อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 984 มาหาหนานหนาน
ตอนที่ 984 มาหาหนานหนาน
ตอนที่ 984 มาหาหนานหนาน
อวี้ชิงลั่วโบกมือ ให้เสิ่นอิงพาพวกท่านปู่ฮวาไปพักผ่อน ส่วนตนก็เร่งรีบไปยังห้องตำรา
เหมียวเชียนชิวกำลังเดินไปเดินมาอยู่ในห้องตรา ชาบนโต๊ะเย็นชืดแล้ว แต่ก็ยังคงเต็มถ้วยอยู่ เขาไม่แม้แต่จะยกมันขึ้นดื่ม
จนกระทั่งมีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังมาจากด้านนอก เหมียวเชียนชิวก็มีสีหน้าดีใจ ไม่สนใจสิ่งใด รีบเดินหน้าไปเปิดประตูห้องตำรา
เพียงเงยหน้าก็เห็นอวี้ชิงลั่วที่กำลังจะผลักประตูให้เปิดเข้ามา
อวี้ชิงลั่วผงะไป รีบเดินเข้าข้างใน “เหมียวกงกง ฝ่าบาททรงเกิดเรื่องอันใดแล้วหรือ?”
“หา?” เหมียวเชียนชิวตะลึงไป ทันใดนั้นก็โบกมือ “ไม่ใช่ๆ พระอาการของฝ่าบาทคงที่ ช่วงสองสามวันนี้เสวยยาที่แม่นางอวี้ถวายให้ จึงค่อยๆ ทรงมีชีวิตชีวาขึ้นมา”
อวี้ชิงลั่วได้ยินเช่นนั้นก็ลอบถอนหายใจ นางกลัวจริงๆ ว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้อาการของฮ่องเต้จะทรุดลง ถึงตอนนั้นโทษทั้งหมดก็คงมาตกอยู่ที่ตัวเย่ซิวตู๋ เช่นนั้นต่อให้มีเหตุผลก็ใช้ไม่ได้
“เช่นนั้นที่กงกงมาที่นี่มีเรื่องอันใดหรือ?” เมื่อรู้ว่าฮ่องเต้ไม่เป็นอะไรแล้ว น้ำเสียงของอวี้ชิงลั่วก็ดูผ่อนคลายลงมาก
เหมียวเชียนชิวมองซ้ายมองขวา เดินไปข้างในสองสามก้าว จากนั้นก็ลดเสียงลง กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาอย่างมาก “ไทเฮาน่ะสิพ่ะย่ะค่ะ ไทเฮาตรัสว่าทรงมีธุระ ทรงต้องการให้หนานหนานเข้าวัง”
ไทเฮาหรือ?
อวี้ชิงลั่วสงสัย หนานหนานเพิ่งจะพาเย่หลานเวยไปส่งไว้ข้างกายไทเฮา ในตอนนี้นั้น เย่หลานเวยเกิดเรื่องอันใดหรือ?
เพียงแต่ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร ดูจากท่าทางที่ไทเฮาเร่งรีบอยากจะพบหนานหนานให้ได้นั้น เรื่องราวน่าจะเร่งด่วนอย่างมาก
“ไทเฮาได้ตรัสหรือไม่ว่าเป็นเรื่องใด?”
เหมียวเชียนชิวส่ายหน้า เป็นขันทีตู้ที่มาบอกเขา ขันทีตู้บอกว่าเรื่องนี้เร่งด่วน ต้องส่งคนมาแจ้งข่าวที่ตำหนักอ๋องซิวโดยไว นี่เป็นครั้งแรกที่ไทเฮาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ อีกทั้งยังต้องพบหนานหนานในทันทีด้วย
ดังนั้นเหมียวเชียนชิวจึงไม่กล้าเมินเฉย มาที่ตำหนักอ๋องซิวด้วยตัวเอง
“ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะให้คนไปหาหนานหนาน ให้เขาเข้าวัง”
อวี้ชิงลั่วจะเดินจากไป เหมียวเชียนชิวกลับรีบดึงนางกลับมา “แม่นางอวี้และหนานหนานเข้าวังไปด้วยกันเถิด เช่นนี้แล้วหากคนนอกถาม ก็จะบอกได้ว่าแม่นางอวี้มาติดตามพระอาการของฝ่าบาท คนจะได้ไม่สงสัย”
อวี้ชิงลั่วเงียบไปพักหนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้าอย่างจริงจัง “ไม่ได้”
“หืม?”
