อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 900 ขุดหลุม
ตอนที่ 900 ขุดหลุม
ตอนที่ 900 ขุดหลุม
หลังจากอวี้ชิงลั่วติดตามอาการของเจียงอวิ๋นเซิงเสร็จจนกลับมา ก็เอียงคอมองข้อความที่เขาเขียน
เย่ซิวตู๋เขียนคำสุดท้ายเสร็จแล้ว จากนั้นจึงเป่าให้แห้งแล้วพับกระดาษ
อวี้ชิงลั่วเหมือนจะเห็นบางคำรางๆ อย่างเช่นทำแผนให้สำเร็จ อย่างเช่นหายไป และตัดสินใจอะไรสักอย่าง
นางมองเย่ซิวตู๋อย่างแปลกใจ “ท่านเขียนจดหมายหาใคร เขียนว่าอะไรหรือ?”
“ไม่มีอะไร เพียงแค่สั่งการเล็กน้อยเท่านั้น” เย่ซิวตู๋กลับไม่ได้กล่าวอันใดมากมาย เพียงแต่ยิ้มแล้วเดินอ้อมนางไปเท่านั้น จากนั้นก็เปลี่ยนประเด็น “บาดแผลของแม่นมเซียวไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร” อวี้ชิงลั่วหรี่ตา รู้สึกว่าเขาดูลึกลับ มีใจอยากจะถาม แต่เห็นสีหน้าของเขาที่บ่งบอกว่า ‘ขอร้องข้าสิ แล้วข้าจะบอก’ ก็ส่งเสียงฮึดฮัด หันหน้าไปหาหนานหนาน
หนานหนานกำลังพยุงแม่นมเซียวให้นั่งบนตั่งยาวอย่างระมัดระวัง ปากก็บ่นอยู่ตลอด “แม่นม ท่านทำเช่นนี้ถือว่าไม่สนใจร่างกายของตนเอาเสียเลย เลือดไหลออกเยอะเพียงนี้ จะบำรุงกลับมาช่างยากนัก ต่อไปท่านอย่าทำอะไรโง่ๆ อีกนะ ทุกอย่างคุยกันได้ไม่ใช่หรือ?”
อวี้ชิงลั่วอดหัวเราะไม่ได้ เห็นๆ อยู่ว่าเป็นเด็กคนหนึ่ง แต่กลับทำตัวเหมือนผู้ใหญ่
แม่นมเซียวเองก็สีหน้าอึมครึมไปเช่นกัน แต่เมื่อเห็นใบหน้าเล็กๆ ของเขาพองเป็นลูกกลมๆ สายตายังปรากฏความกังวลให้เห็น ในใจก็อ่อนลง พยักหน้าตอบ “แม่นมเข้าใจแล้ว ต่อไปจะจำไว้เจ้าค่ะ”
เจียงอวิ๋นเซิงทางด้านนั้นหมดแรงไปแล้ว ไม่นานนักก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง
อวี้ชิงลั่วเม้มปากคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหน้าไปกล่าวกับเย่ซิวตู๋ “ดูท่าจะต้องพักอีกสองวันก่อนจะเดินทางต่อ ถึงรถม้าของเราจะรองรับแรงกระแทกได้ แต่อาการบาดเจ็บของท่านหมอเจียงยังไม่เหมาะจะเดินทาง”
เย่ซิวตู๋พยักหน้า “ก็ดี เช่นนั้นก็อยู่อีกสองสามวัน รอเขาดีขึ้นก่อนค่อยว่ากัน”
อวี้ชิงลั่วกังวล “อวี๋จั้วหลินผู้นั้น…” เป็นปัญหา
“ไม่ต้องสนใจเขา หากเขากล้าบุกเข้ามา ก็ตัดหัวเสีย”
อวี้ชิงลั่วกระตุกมุมปาก ช่างโหดร้ายกระหายเลือดจริงๆ ทว่านางเองก็คิดเช่นนั้น
ยามใดที่พวกเขาไม่สนอวี๋จั้วหลิน อวี๋จั้วหลินมักจะมาแสดงตัวตนเสมอ
เมื่อถึงยามดึกคืนนั้น อวี้ชิงลั่วก็ได้ยินว่าอวี๋จั้วหลินเองก็มาพักที่โรงเตี๊ยมนี้ และพักอยู่ตรงชั้นล่าง ฝั่งตรงข้ามกับพวกเขา
