อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 976 องค์ชายสามบ้าไปแล้ว
ตอนที่ 976 องค์ชายสามบ้าไปแล้ว
ตอนที่ 976 องค์ชายสามบ้าไปแล้ว
บรรยากาศของเมืองหลวงในตอนเย็นนั้นดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ประชาชนส่วนใหญ่ก็ล้วนรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างแปลกไป จึงพากันกลับบ้านโดยเร็ว ทำให้ตามท้องถนนมีคนอยู่น้อยมาก
ที่ประตูตำหนักขององค์ชายสามมีคนเฝ้าอยู่สี่คน ดูแล้วแต่งกายเหมือนคนเฝ้าประตูธรรมดา แต่แววตาดูเฉียบคมอย่างมาก
ฟ่านผิงอวิ๋นจูงมือหนานหนานยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลนัก แววตาหรี่ลงเล็กน้อย
ทั้งสี่คนนั้นเป็นคนขององค์ชายเจ็ด จะเก็บเอาไว้ไม่ได้
เขากวักมือเรียกฟ่านฉี่อวิ๋นมาข้างหน้า “เจ้าพาสองสามคนไปเสีย จัดการสี่คนนั้น”
“ขอรับ” ฟ่านฉี่อวิ๋นพยักหน้า นำตัวมือสังหารที่อายุพอๆ กับเขามาสามคน ทุกคนเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงกัน เพียงพริบตาเดียวก็ไปถึงตรงหน้าคนเฝ้าประตูทั้งสี่คนนั้น
เหล่าผู้เฝ้าประตูเพียงชะงักไป จากนั้นก็พุ่งโจมตีใส่พวกเขาโดยไม่ลังเล
ฟ่านฉี่อวิ๋นแค่นหัวเราะ กุมใบมีดบางๆ หนึ่งเล่มในมือ เพียงรอให้ไม่กี่คนนั้นตรงเข้ามาตรงหน้าเขาแล้วกวาดเพียงครั้งเดียว ใบมีดนั้นก็มีเลือดสีแดงสดเพิ่มขึ้นมา ไม่กี่คนนั้นรู้สึกเพียงว่าที่คอมีเลือดหยดติ๋งๆ ไม่นานนักก็พากันล้มลงกับพื้น
หนานหนานมองดูอยู่ใต้ต้นไม้ ดึงแขนเสื้อของฟ่านผิงอวิ๋นอย่างตั้งอกตั้งใจแล้วกล่าว “สุดยอดเกินไปแล้ว”
ฟ่านผิงอวิ๋นหัวเราะให้เขา “ทำไมเล่า? เจ้าทำไม่ได้หรือ?” เขาเก่งเพียงนั้น จะบอกว่าเขาไม่สามารถล้มคนหนึ่งคนในครั้งเดียว จึงได้อิจฉาฉี่อวิ๋นอย่างนั้นหรือ?
“ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ขอรับ แต่ว่าข้าอายุยังน้อย หากจะใช้ท่านั้น จะต้องกระโดดให้สูงจึงจะใช้ได้ หากกระโดดสูงแล้วท่าทางจะไม่น่าดูนัก ท่านดูท่านอาสามฟ่านสิ เพียงงอตัวก็ยังดูสวยงามอย่างมาก หล่อสุดๆ ไปเลย” หนานหนานเสียใจมาก กระโดดอยู่ตรงนั้นสองครั้ง หลังพบว่าช่วงนี้ตนกินได้น้อยลง แม้แต่ความสูงก็ไม่เพิ่มขึ้น
“…” ฟ่านผิงอวิ๋นรู้สึกเหมือนตนไม่ใช่คนในโลกเดียวกับเขา ช่องว่างระหว่างวัยห่างกันมากเกินไปแล้ว
ขณะพูดคุยกันอยู่ ทางด้านนั้นก็พากันจัดการศพของคนเฝ้าประตูทั้งสี่คนเรียบร้อยแล้ว
ฟ่านผิงอวิ๋นจึงได้พาหนานหนานเดินเข้าไปในตำหนักองค์ชายสามอย่างรวดเร็ว
ในตำหนักเงียบสงัด เดินไปสองสามก้าวแล้วก็ยังไม่เห็นคนรับใช้แม้แต่คนเดียว
ฟ่านผิงอวิ๋นมุ่นคิ้วแน่น ว่ากันตามเหตุผลแล้ว ในเมื่อองค์ชายเจ็ดยังไม่มีการเคลื่อนไหว ในตำหนักก็ควรจะเหมือนยามปกติเพื่อหลอกตาคนอื่นจึงจะถูก
เหตุใดตอนนี้จึงดูแปลกประหลาดอย่างมาก
“มีกลิ่นเลือด” ฟ่านฉี่อวิ๋นที่อยู่ข้างหน้าหยุดฝีเท้า ทันใดนั้นก็หันมามองพี่รองของตนเอง
หนานหนานสูดจมูกอย่างแรง จากนั้นก็พยักหน้าหนักหน่วง “ข้าเองก็ได้กลิ่น”
ฟ่านผิงอวิ๋นเปลี่ยนสีหน้าไปอย่างมาก “หรือว่าเกิดเรื่องแล้ว?”