“ข้าเป็นหมอปีศาจ เป็นหมอ ตอนนี้ทุกคนล้วนรู้ว่าข้าเป็นผู้ดูแลพระอาการป่วยของฝ่าบาท หากข้าเข้าออกวังหลวง โลกภายนอกจะคาดเดากันไปต่างๆ นานา เข้าใจว่าพระวรกายของฝ่าบาทเกิดอะไรขึ้น อีกทั้งตอนนี้นอกวังหรือในวังก็ล้วนเป็นคนของเย่ซิวตู๋ ภายนอกก็จะคิดว่าพระอาการของฝ่าบาทเกี่ยวข้องกับเย่ซิวตู๋ ถึงตอนนั้นเกรงว่าจะทำให้ผู้คนจิตใจสั่นคลอนได้” โดยเฉพาะเหล่าคนที่ยังลังเลอยู่เหล่านั้น
ดังนั้นหากไม่จำเป็น ช่วงนี้อวี้ชิงลั่วก็ไม่ควรปรากฏตัวที่ตำหนักบรรทมของฮ่องเต้
เหมียวเชียนชิวเองก็ตบหน้าผากในทันที “ใช่ๆๆ เป็นข้าน้อยเองที่ไม่ได้คิดให้รอบคอบ แม่นางอวี้พูดถูกแล้ว”
“อีกเดี๋ยวค่อยบอกว่าฝ่าบาททรงคิดถึงหนานหนาน อยากให้หนานหนานเข้าวังไปร่วมพูดคุยด้วยก็ใช้ได้แล้ว” อวี้ชิงลั่วพยักหน้าให้เหมียวเชียนชิว “เดี๋ยวข้าจะเรียกเด็กคนนั้นมา”
“รบกวนแม่นางอวี้ด้วย”
อวี้ชิงลั่วหมุนตัวออกจากห้องตำรา ด้านนอกก็มีเสิ่นอิงเดินมาหาอย่างรีบร้อน “แม่นางอวี้ เกิดเรื่องอันใดหรือขอรับ?
“หนานหนานเล่า?” อวี้ชิงลั่วตอบไม่ตรงคำถาม
เสิ่นอิงอึ้งไป “หนานหนานได้ยินว่าพวกท่านปู่ฮวากลับมากันแล้ว จึงไปพูดคุยกับพวกเขาขอรับ”
“เจ้าช่วยตามหนานหนานมาที่ห้องตำราหน่อยเถิด”
“ขอรับ” เสิ่นอิงหมุนตัวจากไปอีกครั้งในทันที
อวี้ชิงลั่วหรี่ตามองด้านหลังของเขา เม้มปาก แววตาดูลุ่มลึก
ผ่านไปครู่ใหญ่ นางก็กลับเข้าไปยังห้องตำราอีกครั้ง
ไม่นานนัก ด้านนอกก็มีเสียงหนานหนานที่คมชัดดังขึ้น “ท่านแม่ ท่านลุงเสิ่นบอกว่าท่านเรียกหาข้า”
“เหมียวกงกงบอกว่าเสด็จปู่ทรงคิดถึงเจ้า ให้เจ้าเข้าวังไปพูดคุยกับพระองค์เสียหน่อย” อวี้ชิงลั่วมองด้วยหางตาก็เห็นว่าเสิ่นอิงอยู่นอกประตู ยิ้มพลางช่วยจัดแจงเสื้อผ้าที่ยับเยินจากกิ่งไม้ตอนที่หนานหนานวิ่งมา กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้าเข้าวังไปก็ต้องเชื่อฟัง ห้ามก่อเรื่องให้แม่ เข้าใจหรือไม่? ตอนนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย เจ้าเพียงแค่คอยอยู่กับเสด็จปู่ให้พระองค์สบายพระทัยเป็นใช้ได้แล้ว รอให้เสด็จปู่ทรงเหนื่อยและทรงพักผ่อน เจ้าก็ค่อยกลับตำหนัก”
“เสด็จปู่ทรงคิดถึงข้าหรือ” “หนานหนานหรี่ตาพลางยิ้ม “เช่นนั้นเสี่ยวเฉิงเฉิงก็ไปด้วยหรือ?”
