อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 891 สาเหตุที่องค์รัชทายาทถูกปลด
ตอนที่ 891 สาเหตุที่องค์รัชทายาทถูกปลด
ตอนที่ 891 สาเหตุที่องค์รัชทายาทถูกปลด
สีหน้าของเจียงอวิ๋นเซิงจริงจังขึ้นมาก กลืนเอารสขมในปากลงไป ค่อยๆ กล่าว “ท่านอ๋อง ทราบเรื่องที่องค์รัชทายาทถูกปลดหรือไม่ขอรับ?”
“อืม” เย่ซิวตู๋พยักหน้า “ข้าได้รับข่าวแล้ว”
เจียงอวิ๋นเซิงเม้มปากเงียบไปครู่หนึ่ง “องค์รัชทายาทถูกปลด ทั้งแผ่นดินตกตะลึง ฝ่าบาทมีรับสั่งว่าองค์รัชทายาทไร้ศีลธรรม ไร้ความสามารถ ไม่ฟังคำสั่ง ตอนนี้เกินจะเยียวยา ยากที่จะสืบทอดความยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษ นับโทษขององค์รัชทายาทได้มากกว่าสิบอย่าง ตอนนี้ถูกคุมขังอยู่ที่จิ่นเฉิงย่วน มีองค์ชายสี่คอยคุม แต่ทว่า…”
เขาเงยหน้า มองเย่ซิวตู๋ที่กำลังเงียบ จากนั้นก็กล่าวช้าๆ “แต่ในประกาศไม่ได้กล่าวว่าเหตุใดองค์รัชทายาทจึงถูกปลด มีเพียงคนในไม่กี่คนที่รู้เรื่อง สาเหตุของทั้งหมดนี้ ต้นตอมาจากองค์ชายรัชทายาทลอบสังหารองค์ชายสิบสองขอรับ”
องค์ชายสิบสองหรือ?
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว ในความทรงจำของนาง คนที่เด็กที่สุดเหมือนจะเป็นองค์ชายสิบเอ็ด ซึ่งก็คือเย่ฮ่าวถี บุตรชายของเซียวเฟย ตอนนี้อายุยังน้อยอยู่
เย่ซิวตู๋เห็นสีหน้าของนางมีแต่ความสงสัย ก็อธิบายเสียงเบา “น่าจะเป็นเด็กที่โหวผินตั้งท้องอยู่ ตอนแรกที่ข้าจากอาณาจักรเฟิงชางมา ก็น่าจะครบกำหนดเวลาแล้ว”
เจียงอวิ๋นเซิงพยักหน้า “ใช่แล้วขอรับ เป็นเด็กที่อยู่ในครรภ์ของโหวผิน ตอนนั้นที่ท่านอ๋องจากอาณาจักรเฟิงชางมา ยังเหลือเวลากว่าครึ่งเดือนกว่าองค์ชายสิบสองจะประสูติ”
อวี้ชิงลั่วเข้าใจในทันที ดูเหมือนนางจะพอจำได้รางๆ เหมือนจะเคยพบหญิงท้องโตคนหนึ่งในวังหลวง
ที่แท้นางก็เป็นคนให้กำเนิดองค์ชายสิบสองนี่เอง
“ตอนที่องค์ชายสิบสองประสูติ ก็มีพระอาวุโสท่านหนึ่งดูชะตาให้ บอกว่าเขาเป็นดาวนำโชคของฝ่าบาท นำโชคดีมาให้ฝ่าบาทขอรับ” เจียงอวิ๋นเซิงถอนหายใจ “ที่บังเอิญก็คือ สองวันหลังจากองค์ชายสิบสองประสูติ จู่ๆ ภัยแล้งทางเหนือก็คลี่คลายลง มีฝนตกถึงสองวันสองคืนติดต่อกัน ทำให้ปัญหาที่ฝ่าบาททรงปวดหัวอยู่ได้รับการแก้ไข หลังจากองค์ชายสิบสองประสูติได้ห้าวัน รัฐเล็กๆ ทางตอนใต้ก็ได้เข้าเมืองหลวงมาเพื่อแสดงความยินดี และยอมอยู่ใต้การนำของอาณาจักรเฟิงชาง กลายเป็นอาณาจักรอาณานิคมของอาณาจักรเฟิงชาง สิบวันหลังจากองค์ชายสิบสองประสูติ ฝ่าบาททรงออกไปล่าสัตว์ ล่าได้เสือขาวหายากมาหนึ่งตัว”
อวี้ชิงลั่วมุมปากกระตุก ช่างเป็น… ดาวนำโชคจริงๆ
หนานหนานอ้าปากกว้าง รู้สึกเหมือนว่าสุดยอดมากจริงๆ
“ท่านพ่อ ตอนที่ท่านเพิ่งเกิด มีเรื่องเช่นนี้หรือไม่ขอรับ” เขาครุ่นคิด จากนั้นก็ส่ายหน้า “ไม่สิ ท่านแม่ ตอนที่ข้าเกิด บนฟ้ามีรุ้งหรือไม่”
“เหอะๆ ไม่มีรุ้งหรอก แต่มีลูกไฟนะ เป็นลูกไฟตกจากฟ้าน่ะ” อวี้ชิงลั่วมองเขาแวบหนึ่ง กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก
