อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 935 คว่ำจานอาหารด้วยความโกรธ
ตอนที่ 935 คว่ำจานอาหารด้วยความโกรธ
ตอนที่ 935 คว่ำจานอาหารด้วยความโกรธ
“เสี่ยวเฉิงเฉิง เจ้าบอกมาทีละเรื่องเลย ต้องบอกให้ชัดเจน ละเอียดๆ อย่าให้ขาดไปสักเรื่อง เข้าใจไหม” หนานหนานเอ่ยเสียงดังฟังชัดกังวาน
เย่หลานเฉิงเม้มปากและพยักหน้า “ในวันแรกนางหักเงินค่าข้าว เปลี่ยนอาหารของข้ากับท่านแม่จากกับข้าวห้าอย่างและน้ำแกงหนึ่งอย่างไปเป็นกับข้าวสองอย่างและน้ำแกงหนึ่งอย่าง ส่วนเงินค่าข้าวที่เหลือล้วนเก็บเข้ากระเป๋าตนเอง”
“วันที่สองนางโกหกหลอกลวง ด้วยการไม่ระวังทำแจกันดอกไม้แตก แต่โยนความผิดมาให้ข้า บอกองค์ชายสี่ว่าข้าซนจนทำแจกันดอกไม้แตก”
“วันที่สามนางอู้งานและเจ้าเล่ห์ นำเสื้อผ้าสกปรกของท่านแม่ที่ยังไม่ซักส่งกลับมา อ้างว่าซักเสร็จแล้ว ทั้งยังรีดอย่างระมัดระวังแล้ว”
…
“ส่วนวันนี้นางวางท่ายโสโอหัง ท่านแม่ให้นางไปตักน้ำเพื่อให้ข้าอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นางกลับยืนอยู่ข้างๆ เยาะเย้ยเสียดสี ยกมือวาดเท้า ไม่เคารพท่านแม่ ดูหมิ่นข้า ทั้งยังทำผิดร้ายแรง บอกว่าต่อให้ข้าจะเป็นพระราชนัดดา แต่ก็อาจจะเทียบนางไม่ได้เสียด้วยซ้ำ”
เย่หลานเฉิงนับทีละเรื่องๆ และน้ำเสียงก็ค่อยๆ เย็นเยียบขึ้น ทวีความโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ
มือเล็กๆ ของหนานหนานกำแน่นอยู่แล้ว มองไปยังหลิ่วเอ๋อร์ที่หน้าขาวซีด กล่าวคำต่อคำ “ดี เช่นนั้นก็ลงโทษให้นางไปตักน้ำก่อน”
เขากล่าว มองไปรอบๆ ลานบ้านที่มีถังน้ำมากมายเพื่อกันน้ำรั่วและเอามาใช้เพื่อรองน้ำฝนอยู่พอดี จึงกล่าวกับหลิ่วเอ๋อร์ทันที “ก่อนถึงมื้ออาหารเย็น ตักน้ำให้เต็มถึงน้ำพวกนี้ทั้งหมดเสีย”
รูม่านตาของหลิ่วเอ๋อร์หดตัว มองไปยังถังน้ำตรงหน้า ให้ตักให้เต็มก่อนเวลาอาหารเย็นหรือ? เช่นนั้นมือนางจะไม่พิการเสียแล้วหรือ
“ไม่ เจ้าทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้ ข้าเป็นคนขององค์ชายสี่ เจ้าเป็นตัวอะไรกันถึงกล้ามาลงโทษข้า”
“เฮอะ เจ้ายังกล้าด่าข้าอีกหรือ” หนานหนานโมโห เหยียบมือของนางที่วางอยู่บนพื้น กล่าวทีละคำๆ “หากเจ้าทำเสร็จไม่ทันเวลา ข้าจะ… ข้าจะส่งเจ้าไปขายให้ค่ายทหาร ให้เจ้าไปเป็นนางบำเรอพวกทหารเสีย”
“…” โม่เสียนและเผิงอิงสบตากัน มุมปากกระตุกขึ้นพร้อมกัน
จากนั้นครู่หนึ่ง เผิงอิงก็ถามหนานหนาน “เจ้ารู้หรือ…ว่าอะไรคือนางบำเรอทหาร?”
“ไม่รู้” หนานหนานส่ายหน้า กล่าวอย่างจริงจัง
“เช่นนั้น… เช่นนั้นเจ้าบอกให้คนเขาไปเป็นนางบำเรอทหารได้อย่างไร?”