“ไปสิ ต้องไปอยู่แล้ว” เหมียวเชียนชิวกล่าวแทรก สบตาอวี้ชิงลั่วแวบหนึ่ง
มีเย่หลานเฉิงไปด้วย ก็จะได้ดูเป็นธรรมชาติขึ้นมาหน่อย
หนานหนานพยักหน้าทันที “เช่นนั้นก็ดีขอรับ ข้าจะไปหาเสี่ยวเฉิงเฉิง”
หนานหนานกล่าวจบก็วิ่งไปไกลอย่างรวดเร็วเสียแล้ว
จากนั้นอวี้ชิงลั่วก็มองไปยังเสิ่นอิงที่ยืนอยู่ตรงประตู “เจ้าช่วยเตรียมรถม้าให้พวกเขาเถิด แล้วก็ถือโอกาสสั่งเด็กรับใช้ให้เตรียมเสื้อผ้าให้พวกเขาชุดหนึ่งด้วย ตอนนี้เย็นแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเขาจะออกมาได้ก่อนประตูวังจะปิดหรือไม่ ถ้าหากว่าดึกเกินไป เกรงว่าต้องค้างที่วังหลวงคืนหนึ่ง”
“ขอรับ” เสิ่นอิงคารวะและตอบรับ จากนั้นก็หมุนตัวจากไป
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง หนานหนานจูงมือเย่หลานเฉิงขึ้นรถม้าไปด้วยกัน
อวี้ชิงลั่วบีบมือเล็กๆ ของเขา เมื่อเห็นว่าเขามีทุกอย่างที่ควรพกติดตัวแล้ว แววตาก็หรี่ลงอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็วางใจได้
“จำไว้นะ อย่าโลภมากและอย่าเล่นมากไป”
“ท่านแม่” หนานหนานเบ้ปาก “ข้ารู้ความอย่างมาก ท่านแม่ไม่ต้องทำเหมือนข้าเกิดมาก็เป็นตัวสร้างปัญหาเลย”
“แล้วไม่ใช่หรือ?”
หนานหนานคลี่ม่านรถลงอย่างแรง “ไม่สนใจท่านแล้ว”
อวี้ชิงลั่วแค่นเสียง ไม่สนใจเขา หันหน้าไปพยักหน้าให้เหมียวเชียนชิว “รบกวนเหมียวกงกงแล้ว”
“แม่นางอวี้โปรดวางใจ ข้าน้อยจะดูแลซื่อจื่อน้อยทั้งสองอย่างดี”
กล่าวจบ เหมียวเชียนชิวก็บอกลานาง ก้าวเท้าขึ้นรถม้าไป
ทานด้านหนานหนานนั้นโกรธอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายทนไม่ไหว เปิดผ้าม่านหน้าต่างขึ้น แล้วกล่าวกับอวี้ชิงลั่วที่กอดอกพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าอยู่ตรงนั้น “ท่านแม่ ท่านต้องรีบตามหาท่านน้าเป่าเอ๋อร์ของข้าให้ได้นะ”
“เข้าใจแล้ว”
จากนั้นหนานหนานก็กลับเข้าไปในรถม้าอย่างไม่เต็มใจ ในปากก็พึมพำ “เหตุใดจึงเหมือนท่านแม่จะรู้ว่าข้าจะคุยกับนาง ถึงได้ยังรอข้าอยู่ที่นอกรถม้า?”
เย่หลานเฉิงปิดปากหัวเราะ “เพราะเจ้าเป็นบุตรชายที่รักของท่านน้าชิงอย่างไรเล่า
เพียงหนานหนานได้ยินคำว่า ‘ที่รัก’ ในใจก็พึงพอใจขึ้นมาทันที หันร่างเล็กๆ ไปแล้วเลือกตำแหน่งที่นั่งที่สบาย พยักหน้าไม่หยุด “เสี่ยวเฉิงเฉิงพูดเช่นนี้ก็มีเหตุผลนัก ข้าเป็นบุตรที่รักของท่านแม่”
รถม้ามุ่งหน้าไปข้างหน้า เหมียวเชียนชิวเห็นว่าเด็กทั้งสองคนกำลังพูดคุยอารมณ์ดี ต่อให้คำพูดจะดูแปลกๆ แต่ก็น่าฟังอย่างประหลาด
เพียงแต่ไม่รู้ว่าไทเฮาต้องการพบหนานหนานนั้นเป็นเพราะอะไรกันแน่?
สถานการณ์ในตอนนี้ นับวันเขายิ่งไม่เข้าใจ
เหมียวเชียนชิวลอบส่ายหน้า ถอนหายใจอย่างไร้เสียง
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
สถานการณ์แบบนี้ไว้ใจใครแทบไม่ได้เลย ไม่รู้จะมีอะไรหักมุมหรือเปล่า
ไหหม่า(海馬)