อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 934 บ่าวชั่วรังแกนาย
ตอนที่ 934 บ่าวชั่วรังแกนาย
ตอนที่ 934 บ่าวชั่วรังแกนาย
อวี้เป่าเอ๋อร์อึ้งงันไป แม้แต่โม่เสียนและไท่จื่อเฟยก็อดประหลาดใจไม่ได้
หนานหนานกลับดึงเย่หลานเฉิงมาหลบที่ด้านหลังโม่เสียน จากนั้นก็ยื่นมือเข้าไปในเสื้อผ้าแล้วสัมผัสด้านหลังของเขา
สีหน้าของเย่หลานเฉิงแดงก่ำ หมุนตัวหลบเขา “หนานหนาน หนานหนาน เจ้าทำอะไรน่ะ อย่า…”
หนานหนานรู้สึกได้ว่ามือตนแห้ง ก็ชักมือออก
เย่หลานเฉิงไปหลบอยู่ด้านหลังอวี้เป่าเอ๋อร์ทันที มองดูเขาอย่างระแวดระวังเล็กน้อย
หนานหนานมีสีหน้ากดดัน “คือว่า เจ้าอย่าเข้าใจผิด ข้าเพียงแต่ เพียงแต่จะดูว่าเจ้าตัวแห้งหรือไม่”
เย่หลานเฉิงเม้มปากแน่น ทำท่าทางเหมือนไม่เชื่อเท่าไรนัก
“ยังดีที่มีเพียงเสื้อผ้าด้านนอกที่เละเทะ เจ้าทนเสียหน่อยเถิด” หนานหนานกล่าวต่อ
เย่หลานเฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า เชื่อใจเขาอย่างมาก “ตกลง”
จากนั้นหนานหนานก็หัวเราะออกมา ทันใดนั้นก็ละสายตา หันหน้าไปจ้องมองหลิ่วเอ๋อร์ เย่หลานเวย เย่หลานหลี่ทั้งสามคนด้วยสายตาดุร้าย
หลิ่วเอ๋อร์แปลกใจมาก เด็กคนนี้ไม่ใช่สหายของซื่อจื่อทั้งสองคนหรอกหรือ?
เหตุใดสถานการณ์ตอนนี้ กลับเหมือนว่าเขาเป็นสหายของเย่หลานเฉิงเล่า?
ในใจของนางไม่มั่นใจอย่างมาก หันหน้าไปมองเย่หลานเวยทั้งสองคนอย่างต้องการคำตอบจากสีหน้าของพวกเขา
แต่อีกฝ่ายในตอนนี้กำลังคิดหาวิธีหนีไปจากที่นี่อย่างสุดความสามารถ ทว่าด้านหน้าพวกเขายังติดเผิงอิงอยู่ ไม่สามารถผ่านเขาไปได้เลย
ครั้นตอนนี้เห็นหนานหนานมองมาทางนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจลึก หวังว่าที่พื้นจะมีรอยแตกให้พวกเขามุดหนีเข้าไปได้
เกิดอะไรขึ้น พวกเขาจากไปตั้งนานแล้ว เหตุใดบนร่างของเย่หลานเฉิงยังมีแต่น้ำแกงและเศษผักกัน? นี่ไม่ใช่ว่าจงใจแสดงความลำบากของตนต่อหน้าหนานหนานหรือ? จะได้ให้หนานหนานโกรธขึ้นมาและสั่งสอนพวกเขาอย่างรุนแรงใช่หรือไม่
แผนการนี้ล้ำลึกจริงๆ เย่หลานเฉิงจะต้องรู้แต่แรกแล้วว่าวันนี้หนานหนานจะกลับมา ดังนั้นจึงไม่ได้อาบน้ำให้ดีจนถึงตอนนี้
เพียงคิดถึงตรงนี้ เย่หลานเวยก็หันไปมองหลิ่วเอ๋อร์ ถามเบาๆ “เหตุใดเย่หลานเฉิงจึงยังไม่ได้อาบน้ำ ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าอีก?”
