อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 950 เย่ซิวตู๋และองค์ชายเจ็ดไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ
ตอนที่ 950 เย่ซิวตู๋และองค์ชายเจ็ดไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ
ตอนที่ 950 เย่ซิวตู๋และองค์ชายเจ็ดไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ
ใบหน้าของอวี๋จั้วหลินเปลี่ยนแปลงไปมาก อยากจะเคลื่อนไหวเพื่อจับนางไว้ แต่ก็พบว่าสองมืออ่อนปวกเปียก ไม่สามารถทำอย่างใจต้องการได้
อวี้ชิงลั่วหัวเราะเยาะครั้งหนึ่ง ทันใดนั้นก็เตะเขาไปด้านข้าง “หกปีก่อนใช้วิธีน่ารังเกียจเช่นนี้ หกปีต่อมาก็ยังมีแต่วิธีสกปรก อวี๋จั้วหลิน เจ้านี่มันสารเลวจริงๆ”
“อวี้ชิงลั่ว!!” อวี๋จั้วหลินร้อนรน แต่กลับทำอันใดไม่ได้เลย อยากจะตะโกนให้ดัง แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับเบาเป็นอย่างมาก ไม่มีแม้แต่แรงจะเปล่งเสียงให้ดังกว่านี้
อวี้ชิงลั่วกลับไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย เดินไปทางเฟยเกอแทน
เฟยเกอเงยหน้าขึ้นมาทันทีพร้อมดวงตาแดงฉาน “เจ้า เจ้าวางยาตั้งแต่ตอนไหนกัน?”
“วางยาตั้งแต่ตอนเข้ามาแล้วล่ะ” อวี้ชิงลั่วนั่งยองๆ ต่อหน้านางพร้อมรอยยิ้ม “ข้ายังต้องขอบคุณเจ้ามากที่ปรากฏตัว จึงช่วยซื้อเวลาให้ข้าได้นิดหน่อย”
“เจ้า…”
“จะว่าไป กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงและองค์ชายเจ็ดถือว่ากล้ามากนะ กล้าลักขื่อเปลี่ยนเสา พาอวี๋จั้วหลินออกจากคุกหลวง จิ๊ๆ เจ้าว่าหากฝ่าบาททรงรู้เรื่องนี้เข้า องค์ชายเจ็ดจะเป็นเช่นไร? จะถูกจับขังเหมือนองค์รัชทายาทที่ถูกปลดหรือไม่? หรือว่าฝ่าบาทจะทรงกริ้วมาก และลดวรรณะให้เป็นเพียงสามัญชนเหมือนองค์ชายแปดเย่ฮ่าวหรานกันแน่?”
เฟยเกอเปลี่ยนสีหน้า แต่ก็กลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว แค่นหัวเราะออกมา “เจ้าไม่มีหลักฐาน จะบอกได้อย่างไรว่าองค์ชายเจ็ดเป็นผู้กระทำ? ขอเพียงใต้เท้าอวี๋ไม่ยอมรับ องค์ชายเจ็ดไม่ยอมรับ พวกเราก็ล้วนบอกได้ว่าถูกเจ้าพาออกมาจากคุกหลวง ทั้งยังจงใจพาไปปรากฏตัวต่อหน้าฝ่าบาท ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่จู่ๆ เจ้าก็ปรากฏตัวที่จวนอวี๋ก็น่าสงสัยอย่างมากด้วย”
นางเชื่ออย่างมาก เหนียงเหนียงจะต้องใช้จุดนี้มาหาช่องโหว่เป็นแน่
อวี้ชิงลั่วมีท่าทางเข้าใจในทันที “นั่นสินะ เหตุใดเจ้าจึงฉลาดนัก ข้าเกือบลืมไปเลย เราไม่มีหลักฐานนี่นา เช่นนั้นจะทำอย่างไรดีเล่า จริงสิ วางยาให้เจ้าทั้งคู่ตายไปเสียเลยดีกว่า อย่างไรต่อให้เจ้าตายอยู่ที่นี่ คนของจวนอวี๋ก็ไม่กล้าปริปากอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นทุกคนก็จะรู้ว่าใต้เท้าอวี๋แอบหนีออกจากคุกหลวงมาน่ะสิ?”