“ข้าเคยเห็นท่านลุงเหมียนฮวาถังลงโทษนางข้าหลวงมาก่อน เขากล่าวเช่นนี้เลย ตอนนั้นข้าเห็นนางข้าหลวงผู้นั้นกลัวเสียจนหมดสติไป ดังนั้นจึงคิดว่าน่าจะเป็นบทลงโทษที่ร้ายแรงอย่างมาก” หนานหนานตอบอย่างจริงจัง
เผิงอิงและโม่เสียนสบตากันอีกครั้ง องค์ชายรองแห่งอาณาจักรเทียนอวี่ผู้นี้ เหตุใด…จึงจัดการเรื่องนี้ต่อหน้าหนานหนานได้เล่า
“พวกท่านดูสิ นางตกใจจนหน้าซีดเสียแล้ว ดี เช่นนั้นตกลงตามนี้ หากนางทำภารกิจไม่สำเร็จ ก็จะให้นางไปเป็นนางบำเรอทหารเสีย” หนานหนานตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
เผิงอิงยักไหล่ เขารู้สึกว่าบทลงโทษนี้ก็ไม่เลว บ่าวชั่วผู้นี้รังแกพระราชนัดดา ต่อให้ตายก็ไม่น่าเสียดาย
หลิ่วเอ๋อร์พยายามจะลุกขึ้น แต่กลับถูกเผิงอิงอุ้มนางไปโยนไว้ข้างบ่อน้ำ กล่าวเสียงเย็นชา “ข้าแนะนำให้เจ้าทำตามอย่างเชื่อฟังจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าเจ้าในดาบเดียว”
หลิ่วเอ๋อร์สะดุ้ง เมื่อเห็นดาบแวววับเย็นเยียบที่เอวของเขาก็ตื่นกลัวเสียจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
ด้วยสถานการณ์บังคับ นางจึงจำต้องยอมประนีประนอมชั่วคราว องค์ชายสี่จะต้องมาที่นี่ในไม่ช้าเป็นแน่ รู้ว่าพวกเขามาทำเรื่องไม่สนกฎเกณฑ์ใดๆ ในจิ่นเฉิงย่วน จะต้องจัดการพวกเขาแน่
ถึงตอนนั้น ถึงตอนนั้นนางจะต้องหนีออกไปได้ อีกเดี๋ยวจะต้องเอาคืนสวีโหรวและเย่หลานเฉิงเป็นสองเท่า
ขณะคิดเช่นนี้ หลิ่วเอ๋อร์ก็ทำได้เพียงยกถังไปตักน้ำอย่างสั่นกลัว
หนานหนานเห็นว่านางไม่ขัดขืนแล้ว ก็รู้สึกว่าน่าเบื่อเล็กน้อย
ต่อจากนั้นก็หันมามองเย่หลานเวยและเย่หลานหลี่
ทั้งสองคนเตรียมจะหนีแล้ว แต่ก็ถูกหนานหนานคว้าตัวกลับมาอีกครั้ง
“ขอโทษซะ” เสียงที่คมชัดของหนานหนานดังขึ้น ทำให้ทุกคนตรงนั้นตะลึงไป
เย่หลานเวยสงสัยว่าตนฟังผิดไป “เจ้า เจ้าว่าอะไรนะ”
“ข้าบอกว่า… ให้ขอโทษ” หนานหนานพูดซ้ำอีกครั้ง “พวกเจ้ารังแกเสี่ยวเฉิงเฉิง เทน้ำแกงผักใส่เขา ก็ควรขอโทษเขา”
เย่หลานเวยและเย่หลานหลี่สบตากัน หมุนตัวเดินจากไป
หนานหนานรีบคว้าผมทั้งสองคนไว้แล้วดึงกลับมาอย่างแรง “จะขอโทษหรือไม่?”
“โอ๊ย เจ็บๆๆ อวี้ฉิงหนาน เจ้ามันบ้าไปแล้ว ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ผมข้าจะหลุดอยู่แล้ว” เย่หลานเวยร้องเสียงดัง
เผิงอิงมองมาทางด้านนี้ หลิ่วเอ๋อร์ตกใจและมองมาทางนี้เช่นกัน จากนั้นก็เบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง
เด็กคนนั้น ช่าง ช่าง…กล้ารุนแรงกับซื่อจื่อทั้งสองหรือ?
