อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 948 คนที่นึกไม่ถึง
ตอนที่ 948 คนที่นึกไม่ถึง
ตอนที่ 948 คนที่นึกไม่ถึง
ดวงตาของอวี้ชิงลั่วเปลี่ยนเป็นระแวดระวังมากขึ้น ฝีเท้าดูลังเลอย่างเห็นได้ชัด
เพียงแต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว นางก็ไม่มีเหตุผลให้ถอยกลับ
ถึงขนาดที่ว่ามีแผนจะสืบสวนเสียด้วยซ้ำ
เดิมทีนางก็เกรงกลัวจวนอวี๋มากอยู่แล้ว ตอนนี้ดูสถานการณ์แล้ว หากนางไม่สืบให้รู้ชัดเจน เช่นนั้นคนที่จะเป็นอันตรายมากที่สุดก็คือนางเอง
คิดถึงตรงนี้ อวี้ชิงลั่วก็มีสีหน้าจริงจังมากขึ้น นิ้วมือหนีบเข็มบางๆ ไว้ กรามของนางเกร็งแน่น
นางรู้จักชัยภูมิของจวนอวี๋เป็นอย่างดี เพียงแต่ต้องเผื่อสถานการณ์คับขันเอาไว้ นางจึงใช้ทางอ้อมที่ไกลกว่า
เมื่อผ่านเรือนที่หลี่หรานหร่านเคยอาศัยอยู่ คิ้วของนางก็อดไม่ได้ที่จะเลิกขึ้น
จวนอวี๋ปฏิบัติกับอดีตฮูหยินเช่นเดียวกันหมดเลยหรือ ทันทีที่หญิงผู้นั้นไม่อยู่แล้ว เรือนที่นางเคยอาศัยอยู่ก็ถูกทำลายไปด้วย
อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า เมื่อเดินผ่านเรือนของฮูหยินใหญ่ มารดาของอวี๋จั้วหลิน ก็อดที่จะหยุดชะงักฝีเท้าลงไม่ได้ ซ่อนตัวอยู่ที่หลังหินปลอมข้างๆ
สาวใช้ในเรือนของฮูหยินใหญ่มีจำนวนมาก แต่เวลาเดินเหินกลับเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลเหลือเกิน
อวี้ชิงลั่วอยู่เงียบๆ ด้านหลังหินปลอมครู่หนึ่ง และไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ
ใครจะรู้ว่าขณะคิดจะเดินจากไป ก็เห็นฟางซานสาวใช้ส่วนตัวของฮูหยินใหญ่วิ่งเข้ามาในเรือนของนาง อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วมองดู ก็เห็นฮูหยินใหญ่เดินออกมาจากห้องด้วยตัวเอง จับมือของฟางซานแล้วถาม “เป็นอย่างไรบ้าง ได้บอกหรือไม่ว่าขาดเหลือสิ่งใดไป?”
“ฮูหยินโปรดวางใจ ไม่ขาดสิ่งใด ยังอยู่ดีเจ้าค่ะ”
ฮูหยินใหญ่ถอนหายใจ “อย่างไรที่นั่นก็ไม่มีใครพักอยู่มาหลายปี ข้าคิดมาตลอดว่ามันดูมืดมนนัก หากไม่ใช่เพราะที่นั่นอยู่ห่างไกล ก็คงไม่ให้คนผู้นั้นอยู่ที่นั่น ช่างไม่เป็นธรรมกับเขานัก”
อวี้ชิงลั่วชะงัก หมายความว่าอย่างไร? เขาผู้นั้นที่ฮูหยินใหญ่พูดถึงคือใคร ไม่เป็นธรรมกับใครกัน?
หรือว่าในใจของฮูหยินใหญ่ นอกจากอวี๋จั้วหลินบุตรชายของตนแล้ว ยังมีคนอื่นที่ควรค่าให้นางเป็นห่วงด้วยหรือ
คงไม่ใช่ลูกนอกสมรสของอวี๋จั้วหลินกระมัง
อวี้ชิงลั่วตกตะลึงกับความคิดของตน จากนั้นก็ส่ายหน้า ไม่มีทางๆ คนอย่างอวี๋จั้วหลินคงไม่มีทางแอบเลี้ยงหญิงอื่นอยู่ข้างนอกเป็นแน่ หากเขาอยากให้ผู้หญิงคนหนึ่งมีลูกให้ ก็คงทำทุกวิถีทางเพื่อพากลับมาที่จวน เช่นเดียวกับตอนนั้นที่เขาวางแผนใส่ตน ถึงขนาดยอมสละชีวิตของนางเพื่อจะพาหลี่หรานหร่านเข้ามาในจวน
เช่นนั้นเขาผู้นั้นที่ฮูหยินใหญ่เอ่ยถึงคือใครกัน?