เฟยเกอเงยหน้าในทันที จ้องมองอวี้ชิงลั่วเขม็ง
แต่กลับพบว่า ถึงแม้นางจะดูมีท่าทางสบายๆ แต่แววตาของนางจริงจังมาก
นางคิดอย่างจริงจัง จริงจังมากๆ เกี่ยวกับว่าจะวางยาให้ทั้งคู่ตายอย่างไรดี
“แม่นางเฟยเกอ จิตใจเจ้าชั่วร้ายเพียงนี้ มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ก็มีแต่จะทำร้ายคนอื่น”
อวี้ชิงลั่วยิ้มแล้วค่อยๆ ลุกขึ้น ที่ปลายนิ้วมีเข็มเงินอันหนึ่ง ขณะที่ฝีเท้าก้าวผ่านนางไป เข็มเงินนั้นก็พุ่งปักเข้าที่เหนือศีรษะของอีกฝ่ายทันที
รูม่านตาของเฟยเกอหดลง ทั้งร่างสั่นสะท้าน ต่อจากนั้นร่างก็ทรุดฮวบลงกับพื้น ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อีก
อวี๋จั้วหลินเห็นทุกอย่างนี้อย่างชัดเจน เขาเบิกตากว้าง มองอวี้ชิงลั่วที่กำลังเดินเข้าหาตนทีละก้าวๆ เหมือนกับว่า…นางคือพญามัจจุราชที่หมายจะเอาชีวิตของตน
“ใต้เท้าอวี๋ ที่ผ่านมาข้าไม่เคยหาโอกาสแก้แค้นเลย ความทุกข์ทรมานที่ได้รับเมื่อตอนนั้น ข้าไม่เคยลืมแม้แต่วินาทีเดียว หลายปีมานี้ ทุกครั้งที่นึกถึง ก็อยากจะหั่นเจ้าให้เป็นชิ้นๆ ตอนนี้มีโอกาสดีๆ มาอยู่ตรงหน้าข้า วันนี้ต่อให้ข้าฆ่าเจ้า ก็ไม่มีใครสืบมาถึงตัวข้า ถึงขนาดที่ว่าไม่มีใครกล้าสืบสวนเรื่องนี้อย่างเปิดเผย เจ้าว่ามาสิ ข้าควรคว้าโอกาสนี้เอาไว้หรือไม่?”
ลมหายใจของอวี๋จั้วหลินถี่ระรัวขึ้นชั่วขณะ มองเข็มเงินในมือของนาง จากนั้นก็คิดว่าหญิงผู้นี้มีความสามารถในการฆ่าตนจริงๆ
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมา ตอนนี้หญิงผู้นี้กลายเป็นคนโหดเหี้ยมไปแล้ว เมื่อครู่ตอนที่ฆ่าเฟยเกอ นางไม่แม้แต่จะกะพริบตา นับประสาอะไรกับตนที่นางมีความเกลียดชังอย่างลึกซึ้งกัน
เขาอยากจะหนี อยากจะกรีดร้อง แต่ราวกับว่าความรู้สึกและการรับรู้ในร่างกายของตนนั้นไม่ใช่ของตนอย่างไรอย่างนั้น ไม่สามารถออกแรงได้เลย
อวี้ชิงลั่วมายืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว “น่าสงสารท่านแม่ของเจ้า เป็นพ่อแม่ที่ลูกต้องมาตายก่อน แต่ว่านะ คนที่น่าสงสารย่อมมีคนที่เกลียด ตอนนั้นที่ทำร้ายข้า นางก็ทำเอาไว้อย่างน่าจดจำมากเช่นเดียวกัน”
“อวี้ชิงลั่ว… ชิงลั่ว ชิงลั่ว หากเจ้าไว้ชีวิตข้า ต่อไปข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าอีก ข้าจะไม่มีทางร่วมมือกับองค์ชายเจ็ดด้วย เจ้าปล่อยข้าเถิด ข้าจะหนีไปให้ไกลเลย ตกลงหรือไม่ ตอนนั้น ตอนนั้นข้าทำผิดกับเจ้า แต่เจ้าเห็นแก่ที่เราเคยเป็นสามีภรรยากันเถิด อย่าได้…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ มือของอวี้ชิงลั่วก็ฟาดลงไปที่กระหม่อมของเขาแล้ว
ดวงตาของอวี๋จั้วหลินเบิกกว้าง ราวกับว่าไม่อยากเชื่อว่าชีวิตของตนจะมาตกอยู่ในกำมือของอวี้ชิงลั่วเช่นนี้
ผู้หญิงคนนี้ที่ตอนนั้นเขาพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อกำจัดนาง
“เจ้าพูดไร้สาระมากมายเสียจริง จะตายก็ตายไปแบบง่ายๆ เสียหน่อยไม่ได้หรือ?”
สามีภรรยาหรือ? อวี้ชิงลั่วอยากจะหัวเราะ เหตุใดเขากล่าวออกมาเช่นนี้แล้วไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนเสียบ้าง?