ตอนนี้ทุกคนต่างไม่สนใจจะหาที่ซ่อนแล้ว รีบวิ่งไปยังด้านในอย่างรวดเร็ว
เมื่อวิ่งผ่านสวนด้านหน้าแล้วไปยืนอยู่ตรงประตูกลาง สองสามคนมองเห็นศพหนึ่งนอนอยู่ที่พื้น ดูแล้วเหมือนจะเป็นคนรับใช้ในตำหนัก
หนานหนานปล่อยมือฟ่านผิงอวิ๋นแล้วรีบวิ่งไปด้านในอย่างกระวนกระวาย
ไม่ว่าจะไปที่ใด ก็เห็นคนท่าทางเหมือนสาวใช้หนึ่งคนและเด็กรับใช้ผู้ชายหนึ่งคนนอนอยู่กับพื้น
เมื่อตรงไปข้างหน้าอีก ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องไม่หยุดหย่อน
ฟ่านผิงอวิ๋นรีบวิ่งไปข้างกายของเขา รีบจับมือของเขาไว้ เมื่อมองไปข้างหน้า สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
ในเรือนหลังใหญ่ มีศพสามสี่ศพนอนอยู่เกลื่อนกลาด และคนที่ฟาดฟันกระบี่ยาวไปมาอย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงกลาง ก็คือองค์ชายสามเจ้าของตำหนักนี้นี่เอง
“เข้ามา อย่างไรก็ต้องตายอยู่แล้ว ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทุกคนเสียก่อน ข้าจะฆ่าพวกเจ้า” ใบหน้าขององค์ชายสามเต็มไปด้วยเลือด คนรับใช้ที่กรีดร้องล้วนพากันซ่อนตัว มีคนคิดอยากจะไปยึดกระบี่มาก็ถูกองค์ชายสามแทงจนบาดเจ็บ
หนานหนานกวาดตามองทั้งเรือนอย่างกระตือรือร้น สุดท้ายก็มองไปยังเย่หลานเวยที่ซ่อนตัวอยู่หลังภูเขาจำลองและเบิกตากว้างอย่างหวาดผวา
เย่หลานเวยตกใจเสียจนร้องไห้ลั่น “ท่านพ่อ ท่านพ่อหยุดเถิดขอรับ หยุดเถิด”
“เจ้ามานี่ ข้าจะฆ่าเจ้าก่อน จะได้ไม่ต้องมีคนนำเจ้ามาขู่ข้า ฮ่าๆๆ ข้าจะฆ่าเจ้า”
ราวกับว่าองค์ชายสามเป็นบ้าไปแล้ว ทันใดนั้นก็พุ่งตัวเข้าใส่เย่หลานเวย
ทุกคนต่างก็ตกใจกันไปหมด หนึ่งในนั้นที่เดิมทียืนอยู่ข้างกายเย่หลานเวย ดูท่าทางแล้วเหมือนจะเป็นเด็กชายรับใช้ก็รีบวิ่งเข้ามาทันที
องค์ชายสามมองเขาแวบหนึ่ง แต่ยิ่งฟาดฟันเข้าใส่เขาอย่างรุนแรงกว่าเดิม “ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนของน้องเจ็ด ฮ่าๆๆ น้องเจ็ดต้องการก่อกบฏ และต้องการลากข้าไปเข้าร่วมด้วย ข้าจะบอกให้ ไม่มีทาง ต่อให้ข้าตายไป ก็ไม่มีทางเข้าร่วมกับเขาเป็นแน่ เขานำชีวิตคนทั้งตำหนักมาขู่ข้า ตอนนี้ข้าจะฆ่าทุกคนเสียให้หมด ดูสิว่าเขาจะเอาอะไรมาขู่ข้า จะเอาอะไรมาขู่ข้า”
เขากล่าวจบก็แทงกระบี่เข้าใส่เด็กชายรับใช้ผู้นั้นอย่างแรง
องค์ชายสามในยามปกติดูแล้วไม่ทำงานทำการอันใดเลย แต่ในฐานะองค์ชายแห่งอาณาจักรเฟิงชาง ฝีมือของเขาจึงไม่ได้อ่อนแอ เด็กชายรับใช้ผู้นั้นกำลังพะว้าพะวัง ไม่กล้าลงมืออะไรมาก เมื่อรับมือสองสามครั้งก็ถูกองค์ชายสามแทงกระบี่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ล้มลงกับพื้น
เมื่อเห็นว่าองค์ชายสามพุ่งตัวเข้าใส่เย่หลานเวยอีกครั้ง เด็กชายรับใช้ผู้นั้นที่ล้มลงกับพื้นก็รีบตะโกนบอกเพื่อน “รีบพาซื่อจื่อน้อยและพระชายาจากไปเสีย ออกจากตำหนักพาไปส่งให้ทางด้านองค์ชายเจ็ด”