ส่วนแขกที่พักมาก่อนนั้นก็พากันออกไปตั้งแต่ตอนเกิดเหตุโกลาหลเมื่อเช้าแล้ว นอกจากนั้นเจ้าของโรงเตี๊ยมนี้ก็รู้สถานะของพวกเขาแล้ว จึงไม่กล้าให้คนอื่นๆ เข้าพัก จะทำอันใดก็ต้องหวาดกลัวและตื่นเต้น ก่อนหน้านี้ตอนที่อวี้ชิงลั่วตะโกนบอกให้เขาเตรียมน้ำร้อน สีหน้าของเขาก็ขึ้นสีแดง อารมณ์พลุ่งพล่าน ตื่นเต้นเสียจนกลิ้งตกบันได จนถึงตอนนี้ยังเดินกะโผลกกะเผลกอยู่เลย
แต่สถานะของอวี๋จั้วหลินนั้น เขากลับไม่กล้าไล่ออกไป ทำได้เพียงต้อนรับคนเข้ามาอย่างด้วยอาการหวาดกลัว
ท่านผู้ตรวจการรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าเป็นที่สุด มองดูคนสองฝั่งที่ไม่มีทางเข้ากันได้ต้องมาอยู่ด้วยกันก็รู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก
แต่เขาไม่สามารถเพิกเฉิยได้ ถึงแม้จะอยากปล่อยให้เย่ซิวตู๋และอวี๋จั้วหลินสู้กันเองตามลำพังก็ตาม
เพียงแต่เพื่อเตรียมพร้อมไว้ เขาเองก็ต้องเข้าพักด้วย เตรียมพร้อมที่จะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยทุกเมื่อ
อวี้ชิงลั่วกลับเสียดายเล็กน้อย รู้แต่แรกจะปิดโรงเตี๊ยมเสียตั้งแต่ตอนที่อวี๋จั้วหลินมาก่อเรื่อง จะได้ไม่ให้เขามาเข้าร่วมความโกลาหลนี้อีก
ส่วนเย่ซิวตู๋นั้นไม่สนใจ มองดูแววตาของนางปรากฏความเกลียดชัง ก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “อย่ากังวลไป ห้องของหมอเจียงได้รับการคุ้มกันทุกคืน หากอวี๋จั้วหลินกล้าบุกเข้าไป ข้าเองก็จะไม่เมตตาเป็นแน่”
อวี้ชิงลั่วมองเขาอย่างขุ่นเคือง “ท่านไม่เข้าใจ”
“???” เย่ซิวตู๋มองนางด้วยความแปลกใจ เขาไม่เข้าใจอะไรกัน
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ นางมองอวี๋จั้วหลินเป็นคนร้ายจริงๆ ทุกครั้งที่เห็นหน้าเขา ก็จะรู้สึกอยากจะฆ่าเขาเสมอ
นางเกรงว่าตนเองจะทนไม่ไหวแล้ววางยาพิษใส่เขา
วางยาหรือ?
แววตาของอวี้ชิงลั่วเป็นประกาย หรี่ตา ริมฝีปากค่อยๆ โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มงดงาม
แต่เย่ซิวตู๋ที่อยู่ข้างกายนางกลับตกตะลึง
เขารู้สึกราวกับว่าในใจของชิงเอ๋อร์แผนร้ายอันใดอยู่
อวี้ชิงลั่วไม่สนใจเขา และไม่อธิบายอันใดกับเขา เพียงแต่รีบร้อนไปหาหนานหนาน
เด็กน้อยกำลังนั่งอยู่ในห้องของเขา กำลังพูดคุยกับเยว่ซิน “ใช่ๆๆ ทุบน้ำแข็งนั้นให้ละเอียดเสียหน่อย ท่านแม่ข้าทำเช่นนี้แหละ”
“หนานหนาน นี่มันจะอร่อยจริงๆ หรือ” เยว่ซินถามอย่างระมัดระวัง
หนานหนานเริ่มน้ำลายหยดแล้ว ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้า “อร่อยสิๆ”
อวี้ชิงลั่วเข้าห้องก็เห็นทั้งสองคนพึมพำอยู่ อดไม่ได้ที่จะชะโงกมองไปด้านหน้า ก็เห็นเยว่ซินกำลังเซาะก้อนน้ำแข็งอยู่ ด้านข้างยังมีองุ่น สาลี่ แตงโม และผลไม้หลากหลายชนิด
นางตกตะลึง หนานหนานหันหน้ามาก็เห็นนางพอดี รีบกอดคอของนาง “ท่านแม่ ข้ากำลังทำของอร่อย”
“ของอร่อยอันใด?”