หลิ่วเอ๋อร์ไม่มีเวลาให้คิดมาก รีบคิดจะเอาความดีความชอบต่อหน้าเขา รีบกล่าว “ซื่อจื่อทั้งสองโปรดวางใจ ข้าน้อยรู้ว่าซื่อจื่อทั้งสองไม่ถูกชะตาเขา ดังนั้นจึงรอให้ซื่อจื่อทั้งสองจากไปและทำเป็นไม่เห็นสภาพย่ำแย่ของเขา แม้แต่น้ำก็ไม่ตักมาให้ เย่หลานเฉิงผู้นั้นโกรธเสียจนกระทืบเท้าข้า ตอนนี้เท้าของข้าน้อยยังเจ็บอยู่เลยเจ้าค่ะ แต่พวกเขาเองก็ไม่มีทางเลือก จึงทำได้เพียงมาตักน้ำด้วยตนเอง ไท่จื่อเฟยที่ถูกปลดผู้นั้นผิวหนังบอบบาง ทั้งยังทำมือเป็นแผลอีก จิ๊ๆ โชคดีที่ซื่อจื่อทั้งสองมาเร็ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เห็นสภาพของพวกเขาเช่นนั้นแล้ว ให้อดีตไท่จื่อเฟยตักน้ำ ยังไม่เคยมีใครทำได้เลยนะเจ้าคะ ซื่อจื่อทั้งสองช่างเก่งกาจนัก”
เย่หลานเวยและเย่หลานหลี่ได้ยินดังนี้ เส้นเลือดบนหน้าผากของตนก็กระตุก ให้ตายเถิด ที่แท้ผู้ร้ายตัวจริงก็คือนางหรือ?
เย่หลานเวยกัดฟัน เดินไปตรงหน้าแล้วกระทืบเท้านางครั้งหนึ่ง
หลิ่วเอ๋อร์สีหน้างุนงง รู้สึกเจ็บที่เท้าแต่ก็ไม่กล้าร้องออกมา ทำได้เพียงมองเย่หลานเวยอย่างรู้สึกไม่เป็นธรรม
แต่ด้านข้างกลับมีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้น เพียงนางเงยหน้าก็เห็นท่าทางถากถางของเผิงอิง
แม้แต่สีหน้าเช่นนี้ ในสายตาของหลิ่วเอ๋อร์แล้ว กลับรู้สึก… หล่อเหลาอย่างมาก
นางไม่รู้ฐานะของเขา แต่ดูจากเสื้อผ้าก็รู้ว่าไม่ใช่ทหารยามธรรมดา ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกอิ่มเอมขึ้นมา แม้แต่แววตาก็เปลี่ยนเป็นเขินอาย แทบจะไม่สนใจความเย็นชาที่ออกมาจากแววตาของเผิงอิงเลย
เผิงอิงเห็นท่าทางเสแสร้งของนางก็รู้สึกคลื่นเหียน คิดถึงความจริงใจของหงเย่ แววตาก็มีความดูถูกฉายออกมา
“เป็นเพียงบ่าวไพร่ชั่วช้าที่รู้จักเพียงประจบนายและกดขี่คนต่ำต้อย” เผิงอิงส่งเสียงฮึดฮัด แววตามองหนานหนานเดินเข้ามาใกล้ก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ทางด้านนี้มีบ่าวชั่วอยู่ จะจัดการก่อนหรือไม่ขอรับ?”
หนานหนานอึ้งงัน มองเขาอย่างงงงวย
เผิงอิงกล่าวคำพูดเมื่อครู่ของหลิ่วเอ๋อร์ซ้ำอีกครั้ง สีหน้าของหลิ่วเอ๋อร์จึงเปลี่ยนไปทันที เงยหน้ามองเผิงอิงอย่างตื่นตะลึง
หนานหนานเดินมาถึงตรงหน้าของนางแล้วเป็นครั้งที่สาม เท้าของเขาเหยียบไปบนเท้าข้างที่เย่หลานเวยเหยียบไปก่อนหน้า
แต่แรงของเขาหนักแน่นกว่าทั้งสองครั้งก่อนหน้ามาก หลิ่วเอ๋อร์รู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทงแผ่จากเท้าไปทั่วร่างกาย เมื่อครู่เหมือนกับว่าถูกเท้าเล็กๆ เหยียบจนกระดูกแตกอย่างไรอย่างนั้น เจ็บเสียจนทนไม่ไหว ล้มลงไปนั่งกับพื้นทันที
หนานหนานหันหน้ากลับไปถามเย่หลานเฉิง “เสี่ยวเฉิงเฉิง นางไม่ฟังคำเจ้าใช่หรือไม่? ไม่เพียงแต่มองข้ามเจ้า แต่ยังไม่ตักน้ำให้เจ้าอาบอีกด้วย”
เย่หลานเฉิงเองก็ค่อยๆ เดินเข้ามา ร่างเล็กๆ ยังคงยืนตัวตรง มองไปที่หลิ่วเอ๋อร์ที่กำลังร้องอย่างเจ็บปวด เมื่อคิดถึงมือของท่านแม่ตนที่บาดเจ็บ ร่องรอยความเกลียดชังก็ฉายชัดในแววตา กล่าวด้วยเสียงต่ำ “ใช่ นางประจบประแจงเย่หลานเวยกับเย่หลานหลี่สุดหัวใจ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เป็นบ่าวที่ชั่วร้าย”
“เช่นนั้นเจ้าอยากลงโทษนางอย่างไร?”
