อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 940 พูดได้ดี
ตอนที่ 940 พูดได้ดี
ตอนที่ 940 พูดได้ดี
เย่หลานเฉิงชะงัก หันหน้ากลับไปอย่างสงสัย
หนานหนานกลับดูเหมือนว่าไม่ได้หวังจะให้เขาตอบแม้แต่น้อย ชี้ไปที่ร้านน้ำชาที่อยู่ไม่ไกลแล้วกล่าว “พวกเราไปดื่มชาที่นั่นกันเถิด”
“เอ๋?” เย่หลานเฉิงกะพริบตา ในหัวว่างเปล่าไปชั่วครู่ ไม่สามารถวิเคราะห์คำถามที่กะทันหันของหนานหนานได้
ยังไม่รอให้เขาได้สติกลับมา ตนก็ถูกหนานหนานดึงมาตรงหน้าแผงขายชาเสียแล้ว
“ท่านตาหลัว ท่านยายหลัว ขอน้ำชาให้เรากาหนึ่งขอรับ” หนานหนานหาที่นั่งและนั่งลงอย่างคุ้นเคย
ที่ร้านน้ำชานั้นมีคนชราวัยหกสิบเจ็ดสิบสองคน ร้านนี้เปิดมาหลายปีแล้ว เป็นเพราะมีวิธีการชงชาเฉพาะตัวแบบพิเศษ ทั้งยังหวานและถูก ลูกเล่นก็มากมาย น้ำเสียงเองก็ไม่เลว
ท่านตาหลัวเห็นหนานหนานก็อึ้งไป จากนั้นก็ยิ้มออกมา “นี่หนานหนานไม่ใช่หรือ? ไม่ได้เจอกันนานเชียว เมียข้าน่ะกล่าวถึงเจ้าอยู่เสมอเลย”
ท่านยายหลัวที่อยู่ข้างๆ ได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา ทันใดนั้นก็ตีสามีของตนครั้งหนึ่ง กล่าวอย่างโกรธๆ “ข้าบอกหลายรอบแล้วว่านี่คือซื่อจื่อน้อยของจวนท่านอ๋องซิว ต้องแสดงความเคารพเสียหน่อย เหตุใดจึงพูดไม่รู้ฟังเสียเลย”
กล่าวจบ นางก็ก้าวมาข้างหน้าแล้วถามเบาๆ “หนานหนาน ยังเหมือนเดิมใช่หรือไม่ ชาต้าม่าย*หม้อหนึ่งใช่หรือไม่”
(*ชาข้าวบาร์เลย์)
ท่านตาหลัวมองนางอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง ยังมีหน้าบอกว่าตนไม่เคารพ นางเองก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ?
หนานหนานมองพวกเขาแล้วพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง “ใช่ๆๆ ชาต้าม่ายขอรับ” เขากล่าว จากนั้นก็ชี้ไปยังเย่หลานเฉิงและอวี้เป่าเอ๋อร์ แนะนำให้พวกเขารู้จักกับคู่สามีภรรยา “นี่คือลูกพี่ลูกน้องและสหายรักของข้า เย่หลานเฉิง ส่วนนี้คือท่านอาและสหายรักของข้า อวี้เป่าเอ๋อร์ขอรับ”
“อืมๆ ล้วนเป็นเด็กดีที่รูปงามผ่องใสยิ่งนัก” ท่านตาหลัวและท่านยายหลัวดูเหมือนจะคุ้นเคยและสนิทสนมกับหนานหนานอย่างมาก เมื่อรู้ว่าเป็นเพื่อนรักของเขา รอยยิ้มก็ยิ่งงดงามขึ้น
พวกเขากล่าว จากนั้นก็หมุนตัวไปชงชา
เย่หลานเฉิงจึงได้มองไปยังหนานหนานอย่างสงสัย “เจ้ารู้จักพวกเขาหรือ?”