หากคำนวณอย่างจริงจังแล้ว แสดงว่าการที่หนานหนานเกิดมาก็คือหายนะร้ายแรงไม่ใช่หรือ มีอะไรเช่นนี้ที่ไหนกัน
หนานหนานครุ่นคิด รู้สึกว่าอย่างไรเสียก็ต่างจากคนทั่วไป เขาถูกกำหนดให้มีชื่อเสียงน่ะสิ
เย่ซิวตู๋มองสองแม่ลูกอย่างจนปัญญา สองมือกอดอก ขมวดคิ้วครุ่นคิด
ผ่านไปครู่ใหญ่จึงกล่าวเบาๆ “เสด็จพ่อน่าจะรักใคร่น้องสิบสองมาก”
ตั้งแต่สมัยโบราณมา ฮ่องเต้จะเชื่อในเรื่องโชคชะตาประเภทนี้มากกว่าคนทั่วไป อีกทั้งองค์ชายสิบสองยังโชคดีเพียงนี้ หลังจากประสูติมาก็มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เจียงอวิ๋นเซิงพยักหน้า “ขอรับ ฝ่าบาทรักใคร่เอ็นดูองค์ชายสิบสองเป็นอย่างมาก พระราชทานตำแหน่งเต๋อเฟยให้โหวผินโดยตรง ทรงโปรดปรานนางยิ่งกว่าเดิม “
“เช่นนั้นบอกมาสิ เรื่ององค์รัชทายาทลอบสังหารองค์ชายสิบสองมันเกิดขึ้นได้อย่างไร องค์ชายสิบสอง… ตายแล้วหรือ” อวี้ชิงลั่วถาม
เจียงอวิ๋นเซิงยิ้มขื่น “ขอรับ สิ้นพระชนม์แล้ว อีกทั้งองค์รัชทายาทที่ลอบสังหารองค์ชายสิบสองยังถูกจับได้คาหนังคาเขา ในตอนที่องค์ชายสิบสองสิ้นพระชนม์ ทางฝั่งตะวันตกของวังหลวงก็เกิดเพลิงไหม้ เป็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่ หากไม่ใช่เพราะดับไฟได้ทันเวลา วังหลวงจะต้องเสียหายอย่างหนัก ฝ่าบาททรงกริ้วมาก รับสั่งให้คนไปนำตัวองค์รัชทายาทมาทันที ภายในวันนั้นวันเดียว องค์รัชทายาทก็ถูกปลดขอรับ”
อวี้ชิงลั่วตะลึง ในโลกนี้มีเรื่องบังเอิญเช่นนี้จริงๆ หรือ
เพียงแต่ว่า… เด็กเพียงคนเดียวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นานต้องตายไปเช่นนี้ นางก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
สถานที่ในวังหลวง เดิมทีก็มีแต่คนอำมหิตและโลภมากอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นองค์ชาย และเป็นองค์ชายที่ฮ่องเต้โปรดปรานอย่างมากอีกด้วย เห็นว่าเย่ซิวตู๋รู้แล้ว ก็จะกลายเป็นเป้าหมายของทุกคน
เย่ซิวตู๋แค่นหัวเราะออกมา “ไฟนั่น เกรงว่าจะมีคนจงใจวางเพลิงกระมัง” เพื่อจะได้ส่งเสริมคำกล่าวที่ว่าองค์ชายสิบสองเป็นดาวนำโชคก็เท่านั้น
“เช่นนั้นเป็นองค์รัชทายาทที่ลอบสังหารองค์ชายสิบสองจริงๆ หรือ” อวี้ชิงลั่วรู้สึกว่าถึงแม้องค์รัชทายาทจะโง่ไปหน่อย แต่ก็คงไม่โง่จนกลายเป็นเช่นนี้ไปได้
เจียงอวิ๋นเซิงพยักหน้า “คนที่ลงมือนั้นเป็นองค์รัชทายาทจริงๆ ขอรับ แต่ทว่า… องค์รัชทายาทน่าจะถูกคนที่คิดร้ายยุยงปลุกปั่น ไม่อย่างนั้นต่อให้องค์รัชทายาทจะไร้แผนการเพียงใด ก็คงไม่มีทางถูกคนจับได้คาหนังคาเขาเช่นนี้”
“หลังจากองค์รัชทายาทถูกปลด ฮ่องเต้ก็ทรงพิโรธไม่หาย ทรงจับคนสนิทใกล้ชิดและผู้อารักขาองค์รัชทายาททั้งหมดไปขัง ตัดหัว แม้แต่ขุนนางที่เป็นมิตรกับองค์รัชทายาทก็ถูกจับ กระทั่งฮองเฮาก็เกรงว่าจะลำบากไปด้วยขอรับ” เจียงอวิ๋นเซิงนึกถึงช่วงเวลานองเลือดจากเหตุการณ์นี้ ก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
หนานหนานได้ยินก็กระวนกระวายขึ้นมา “เช่นนั้นเสี่ยวเฉิงเฉิงเล่า เสี่ยวเฉิงเฉิงเป็นอะไรหรือไม่ เขาถูกดึงไปเกี่ยวข้องหรือไม่?”