“ของวิเศษที่ท่านบอกว่าช่วยดับร้อนในหน้าร้อนได้อย่างไรเล่า”
อวี้ชิงลั่วตบหน้าผากในทันทีแล้วลอบถอนหายใจ เพียงแค่หน้าร้อนปีที่แล้วร้อนมาก นางจึงอยากกินผลไม้เป็นพิเศษ จึงหาน้ำแข็งก้อนมาทุบให้ละเอียดแล้วใส่ผลไม้เข้าไปจนผลไม้เย็น จากนั้นก็หยิบออกมากิน
ตอนนั้นหนานหนานถามคำหนึ่ง นางเองก็ตอบคำถามไปส่งๆ เท่านั้น
เจ้าตัวเล็กคิดว่านี่เป็นของอร่อยมากๆ อย่างนั้นหรือ จริงๆ แล้ว… ของพวกนี้ไม่ใช่ของหายากอันใด ครอบครัวร่ำรวยที่ไหนไม่เคยกินผลไม้แช่เย็นบ้างเล่า เขานี่เหมือนเด็กบ้านนอกจริงๆ ยังคงพูดคุยกับเยว่ซินอย่างตื่นเต้นอยู่ตรงนี้
นางมองเด็กน้อยแวบหนึ่งแล้วถามเขา “ร้อนจนทนไม่ไหวเลยหรือ?” ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้เวลากิน ขอเพียงมีอะไรกินก็พอ ไม่มีทางมาทำเรื่องยุ่งยากเช่นนี้แน่
“อืม ที่นี่ร้อนมากเลยขอรับ” หนานหนานพยักหน้าอย่างแรง
ตอนนี้เป็นช่วงอากาศอบอุ่นปลายวสันตฤดู ยุคสมัยนี้ก็ไม่มีเครื่องปรับอากาศ แม้แต่พัดลมไฟฟ้าก็ไม่มี มองใบหน้าเล็กๆ ของเขาแดงขึ้นมาก็รู้ว่าเขาไม่สบายตัวเลย
โชคดีที่ช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของพวกเขา ยังได้หลบอากาศร้อนอยู่ในดินแดนเหมิงที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี
อวี้ชิงลั่ววางเขาลงข้างๆ นำพัดมาพัดให้เขาจากนั้นก็ถาม “เช่นนี้ดีขึ้นหรือไม่”
“อืม ผ่านมือท่านแม่ ลมก็เย็นขึ้นแล้วขอรับ” หนานหนานพอใจอย่างมาก นอนบนเตียงแล้วหรี่ตายิ้ม
อวี้ชิงลั่วเองก็หัวเราะไปด้วย “เช่นนั้นแม่ก็พัดให้เจ้าไปอีกสักพักนะ”
“ท่านแม่ดีจริงๆ ข้ารักท่านแม่ที่สุดเลย” หนานหนานพอใจอย่างที่สุด
“อืม แม่ก็รู้ว่าเจ้ารักแม่ที่สุด ดังนั้นแม่กล่าวอันใด หนานหนานก็ต้องไม่ปฏิเสธเป็นแน่ใช่ไหม” อวี้ชิงลั่วยังคงยิ้มอยู่ การเคลื่อนไหวที่มือก็ยังไม่หยุด
แต่เยว่ซินที่ยังเซาะน้ำแข็งอยู่ไม่ไกลกลับเงยหน้าขึ้นมองอย่างประหลาดใจ
หนานหนานตัวแข็งทื่อ จากนั้นก็ลุกขึ้นมาจากเตียง กล่าวอย่างน่าสงสาร “ข้ารู้อยู่แล้ว ท่านแม่ไม่มีทางมานั่งพัดให้ข้าอย่างไม่มีเหตุผลเป็นแน่”
ที่แท้… ก็ขุดหลุมให้เขาตกลงไปตั้งแต่แรกแล้ว
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
สงสารเจ้าของโรงเตี๊ยมเลย คนใหญ่คนโตที่ไม่ถูกกันมาพักอยู่ด้วยกัน ถ้ามีเรื่องกันทีโรงเตี๊ยมจะเละไหม
ชิงลั่วมีแผนร้ายอะไรในใจหรือ?
ไหหม่า(海馬)