“รู้จักสิ มีครั้งหนึ่งมาดื่มชาที่นี่โดยบังเอิญ รู้สึกว่าอร่อยมาก จึงมาอีกสองครั้ง ท่านตาหลัวและท่านยายหลัวเป็นคนดีมาก ตั้งแต่รู้ว่าข้าเป็นซื่อจื่อน้อยจากจวนท่านอ๋องซิว ท่าทางก็ผิดแผกไปเสียหน่อย แต่ข้าเคยโกรธครั้งหนึ่ง พวกเขาจึงทำตัวเหมือนเมื่อก่อน ทำตัวดีกับข้าอย่างมาก”
เย่หลานเฉิงมองเขาด้วยรอยยิ้ม คนอื่นหวังอยากจะมีสถานะสูงส่ง ให้คนอื่นมาทำความเคารพ แต่เขานี่สิ กลับมีท่าทางกลัดกลุ้มมากเสียอย่างนั้น
อวี้เป่าเอ๋อร์เองก็หัวเราะเบาๆ อยู่ข้างๆ กล่าวเสียงต่ำ “ชาต้าม่ายคืออะไรหรือ” เหมือนว่าไม่เคยดื่มมาก่อน และไม่รู้ว่ามีรสชาติเป็นอย่างไร
หนานหนานส่ายหน้า “นี่น่ะหรือ ท่านแม่ของข้าบอกว่าต้าม่ายมีสรรพคุณรักษาอาการบวม แก้อาการเบื่ออาหาร ปรับสมดุลท้อง ดับกระหาย บรรเทาความร้อน เพิ่มพลังชี่ เปิดช่วงอก ช่วยเรื่องการหายใจ บำรุงร่างกาย ทำให้หลอดเลือดแข็งแรง บำรุงผิว บำรุงเครื่องใน เป็นการเปลี่ยนธัญพืชเป็นอาหาร ดีมากทีเดียว”
โม่เสียนและเผิงอิงอดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปาก โชคดีที่เขาสามารถจดจำคำพูดที่ยาวเพียงนี้ได้ ลำบากเขาแล้ว ขณะคิดพวกเขาก็นั่งลงบนโต๊ะอื่น ทหารยามสามสิบคนจากจิ่นเฉิงย่วนที่อยู่ข้างๆ มองหน้ากัน หลังจากสบตากันแล้วก็เริ่มหาโต๊ะเพื่อนั่งลง
หนานหนานไม่พอใจในทันที เด้งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้ ชี้พวกเขาแล้วกล่าว “ลุกขึ้นๆๆ ใครให้พวกเจ้านั่งกัน”
ทหารยามเหล่านั้นตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง นั่งก็ไม่ได้ ไม่นั่งก็ไม่ได้
หนานหนานค่อยๆ เดินไปตรงหน้าพวกเขา กล่าวอย่างคมชัด “พวกเจ้าว่า พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อทำอันใดหรือ?”
มาทำอันใดหรือ?
ทุกคนมองหน้ากันอย่างตกตะลึงอีกครั้ง จากนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
หนึ่งคนในนั้นที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าหน่วยตัวเล็กๆ ได้ยินเช่นนั้นก็มองไปยังประชาชนรอบๆ ที่กำลังเงี่ยหูฟังและตั้งใจดู ก็เปล่งเสียงดังขึ้นเล็กน้อย “พวกเราเป็นทหารยามจากจิ่นเฉิงย่วน ย่อมต้องคอยตามเฉิงซื่อจื่อมาขอรับ”
“ผิด” หนานหนานกล่าวขัดเขาเสียงดัง
หัวหน้าหน่วยผู้นั้นขมวดคิ้ว “ผิดตรงไหนขอรับ เฉิงซื่อจื่อไม่สนใจอดีตองค์รัชทายาท ยืนกรานจะออกจากจิ่นเฉิงย่วน พวกเราก็ย่อมต้องตามเขามาเพื่อความปลอดภัยของเขา เฉิงซื่อจื่อไปที่ใด พวกเราก็ต้องตามไปที่นั่นด้วยขอรับ”
ประชาชนรอบๆ ได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน
“ไม่แปลกใจเลยที่ได้ยินว่าอดีตองค์รัชทายาทไร้ศีลธรรมไร้ความสามารถ ไม่ฟังคำสั่ง ไม่คำนึงถึงกฎหมายของชาติบ้านเมือง ดูบุตรชายที่เขาสั่งสอนสิ ดูท่าทางก็คงจะเป็นลูกคนมีเงิน พ่อแม่เป็นเช่นนั้นไปแล้วก็ยังไม่แสดงความกตัญญู คิดแต่จะพาคนกลุ่มใหญ่ออกมาแสดงอำนาจบาตรใหญ่ ทำเหมือนกับว่าตนนนั้นยังเป็นพระราชนัดดาที่เป็นที่โปรดปรานอยู่อย่างไรอย่างนั้น”
