อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 977 ข้าจะติดตามแต่หนานหนาน
ตอนที่ 977 ข้าจะติดตามแต่หนานหนาน
ตอนที่ 977 ข้าจะติดตามแต่หนานหนาน
หนานหนานขว้างกระบี่เล่มนั้นออกไปไกล จากนั้นก็กระโดดเตะ ใช้เท้าเตะเข้าไปยังกล่องดวงใจของคนผู้นั้น
“โอ๊ย…” พ่อบ้านหน้าซีด หมอบลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด
หนานหนานส่งเสียงฮึดฮัดสองครั้ง มือน้อยๆ เช็ดหน้าของเขาสองรอบ เสียงร้องเจ็บปวดของคนผู้นั้นดังขึ้นมาในทันใด ปิดหน้าแล้วเริ่มกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นอย่างบ้าคลั่ง
สถานการณ์กะทันหันนี้ทำให้ทุกคนในเรือนไม่ทันตั้งตัว จนกระทั่งศีรษะของพ่อบ้านผู้นั้นโขกเข้ากับหินก้อนใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล จู่ๆ เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น เหล่าคนรับใช้ที่แสร้งทำเป็นเต็มใจตายก็ได้สติฟื้นขึ้นมาในทันที
“นั่นบุตรชายของท่านอ๋องซิว จับเขาไว้”
ภายในพริบตา คนรับใช้ที่เดิมทีก็หลบๆ ซ่อนๆ อยู่ก็พากันชักดาบที่เอวออกมาแล้วมุ่งหน้าเข้าหาหนานหนานอย่างพร้อมเพรียงกัน
ฟ่านผิงอวิ๋นแค่นหัวเราะ ยกมือขึ้น กล่าวเสียงทุ้ม “ลงมือได้”
“ขอรับ” น้ำเสียงดังขึ้นพร้อมกันทันที ฟ่านฉี่อวิ๋นนำมือสังหารเข้าร่วมการต่อสู้ หนึ่งคนต่อสู้กับสองคน ทันใดนั้นก็สลายกลุ่มคนที่พากันพุ่งเข้ามาทันที
ฟ่านผิงอวิ๋นค่อยๆ เดินไปที่ข้างกายของหนานหนาน ยืนตัวตรงคอยคุ้มครองอยู่ข้างกายเขา
พวกองค์ชายสามยิ่งตกตะลึงขึ้นไปอีก ยืนอยู่ที่เดิมด้วยความงุนงง มองผู้ที่มาเยือนอย่างกะทันหันด้วยสายตาเหม่อลอย
จนกระทั่งเย่หลานเวยปาดน้ำตาและมองหนานหนาน แววตาของเขาพลันเป็นประกายฉายกล้า ทันใดนั้นก็ยืนขึ้นแล้ววิ่งเข้ามาหาหนานหนาน “หนานหนาน ฮือๆ หนานหนาน เจ้ามาแล้ว ฮือๆ…”
เขาเริ่มร้องไห้ออกมาอย่างวางใจ ราวกับว่าความคับข้องใจทั้งหมดถูกระบายออกมาในลมหายใจเดียว ทั้งสองมือกอดคอของหนานหนานเอาไว้แน่น เหมือนว่าแทบจะบีบคอเขาอย่างไรอย่างนั้น
หนานหนานถูกเขากอดเสียจนแทบหายใจไม่ออก ถอยเท้าไปสองสามก้าวก่อนจะทรงตัวได้ในที่สุด ร่างเล็กๆ พยายามทรงตัวอย่างมากเพื่อไม่ให้ล้มลงไปที่พื้นพร้อมกับเขา
“เย่ เย่หลานเวย เจ้า เจ้า เจ้าปล่อยนะ ข้าแทบจะ แทบตาเหลือกแล้ว” หนานหนานตบหลังเขาแรงๆ สองครั้ง พยายามอย่างยากลำบากในการหลุดออกจากเงื้อมมือของเขา หันตัวมาแล้วงอตัว จากนั้นก็เริ่มหอบหายใจอย่างหนัก
“หนานหนาน…” เย่หลานเวยดึงเสื้อผ้าของเขาอย่างคับข้องใจ “เจ้ามาแล้ว ช่างดีเหลือเกิน”
หนานหนานหันหน้ามาจ้องมองเขาอย่างดุร้าย แต่เมื่อเห็นเขาร้องไห้จนกลายเป็นเช่นนั้น ยังไม่ทันได้กล่าวคำพูดที่รุนแรงออกมาก็หยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งให้เขาอย่างดูถูก “รีบเช็ดเข้าเสีย เจ้าเป็นซื่อจื่อนะ ร้องไห้จนเป็นเช่นนี้ช่างไม่เหมาะสมเสียจริง”
