อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 959 สูตรลับพิเศษ
ตอนที่ 959 สูตรลับพิเศษ
ตอนที่ 959 สูตรลับพิเศษ
อวี้ชิงลั่วมองเขาด้วยความกังวล อ้าปากด้วยความลังเลที่จะพูด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยคำใดออกไป
สีหน้าของเย่ซิวตู๋ค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้น หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า “พรุ่งนี้เราไปหาน้องชายของเจียงอวิ๋นเซิงกัน”
อวี้ชิงลั่วรู้สึกตกใจขณะมองไปยังใบหน้าแน่วแน่ของเย่ซิวตู๋ และรู้สึกว่าเขา… กำลังคับแค้นใจ
นางจับมือเขาแน่นขึ้นแล้วส่งเสียง ‘อืม’
เย่ซิวตู๋หลับตาลง ทันใดนั้นก็มีเสียงแผ่วเบาดังมาจากข้างนอก เมื่ออวี้ชิงลั่วเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นฟ่านผิงอวิ๋นมายืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้านนอกหน้าต่างตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้และขยิบตาให้เย่ซิวตู๋
เมื่อฟ่านผิงอวิ๋นปรากฏตัวขึ้น อวี้ชิงลั่วก็นึกถึงฟ่านซิวอวิ๋นที่กำลังจะไปหาฆาตกรที่ลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้
สีหน้าของเย่ซิวตู๋กลับคืนสู่ความสงบ เขาปล่อยมืออวี้ชิงลั่วแล้วพูดว่า “ข้าจะออกไปข้างนอกสักพัก ฟ่านซิวอวิ๋นน่าจะกลับมาแล้ว”
“ได้เลย”
อวี้ชิงลั่วปล่อยมือเขา แล้วมองดูแผ่นหลังของเขาหายเข้าไปในห้อง
เพียงแต่ว่าหัวใจกลับสั่นสะท้านเล็กน้อย เมื่อเย่ซิวตู๋บอกว่าจะไปพบน้องชายของเจียงอวิ๋นเซิง ก็คาดเดาได้ว่าน้องชายของเจียงอวิ๋นเซิงน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหมิงกุ้ยเฟย ไม่เช่นนั้นเหมิงกุ้ยเฟยคงไม่ร้อนใจจนสังหารอาจารย์ของเจียงอวิ๋นเซิง และยังไล่ล่าเขาด้วย
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่อยู่ในมือน้องชายของเจียงอวิ๋นเซิงย่อมต้องไม่ธรรมดา
เขากลับมาพักหนึ่งแล้ว แต่เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน แสดงว่าเขาน่าจะเคยลังเลใจมาก่อน
ตอนนี้เมื่อเขารู้ว่าฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ โดยมือสังหารเป็นคนของเหมิงกุ้ยเฟย เขาก็ยิ่งโมโหมาก
อวี้ชิงลั่วลูบหว่างคิ้วของตน นางไม่รู้ว่าชายที่ชื่อสวีอี้นั้นมีอะไรอยู่ในมือกันแน่
และสมุดบันทึกในมือของนางเองก็…ทำให้นางไม่รู้จะบอกเย่ซิวตู๋อย่างไรดี
ช่างมันเถิด หลังจากไปหาสวีอี้และเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของเขาก่อน แล้วนางค่อยคุยกับเย่ซิวตู๋ก็ได้
นางวิตกกังวลนัก เมื่อเย่ซิวตู๋กลับมา ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว
เย่ซิวตู๋ถือกระดาษหนึ่งแผ่นไว้ในมือ หลังจากเข้ามาในห้องแล้วก็วางมันลงบนโต๊ะ
อวี้ชิงลั่วก้าวเข้าไปดู “นี่คืออะไร?”
“หน้าตาของมือสังหาร” เขาวาดขึ้นมาตามคำอธิบายของฟ่านซิวอวิ๋น “มือสังหารหลบหนีไปได้ แม้จะบาดเจ็บแต่ไม่สาหัส”
อวี้ชิงลั่วเอียงคอมองไปยังภาพนั้น แต่ไม่ว่าจะดูอย่างไร… เหตุใดจึงรู้สึกว่าดูไม่เหมือนคนปกติเลย?
