนานส่งเสียง ‘เอ๊ะ’ ออกมา เกรงว่าเขาคงสิ้นหวังไปแล้ว
โชคดีที่ตอนนี้มีคนช่วยแล้ว เขาไม่เคยรู้สึกขอบคุณสวรรค์เท่านี้มาก่อน
อวี้ชิงลั่วขอให้แม่นมเซียวนำชามยามาให้ “ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเจ้ายังคงสาหัสอยู่ ถึงข้าจะเย็บให้แล้ว แต่ก็ไม่ควรตื่นเต้นเกินไป เจ้าดื่มยาเสียก่อน จากนั้นค่อยบอกพวกเราว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่”
เจียงอวิ๋นเซิงมองเย่ซิวตู๋ อีกฝ่ายพยักหน้า จากนั้นเขาก็ตอบ ‘อืม’ ออกมา หยิบช้อนที่แม่นมเซียวยื่นให้ออก แล้วค่อยดื่มยาสีดำนั้นหมดในคราวเดียว
ไม่รู้ว่าหนานหนานเดินเข้ามาตั้งแต่ตอนไหน พิงขอบเตียงแล้วเอียงคอมองเขา
เขารู้สึกว่าเจียงอวิ๋นเซิงช่างเด็ดเดี่ยวจริงๆ ยานั้นเพียงมองก็รู้แล้วว่าขมมาก เขาดื่มเสร็จแล้วยังไม่กินแม้แต่ของเชื่อม ทั้งยังสามารถหัวเราะออกมาได้อีก
เจียงอวิ๋นเซิงมองหนานหนาน หัวเราะ “หนานหนาน ขอบใจมาก”
หนานหนานถูกเขามองแล้วรู้สึกเขินอายอย่างมาก เกาศีรษะอย่างเขินๆ “ไม่ต้องๆ การช่วยเหลือผู้อื่นคือจุดแข็งของข้า”
อวี้ชิงลั่วชำเลืองมองเขาอย่างเหยียดหยาม จากนั้นก็ถามเจียงอวิ๋นเซิง “เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดเจ้าจึงมาปรากฏตัวที่นี่ ใครกันแน่ที่ตามฆ่าเจ้า”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หมอเจียงอึดมาก พยายามเอาชีวิตรอดไปด้วยรักษาตัวเองไปด้วยอย่างถึงที่สุด
มือสังหารนี่เกี่ยวข้องกับเหมิงกุ้ยเฟยหรือเปล่านะ
ไหหม่า(海馬)