เย่หลานเฉิงชะงัก “ลงโทษหรือ?” นี่คือคนที่องค์ชายสี่มอบหมายมาให้รับใช้พวกเขาแม่ลูก ด้วยฐานะและตำแหน่งของพวกเขาในตอนนี้ การลงโทษนางจะเป็นเรื่องง่ายที่ไหนกัน
ไม่เพียงแต่จะทำให้องค์ชายสี่ไม่พอใจ แต่จะทำให้หนานหนานลำบากไปด้วย
แต่หนานหนานไม่ได้กังวลมากเท่าเขา เย่หลานเฉิงไม่เพียงแต่เป็นสหายที่ดีของเขา ยังเป็นพี่น้องของเขาด้วย ลูกพี่ลูกน้องถูกรังแก ทั้งยังถูกบ่าวชั่วคนหนึ่งรังแกอีกด้วย ไม่ว่าคนคนนี้จะเป็นคนของใคร เขาก็ทนกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้เป็นแน่
เคยมีคำหนึ่งที่กล่าวไว้ไม่ใช่หรือ ว่าเชือดไก่ให้ลิงดู
หลังลงโทษหลิ่วเอ๋อร์แล้ว เขาจะลองดูว่าใครยังจะใจกล้าหน้าด้านรังแกท่านน้าโหรวและเย่หลานเฉิงอีก?
อีกอย่าง หลิ่วเอ๋อร์เองก็ไม่มีเหตุผล ต่อให้องค์ชายสี่มาแล้วจะทำไม?
เมื่อคิดถึงคราบน้ำแกงบนร่างกายของเย่หลานเฉิงที่ผ่านมานานก็ยังไม่ได้ล้างให้สะอาด เขาก็อยากจะถลกหนังของบ่าวชั่วผู้นี้ออกจริงๆ
เขาก้าวไปข้างหน้าแล้วเตะนางอย่างแรงอีกครั้ง “บอกมาสิ เจ้าทำอะไรให้ท่านน้าโหรวและเสี่ยวเฉิงเฉิงอีกบ้าง?”
“ข้า… ข้า เจ้า เจ้าเป็นใครกันแน่” ในที่สุดหลิ่วเอ๋อร์ก็เข้าใจแล้วว่าเด็กคนนี้อยู่ฝั่งเดียวกับเย่หลานเฉิง
ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร แต่ดูท่าทางแล้ว วันนี้จะต้องทำให้ตนแบกรับผลกรรมที่ตามมาให้ได้เป็นแน่
นางหดตัวไปข้างหลังทันใด มองไปยังเย่หลานเวยทั้งสองคนด้วยแววตาขอความช่วยเหลือ
เย่หลานเวยต้องการจะตัดความสัมพันธ์กับนาง กลัวว่าหนานหนานจะเข้าใจว่าที่นางทำตามใจตนเองเช่นนั้นล้วนเป็นเพราะเขายั่วยุ
หลิ่วเอ๋อร์เห็นเช่นนั้นก็กระวนกระวายขึ้นมา “ซื่อจื่อ เวยซื่อจื่อ หลิ่วซื่อจื่อ ข้าน้อย ข้าน้อย…”
“เจ้าหุบปากเสีย เจ้าทำเรื่องชั่วร้ายด้วยตนเองมามากมาย ได้รับการลงโทษก็สมควรแล้ว” เย่หลานเวยขัดนางในทันที
หลิ่วเอ๋อร์ตกตะลึง เมื่อมองไปยังเย่หลานหลี่ อีกฝ่ายก็พยักหน้าอย่างต่อเนื่องแล้วกล่าว “เย่หลานเฉิงเป็นซื่อจื่อ เจ้าละเลยเขาก็เป็นความผิดของเจ้า เจ้ายังมีหน้ามาขอความเห็นใจอีกหรือ เจ้า…เจ้าตายไปก็ไม่น่าเสียดาย”
หนานหนานมองพวกเขาด้วยสายตาดูถูกเล็กน้อย เหยียดหยามพวกเขาเป็นอย่างมาก
“เสี่ยวเฉิงเฉิง ว่ามาสิ เมื่อครู่นี้นางทำอะไรไว้บ้าง?”
เย่หลานเฉิงถอนหายใจ มองท่าทางที่ต้องการสอบสวนอย่างถึงที่สุดของหนานหนาน เขาก็ย่อมยืนอยู่ข้างอีกฝ่าย
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
นอกจากชั่วแล้วยังโง่พาตัวเองไปตายอีกนังหลิ่วเอ๋อร์ เฮ้อ พูดงั้นก็เท่ากับจบชีวิตตัวเองสิ
ไหหม่า(海馬)