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว เมื่อกำลังคิดจะฟังอะไรเพิ่ม ฮูหยินใหญ่ก็หมุนตัวกลับเข้าห้องไปแล้ว
จากนั้นก็ได้ยินเสียงนางกระซิบเบาๆ กับฟางซาน “เจ้าคอยดูทางด้านนั้นเสียหน่อย ถ้าหากขาดเหลืออันใดก็รีบหามาเสริมให้ อย่าให้เขารู้สึกไม่เป็นธรรม”
“เจ้าค่ะ บ่าวเข้าใจแล้ว”
สองคนพูดคุยกัน แล้วก็ค่อยๆ หายลับไปหลังประตู
อวี้ชิงลั่วยังคงต้องการหาเบาะแสเพิ่ม แต่เรือนของฮูหยินใหญ่ไม่สามารถซ่อนตัวได้ดีนัก หากนางเข้าไปใกล้อีกนิด ก็จะถูกคนเห็นเอาได้
เอาเถอะ เรื่องนี้ค่อยเป็นค่อยไปแล้วกัน วันนี้เป้าหมายของนางก็คือต้องไปหาของที่แม่นมเก๋อบอกเอาไว้ หากแม่นมเก๋อไม่ได้กำชับแล้วกำชับอีกว่ามีเพียงนางเท่านั้นที่ไปได้ นางคงคิดจะพาหนานหนานมาด้วย เขาตัวเล็ก ทั้งยังมีเคล็ดวิชาฝ่าเท้าของตระกูลลู่ หากอยากแอบฟังอะไรก็ล้วนเป็นเรื่องง่าย
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เดี๋ยวกลับไปบอกเย่ซิวตู๋ ให้เขาหาคนมาคอยดูจวนอวี๋ คงจะได้รู้ว่าจวนอวี๋ซ่อนผีปีศาจอันใดไว้กันแน่
อวี้ชิงลั่วคิดถึงตรงนี้ก็มองไปยังเรือนของฮูหยินใหญ่แวบหนึ่ง จากนั้นก็ออกออกจากด้านหลังหินปลอมเงียบๆ เดินไปยังเรือนที่นางเคยอาศัยอยู่เมื่อหกปีก่อนอย่างไร้เสียง
ทว่าเมื่อนางมายืนอยู่ตรงประตูเรือนหลังนั้น อวี้ชิงลั่วก็ตกตะลึงไปทั้งตัว
นางมองภาพตรงหน้าอย่างงุนงง… ลานบ้านที่สะอาดเรียบร้อย จากนั้นก็ขยี้ตาอย่างไม่อยากจะยอมรับ
ครั้งก่อนตอนที่เยว่ซินพานางมา เรือนหลังนี้ยังถูกทิ้งร้าง ทุกที่เต็มไปด้วยฝุ่นผง อีกทั้งแมลง หนู แมลงสาบล้วนมีมากมาย
แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกัน นางไม่อยู่ถึงหกปีเต็ม เรือนนี้ก็ไม่มีใครมาจัดการ แล้วเหตุใดในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือน จวนอวี๋กลับเปลี่ยนท่าที ทำความสะอาดเรือนนี้อย่างสะอาดเรียบร้อยไร้ฝุ่นผงเช่นนี้ไปได้
อวี้ชิงลั่วมีสีหน้างุนงง ทั้งยังขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม
คำพูดของฮูหยินใหญ่ที่บอกว่า ‘อย่างไรที่นั่นก็ไม่มีใครพักอยู่มาหลายปี ข้าคิดมาตลอดว่ามันดูมืดมนนัก หากไม่ใช่เพราะที่นั่นอยู่ห่างไกล ก็คงไม่ให้คนผู้นั้นอยู่ที่นั่น ช่างไม่เป็นธรรมกับเขานัก’ ผุดขึ้นมาในหัวของนางอย่างไม่มีการเตือนล่วงหน้า
เช่นนั้นแล้ว สถานที่ที่ฮูหยินใหญ่พูดถึงก็คือที่นี่ เรือนที่นางเคยอาศัยเมื่อหกปีก่อนน่ะหรือ?
ให้ตายเถิด
แม่นมเก๋อสั่งเอาไว้ว่าของนั้นอยู่ในเรือน หากนางอยากได้ อย่างไรก็ต้องเข้าไป
แต่หากเรือนนี้มีคนอยู่ แล้วนางเข้าไปเอาของ เขาจะไม่รู้ตัวหรือ?
