อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 979 จัดหาที่อยู่ให้เย่หลานเวย
ตอนที่ 979 จัดหาที่อยู่ให้เย่หลานเวย
ตอนที่ 979 จัดหาที่อยู่ให้เย่หลานเวย
เย่หลานเวยอึ้งงัน ที่อื่นหรือ?
“ข้าตามเจ้ากลับตำหนักอ๋องซิวไม่ได้จริงๆ หรือ?”
หนานหนานพยักหน้าอย่างจริงจัง “ไม่ได้”
ที่ตำหนักอ๋องซิวมีเด็กมากเกินไปแล้ว จะรบกวนแผนการของท่านพ่อและท่านแม่เสียเปล่าๆ
เย่หลานเวยเบะปากอย่างคับข้องใจ “เช่นนั้น เช่นนั้นเจ้าจะส่งข้าไปที่ใดหรือ?”
หนานหนานเลิกคิ้ว “เดี๋ยวข้าพาเจ้าไปเจ้าก็จะรู้เอง”
“จะไม่เป็นอันตรายใช่หรือไม่?”
“ไม่หรอก”
“ไม่มีคนขององค์ชายเจ็ดใช่หรือไม่?”
“ไม่มี”
“ไม่มีใครต้องการฆ่าข้า หรือข่มขู่ข้าใช่หรือไม่?”
“ไม่มีแน่นอน”
“เช่นนั้น เช่นนั้นก็ได้”
เย่หลานเวยตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจ เพียงแต่หยุดไปชั่วขณะแล้วรีบจับมือของเขา “เจ้าต้องมาหาข้าบ่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่าข้าปลอดภัยหรือไม่นะ”
หนานหนานกลอกตา “รู้แล้ว”
เมื่อยืนยันแล้วว่าเขาจะเชื่อฟัง หนานหนานก็จับมือเย่หลานเวยแล้วเดินไป
องค์ชายสามและพระชายามองไปยังพวกเขาทั้งสองคน เย่หลานเวยรีบจับมือเล็กๆ ของหนานหนาน จับแน่นเสียจนมือเล็กของเขาเริ่มเจ็บ แทบจะสะบัดมือทิ้งอย่างทนไม่ไหว
“ท่านอารองฟ่าน” หนานหนานกวักมือเรียกฟ่านผิงอวิ๋น ให้เขาเงี่ยหูเข้ามาใกล้ จากนั้นก็กระซิบบางอย่างสองสามประโยคที่ข้างหูของเขา
ฟ่านผิงอวิ๋นได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว จากนั้นก็ผ่อนคลายขึ้นมา “ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นก็ไม่เลว ข้าจะส่งพวกเจ้าไปก่อน”
“ขอรับ” หนานหนานพยักหน้า ก็เห็นฟ่านผิงอวิ๋นยืดตัวขึ้น สั่งฟ่านฉี่อวิ๋นสองสามประโยค เมื่อเห็นพวกเขาพาองค์ชายสามและพระชายาที่ดูเหมือนอยากจะกล่าวบางอย่างแต่ลังเลจากไปแล้ว เขาก็จูงมือหนานหนานแล้วกล่าว “เราเดินไปทางประตูหลังเถิด”
“ขอรับ”
ทั้งสามคนเข้าไปยังรถม้าที่จอดอยู่ตรงประตูหลัง ด้านข้างรถม้ามีคนชุดดำที่สีหน้าไร้อารมณ์ยืนรออยู่
ฟ่านผิงอวิ๋นอุ้มเด็กสองคนขึ้นรถ จากนั้นก็สั่งเบาๆ “ออกเดินทางได้”
รถม้าเคลื่อนตัวไปข้างหน้าพร้อมเสียงกุกกักในทันที รถม้าคันนี้ดูธรรมดา ไม่ต่างจากรถที่ใช้ในการบรรทุกและขนส่งสิ่งของมากนัก จึงไม่ดึงดูดความสนใจของผู้คน
นอกจากนี้ท้องฟ้าก็มืดแล้ว เส้นทางที่พวกเขาใช้ก็ห่างไกลอย่างมาก ตลอดทางไร้อุปสรรคกีดขวาง
จนกระทั่งเมื่อรถม้าหยุดลง ก็ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยามแล้ว
เย่หลานเวยกังวลเล็กน้อย หันหน้ามาถามหนานหนาน “เจ้าพาข้าไปที่ไหนกันแน่?”
“เจ้าดูเองสิ” หนานหนานเปิดม่านรถ เย่หลานเวยมองออกไปข้างนอก เบิกตากว้างขึ้นมาทันใด “เจ้า เจ้า… เจ้าพาข้ามาวังหลวงหรือ?”
วังหลวงไม่ปลอดภัยที่สุดแล้ว เหตุใดเขาจึงพาตนมาที่นี่กัน?