เสี่ยวเฉิงเฉิงหรือ เจียงอวิ๋นเซิงมองเขาอย่างแปลกใจ
อวี้ชิงลั่วอธิบายเสริม “เย่หลานเฉิง เฉิงซื่อจื่อน่ะ”
“ซื่อจื่อรวมถึงไท่จื่อเฟยล้วนถูกจับขังที่จิ่นเฉิงย่วนด้วยกันขอรับ เพียงแต่เทียบกับองค์รัชทายาทแล้ว เฉิงซื่อจื่อจะเป็นอิสระมากกว่า”
หนานหนานถอนหายใจโล่งอก ไม่ถูกทำร้ายก็ดีแล้ว
เขาคิดไปถึงเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดแล้ว เช่นว่าเสี่ยวเฉิงเฉิงถูกโบย ถูกทรมาน ถูกเนรเทศออกจากวังไปเป็นขอทาน ทั้งยังถูกคนตามฆ่า เขาคิดถึงเรื่องเหล่านี้ แม้แต่จะนอนก็คงเก็บไปฝัน
เย่ซิวตู๋ยื่นมือไปลูบศีรษะเขา ในหัวของบุตรชายกำลังคิดอันใดอยู่ เขาย่อมรู้ดี
แต่ทว่าเขาเองก็เข้าใจเสด็จพ่อ ถึงแม้ฮ่องเต้จะคุมขังองค์รัชทายาทที่ถูกปลด แต่ก็ไม่ได้จะจัดการเขาจริงๆ อย่างไรเบื้องหลังเย่หลานเฉิงก็ยังมีไทเฮาอยู่
“แล้วเหตุใดเจ้าจึงปรากฏตัวที่นี่ได้ เรื่องที่องค์ชายสิบสองถูกฆ่า เกี่ยวข้องอันใดกับเจ้าหรือ?”
เจียงอวิ๋นเซิงยิ้มขื่นอีกครั้ง “ไม่เกี่ยวขอรับ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเหตุใด จู่ๆ ก็มีข่าวออกไปว่ายาพิษที่องค์รัชทายาทใช้วางยาองค์ชายสิบสอง เป็นฝีมือข้าที่นำมาให้”
“ว่าอย่างไรนะ?” อวี้ชิงลั่วสงสัย
“ข้าเป็นเพียงหมอธรรมดา เป็นเพราะท่านอาจารย์ของข้า เดิมทีก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ของราชวงศ์อยู่แล้ว ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาจึงไม่ได้เข้าไปร่วมกับไท่อีเยวี่ยนเลย ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ จะไปเอาสิ่งของเช่นนั้นให้องค์รัชทายาทได้อย่างไร?”
เย่ซิวตู๋กล่าว “ดูท่า คงเป็นเพราะอาจารย์ของเจ้า เจ้าจึงถูกจับตามอง มีคนต้องการลากเจ้าลงไปด้วย เพื่อให้ได้บางอย่างจากเจ้า”
อีกทั้งยังเป็นไปได้สูงว่าคนคนนั้นจะเป็นเหมิงกุ้ยเฟย ในตอนนั้นที่หัวหน้าของไท่อีเยวี่ยนต้องตายอย่างไม่คาดคิด เขาก็รู้ว่าเหมิงกุ้ยเฟยต้องการบางสิ่งจากเขา น่าเสียดายที่ตลอดมานั้นยังหาไม่พบ ตอนนี้ยังคิดจะลงมือกับเจียงอวิ๋นเซิงอีกหรือ?
เย่ซิวตู๋อดไม่ได้ที่จะหรี่ตา
“ข้ารู้สึกได้ว่าเรื่องนี้ผิดปกติ จึงได้หนีออกมา ข้ารู้ว่ามีคนคิดจะใส่ร้ายข้า ถึงแม้ข้าจะร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม ก็เกรงว่าคงจะส่งไปไม่ถึงฝ่าบาท ข้าทำได้เพียงหนีออกมาแล้วค่อยหาวิธีทีหลัง คิดไม่ถึงว่าจะได้พบท่านอ๋องซิว…”
เขากำลังกล่าว จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูเบาๆ “นายท่าน ด้านนอกมีทหารขอรับ”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เหตุการณ์ในวังเริ่มร้ายแรงขึ้นแล้วสินะ เหมิงกุ้ยเฟยคงคิดจะรีบกำจัดองค์ชายคนอื่นๆ ทีละคนแล้ว
ไหหม่า(海馬)