“ท่านแน่ใจหรือว่ามือสังหารคนนั้นมีหน้าตาเช่นนี้จริง ๆ? มันจะไม่ดูดีมากเกินไปหน่อยหรือ?
เย่ซิวตู๋หัวเราะ แล้วจับมือนางให้มานั่งตักเขา “ข้าคิดว่าคำพูดของฟ่านซิวอวิ๋นนั้นเกินจริงเสมอ บางส่วนคงคลาดเคลื่อนเพราะถูกจินตนาการเสริมเติมแต่งไปบ้าง แต่ฟ่านซิวอวิ๋นบอกว่ามือสังหารคนนี้หน้าตาดีมาก”
อวี้ชิงลั่วเม้มปาก หากหน้าตาดีเหตุใดไม่แต่งตัวเป็นนางกำนัล แต่แต่งเป็นขันที?
“เอาล่ะ อย่าคิดมากไปเลย ฟ่านซิวอวิ๋นกล่าวว่าถึงแม้ว่าคนผู้นั้นจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ในเวลาอันสั้น” เมื่อเย่ซิวตู๋เห็นว่าเริ่มดึกแล้ว เขาก็ลุกขึ้นยืน “รีบนอนกันเถิด พรุ่งนี้ต้องกลับไปที่วังเพื่อติดตามอาการของเสด็จพ่อ”
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า นางก็เหนื่อยมากจริง ๆ
ก่อนหน้านี้นางจัดการอวี๋จั้วหลินและเฟยเกอด้วยตัวเอง และไม่รู้ว่าเหมิงกุ้ยเฟยจะได้ข่าวอะไรบ้างหรือไม่
ทว่าข่าวการลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้นั้นยิ่งใหญ่กว่า เมื่อเทียบกับการตายของเฟยเกอและอวี๋จั้วหลิน จึงคาดว่านางคงไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก
คนเหล่านี้ตายไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เกรงว่าเหมิงกุ้ยเฟยคงจะไม่ได้สนใจชายตามองด้วยซ้ำ
เช้าวันรุ่งขึ้น อวี้ชิงลั่วเข้าไปในวังพร้อมกับเย่ซิวตู๋
สีพระพักตร์ของฮ่องเต้ดีขึ้นมาก เมื่อเห็นว่าพวกเขาพาหนานหนานและเย่หลานเฉิงเข้ามาในวัง รอยยิ้มก็ปรากฏบนพระพักตร์ ขณะดึงเด็กน้อยทั้งสองมาพูดคุยข้างกาย
ฟังจากคำพูดของเหมียวเชียนชิวแล้ว เหมิงกุ้ยเฟยและเหล่าพระสนมหลายคนมาเยี่ยมอีกครั้ง แต่ถูกไทเฮาสั่งห้ามไว้
ฮ่องเต้ยังตรัสอีกว่าไม่ได้พบใครเลย เหมิงกุ้ยเฟยจึงต้องกลับไปที่ตำหนักอี๋ซิ่ง
ใบหน้าของเย่ซิวตู๋เรียบเฉยเมื่อเขาได้ยินดังนั้น ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว
อวี้ชิงลั่วลอบถอนหายใจ ก่อนบอกให้ฮ่องเต้พักผ่อนและทำใจให้สบาย จากนั้นก็เก็บกระเป๋ายากลับไป
ฮ่องเต้ขอให้หนานหนานและเย่หลานเฉิงอยู่ด้วย และบอกให้พวกเขารับประทานอาหารกลางวันก่อนออกเดินทาง
เย่ซิวตู๋มองฮ่องเต้ที่กำลังพูดคุยกับเด็กทั้งสองที่อยู่ข้างเขา จึงบอกให้ฟ่านฉี่อวิ๋นช่วยพาหนานหนานกลับตำหนักหลังอาหารกลางวัน
จากนั้นเขาและอวี้ชิงลั่วก็ไปที่ร้านขายขนมของเจียงอวิ๋นเซิง บนถนนฝั่งตะวันออก
ร้านขายขนมบนถนนฝั่งตะวันออกมีไม่มากนัก พวกเขาจึงพบร้านขายขนมที่หมอเจียงกล่าวถึงในไม่ช้า
อวี้ชิงลั่วยืนอยู่ข้างนอก ขณะมองร้านค้าที่ได้รับการตกแต่งอย่างเรียบร้อย แม้ว่ามันจะดูเก่า แต่ก็สะอาดมาก
คนในร้านมีความชำนาญในการบรรจุขนมที่ลูกค้าต้องการซื้อ แม้กระทั่งวิธีการพับถุงกระดาษก็งดงามมาก
เมื่อเห็นอวี้ชิงลั่วเข้ามา คนกลุ่มนั้นก็ชะงักไปครู่หนึ่ง
ร้านของพวกเขามีขนาดเล็กและลูกค้าก็เป็นคนธรรมดา หากเป็นพวกคนจากครอบครัวใหญ่ ร้านค้าที่พวกเขาไปก็ล้วนแต่เป็นร้านค้าขนาดใหญ่
เหตุใดจึงมีลูกค้าที่สวมเสื้อผ้าประณีตเช่นนี้เข้ามาในร้านเล็ก ๆ ของพวกเขา
ชายคนนั้นงงงวย แต่เขาก็ยังถามด้วยรอยยิ้ม “แม่นาง เจ้าต้องการซื้ออะไรหรือ?”