เย่หลานเวยสูดน้ำมูก แล้วก็สั่งน้ำมูกลงบนผ้าเช็ดหน้าอย่างรุนแรง
หนานหนานรังเกียจเป็นอย่างมากจริงๆ ไม่อยากมองผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นอีกแม้แต่แวบเดียว ไม่เอาผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นแล้ว ให้ตายอย่างไรก็ไม่เอา
เมื่อเห็นว่าเย่หลานเวยดีขึ้นหน่อยแล้วก็วิ่งไปข้างกายขององค์ชายสามทันที
องค์ชายสามยังไม่ทันหายงุนงง แววตามองไปยังคนชุดดำที่กำลังประมืออยู่กับพวกเดนตายเหล่านั้น ขยับริมฝีปากสองครั้ง
จนกระทั่งหนานหนานมาถึงและดึงกระบี่ในมือของเขาออกไป จากนั้นเขาก็ก้มหัวลงมองเด็กตัวเล็กๆ
“เจ้า…”
“ท่านพ่อข้าให้พวกข้ามาที่นี่ ท่านลุงสาม ไม่เป็นอะไรแล้วขอรับ”
องค์ชายสามขยับริมฝีปากอีกครั้ง จากนั้นก็นั่งลงกับพื้นในทันใด ปิดหน้าร้องไห้อย่างขมขื่น “ในที่สุด ในที่สุด…”
พระชายาซาบซึ้งเล็กน้อย จากนั้นก็เดินตามไป ย่อตัวลงจับมือของเขา “ท่านอ๋อง ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว”
“พระชายา…” องค์ชายสามเงยหน้า มองสภาพยุ่งเหยิงของนาง ใบหน้าเลอะเทอะ เสื้อผ้าฉีกขาด ที่แขนยังมีบาดแผล ในใจก็อดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้ “ข้าขอโทษ ข้า… ไม่สามารถปกป้องพวกเจ้าให้ดีๆ ได้”
น้ำตาของพระชายาร่วงหล่นทันที นางรีบส่ายหน้า “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ไม่เป็นไร ท่านอ๋องไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
องค์ชายสามก้มหน้า เอาหน้าซบอยู่กับมือครู่หนึ่ง ผ่านไปครู่ใหญ่ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เงบหน้าขึ้นมองเย่หลานเวย “เวยเอ๋อร์ มานี่สิ”
เย่หลานเวยนึกถึงท่าทางเมื่อครู่ที่เขาชูกระบี่ฟาดฟันไปมาอย่างบ้าคลั่ง สีหน้าก็มีความกลัวปรากฏขึ้นมา วิ่งไปข้างหลังหนานหนานโดยไม่รู้ตัว มือเล็กๆ จับแขนเสื้อของหนานหนานเอาไว้แน่น
“…” หนานหนานพูดไม่ออก เขาเป็นเพียงคนนอกคนหนึ่ง คนนอก ทั้งยังเป็นคนนอกที่เคยมีความแค้นกับเขาด้วย สองคนนี้กลับเป็นพ่อแม่แท้ๆ ของเขา เขาไม่กลัวศัตรูของตน แต่กลับกลัวพ่อแม่ของตนหรือ? นี่เขาสมองกลับไปแล้วหรือ?
“เวยเอ๋อร์” พระชายามองดูเย่หลานเวยอย่างเป็นห่วง เห็นเขาก้มหน้า ในใจก็เจ็บปวดอย่างมาก
หนานหนานกลอกตา เขารู้ว่าเดิมทีพระชายาและเย่หลานเวยเหมือนจะขัดแย้งกัน ก่อนหน้านี้ตอนที่บุกเข้าไปในตำหนักขององค์ชายสามเพื่อตีเย่หลานเวย ก็เห็นว่าเขานั้นไม่ไว้หน้าพระชายาเลย ตอนนี้องค์ชายสามก็เผยภาพจำที่ไม่ดีให้เย่หลานเวยเห็นเสียแล้ว สถานการณ์นี้เหมือนจะเลวร้ายอย่างมาก
หนานหนานดึงเย่หลานเวยออกมา กล่าวกับเขาอย่างจริงจังมาก “เย่หลานเวย พวกเขาเป็นพ่อแม่ของเจ้า พ่อแม่ของเจ้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก เมื่อครู่ที่พ่อของเจ้าทำเช่นนั้นก็เพื่อปกป้องเจ้า รู้หรือไม่?”