ทันใดนั้นเย่หลานเวยก็จับมือหนานหนานแน่น “ข้า ข้า…”
“เจ้าวางใจเถิด ข้าไม่มีทางทำร้ายเจ้า” หนานหนานปลอบโยนเขา “เดิมทีข้าจะพาเจ้าไปจวนเสนาบดีฝ่ายขวา แต่ข้าคิดว่าเสนาบดีฝ่ายขวาน่าจะถูกจับตาดูอยู่เป็นแน่ ตอนนี้เสนาบดีฝ่ายขวางานยุ่งมาก เจ้าไปที่นั่นคงจะไม่เหมาะ ถึงแม้ในวังหลวงเองก็ถูกจับตามอง แต่วังหลวงใหญ่เพียงนี้ หากจะซ่อนคนคนหนึ่งก็ไม่ใช่ปัญหา”
ขณะกล่าว องครักษ์ที่เฝ้าประตูก็เดินมาแล้ว
ตอนนี้กว่าครึ่งในวังหลวงล้วนเป็นคนของเย่ซิวตู๋ เมื่อเห็นหนานหนาน ทั้งยังเห็นป้ายอาญาสิทธิ์ในมือเขาก็คารวะทันที
หนานหนานมองท้องฟ้า กล่าวกับฟ่านผิงอวิ๋น “ท่านอารองฟ่าน ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ประตูวังจะปิดลงในไม่ช้า ข้าคิดว่าคงจะไม่ได้ออกมาสักพัก พรุ่งนี้เช้าท่านมารับข้าเถิดขอรับ”
จริงๆ แล้วเขาต้องการจะบอกว่า เย่หลานเวยจับตนเอาไว้แน่นเพียงนี้ เกรงว่าคืนนี้ต่อให้เขาอยากจะออกมาก็คงออกมาไม่ได้
ฟ่านผิงอวิ๋นพยักหน้า “ได้สิ” เขาเอ่ยกับหนานหนานอีกสองสามประโยค บอกว่าคนในวังตรงไหนบ้างเป็นลูกน้องของเขา หากจำเป็น ขอเพียงออกคำสั่งก็ใช้ได้แล้ว
เมื่อเห็นหนานหนานตอบรับอย่างจริงจังก็หมุนตัว มุ่งหน้าไปยังตำหนักองค์ชายสี่
หนานหนานไปยังห้องบรรทมของฮ่องเต้ก่อน เหมียวเชียนชิวเห็นเขานั่งเกี้ยวมาก็แปลกใจเล็กน้อย
จนกระทั่งเกี้ยวถูกยกมาด้านนอกห้องบรรทมของฮ่องเต้ เมื่อเห็นเด็กสองคนที่เดินตามกันมาในตำหนักที่ไร้ผู้คน เขาก็ตกตะลึงและประหลาดใจ
“หนานหนาน นี่พวกท่าน…”
“กงกง ตอนนี้เย่หลานเวยตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก ข้าอยากหาที่ให้เขาอยู่”
เหมียวเชียนชิวได้ยินก็ขมวดคิ้ว เขาน่าจะเป็นเพียงคนเดียวในวังหลวงที่รู้เรื่องที่เย่ซิวตู๋และฮ่องเต้หารือกัน เห็นเช่นนั้นก็ส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย “หนานหนาน ในวังหลวงนี้ไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะกับฝ่าบาททางด้านนี้ มีสายตาตั้งมากมายจับจ้องอยู่นะพ่ะย่ะค่ะ”
เย่หลานเวยที่ฟังอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้าหลายครั้ง จับแขนเสื้อหนานหนานแล้วกล่าว “นั่นสิๆ ข้าเองก็คิดเช่นนั้น”
หนานหนานกลอกตา ทั้งใดนั้นก็ดึงแขนเสื้อออกจากมือเขา จริงๆ เลย เสื้อผ้าหรูหราราคาแพงหาใดเปรียบของเขา ถูกอีกฝ่ายดึงจนยับหมดแล้ว
“หนานหนาน เช่นนั้นแล้วท่านรออยู่ที่นี่ เดี๋ยวข้าน้อยไปถามฝ่าบาทให้ดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” กับเย่หลานเวยแล้ว… เหมียวเชียนชิวไม่ค่อยพึงใจนัก เมื่อก่อนนี้องค์ชายสามสร้างเรื่องให้ตำหนักอ๋องซิวไม่น้อย
เมื่อก่อนนี้เจ้าเด็กนี่ก็เคยพาเย่หลานหลี่และเย่หลานจ้าวไปทำร้ายเย่หลานเฉิงเช่นกัน เป็นเด็กอันธพาลอย่างมาก
หนานหนานกลับส่ายหน้า “กงกง ไม่ต้องหรอก ข้ารู้ว่าตอนนี้เสด็จปู่นั้นคงกำลังพักผ่อน ข้าเองก็ไม่คิดจะให้เย่หลานเวยอยู่ที่ตำหนักบรรทมของเสด็จปู่”
เหมียวเชียนชิวอึ้งไป เย่หลานเวยที่อยู่ด้านข้างก็กะพริบตาอย่างไม่เข้าใจนัก
“เช่นนั้นหนานหนานหมายความว่า…”
“ฮิๆ ข้ารู้ว่าที่ห้องบรรทมของเสด็จปู่นั้นมีสายตาหลายคู่จับจ้องอยู่ แต่ว่ามีอยู่ที่หนึ่งที่ไม่มีใครคอยจับตาดูเป็นแน่”
เหมียวเชียนชิวแปลกใจ “ที่ไหนหรือ?”