“ข้าได้ยินมาว่าร้านของเจ้ามีผลไม้แช่อิ่มชนิดหนึ่งรสเลิศยิ่งนัก อีกทั้งยังมีขายที่ร้านของพวกเจ้าเพียงแห่งเดียวใช่หรือไม่?”
ชายหนุ่มคนนั้นหัวเราะทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น “ข้าไม่อยากจะบอกว่า ผลไม้แช่อิ่มนี้หมักดองด้วยสูตรลับพิเศษของเจ้าของร้านเราเอง จึงมีรสเลิศยิ่งนัก”
เขาพูดแล้วก็เดินไปด้านข้างทันที ก่อนหยิบผลไม้แช่อิ่มเล็ก ๆ วางลงในจาน แล้วส่งให้อวี้ชิงลั่ว “แม่นางอยากลองชิมหรือไม่”
อวี้ชิงลั่วหยิบลูกหนึ่งเข้าไปในปาก จากนั้นดวงตาของนางก็เป็นประกาย มันรสชาติดีจริง ๆ หากนางซื้อกลับไปให้หนานหนานและเด็ก ๆ คนอื่นกิน พวกเขาต้องชอบแน่นอน
“เอาอันนี้ให้ข้าสองชั่ง” อวี้ชิงลั่วขอให้ชายหนุ่มห่อผลไม้แช่อิ่ม แล้วหันไปมองภายในร้านค้า
หลังจากนั้นไม่นานก็ถามว่า “เจ้าบอกว่าผลไม้แช่อิ่มนี้เป็นสูตรลับพิเศษของเจ้าของร้านของเจ้าใช่หรือไม่? เจ้าของร้านของพวกเจ้าอยู่ที่ไหน? ข้าอยากคุยอะไรบางอย่างกับเขา”
ชายคนนั้นผงะไปครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แม่นางต้องการซื้อสูตรลับนี้หรือ?”
“เพราะเหตุใด หลายคนมาขอซื้อมันหรือ?”
“มีมากอยู่ แต่คนสูงศักดิ์อย่างแม่นางยังคงเป็นคนแรก” ชายคนนั้นเหลือบมองนางและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “เช่นนั้นแม่นางก็โปรดรอสักครู่ ประเดี๋ยวข้าจะไปบอกเถ้าแก่ให้”
เดิมทีเจ้าของร้านสั่งไว้ว่าหากมีคนต้องการสูตรลับเฉพาะ ก็ให้ไล่ไปเลย แต่ชายหนุ่มเห็นว่านางเป็นคนใจกว้าง เพราะนางให้เงินแก่เขาด้วย เพื่อให้เขาช่วยเป็นธุระให้
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า แต่ก่อนที่ชายคนนั้นจะเข้าไปหลังร้าน ผ้าม่านที่ประตูก็ถูกเปิดออก แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “เจ้าต้องการให้ข้าบอกอะไร?”
อวี้ชิงลั่วเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นชายร่างผอมบางคนหนึ่งเดินเข้ามา
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เอาการซื้อผลไม้แช่อิ่มบังหน้าแหละ จริงๆ คือคุยเรื่องลับ
สวีอี้รู้อะไรมาเหรอ?
ไหหม่า(海馬)