เย่หลานเวยก้มหน้า เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ฟัง ผ่านไปครู่หนึ่งก็กล่าวเสียงเบา “เมื่อครู่นี้เขา เมื่อครู่นี้เขาจะฆ่าข้า”
เขาเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง ภาพจำเมื่อครู่นี้บาดอารมณ์มากเกินไป เขาจะคิดและแยกแยะได้ง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?
องค์ชายสามเห็นเช่นนั้นก็เพียงแค่ก้มหน้าลงเล็กน้อย หัวเราะอย่างขื่นขม
หนานหนานอยากจะบ้า เห็นเย่หลานเวยยังคงจับแขนเสื้อของตนไว้แน่นก็รู้สึกแย่เป็นอย่างมาก เขาคงไม่ได้ตั้งใจว่าต่อไปจะติดตามแต่ตน รู้จักแต่ตนใช่หรือไม่?
หนานหนานมองไปยังฟ่านผิงอวิ๋นอย่างน่าสงสารทันที อีกฝ่ายหัวเราะแห้งๆ แสร้งทำเป็นว่าไม่เห็น เดินไปตรงหน้าองค์ชายสาม “องค์ชายสาม ตำหนักนี้ไม่สามารถอยู่ได้แล้วพะยะค่ะ ตอนนี้สถานการณ์ไม่เป็นปกติ พระองค์มีแผนอย่างไร?”
“แผนหรือ?” องค์ชายสามผงะ เดิมทีเขาก็ไม่เคยคิดจะหนีออกไปจากเงื้อมมือขององค์ชายเจ็ด ชั่วขณะนั้นจึงไม่ได้คิดหาทางหนีมาก่อน
“หากองค์ชายสามไม่ขัดข้อง กระหม่อมสามารถจัดหาที่อยู่ให้ครอบครัวพระองค์ได้ชั่วคราวพะยะค่ะ”
“เช่นนั้น… ก็ขอบคุณมาก”
ฟ่านผิงอวิ๋นพยักหน้า แววตามองออกไป คนขององค์ชายเจ็ดเหล่านั้นถูกจัดการไปได้ประมาณหนึ่งแล้ว
มีเพียงฟ่านฉี่อวิ๋นเท่านั้นที่ยังคงต่อสู้กับคนคนหนึ่งที่ดูแล้วมีวิชาต่อสู้สูงส่ง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวเสียงทุ้ม “ไม่ต้องเล่นแล้ว เรายังมีธุระอีกนะ”
ฟ่านฉี่อวิ๋นบุ้ยปาก ฝ่ามือวายุเปลี่ยนเป็นดุร้ายในทันที ทันใดนั้นอีกฝ่ายเริ่มล่าถอยไปเรื่อยๆ ผ่านไปไม่นานนักก็ถูกฟ่านฉี่อวิ๋นฆ่าตายคาที่
องค์ชายสามมองดูชายชุดดำที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เม้มปากไม่กล่าวอะไร
ฟ่านผิงอวิ๋นหันหน้าไปสั่งฟ่านฉี่อวิ๋น “เจ้าพาท่านอ๋อง พระชายา และซื่อจื่อน้อยเหล่านี้ไปพักที่ที่พักที่ข้าจัดการเอาไว้ก่อนหน้าเสีย พวกเรา…”
“ข้าไม่อยากไป” เย่หลานเวยเอ่ยปากทันที มือเล็กๆ จับหนานหนานเอาไว้ หนานหนานเดินไปที่ไหน เขาก็เดินไปที่นั่น ตอนนี้จึงกล่าวขัดคำพูดของฟ่านผิงอวิ๋น “ข้า ข้าจะติดตามหนานหนาน ข้าจะติดตามแต่หนานหนาน”
หนานหนานอยากเอาหัวโขกกำแพงจริงๆ หากรู้แต่แรกเขาจะไม่มาเลย “เย่หลานเวย ข้ายังมีธุระ พาเจ้าไปด้วยไม่ได้หรอกนะ ข้ายังต้องไปช่วยที่บ้านท่านลุงสี่ ไปช่วยเย่หลานหลี่”
องค์ชายสามได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้าขึ้นทันที ขมวดคิ้ว กล่าวเสียงทุ้ม “ตำหนักขององค์ชายสี่นั้น… พวกเจ้าไม่ต้องไปแล้ว”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เห็นว่าพ่อจะฆ่าตัวเองขนาดนั้นมันก็ฝังใจไปแล้วน่ะสิ หลานเวยจะหายช็อคเมื่อไหร่หนอ
ทำไมถึงไม่ต้องไปตำหนักองค์ชายสี่เหรอ? โดนซื้อไปแล้วเหรอ?
ไหหม่า(海馬)