หนานหนานกวักมือเรียกอย่างมีเลศนัย “กงกง ท่านช่วยส่งข้อความให้ข้าที”
หลังผ่านไปสิบห้านาที เหมียวเชียนชิวก็เรียกขันทีคนสนิทมา สั่งความกับเขาสองสามประโยค ขันทีผู้นั้นก็จากไปอย่างรวดเร็ว
พวกหนานหนานก็พากันรออยู่ครึ่งชั่วยาม ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นมืดสนิท และแล้วขันทีผู้นั้นก็รีบร้อนกลับมา ด้านหลังยังมีนางข้าหลวงที่ว่านอนสอนง่ายมาด้วยคนหนึ่ง นางข้าหลวงผู้นั้นพานางข้าหลวงที่อายุพอๆ กับหนานหนานมาห้าคน เข้ามายังห้องบรรทมด้วยกัน
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง นางข้าหลวงผู้นั้นก็นำนางข้าหลวงน้อยห้าคนออกจากห้องบรรทม เร่งฝีเท้ามุ่งหน้าไปยังอุทยานอวี้ฮวาที่อยู่ไม่ไกล
มีดวงตาสองคู่จ้องมองอยู่ในความมืด เมื่อเห็นเช่นนั้นก็ตามนางข้าหลวงผู้นั้นไปทันที
เห็นว่านางข้าหลวงผู้นั้นเดินเข้าไปในตำหนักเล่ออันของหลิวเฟย หมู่เฟยขององค์ชายสาม เมื่อออกมาอีกครั้ง ถึงแม้จะยังพานางข้าหลวงน้อยมาห้าคน แต่ก็มีสองคนที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ดวงตาในความมืดนั้นฉายแววเย้ยหยัน หนึ่งคนในนั้นอยู่ต่อ จับตาดูการเคลื่อนไหวของตำหนักเล่ออันอย่างใกล้ชิด ส่วนอีกคนหนึ่งก็ตามนางข้าหลวงต่อไป
นางข้าหลวงผู้นั้นพานางข้าหลวงน้อยห้าคนเดินต่อไปข้างหน้า เพียงแต่เมื่อผ่านสวนหินด้านข้างอุทยานอวี้ฮวา นางข้าหลวงผู้นั้นก็เกิดข้อเท้าเคล็ดขึ้นมา นางข้าหลวงน้อยรีบไปรุมล้อมนางพร้อมถามเบาๆ ว่าเป็นอะไรไป
มีคนร่างเล็กสองคนในนั้นใช้โอกาสนี้แอบเข้าไปในสวนหิน เมื่อออกมาอีกครั้งก็ดูเหมือนร่างกายจะผอมและอ่อนแอลงเล็กน้อย
นางข้าหลวงผู้นั้นมองด้วยหางตา นวดข้อเท้าของตน จากนั้นก็พานางข้าหลวงน้อยหาคนกลับไปยังห้องบรรทมของฮ่องเต้อีกครั้งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สวนหินเงียบไปนาน จากนั้นก็มีนางข้าหลวงหนึ่งคนที่รูปร่างวิจิตรเดินออกมาจากอีกด้าน กระแอมใส่สวนหินเบาๆ ครั้งหนึ่ง ไม่นานนักก็มีนางข้าหลวงน้อยอีกสองคนลุกขึ้นยืน ตามนางข้าหลวงที่รูปร่างงดงามนั้นออกจากอุทยานอวี้ฮวาออกไปอย่างเงียบๆ
เมื่อเข้าไปยังตำหนักที่หนานหนานคุ้นเคย คนที่นั่งอยู่บนพระที่นั่งมองไปยังนางข้าหลวงน้อยที่แต่งตัวน่ารักอยู่ด้านล่างก็อดหัวเราะคิกคักออกมาไม่ได้
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
จะพาตัวเย่หลานเวยไปซ่อนไว้ที่ไหนกันนะ หรือว่าปลอมเป็นนางกำนัล?
ไหหม่า(海馬)