อวี้ชิงลั่วลูบหน้าผาก ช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้
นางยืนอยู่ที่เดิมอย่างเงียบๆ มองลานบ้านที่เงียบเสียจนน่ากลัวเล็กน้อย
เงียบมากจริงๆ เงียบเสียจนเหมือนกับว่าที่นี่ไม่มีใครอาศัยอยู่เลย
สิ่งที่น่าดีใจเพียงอย่างเดียวก็คือ ทั้งด้านในและนอกเรือนนี้ไม่มีใครคอยเฝ้า แม้แต่สาวใช้คนเดียวก็ยังไม่มี
ดูเหมือนว่า… คนที่อาศัยอยู่ที่นี่จะลึกลับมาก
ดูท่าทางแล้ว นางเพียงต้องทำให้คนในบ้านสลบไปเป็นใช้ได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าในนั้นมีคนกี่คน เป็นชายหรือเป็นหญิง มีวรยุทธ์หรือไม่ เป็นผู้ใหญ่หรือเป็นเด็ก
หากเป็นเพียงคนธรรมดา ก็ย่อมไม่เป็นปัญหาสำหรับนาง
แต่ถ้าเป็นคนที่มีวิชาต่อสู้สูงส่ง เช่นนั้นก็เป็นปัญหาแล้ว
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ ครุ่นคิดอยู่ที่เดิมเป็นเวลานาน สุดท้ายแล้วก็หรี่ตา และตัดสินใจจะเข้าไปในเรือนเพื่อค้นหา
ฝีเท้าของนางเบามาก ขณะเดินไปตามมุมกำแพง เผยตัวให้น้อยที่สุด เข้าไปใกล้ตัวเรือนช้าๆ
เมื่อขาสองข้างก้าวเดินไปถึงใต้ต้นไม้ที่ซ่อนสิ่งของไว้ นางก็ค่อยๆ หยุดลง สุดท้ายแล้วยังคงเดินเข้าไปใกล้อีกนิด
ในหูนั้นนอกจากเสียงนกแมลงแล้ว ก็ไม่มีเสียงอื่นดังอีกเลย
ฮูหยินใหญ่พูดถูก สถานที่นี้ห่างไกลเกินไป และดูมืดมนเล็กน้อย
เช่นนั้นก็ดี อย่างน้อยสำหรับนางแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
นางขยับเข้าไปใกล้อีกนิด เงี่ยหูอย่างระแวดระวัง แต่ก็ยังไม่มีเสียงอันใด นางคิดว่าในห้องนั้นไม่มีเสียงพูดคุยเลยแม้แต่น้อย เช่นนั้นก็มีโอกาสเจ็ดสิบถึงแปดสิบในร้อยที่ในนั้นจะมีคนเพียงคนเดียว
จนกระทั่งอวี้ชิงลั่วเดินไปใต้หน้าต่างที่เยว่ซินพานางปีนข้ามไปเมื่อครั้งก่อน นางก็ถอนหายใจออกมาเงียบๆ
มีเสียงเบาๆ แว่วมาในหู เป็นเสียงคนเดินอยู่ด้านในห้อง
ฝีเท้าไม่หนัก แต่มั่นคงมาก อวี้ชิงลั่วใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เป็นผู้ใหญ่ น่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีวรยุทธ์พื้นฐาน
อวี้ชิงลั่วขบกรามแน่น รีบเปิดขวดยาที่พกติดตัว เทผงยาทั้งหมดลงในมือของตน
เพียงแต่การเคลื่อนไหวธรรมดาๆ นั้น ในลานบ้านที่เงียบสงบเสียจนน่ากลัว ก็ยังทำให้มีเสียงดังเล็กน้อย เสียงฝีเท้าในห้องหยุดลง ต่อจากนั้น หน้าต่างบนศีรษะของอวี้ชิงลั่วก็เปิดออกในทันที
นางลุกขึ้นยืนในทันใด เข็มเงินในมือแทงเข้าไปยังใบหน้าของคนผู้นั้น
แต่มือขวาของนางถูกคว้าไว้อย่างรวดเร็ว ชั่ววินาทีถัดมา อวี้ชิงลั่วก็ได้ยินเสียงหายใจของตนอย่างชัดเจน
“อวี๋จั้วหลินหรือ?”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ใครกันนะ หรือว่ากระจั๊วนั่นก็มีตัวจริงตัวปลอมด้วย?
ไหหม่า(海馬)