“ฝันไปเถิด ใครก็อย่าแม้แต่จะคิด” องค์ชายสามตะโกนลั่น ฝีเท้าเร็วยิ่งขึ้น พุ่งตัวเข้าใส่เย่หลานเวยอย่างดุร้าย
เมื่อสายตาเห็นว่าใกล้จะไปถึงตรงหน้าเย่หลานเวยแล้ว พระชายาที่เดิมทีอยู่ห่างจากเย่หลานเวยไปสองก้าวก็รีบสะบัดเอาสาวใช้ที่กดร่างของนางเอาไว้ออกไป เหวี่ยงเย่หลานเวยลงไปกับพื้นแล้วคุ้มกันร่างกายของเขา
“หลานเวยไม่ต้องกลัว แม่อยู่ตรงนี้ ไม่ต้องกลัว”
สาวรับใช้ดูแล้วก็เหมือนเป็นคนที่มีวิชาต่อสู้พื้นฐานอยู่ เห็นเช่นนั้นก็รีบไปขวางกระบี่ขององค์ชายสามไว้
องค์ชายสามฟันลงไปด้านข้างครั้งหนึ่ง สาวใช้ผู้นั้นไม่คิดว่าเขาจะเปลี่ยนทิศทาง ล้มลงกับพื้นเสียงดังโดยไม่ทันตั้งตัว
หนานหนานจ้องมองกระบี่เล่มนั้น ราวกับว่าจะตรงเข้าใส่เย่หลานเวยอีกครั้ง รีบจะตรงเข้าไป ใครจะรู้ว่ายังไม่ทันได้ก้าวเท้าก็ถูกฟ่านผิงอวิ๋นจับกลับมาเสียแล้ว
ใบหน้าเขามีรอยยิ้มเคลือบอยู่ “รอเดี๋ยว”
“แต่ว่า…”
“เจ้าไม่เห็นหรือว่าสองคนที่ถูกองค์ชายสามแทงตายเมื่อครู่ล้วนไม่ใช่คนรับใช้ปกติ เดิมทีพวกเขาคอยคุ้มครองอยู่ข้างกายเย่หลานเวยและพระชายา ดูท่าแล้วล้วนมีฝีมือ เจ้าดูเถิด คนที่องค์ชายสามฆ่าล้วนไม่ใช่คนรับใช้ตัวจริงของจวนนี้”
หนานหนานเข้าใจในทันใด “ที่แท้ก็คือเป็นเพียงการแสดง”
ในที่สุดก็มีคนสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ ชายที่ดูเหมือนพ่อบ้านที่อยู่ข้างกายพระชายาเริ่มตะโกน “ไม่ต้องสนใจองค์ชายสามแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาแสร้งบ้า คนที่ถูกฆ่าล้วนเป็นคนของเรา ไม่ต้องสนใจเขา พาซื่อจื่อน้อยและจวิ้นจู่น้อย รวมไปถึงพระชายาออกจากที่นี่ไปเสีย”
ความกังวลพลันปรากฏบนใบหน้าขององค์ชายสาม มือถือกระบี่เดินตรงไป
ทันใดนั้นพ่อบ้านก็หัวเราะเยาะออกมา จับมือของพระชายาแล้วพาดคมกระบี่บนคอของนาง กล่าวกับองค์ชายสาม “เข้ามาสิ ข้าอยากจะคอยดูนักว่าท่านไม่สนใจชีวิตของภรรยาและบุตรจริงๆ หรือ? ดาบนั้นของท่านก็ฆ่าคนมาแล้วไม่น้อย บนนั้นเต็มไปด้วยเลือด คงจะไม่ดีกับพระชายา ให้ข้าฆ่าพระชายาแทนท่านเถิด”
องค์ชายสามผงะ การเคลื่อนไหวของเขาก็หยุดนิ่งไปชั่วขณะ
พ่อบ้านหัวเราะลั่น “องค์ชายเจ็ดบอกแล้ว ต่อให้คนทั้งตำหนักตายหมด ก็ขอเพียงองค์ชายสามยังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ยังเหมือนเดิม ฮ่าๆๆๆ… ฮ่า เอ๋”
เสียงหัวเราะของพ่อบ้านหยุดลงทันที เขารู้สึกเพียงว่าปากชา กระบี่ในมือก็ถูกกระชากออกไป
เมื่อก้มลงมอง ก็เห็นเด็กผู้มีใบหน้าผุดผ่องงดงามคนหนึ่งยืนอยู่
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
องค์ชายสามแกล้งบ้าสินะ แต่คนฝั่งองค์ชายเจ็ดก็ไม่ธรรมดาเลยที่รู้เท่าทันแผนนี้
ไหหม่า(海馬)