นั่นสิ คนมากมายเพียงนี้ ไม่ใช่ว่าจงใจดึงดูดความสนใจของคนอื่นหรอกหรือ ถ้าหากเขายังได้รับความโปรดปรานอยู่ ฝ่าบาทจะทรงกักขังเขาไว้ด้วยกันได้อย่างไร อย่างไรก็เป็นเพียงเด็กคนหนึ่งเท่านั้น ช่างไม่รู้ความเกินไปแล้ว”
หัวหน้าหน่วยผู้นั้นหูไว ได้ยินในทันใด รู้ว่าคำพูดของตนนั้นมีประโยชน์ ก็รู้สึกภูมิใจขึ้นมาเล็กน้อย
หนานหนานกลับส่งเสียงฮึดฮัด ตะโกนดังลั่น “พูดจาไร้สาระ เสี่ยวเฉิงเฉิงออกจากจิ่นเฉิงย่วนก็เป็นเพราะเห็นท่านพ่อท่านแม่ของเขาอยู่ตามลำพังในจิ่นเฉิงย่วนนั้นช่างโดดเดี่ยวอย่างมาก จึงคิดจะออกมาซื้อของไปเอาใจ ให้พวกเขามีความสุขเสียหน่อย แต่พวกเจ้าคอยตามหลังพวกข้าอ้างว่ามาปกป้อง บอกชัดเจนว่ามาปกป้อง แต่จริงๆ แล้วก็มาเพื่อจับตาดู น่าสงสารที่เสี่ยวเฉิงเฉิงเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง แต่กลับถูกพวกเจ้าสามสิบคนคอยเฝ้าติดตามระแวดระวังอยู่เช่นนี้ พวกเจ้าช่างไร้ประโยชน์เสียจริงๆ หรือว่ามีแรงจูงใจอื่น รับสั่งของฝ่าบาทบอกเพียงว่าให้คนคอยติดตามเฉิงซื่อจื่อ เพื่อไม่ให้เขาออกมาข้างนอกแล้วเกิดเรื่องอันใด แต่องค์ชายสี่กลับถือโอกาสนี้บิดเบือนประเด็น สั่งคนมาถึงสามสิบคน สามสิบคนเชียวนะ”
หนานหนานตะโกน หันหน้ามากล่าวกับประชาชนเหล่านั้น “ทุกคนมาตัดสินกันเสียหน่อย เด็กอายุยังไม่ถึงสิบขวบคนหนึ่ง เด็กที่ไร้เรี่ยวแรงคนหนึ่ง ถูกพวกเขาสามสิบคนรังแก มันเกินไปแล้วไม่ใช่หรือ?”
ทุกคนตะลึงไป ดูท่าทางแล้วเหมือนกับว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ
โดยเฉพาะเย่หลานเฉิงที่ถูกหนานหนานชี้ ก้มหน้าลงพร้อมท่าทางอับจนหนทาง เหมือนกับเจ้านายที่ยกพวกคนรับใช้มาเพื่อแสดงอำนาจบาตรใหญ่เสียที่ไหน เห็นได้ชัดว่าจำใจ และทำได้เพียงกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม
หัวหน้าหน่วยผู้นั้นเห็นว่าหลายคนกำลังพยักหน้า นึกถึงคำสั่งขององค์ชายสี่ ในใจกังวลอย่างมากแล้วรีบกล่าว “ไม่ใช่นะขอรับ พวกเราเป็นเพียงบ่าวไพร่เท่านั้น จะกล้าไปรังแกเฉิงซื่อจื่อได้อย่างไร จะกล่าวโดยไม่คิดไม่ได้นะขอรับ”
“ข้ากล่าวโดยไม่คิดหรือ? เมื่อครู่ทุกคนก็เห็นกันอยู่ชัดๆ” หนานหนานชี้ไปที่พวกเขา กล่าวเสียงดัง “พวกเรานั่งลงดื่มชา แต่ไม่ได้สั่งให้พวกเขาที่เป็นทหารยามนั่งลง พวกเขากลับหาที่นั่งตามใจตนเอง พวกท่านคิดว่าบ่าวไพร่ที่กล้านั่งกับเจ้านายได้ตามใจทั้งที่เจ้านายยังไม่ได้เอ่ยปาก ถือว่าเป็นบ่าวชั่วรังแกนายหรือไม่เล่า”
“กล่าวได้ดี” ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังออกมาจากกลุ่มคน ดูท่าทางคุ้นเคยเล็กน้อย
ฝูงคนค่อยๆ แยกตัวกันออก มีสองสามคนเดินออกมาจากฝูงคน
มีคนจำพวกเขาได้ ทันใดนั้นก็ก้มหัวลงแล้วเริ่มกระซิบกระซาบ
………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ใครมาปรากฏตัวอีกกันหนอ จะมาช่วยหนานหนานหรือจะมาตัดกำลังหนานหนานกันแน่นะ
ไหหม่า(海馬)