ทันใดนั้นนางก็ดึงเข็มออกมา ไม่มองอวี๋จั้วหลินแม้แต่แวบเดียว เดินไปตรงหน้ากระถางธูป โยนยาเม็ดหนึ่งลงไป
ไม่นานนักกลิ่นสดชื่นจางๆ ก็โชยออกมาในห้อง กลบกลิ่นอื่นๆ อย่างรวดเร็ว
อวี้ชิงลั่วเก็บเข็มเงินไว้อย่างดี ถอนหายใจออกมาเบาๆ
ราวกับว่าก้อนหินก้อนใหญ่ที่ติดอยู่ในใจของนางมาหลายปีถูกยกออกไปทันใด จริงๆ แล้วการฆ่าอวี๋จั้วหลินนั้นไม่ใช่เรื่องยากอันใด ขอเพียงเขาสูญเสียตำแหน่งราชการ สูญเสียความไว้วางใจจากฝ่าบาท ก็ใช้เพียงเข็มเงินอันเดียวเท่านั้น
เปิดประตูห้อง ด้านนอกยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
ก็จริง เรือนหลังนี้ถูกตกแต่งใหม่ก็น่าสงสัยมากอยู่แล้ว หากมีคนอยู่ที่นี่มากหน่อย จะเป็นการบอกทุกคนอย่างชัดเจนว่าอวี๋จั้วหลินแหกคุกไม่ใช่หรือ?
อวี้ชิงลั่วปิดประตู จากนั้นก็เดินไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แม่นมเก๋อกล่าวถึง
นางมองไปรอบๆ มีพลั่วอยู่ข้างๆ กระถางดอกไม้พอดี ถึงแม้เรือนจะได้รับการปรับปรุง แต่การเหลือของชิ้นนี้ไว้กลับช่วยนางได้มาก
อวี้ชิงลั่วเห็นตำแหน่งที่แม่นมเก๋อบอกไว้ จากนั้นก็เริ่มขุดดินอย่างระมัดระวัง
สิ่งของถูกฝังไว้ค่อนข้างลึก อวี้ชิงลั่วขุดอยู่นาน ก่อนจะขุดเจอกล่องสี่เหลี่ยมกล่องหนึ่ง
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจโล่งอก นำเอากุญแจที่แม่นมเก๋อให้นางไว้ออกมาแล้วเปิดกล่อง
ด้านในมีจี้หยกรูปร่างแปลกประหลาดอย่างมากสองอันวางอยู่ ทั้งยังมีสมุดอีกเล่มหนึ่ง
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว อ่านตัวหนังสือบนสมุดเล่มนั้นอย่างตั้งอกตั้งใจ ดูเหมือนว่าจะมีเพียงตัวหนังสือที่ถูกเขียนไว้รางๆ ไม่กี่ตัว “ดินแดนเหมิงอะไรสักอย่าง… อะไรนะ?”
มีเพียงคำว่าดินแดนเหมิงที่อ่านออกอย่างชัดเจน ส่วนคำอื่นๆ เขียนอันใดไว้ นางล้วนไม่รู้เลย
นางลังเลครู่หนึ่ง จากนั้นก็เปิดสมุดออกมาอย่างระมัดระวัง
สองสามหน้าแรกก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ มีเพียงชื่อคนไปจนถึงเรื่องราวชีวิตของเขาเท่านั้น ถึงแม้มันจะสั้น แต่เพียงมองดูแวบเดียวก็เห็นชัดเจน
ใบหน้าของอวี้ชิงลั่วงุนงง ประหลาดใจอย่างมาก แม่นมเก๋ออยากให้นางหาของสิ่งนี้ไปทำไม?
นางเปิดไปด้านหลัง สุดท้ายแล้วก็เปิดไปหน้าสุดท้ายโดยตรง ใช้แววตากวาดมองอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปครู่ใหญ่ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป แววตาดูตกตะลึงอย่างมาก สมุดในมือหล่นกลับไปอยู่ในกล่องดังตุบ
“เป็น เป็นไปได้อย่างไร เย่ซิวตู๋และองค์ชายเจ็ด… ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ… ที่มีพ่อแม่เดียวกันหรือ?”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
กระจั๊วตายง่ายไปไหม น่าจะโดนเด็ดแขน เด็ดขา เด็ดกระเจียวก่อนแล้วค่อยตาย ให้สมกับความชั่วที่เคยทำไว้กับชิงลั่ว
เอาแล้ว ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ แสดงว่าองค์ชายเจ็ดนี่ลูกชู้รักของนังกุ้ยเฟยแน่ๆ
ไหหม่า(海馬)