แม้แต่ผิงซื่อจื่อบุตรชายของท่านอ๋องอวี้ ลูกพี่ลูกน้องของพวกเขายังไม่กล้าลงมือกับพวกเขาเช่นนี้
หนานหนานส่งเสียงฮึดฮีด “หากพวกเจ้าขอโทษอย่างจริงใจ และเสี่ยวเฉิงเฉิงให้อภัยพวกเจ้า ข้าจะปล่อย”
ในชีวิตนี้เย่หลานเวยไม่เคยทำสิ่งที่เรียกว่าขอโทษมาก่อน โดยเฉพาะการขอโทษเย่หลานเฉิง อวี้ฉิงหนานผู้นี้ช่างคิดอะไรเพ้อเจ้ออย่างไม่รู้จักความเป็นจริงเอาเสียเลย
“เป็นเพียงบุตรของผู้ร้าย เหตุใดข้าที่เป็นถึงซื่อจื่อจะต้องขอโทษด้วย”
หนานหนานเม้มปาก ออกแรงที่มือเพิ่มขึ้น “เจ้าจะเอ่ยปากหรือไม่ ข้าจะบอกให้นะ เสี่ยวเฉิงเฉิงเป็นสหายข้า เป็นพระราชนัดดา บุตรของผู้ร้ายอะไรกัน หากเป็นเช่นนั้น เจ้าเองก็เป็นหลานของผู้ร้าย เจ้าจะถือว่าเป็นถึงซื่อจื่อได้อย่างไร?”
“อวี้ฉิงหนาน เจ้ามันเถียงข้างๆ คูๆ”
“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว ข้าจะบอกให้นะ หากเจ้ายังไม่ขอโทษข้า ข้าจะโกนผมของพวกเจ้าออกให้หมด” ความอดทนของหนานหนานแทบจะหมดลงแล้ว มือเล็กๆ ดึงผมของพวกเขา ไม่สนใจพวกเย่หลานเวยทั้งสองคนที่กำลังกัดฟัน ส่งเสียงไม่พอใจ “เย่หลานเวย เจ้าก็รู้ว่าข้าพูดจริงทำจริง ข้าไม่กลัวเจ้าหรอก ต่อให้โกนผมบนหัวเจ้าจนหมด ข้าก็ยังปลอดภัยหายห่วง เจ้าเชื่อไหมล่ะ”
เย่หลานเวยรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา หนานหนานผู้นี้มีวิชาต่อสู้ ทั้งยังมีภูมิหลังแข็งแกร่ง เขาไม่กล้าทำอีกฝ่ายขุ่นเคือง
แต่หากว่าเขาต้องขอโทษ เช่นนั้นก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่
เย่หลานเวยกลอกตาสองครั้ง จากนั้นก็หัวเราะออกมา “หนานหนาน เจ้าจะจริงจังอะไรเพียงนั้น ข้าก็บอกแล้ว เย่หลานเฉิงเป็นพระราชนัดดา ข้าก็เป็นพระราชนัดดา พวกเราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันนะ ระหว่างพี่น้อง ก็มีแต่ล้อกันเล่นเท่านั้น ข้าเองก็เพียงแค่ล้อเล่นกับเขาแบบไม่เจ็บตัวเท่านั้น เจ้าดูเขาสิ ไม่ได้เป็นอะไรเลยไม่ใช่หรือ?”
เย่หลานหลี่ที่อยู่ข้างๆ รีบกล่าวเสริม “นั่นสิๆ พวกเราก็แค่เห็นว่าเขาอยู่ในจิ่นเฉิงย่วนคนเดียวแล้วจะเบื่อ จึงมาเล่นกับเขา ล้อกันเล่นเท่านั้นเอง”
สีหน้าของหนานหนานยิ่งไม่สู้ดีมากขึ้น ทันใดนั้นก็ปล่อยมือ “เพียงล้อกันเล่นหรือ?”
เย่หลานเวยทั้งสองคนรู้สึกว่าผมคลายออกแล้ว ในที่สุดก็เป็นอิสระ ทั้งสองคนถอนหายใจออกมาพร้อมกันแล้วกล่าว “ใช่ ล้อกันเล่นเท่านั้น”
เย่หลานเฉิงเองก็มองหนานหนานอย่างเป็นกังวล จากนั้นก็เห็นเขาหมุนตัวในทันใด รีบวิ่งเข้าไปในห้อง
ทุกคนที่ลานบ้านมองหน้ากันอย่างงุนงง แม้แต่ทางด้านหลิ่วเอ๋อร์ก็หยุดตักน้ำเช่นกัน
ไม่นานนักหนานหนานก็ออกมาอีกครั้ง ในมือถืออาหารสองจาน เดินไปตรงหน้าเย่หลานเวย
ต่อจากนั้นก็ยกมือขึ้นแล้วเล็งไปที่หัวพวกเขา ก่อนที่ทั้งสองคนจะทันได้ตอบสนอง จานทั้งสองที่เต็มไปด้วยอาหารก็คว่ำรดใส่ศีรษะอย่างแรง
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
โดนคว่ำอาหารใส่หัวกลับบ้าง ถือว่าล้อกันเล่น ดังนั้นหายกันนะ อะหึๆๆ
ไหหม่า(海馬)